ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การทำให้สีผมอ่อนลงด้วยน้ำยากัดสีผมทำให้ผมของคุณแห้ง เปราะ และเสีย เพราะฉะนั้นลองเปลี่ยนมาใช้อบเชยเพื่อให้สีผมอ่อนลงตามธรรมชาติ น้ำยาฟอกสีผมทำเองสูตรนี้จะทำให้ผมของคุณชุ่มชื้นและยังหอมสดชื่นอีกด้วย
ขั้นตอน
-
รวบรวมวัตถุดิบ. เปิดดูตู้กับข้าวในครัวก่อนออกไปซื้อของ เพราะคุณอาจจะมีวัตถุดิบทุกอย่างที่ต้องใช้ครบแล้วก็ได้
- อบเชย จะซื้อแบบก้านหรือแบบผงก็ได้ แต่ต้องซื้อมาเยอะๆ เพราะครั้งนึงคุณต้องใช้หลายช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง น้ำผึ้งป่าจะดีที่สุด แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ให้ใช้น้ำผึ้งบริสุทธิ์แทน
- ครีมนวดผม ครีมนวดผมสูตรที่เพิ่มความชุ่มชื้นสูตรไหนก็ได้ มันจะช่วยให้ผมของคุณดูดซับบสารเคมี
- น้ำมะนาว คุณจะซื้อมะนาวแล้วมาคั้นน้ำเองที่บ้านก็ได้
- หมวกคลุมผม ถ้าคุณไม่อยากซื้อหมวกคลุมผม คุณก็อาจจะใช้พลาสติกแร็ปหรือถุงพลาสติกจากร้านค้าก็ได้ แต่ระวังอย่าให้พันรอบใบหน้า
-
เตรียมส่วนผสม. นำส่วนผสมทั้งหมดมารวมกันในชามและผสมให้เข้ากัน
- น้ำผึ้ง 1 ถ้วย
- ครีมนวดผมสูตรบำรุงล้ำลึก 1 ถ้วย
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- อบเชย 2 ช้อนโต๊ะ
- ทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง น้ำผึ้งมีส่วนประกอบของไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ เมื่อผสมอบเชยเข้าไปมันก็จะไปกระตุ้นไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ การปล่อยส่วนผสมทิ้งไว้ก่อนจะทำให้เกิดไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ที่เป็นตัวทำให้สีผมอ่อนลง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หวีผม. ระหว่างรอให้ส่วนผสมเข้าที่ ให้หวีผมให้ทั่วทั้งศีรษะ
- คุณต้องหวีผมที่พันกันออกให้หมด วิธีนี้จะทำให้ส่วนผสมซึบซาบเข้าไปในผมทั่วกันทุกช่อ
- คุณจะชโลมส่วนผสมนี้ลงบนผมที่สระแล้วหรือยังไม่สระก็ได้
-
รู้ว่าอยากได้ผลลัพธ์แบบไหน. การทำให้สีผมอ่อนลงด้วยส่วนผสมจากอบเชยไม่เหมือนกับการใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์โดยตรง
- ผมสีบลอนด์: สตรอว์เบอร์รีบลอนด์ ไฮไลต์สีน้ำตาลประปราย
- ผมสีดำ: สีน้ำตาลอ่อนเหลือบแดง (หลังจากกัดสีไปแล้วหลายครั้ง)
- ผมสีแดง: ไฮไลต์สีแดงเหลือบน้ำตาล
- ผมสีน้ำตาลอ่อน: สีน้ำตาลเฉดอ่อนลงและเหลือบแดง
- ผมสีน้ำตาลเข้ม: สีน้ำตาลอ่อนและแดง
โฆษณา
-
ทำให้ผมหมาด. ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำให้ผมเปียกแต่ไม่ถึงกับชุ่ม
- ใช้ขวดสเปรย์ ถ้าคุณไม่อยากเดินเข้าไปใต้ฝักบัว ให้ใช้ขวดสเปรย์ขวดเล็กๆ ทำให้ผมหมาด
- ทำให้แปรงเปียก ใช้แปรงที่เปียกแปรงผมให้ทั่ว วิธีนี้จะช่วยให้ส่วนผสมติดอยู่ที่ผมแต่ละช่อ
-
ทดสอบส่วนผสม. ก่อนที่คุณจะชโลมส่วนผสมลงบนเส้นผม อย่าลืมทดสอบบนมือก่อน ถ้าผิวหนังมีปฏิริยากับส่วนผสม ก็อย่าใช้ส่วนผสมนี้
- บางคนก็แพ้อบเชย เพราะฉะนั้นให้ถูส่วนผสมจากอบเชยลงบนหลังมือก่อนแล้วทิ้งไว้ 5-10 นาทีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่แพ้
- เมื่อทาอบเชยลงไปจะรู้สึกอุ่นนิดๆ แต่ไม่ถึงกับแสบร้อน ถ้าหนังศีรษะของคุณบอบบาง ไม่แนะนำให้คุณใช้สูตรนี้
- ถ้ารู้สึกแสบ ให้ล้างออกทันที!
-
ชโลมส่วนผสม. ขั้นตอนนี้จะเลอะเทอะหน่อย! ถ้าเป็นไปได้ให้ขอให้เพื่อนช่วย หรือไม่อย่างนั้นก็ใช้แปรงย้อมผมแทนการใช้มือ จะช่วยให้เลอะเทอะน้อยลง
- ถูส่วนผสมให้ทั่วฝ่ามือ
- ชโลมให้ทั่วตั้งแต่รากจรดปลายผม คุณต้องใช้ส่วนผสมเยอะๆ ให้ทั่วทั้งศีรษะ
- ถ้าส่วนผสมข้นเกินไป ให้เติมน้ำลงไป ¼ ถ้วย
- ถ้าผมของคุณหนา ให้แบ่งผมออกเป็นช่อก่อนชโลมส่วนผสม ใช้ที่หนีบผมรวบผมบางช่อเอาไว้ก่อนจนกว่าคุณจะชโลมส่วนผสมลงบนช่อนั้น
- ระวังอย่าให้ส่วนผสมโดนคอ เพราะอาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นระคายเคืองได้
-
ทิ้งไว้. ให้เวลาส่วนผสมค่อยๆ ทำให้สีผมของคุณอ่อนลงระหว่างที่คุณนั่งพักผ่อนสบายๆ
- ม้วนผมเป็นบันแล้วคลุมไว้ คุณอาจจะใช้หมวกคลุมผมเพื่อความสะดวก
- ทิ้งส่วนผสมไว้บนผมอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นไปได้ให้ทิ้งไว้ข้ามคืน
- ใช้ผ้าขนหนูคลุมทับหมอนเอาไว้ ถึงคุณจะสวมหมวกคลุมผม แต่ส่วนผสมก็อาจจะเลอะเทอะได้ถ้าคุณขยับตัวระหว่างหลับ ปูผ้าขนหนูทับหมอนไว้อีกทีเพื่อป้องกันไม่ให้เลอะเทอะ
-
ทำความสะอาดเส้นผม. ระหว่างที่ล้างส่วนผสมออกจากเส้นผมนั้นคุณต้องอดทนสักหน่อย เพราะถึงน้ำผึ้งจะเหนียว แต่สิ่งที่ล้างออกยากที่สุดก็คืออบเชยนั่นเอง
- ล้างส่วนผสมออกจากเส้นผม ก่อนสระผมให้ล้างส่วนผสมออกจากเส้นผมให้ได้มากที่สุดก่อน
- สระผม หลังจากที่คุณล้างส่วนผสมออกจากเส้นผมให้มากเท่าที่จะทำได้แล้ว สระผมให้สะอาดด้วยยาสระผม
- คุณอาจจะต้องสระผมสองครั้งถึงจะล้างอบเชยออกหมด
-
ทำซ้ำถ้าจำเป็น. ส่วนผสมนี้จะไม่เหมือนน้ำยากัดสีผมตรงที่มันไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน และเนื่องจากว่าส่วนผสมนี้ดีต่อเส้นผม คุณจึงสามารถทำซ้ำกี่ครั้งก็ได้โดยไม่ทำให้ผมเสีย ทำซ้ำจนกว่าจะได้เฉดสีที่คุณต้องการ
- การทำให้สีผมอ่อนลงด้วยอบเชยเป็นกระบวนการที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง ในแต่ละครั้งสีผมจะอ่อนลงเพียงเล็กน้อย
- คุณอาจจะต้องทำซ้ำ 3-4 ครั้งกว่าสีผมจะอ่อนลงจนสังเกตได้
โฆษณา
-
ใช้น้ำมันมะกอกแทนครีมนวดผม. ถ้าคุณอยากใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติทั้งหมด คุณก็สามารถใช้น้ำมันมะกอกแทนครีมนวดผมได้
- น้ำมันมะกอกเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าคุณเป็นคนผมมันอยู่แล้วก็อย่าใช้ เพราะว่าน้ำมันมะกอกล้างออกยากกว่าครีมนวดผม
- ครีมนวดผมจากธรรมชาตินี้เหมาะกับผมหยิก ถ้าผมของคุณหยิกและฟู น้ำมันมะกอกจะซึมซาบเข้าไปในเส้นผมและทำให้ผมของคุณชุ่มชื้น [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้กระวาน. กระวานเป็นเครื่องเทศที่เร่งเพอร์ออกไซด์ จึงสามารถทำให้สีผมอ่อนลงได้เช่นเดียวกับอบเชย [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณสามารถใช้กระวานแทนอบเชยได้เลย ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน
- ใช้กระวานแทนหากคุณแพ้อบเชย
-
ใส่วิตามินซี. วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆ ในการเพิ่มสารอาหารลงในส่วนผสม วิตามินซีเป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของเส้นผมและทำให้ผมแข็งแรง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บดวิตามินซี 2-3 เม็ดเติมลงในส่วนผสม
- วิตามินซีจะช่วยให้สีผมอ่อนลงและทำให้ผมสุขภาพดี [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
เคล็ดลับ
- คุณควรแบ่งผมออกเป็น 3 ส่วนแล้วชโลมส่วนผสมลงบนเส้นผม 2 ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าคุณชโลมส่วนผสมทั่วทั้งศีรษะ
- เพื่อให้สีผมอ่อนลงยิ่งขึ้น ให้สระผมด้วยยาสระผมสูตรคาโมมายล์หรือถุงชาคาโมมายล์
- ให้เพื่อนช่วยชโลมส่วนผสมตรงด้านหลังของศีรษะ การให้เพื่อนช่วยจะทำให้คุณแน่ใจได้ว่าปริมาณส่วนผสมทั่วกันทั้งศีรษะ
- ถ้าคุณบดอบเชยเอง คุณต้องบดจนเป็นผงละเอียดและอย่าให้มีส่วนที่เป็นก้อนๆ ปนอยู่ ไม่อย่างนั้นสีผมจะไม่อ่อนลง
- คนส่วนผสมจนเนียนเป็นน้ำ
- คุณต้องไม่ให้ส่วนผสมจับตัวกันเป็นก้อน และเพื่อให้ได้ไฮไลต์ที่ชัดขึ้นหรือให้สีผมยิ่งอ่อนลง ให้ทิ้งส่วนผสมไว้บนศีรษะอย่างน้อย 5 ชั่วโมง
- ถ้าผมของคุณสีเข้ม ให้ทิ้งส่วนผสมไว้บนศีรษะข้ามคืน จะทำให้สีผมอ่อนลง
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าผมของคุณเป็นสีบลอนด์ ส่วนผสมนี้น่าจะทำให้ผมของคุณเป็นสีเหลือบแดง
- ถ้าส่วนผสมจากอบเชยทำให้รู้สึกแสบร้อน ล้างออกทันที! เพราะเป็นอาการภูมิแพ้ผิวหนังที่พบได้ทั่วไป
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://snapguide.com/guides/lighten-your-hair-with-cinnamon-and-honey/
- ↑ http://www.naturallycurly.com/curlreading/home/100-natural-way-to-lighten-your-hair-color/
- ↑ http://www.naturallycurly.com/curltalk/4/68516-natural-ingredients-change-hair-color.html
- ↑ http://www.womenshealthmag.com/beauty/vitamin-c-benefits
- ↑ http://www.diyncrafts.com/2312/homemade/10-ways-to-lighten-your-hair-naturally/2
โฆษณา
