ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณได้สีผมที่ต้องการแล้ว แต่ตอนนี้ผมคุณกลับรู้สึกเหมือนไม้กวาด แต่โชคดีว่า คุณสามารถมีสีผมที่ถูกใจและนุ่มลื่นได้พร้อมกัน ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม สุขนิสัยที่ดี และการเดินไปตู้เย็นไม่กี่ครั้ง จะทำให้ผมย้อมสีของคุณนุ่มลื่นได้เลยล่ะ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เติมความชุ่มชื้นกลับคืนให้เส้นผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ส่วนใหญ่แล้วครีมนวดผมจะแถมมาพร้อมกับน้ำยาย้อมผมด้วย หากไม่มี ให้ใช้ครีมนวดผมที่คุณมีอยู่แล้วนวดทั้งศีรษะ ทิ้งไว้ อย่างน้อย 3 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำเย็น
    • ในความจริงแล้ว อย่าซื้อน้ำยาย้อมผมที่ไม่แถมครีมนวดผมมาด้วย การย้อมผมทำร้ายผมของคุณมาก และไม่ควรเป็นสิ่งที่คุณทำโดยไม่ได้รับการบำรุงภายหลัง
  2. นอกจากการบำรุงด้วยครีมนวดที่ทำประจำแล้ว ให้ใช้ครีมบำรุงผมสูตรเข้มข้นอาทิตย์ละครั้งด้วย หากรากผมมันง่าย ให้ชโลมครีมนวดแค่ที่ปลายผม หลังจากปล่อยไว้ 2-3 นาทีก็ล้างออกได้
    • ครีมนวดผมบางชนิดไม่ต้องล้างออก หากครีมนวดของคุณเป็นแบบนี้ ให้ป้ายหรือฉีดลงบนผมที่เปียกหมาดๆ หลังจากอาบน้ำ แค่นี้ก็เรียบร้อย!
  3. ทุกครั้งที่อาบน้ำ ให้เริ่มด้วยน้ำอุ่นและจบด้วยน้ำเย็น. น้ำอุ่นจะช่วยเปิดรูขุมขนของเส้นผม และน้ำเย็นจะช่วยปิดมันกลับคืน พูดง่ายๆ ก็คือ น้ำอุ่นจะช่วยให้ผมของคุณชุ่มไปด้วยความชุ่มชื้น ส่วนน้ำเย็นจะช่วยกักเก็บมันไว้ ดังนั้นให้ต้านทานความอยากอาบน้ำร้อนเอาไว้ เส้นผมจะขอบคุณคุณเลยล่ะ!
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

รักษาสภาพผมที่ดีไว้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในความจริงแล้ว การสระผมจะทำให้ผมแห้ง ดังนั้นหากคุณหลีกเลี่ยงได้ก็ให้ทำ (นี่แหละเหตุผลที่ผมทรงหางม้าถูกคิดค้นขึ้นมา จริงๆ นะ) เวลาอาบน้ำ ให้เก็บผมขึ้นและใส่หมวกอาบน้ำเพื่อไม่ให้เกะกะ แค่เพียงเพราะคุณไม่สระผม ไม่ได้แปลว่าคุณไม่ได้กำลังอาบน้ำนะ!
    • ทุกคนมีความต้องการต่างกันไป บางคนอาจต้องสระผมทุก 2 วัน บางคนก็อาทิตย์ละครั้ง แค่ดูที่รากผมของคุณ: ถ้าผมมัน ก็สระซะ หากไม่ ก็มีความสุขกับเวลาที่เพิ่มขึ้นในการเตรียมตัวตอนเช้าได้เลย!
  2. คุณต้องการยาสระผมที่ไม่หนักเกินไปและไร้สารซัลเฟตด้วย หากทั้งสองอย่างมีน้ำมันบำรุงผมด้วยก็จะดีมาก และแน่นอนว่าควรจะดีต่อผมย้อมสีด้วย!
    • เน้นยาสระผมไปที่รากผมและครีมนวดไปที่ปลายผม ครีมนวดส่วนใหญ่จะมันกว่า คุณต้องการปลายผมที่ได้รับการบำรุง ไม่ใช่รากผมที่เหนียวเหนอะ
  3. ยับยั้งการใช้อุปกรณ์จัดแต่งผมที่ให้ความร้อนถ้าเป็นไปได้. อุปกรณ์ให้ความร้อนจะยิ่งทำให้ผมแห้งและทำลายผมมากขึ้น มันอาจจะเป็นการเสียสละที่ยาก แต่มันก็ทำให้เกิดขึ้นได้นะ ผมทรงหางม้าและที่คาดผมสามารถบดบังผมชี้ฟูได้ ให้คิดว่ามันคือการแก้ปัญหาระยะสั้นเพื่อป้องกันปัญหาระยะยาว ดังนั้น ให้งดใช้ที่หนีบผม และปล่อยให้ผมเป็นธรรมชาติสักสองสามวันต่อสัปดาห์ คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์
    • หากมันลำบากเกินไป ให้ลองลดความร้อนเครื่องม้วนผมหรือเครื่องหนีบผมลง มันอาจไม่ดีเท่าการหยุดใช้ แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
  4. การเล็มผมเดือนละครั้งจะดีมากหากคุณประสบปัญหาผมเสีย เนื่องจากปลายผมมักจะได้รับความเสียหายจากการย้อมผมมากที่สุด นี่จึงเป็นหนทางแก้ที่ดีที่สุด และสำหรับพวกเราโดยส่วนใหญ่แล้ว ผมจะไม่ยาวเกินไปกว่าจุดๆ หนึ่ง ดังนั้นการเล็มจะช่วยฟื้นคืนสภาพเส้นผมได้
  5. ในทุกๆ วัน ให้รับประทานอาหารให้สมดุล คุณรู้ไหมว่าทำไมคนที่อดอาหารถึงไม่มีผมสวย? เพราะว่าคุณกินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไงล่ะ หากร่างกายของคุณไม่มีสารอาหารเพียงพอไปเลี้ยงทุกส่วน มันก็คงไปไม่ถึงเส้นผมของคุณด้วยเช่นกัน! ดังนั้น อย่าลืมรับประทานโปรตีน สังกะสี ธาตุเหล็ก รวมไปถึงวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ แล้วเส้นผม ผิวหนัง และเล็บของคุณจะดูดีขึ้นเลยล่ะ
    • ดื่มน้ำเยอะๆ ก็ช่วยได้เช่นกัน เหมือนกับที่น้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิลช่วยทำความสะอาดผมได้ น้ำก็ทำความสะอาดทั่วร่างกายของคุณเช่นกัน ยิ่งได้รับน้ำเพียงพอเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งสุขภาพดีมากขึ้นเท่านั้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ใช้สารให้ความชุ่มชื้นที่ทำเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โปรตีนและเลซิทินในไข่นั้นชุ่มชื้นไปด้วยน้ำตั้งแต่หัวจรดปลายและยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผม แถมป้องกันผมขาดด้วย ด้านล่างนี้คือวิธีเปลี่ยนอาหารเช้าให้กลายเป็นสารเพิ่มความนุ่มให้ผม:
    • ผสมไข่ 3 ฟองกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะและน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ ชโลมลงบนผมได้เลยและทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นจึงล้างออกและปล่อยให้ผมแห้ง
    • โยเกิร์ตครึ่งถ้วยและน้ำมันอัลมอนด์ 2 ช้อนโต๊ะผสมกับไข่ที่ตีแล้ว 2 ฟอง จะทำให้เกิดส่วนผสมแบบครีมซึ่งคุณสามารถชโลมลงบนผมของคุณได้ ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาทีและบำรุงด้วยครีมนวดตามปกติ
    • มายองเนสก็ใช้ได้เช่นกัน แต่มันอาจทำให้คุณมีกลิ่นเหมือนร้านขายอาหารสำเร็จรูป
  2. น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันละหุ่ง และน้ำมันอัลมอนด์คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณเลยล่ะ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นหวานๆ สักสอง 2-3 หยดก็ช่วยได้เช่นกัน คุณสามารถหยดมันลงบนมือ 2-3 หยด ถูเข้าด้วยกัน แล้วลูบลงบนเส้นผม หรืออาจจะนำไปอุ่นในไมโครเวฟก็ได้
    • หากอยากทำจริงๆ ให้อุ่นสัก 4 ช้อนโต๊ะบนเตา เมื่อมันร้อนแต่ยังไม่ร้อน มากเกินไป ให้ยกออกจากเตาและพรมลงบนเส้นผม นวดให้ซึมเบาๆ และคลุมผมด้วยผ้าร้อนเพื่อให้ผมได้รับการบำรุงมากที่สุด
  3. ละลายน้ำมันมะพร้าวในไมโครเวฟจนเหลว ปล่อยให้เย็นจนกว่าจะสามารถจับได้ ชโลมน้ำมันมะพร้าวอุ่นๆ ลงบนผม ปล่อยทิ้งไว้ 4-5 ชั่วโมง (หรือนานเท่าที่คุณต้องการ) แล้วจึงล้างออก
  4. ชโลมน้ำผึ้งและทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วจึงล้างออก หรือผสมกับอะโวคาโดและไข่เพื่อให้ได้เนื้อครีม ใช้มันเป็นทรีตเมนต์บำรุงสูตรเข้มข้นอาทิตย์ละครั้ง
    • หรืออีกทางหนึ่ง คุณอาจผสมมันกับยาสระผมที่ใช้อยู่ประจำก็ได้!
  5. กล้วยช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผมและซึมลงไปอย่างดีต่อสุขภาพ จากนั้นอะโวคาโดจะมาช่วยบำรุงผม ทำให้ผมนุ่มและเงางาม หากอยากทำทรีตเมนต์ดีๆ ให้เติมน้ำมันบำรุง (ชนิดใดก็ได้) 1 หรือ 2 ช้อนชา ผสมเข้าด้วยกัน ชโลมลงบนผม และทิ้งไว้ 30-60 นาที
  6. น้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิลเป็นยาประจำบ้านที่ช่วยแก้ไขหลายปัญหา ซึ่งไม่ค่อยจัดเป็นสารให้ความชุ่มชื้นเท่าไหร่ แต่เป็นสารช่วยฟื้นฟูสภาพมากกว่า มันสามารถฟื้นฟูค่า pH ของผมคุณ และชะล้างผลิตภัณฑ์สังเคราะห์ที่ไม่มีประโยชน์ต่างๆ ที่คุณใช้ พูดง่ายๆ ก็คือมันเป็นสารทำความสะอาดผมที่อ่อนแอนั่นเอง
  7. 7
    ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิลกับน้ำในอัตรา 1:1. สระผมด้วยส่วนผสมนี้ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วจึงล้างออก จากนั้นให้ทำกิจวัตรประจำตามปกติ
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ยาสระผม
  • ครีมนวดผม
  • ทรีตเมนต์บำรุงผมสูตรเข้มข้น

ทางเลือก:

  • ไข่
  • น้ำผึ้ง
  • อะโวคาโด
  • กล้วย
  • น้ำมันบำรุง
  • มายองเนส
  • โยเกิร์ต


ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 61,543 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา