รองเท้าชื้นๆ ใส่เดินไปมาระวังเท้าพุพองแถมรองเท้าขึ้นราอีกต่างหาก แต่ถ้าคุณมีเวลาจำกัดแค่ 2 - 3 ชั่วโมง บอกเลยว่าแห้งทัน ไม่ว่าจะโยนใส่เครื่องอบผ้า ตากพัดลม หรือห่อด้วยหนังสือพิมพ์ก็ตาม จะเลือกวิธีการไหนต้องคำนึงถึงลักษณะและวัสดุของรองเท้า เพื่อไม่ให้เผลอทำรองเท้าเสียหายถาวร
ขั้นตอน
-
รองเท้าคุณทำจากอะไร. ถ้าเป็นใยสังเคราะห์หรือผ้าคอตตอน ไม่ได้รองพื้นแข็งหรือพื้นยาง ก็เอาใส่เครื่องอบผ้าได้เลย แต่ถ้าเป็นรองเท้าหนัง รองเท้ากีฬาพื้นยาง รองเท้าส้นไม้ หรือรองเท้า Gore-Tex กันน้ำ จะเอาเข้าเครื่องซัก-อบผ้าไม่ได้
-
ถ้าเลอะโคลนเกรอะกรังให้ล้างก่อน. จะฉีดด้วยสายยางรดน้ำหรือซักเครื่องก็ตามสะดวก อย่าลืมใส่ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดตัวเก่าๆ ไปเยอะๆ ด้วยล่ะ
- ล้างด้วยน้ำอุ่นกับน้ำยาอ่อนๆ จนสะอาด ถ้ารองเท้าเปียกชุ่มอยู่แล้วก็ซักซะเลย
-
ไม่ต้องผูกเชือกรองเท้า.
-
ใส่ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดตัวไปด้วย. แต่ไม่ต้องยัดจนเต็มเครื่องอบผ้านะ
-
เปิดฝาเครื่อง. วางรองเท้าคู่กัน เอาปลายเท้าชี้ขึ้นข้างบน ให้ประกบพื้นรองเท้ากับด้านในของฝาเครื่องอบผ้า
-
ผูกเชือกรองเท้าที่ปลายแล้วห้อยไว้ด้านบนฝาเครื่องอบผ้า. จากนั้นค่อยๆ ปิดฝาเครื่องให้แน่น อย่าลืมห้อยปลายเชือกรองเท้าออกมานอกฝาเครื่อง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แขวนแบบนี้รองเท้าจะได้ไม่กลิ้งขลุกขลักไปมาในเครื่องอบผ้า ไม่งั้นอาจเสียหายได้ทั้งเครื่องและรองเท้า
-
ตั้งเครื่องอบผ้าไปที่รอบปั่นกลางหรือรอบปั่นต่ำๆ ไม่เกิน 60 นาที. [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เสร็จแล้วก็เปิดฝาเครื่องเช็คดูว่ารองเท้าแห้งดีไหมโฆษณา
-
รองเท้าคุณทำจากอะไร. ถ้าเป็นรองเท้าหนังทนๆ หรือรองเท้ากีฬาพื้นยางจะดีที่สุด แต่ถ้าเป็นรองเท้าหนังกลับต้องตากนานๆ หน่อย
-
ล้างคราบดิน โคลน หรือสิ่งสกปรกเกรอะกรังออกก่อนด้วยสายยางรดน้ำหรือน้ำก๊อก. รองเท้าเปียกได้ไม่เป็นไร แต่อย่าให้สกปรกจะดีกว่า
-
ใช้พัดลมตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะที่แข็งแรงหน่อย. พัดลมต้องสูงกว่าความยาวรองเท้า และแข็งแรงพอจะรับน้ำหนักรองเท้าที่แขวนไว้ได้โดยไม่ล้ม
-
ตั้งพัดลมไว้ในโรงรถหรือห้องซักล้าง. ปูผ้ารองไว้หน้าพัดลมด้วย เผื่อน้ำหยดจากรองเท้าตอนตาก
-
เอาแผ่นรองฝ่าเท้าออกก่อน. ไม่ว่าจะเพื่อความสบายหรือใช้ทางการแพทย์ก็เอาออกให้หมด แล้วผึ่งให้แห้ง หรืออบในเครื่องอบผ้ารอบต่ำๆ แค่ไม่กี่นาที ในกรณีที่ไม่ได้ทำจากหนัง
-
ใช้ไม้แขวนเสื้อเก่ากับคีมตัดลวด. ตัดลวดออกมา 6 นิ้ว (ประมาณ 15 ซม.)
-
ดัดลวดให้เป็นรูปตัว “S”. ดัดปลายข้างหนึ่งเป็นตะขอเล็กๆ ด้วย จะได้ใช้แขวนที่พัดลม ส่วนตะขอใหญ่ๆ ที่ปลายอีกข้างเอาไว้ห้อยรองเท้า ถ้าดัดยากก็ใช้คีมแทน
- ทำซ้ำกับลวดอีกเส้น
-
เอาตะขอเล็กเกี่ยวพัดลมไว้. เกี่ยวห่างกันประมาณ 9 นิ้ว (23 ซม.) รองเท้าจะได้ไม่ชิดติดกัน
-
เอาเชือกรองเท้าออก. อ้ารองเท้าให้ลมเข้ามากที่สุด แขวนกับตะขออันใหญ่ ให้หัวรองเท้าชี้ขึ้นข้างบน
- ให้ลมพัดเข้าไปในรองเท้าแล้วไหลเวียนออกมาข้างนอก
-
เปิดพัดลมแรงปานกลางไปจนถึงแรงมากประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ทิ้งไว้จนกว่ารองเท้าจะแห้งสนิท. [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
รองเท้าคุณแข็งแรงแค่ไหน. ถ้าเป็นหนังหรือหนังกลับ นี่คือวิธีทำให้รองเท้าแห้งแบบเบามือที่สุด รองเท้าส้นไม้แข็งๆ ก็ควรใช้วิธีนี้เหมือนกัน
-
หาหนังสือพิมพ์มาฉบับหนึ่ง. ถ้าหน้าไหนมีรูปหรือหมึกเข้มๆ ดำๆ เต็มหน้าให้ทิ้งไป หมึกจะได้ไม่ซึมเปื้อนรองเท้า
- แต่ถ้าเป็นรองเท้าหนังสีเข้มๆ ดำๆ ก็ไม่ต้องห่วง ขัดหมึกพิมพ์ออกง่ายนิดเดียว
- ถ้าคุณกังวลเรื่องหมึกพิมพ์ ก็ให้เอารองเท้าไปใส่ในกล่องที่ใส่ข้าวสารไว้ 1 นิ้ว (2 - 3 ซม.) โดยเอาหัวรองเท้าลง จากนั้นก็ปิดฝาให้สนิท แล้วกลับมาดูในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า
-
ล้างรองเท้าก่อนถ้าคราบสกปรกเลอะเทอะเปรอะเปื้อน. หรือเช็ดออกด้วยผ้าเปียกหมาดๆ
-
ปั้นหนังสือพิมพ์เป็นก้อนแล้วยัดไว้ที่หัวรองเท้า. ทำซ้ำจนข้างในรองเท้ามีก้อนหนังสือพิมพ์อัดเต็ม
-
ห่อรองเท้าด้วยหนังสือพิมพ์ทั้งหน้า. ใช้หนังยางรัดตรงกลาง หนังสือพิมพ์จะได้แน่นหนา
-
วางรองเท้าที่ห่อแล้วไว้ในมุมที่อากาศถ่ายเท.
-
เปลี่ยนหนังสือพิมพ์ที่ห่อรองเท้าใหม่อีกรอบใน 1 ชั่วโมง. ถ้ารองเท้าเปียกจนชุ่ม ก็ต้องหมั่นเปลี่ยนหนังสือพิมพ์ให้แห้งอยู่ตลอด [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าคุณจะใช้เครื่องอบผ้า แต่รองเท้าผ้าใบหนักจนเชือกรับน้ำหนักไม่ไหว ให้ผูกเชือกกับตะขอแขวนเสื้อแทน แล้วเอาตะขอห้อยไว้นอกฝาเครื่อง เชือกจะได้ลื่นหลุดระหว่างอบ
- ถ้าจะตากรองเท้าหนังกลับแต่รองเท้าเลอะเทอะไปหมด ให้เลือกใช้หนังสือพิมพ์ จากนั้นค่อยใช้แปรงขัดรองเท้ากำจัดสิ่งสกปรกตอนรองเท้าแห้งแล้ว
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- เครื่องอบผ้า
- พัดลม
- ไม้แขวนเสื้อลวด
- คีมตัดลวด
- คีมปากอื่นๆ
- ผ้าเช็ดตัว
- หนังสือพิมพ์
- หนังยาง
- สายยางรดน้ำ
- ผ้าเช็ดจาน/ผ้าขนหนู
- ข้าวสาร
- กล่อง
- แปรงขัดรองเท้า
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา