ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การทำความสะอาดห้องนอนอาจฟังดูเหมือนเป็นงานช้าง แต่จริงๆ แล้วงานนี้ใช้เวลาน้อยและง่ายกว่าที่คิด! แค่เปิดเพลง เขียนรายการสิ่งที่ต้องทำ ให้รางวัลตัวเอง และเปลี่ยนการทำความสะอาดห้องให้กลายเป็นเกมเพื่อให้คุณมีแรงฮึด เริ่มจากงานยากๆ ก่อน แล้วค่อยเริ่มเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการปัดฝุ่น เช็ด และดูดฝุ่นพื้นผิวในห้องทั้งหมด รู้ตัวอีกทีห้องก็สะอาดเอี่ยมอ่องแล้ว

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เริ่มจากงานใหญ่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เอาของทุกอย่างออกจากเตียงแล้วเริ่ม เก็บที่นอน . การเก็บที่นอนจะทำให้ห้องดูสะอาดขึ้นและทำให้คุณรู้สึกว่าอย่างน้อยคุณก็ทำเสร็จไปแล้วหนึ่งอย่าง นำของทั้งหมดออกจากที่นอนแล้วไปกองไว้ตรงมุมใดมุมหนึ่งของห้อง ดึงผ้าปูที่นอนและผ้าห่มออกมา ยัดมุมผ้าปูที่นอนไว้ใต้ฟูกให้เรียบร้อย ดึงผ้าคลุมเตียงให้ตึง และวางหมอนไว้บนเตียง [1]
    • ถ้าคุณไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูที่นอนมาสักพักแล้ว ให้นำผืนเก่าไปใส่ไว้ในตะกร้าผ้าแล้วปูผืนใหม่แทน เตียงจะได้หอมสดชื่น
  2. หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาทีละชิ้นแล้วเช็กว่าใส่ไปแล้วหรือยัง ถ้าไม่แน่ใจให้ถือว่าใส่แล้ว! ชิ้นไหนที่ยังไม่ใส่ก็พับเก็บใส่ลิ้นชักให้เรียบร้อยหรือนำไปแขวนในตู้เสื้อผ้า แต่ถ้าใส่แล้วก็เอาไปไว้ในตะกร้าผ้า
    • ซักเสื้อผ้าที่สะอาดสองรอบยังดีกว่าใส่เสื้อผ้าซ้ำสองครั้ง ถ้าไม่แน่ใจให้คิดไว้ก่อนเลยว่าใส่แล้ว ยกเว้นจะแน่ใจจริงๆ ว่ายังไม่ได้ใส่ [2]

    เคล็ดลับ: อย่าเพิ่งเอาเสื้อผ้าไปใส่เครื่องซักผ้าจนกว่าจะทำความสะอาดทั้งห้องเสร็จ เพราะคุณไม่รู้ว่าจะไปเจอถุงเท้าใส่แล้วซุกอยู่ตรงไหนหรือเปล่า!

  3. วิธีนี้ช่วยไม่ให้ห้องมีกลิ่นเหม็นและไม่ให้มดหรือแมลงอื่นๆ เข้ามารวมตัวในห้องของคุณ ยกถ้วย จาน ช้อนส้อม และแก้วกาแฟทั้งหมดไปไว้ในห้องครัว และนำกล่องอาหารทั้งหมดที่ยังอยู่ในห้องไปทิ้งด้วย [3]
    • ตรวจดูใต้เตียง บนตู้ลิ้นชักและโต๊ะ และในลิ้นชักข้างเตียงว่าคุณซุกจานใช้แล้วและกล่องอาหารไว้ตรงไหนอีกบ้างมั้ย
  4. วิธีนี้ทำให้ห้องนอนของคุณมีพื้นที่มากขึ้นและไม่มีของวางระเกะระกะ หยิบของทุกชิ้นที่วางอยู่ในห้องและบนพื้นมาดู และเลือกว่ามีอะไรที่ต้องทิ้งไปบ้าง กวาดสายตาหาห่อขนม แกนแอปเปิ้ล เศษกระดาษ ของที่แตกหัก และของชิ้นอื่นๆ ที่คุณไม่ใช้แล้ว [4]
    • บริจาคสิ่งของสภาพดีที่คุณไม่ใช้แล้วให้ร้านขายของมือสองเพื่อการกุศล
    • นำกระดาษและกระดาษลังที่ไม่ใช้แล้วแยกออกไปอีกถุงเพื่อนำไปรีไซเคิล
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

จัดของในห้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนอื่นให้เก็บของที่อยู่บนพื้นเข้าที่ก่อน คุณจะได้เดินทั่วห้องได้โดยไม่สะดุดอะไรเข้า เริ่มจากของชิ้นใหญ่ๆ อย่างหนังสือกับหมอนก่อน จากนั้นค่อยไปตามเก็บของชิ้นเล็กๆ อย่างดินสอและเครื่องเขียนอื่นๆ หาที่วางบนตู้ลิ้นชัก โต๊ะ พื้น หรือโต๊ะข้างเตียงเพื่อให้ของทุกชิ้นมีที่ประจำ [5]
    • พยายามอย่ามัวสนใจของแต่ละชิ้นที่กำลังเก็บ เพราะการทำความสะอาดห้องจะยิ่งยืดเยื้อ
  2. รวมสิ่งของหมวดหมู่เดียวกันที่ไม่มีที่ประจำไว้ในกล่องเดียวกัน. วิธีนี้เป็นวิธีจัดระเบียบสิ่งของในห้องและทำให้คุณหาของง่ายขึ้นด้วย นำเครื่องเขียนทั้งหมดไว้กล่องนึง รูปถ่ายอีกกล่องนึง เครื่องสำอางกล่องนึง อุปกรณ์ทำงานฝีมืออีกกล่องนึง อย่างนี้ไปเรื่อยๆ อย่าลืมแปะชื่อหมวดหมู่ลงบนกล่องและเก็บไว้ในที่ที่หยิบง่าย จะได้หาและหยิบใช้ได้สะดวก [6]
    • วางกล่องไว้บนชั้นวางของ ใต้เตียง ในตู้เสื้อผ้า หรือบนโต๊ะ
    • อย่าเพิ่งเริงร่าออกไปซื้อกล่องและถังขยะจนกว่าคุณจะจัดของในห้องเสร็จ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าหลังจากจัดทุกอย่างเข้าที่แล้วคุณจะยิ่งมีของกองสุมกันมากกว่าเดิม
  3. วิธีนี้จะทำให้ห้องบ่งบอกความเป็นคุณมากขึ้น ถ้าระหว่างจัดห้องคุณไปเจอของตกแต่งน่ารักๆ หรือของเล่นเจ๋งๆ คุณอาจจะนำมาวางไว้บนโต๊ะ ตู้ลิ้น หรือโต๊ะข้างเตียงเพื่อโชว์ แต่ให้วางแค่ที่ละ 2-3 ชิ้นเท่านั้น ไม่อย่างนั้นมันจะดูรก [7]
    • การจัดพื้นที่โชว์ของในห้องก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ห้องของคุณเป็นระเบียบมากขึ้น เพราะของที่อยู่ไม่ถูกที่จะดูขัดตาและคุณก็จะอยากนำกลับไปวางไว้ที่เดิม แถมพื้นผิวโล่งๆ ที่ไม่ค่อยมีอะไรวางยังปัดฝุ่นและเช็ดทำความสะอาดง่ายกว่าด้วย

    ตัวอย่าง: วางถ้วยฟุตบอลไว้บนโต๊ะและภาพถ่ายที่ชอบไว้บนตู้ลิ้นชัก

  4. นำหนังสือ เสื้อผ้า หรือของเล่นที่คุณไม่ต้องการแล้วไปบริจาค. วิธีนี้จะทำให้ห้องของคุณไม่รกและมีพื้นที่สำหรับของที่คุณรักมากขึ้น นำสิ่งของแต่ละชิ้นขึ้นมาดูแล้วนึกดูว่าปีที่ผ่านมาคุณได้ใช้มันบ้างมั้ย ถ้าช่วงที่ผ่านมาคุณไม่ได้หยิบมาใช้เลยและมันก็ไม่ได้มีคุณค่าทางใจ ลองคิดดูว่าจะบริจาคให้ร้านขายของมือสองเพื่อการกุศลดีมั้ย [8]
    • แต่ต้องถามพ่อแม่ก่อนนะ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ทำความสะอาดพื้นผิว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะ ตู้ลิ้นชัก ชั้นหนังสือ มู่ลี่ไม้ระแนง พัดลม ดวงไฟ โคมไฟ และพื้นผิวอื่นๆ ที่อยู่ในห้อง เริ่มจากที่สูงลงมาข้างล่างเสมอ ไม่อย่างนั้นฝุ่นก็จะตกลงมาบนพื้นผิวที่คุณทำความสะอาดไปแล้ว ปัดฝุ่นก่อนแล้วค่อยดูดฝุ่นหรือเช็ด เพราะฝุ่นมักจะกระจายแล้วก็กลับมารวมกันบนพื้น [9]
    • ถ้าคุณไม่มีไม้ขนไก่ ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดฝุ่น
    • อย่าลืมปัดฝุ่นของที่อยู่บนโต๊ะ ตู้ลิ้นชัก และอื่นๆ เพราะกรอบรูป ของที่ระลึกจากทริป และถ้วยรางวัลจะดูสวยขึ้นเมื่อไม่มีฝุ่นเกาะ
    • อย่าลืมปิดการใช้งานก่อนปัดฝุ่นพัดลมและไฟ
  2. เช็ดพื้นผิวเพื่อกำจัดรอยต่างๆ ฝุ่น และคราบเหนียว. คราบเหนียวอาจจะทำให้มดขึ้นและทำให้เฟอร์นิเจอร์เสียหายได้ ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดพื้นผิวลงบนพื้นผิวต่างๆ เล็กน้อยแล้วใช้ผ้าเช็ด ผ้าไมโครไฟเบอร์เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถกำจัดรอยต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช็ดโต๊ะ ตู้ลิ้นชัก โต๊ะข้างเตียง ขอบหน้าต่าง บัวเชิงผนัง ของตกแต่ง และพื้นผิวทั้งหมดในห้องอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง [10]
    • ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อก็ใช้ได้เช่นกัน เพราะมันจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจเจริญเติบโตในห้องของคุณ
  3. ดูดฝุ่นหรือกวาดพื้น โดยเฉพาะบริเวณใต้เตียงและใต้โต๊ะ. บริเวณเหล่านี้มักถูกละเลยเวลาที่เราทำความสะอาดแบบรีบๆ เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูดฝุ่นให้ทั่ว คุณอาจจำเป็นต้องย้ายเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้ดูดฝุ่นได้ง่ายขึ้น ดันเครื่องดูดฝุ่นไปมาให้ทั่วพื้นห้องจนกว่าพื้นจะสะอาดเอี่ยมอ่อง [11]
    • ถ้าเครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นได้ไม่ค่อยดี ให้ลองดูว่าถุงหรือกล่องเก็บฝุ่นเต็มหรือยัง ถ้าเต็มแล้วให้เทฝุ่นทิ้งก่อน
    • ดูดฝุ่นบนพื้นอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

    เคล็ดลับ: ถ้าห้องของคุณปูพรมและพรมมีกลิ่นตุๆ ให้โรยผงดับกลิ่นพรมหรือเบกกิ้งโซดาลงบนพรมก่อนแล้วค่อยดูดฝุ่นเพื่อให้ห้องหอมขึ้น

  4. ใช้ไม้กวาดกวาดฝุ่นผงต่างๆ มารวมกันกองเดียวแล้วใช้ไม้กวาดปัดฝุ่นกองนั้นเข้าไปในที่โกยผง หลังจากนั้นให้นำไม้ถูพื้นไปจุ่มในถังน้ำที่ผสมน้ำยาถูพื้น แล้วถูพื้นเพื่อกำจัดรอยต่างๆ และฝุ่น หมั่นนำไม้ถูพื้นไปจุ่มล้างน้ำสะอาดอยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกกระจายไปทั่วพื้น [12]
    • วิธีนี้จะทำให้พื้นห้องดูสะอาดและน่ามอง
    • กวาดและถูพื้นอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
  5. เช็ดสวิตช์ไฟและลูกบิดประตูด้วยสเปรย์ฆ่าเชื้อ. บริเวณเหล่านี้เป็นจุดที่โดนสัมผัสมากที่สุดในห้อง ซึ่งหมายความว่าเมื่อเวลาผ่านไปมันจะสะสมเชื้อแบคทีเรียไว้เยอะมาก ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อสำหรับใช้ในบ้านลงบนสวิตช์ไฟและที่จับต่างๆ จากนั้นใช้ผ้าหรือทิชชู่อเนกประสงค์เช็ดออก [13]
    • ฆ่าเชื้อที่จับและสวิตช์ต่างๆ สัปดาห์ละครั้งเพื่อรักษาความสะอาด
    • เช็ดบริเวณรอบเต้ารับด้วยเช่นกัน เนื่องจากคุณไม่ได้สัมผัสมันบ่อยเท่าไหร่ มันก็อาจจะไม่ได้สะสมสิ่งสกปรกเร็วเท่ากับสวิตช์ไฟ แต่การเช็ดทำความสะอาดก็จะทำให้ห้องดูดีขึ้นในภาพรวม
  6. ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกให้ทั่วกระจกและหน้าต่าง จากนั้นใช้ผ้าเช็ดเพื่อทำความสะอาด ถูจนกว่ากระจกจะไม่มีรอยหรือริ้วใดๆ วิธีนี้จะทำให้หน้าต่างและกระจกดูสะอาดวิบวับ [14]
    • ทำความสะอาดหน้าต่าง และกระจกทุกครั้งที่มีคราบ เพราะถ้าปล่อยไว้นานจะยิ่งเช็ดออกยาก
    • ผ้าไมโครไฟเบอร์เหมาะสำหรับทำความสะอาดกระจกและหน้าต่าง
    • อย่าลืมทำความสะอาดรางหน้าต่างด้วยเช่นกัน ใช้หัวที่ดูดฝุ่นปลายแหลมหรือเครื่องดูดฝุ่นมือถือดูดสิ่งสกปรกตามราง คุณสามารถใช้แปรงสีฟันเก่าและน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ขัดสิ่งสกปรกและฝุ่นที่จับกันเป็นก้อนออกได้
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

หาแรงบันดาลใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนเริ่มทำความสะอาด ให้หาอัลบั้มหรือเพลย์ลิสต์ที่ฟังแล้วกระฉับกระเฉง เพลงเร็วจะช่วยให้คุณมีพลังในการทำความสะอาด เลี่ยงเพลงช้าๆ เศร้าๆ เพราะจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยและเบื่อ [15]

    เคล็ดลับ: ถ้าคุณไม่รู้จะฟังอะไร ให้ค้นหาเพลย์ลิสต์เพลงเร็วทางออนไลน์ Spotify, Apple Music และ Pandora มีเพลย์ลิสต์ปลุกใจที่เหมาะสำหรับฟังระหว่างทำความสะอาดเยอะมาก

  2. ให้รางวัลตัวเอง จะได้มีกำลังใจทำความสะอาดให้เสร็จ. แรงจูงใจนี้จะช่วยให้คุณทำงานเสร็จเร็วขึ้น ลองคิดว่าจะให้รางวัลตัวเองเป็นอะไรดีหลังจากทำความสะอาดเสร็จ อาจจะออกไปเที่ยวกับเพื่อน ดูหนังกับครอบครัว กินไอศกรีมชามโต หรืออ่านหนังสือที่ชอบก็ได้ [16]
    • แต่อย่ารีบทำความสะอาดเพราะอยากให้รางวัลตัวเองไวๆ นะ!
  3. ถ้าคุณอยากได้แรงจูงใจมากกว่านั้น ให้เปลี่ยนการทำความสะอาดห้องเป็นเกม. ถ้าคุณไม่มีแรงจูงใจในการทำความสะอาดห้อง เปลี่ยนมันให้เป็นเกมซะ คุณจะได้รู้สึกสนุกขึ้น ลองดูซิว่าภายใน 10 นาทีคุณจะเก็บของเข้าที่ได้กี่ชิ้นและพยายามเอาชนะตัวเองในครั้งถัดไปให้ได้ หรือคุณจะสมมุติว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์ขณะทำความสะอาด พร้อมเคลื่อนไหวและทำเสียงเหมือนหุ่นยนต์ไปด้วยก็ได้ อีกวิธีคือจับเวลาและดูว่าคุณทำความสะอาดห้องได้เร็วแค่ไหน [17]
    • ใช้ความคิดสร้างสรรค์และคิดเกมของตัวเองขึ้นมา!

    เคล็ดลับ: เริ่มปัดฝุ่นจากพื้นผิวด้านบนลงล่าง ลำดับขั้นตอนนี้จะทำให้คุณทำงานเสร็จเร็วขึ้นและไม่ต้องทำงานซ้ำซ้อน

  4. เขียนเช็กลิสต์งานทำความสะอาดต่างๆ เพื่อติดตามงาน. เช็กลิสต์จะทำให้คุณรู้สึกถึงความสำเร็จและความก้าวหน้าขณะกำลังทำความสะอาดครั้งใหญ่ ลองคิดดูว่าคุณอยากจัดระเบียบและทำความสะอาดอะไรบ้าง จากนั้นก็มาจัดลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อย พยายามใส่รายละเอียดให้ได้มากที่สุดจะได้ไม่หลงลืมอะไรไป [18]
    • ติ๊กงานที่ทำเสร็จแล้ว จะได้รู้ว่าเหลืออะไรที่ต้องทำบ้าง
  5. กำหนดตารางทำความสะอาดสำหรับทั้งสัปดาห์ งานจะได้ไม่หนักเกินไป. วิธีนี้ดีมากหากคุณต้องทำความสะอาดเยอะ เขียนว่างานไหนต้องทำให้เสร็จเมื่อไหร่ คุณจะได้ทำความสะอาดตามตารางที่กำหนดไว้ได้ รักษาวินัยให้ได้มากที่สุดและยึดตามตาราง [19]

    ตัวอย่าง: จัดการเสื้อผ้าวันจันทร์ จัดการขยะกับของที่วางบนพื้นผิววันอังคาร ปัดฝุ่นและดูดฝุ่นวันพุธ

    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,620 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา