ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าอยากปิดเสียง (mute) ปิดสั่น และปิดไฟหน้าจอของ iPhone ก็ต้องเปิดโหมด "silent" หรือ "do not disturb" โดยโหมด Silent นั้น เปิดแล้วเท่ากับเข้าโหมดสั่นทันที ในขณะที่โหมด "do not disturb" จะปิดทุกอย่างที่รบกวน ทั้งปิดเสียง ปิดสั่น และหน้าจอไม่สว่าง แนะนำให้เข้าไปตั้งค่าและปรับแต่ง settings ต่างๆ ของแต่ละโหมด เพื่อให้ใช้งาน iPhone ได้ตรงตามความต้องการของคุณที่สุด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

เปิดโหมด Silent

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โหมด silent ของ iPhone จะปิดเสียงเรียกเข้าและเสียงแจ้งเตือนของเครื่อง เพื่อเข้าโหมดสั่นแทน โหมด silent เลยเป็นวิธีปิดเสียงมือถือ (เกือบทั้งหมด) ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว [1]
    • หมายเหตุ: เสียงตั้งปลุกในแอพ Clock ของ iPhone จะยังดังตามเวลาที่ตั้งไว้ ถึงจะเปิดโหมด silent ก็ตาม เว้นแต่จะเป็นตั้งปลุกในแอพอื่น [2]
  2. สวิตช์นี้ (หรืออีกชื่อคือสวิตช์ "Mute") จะอยู่ด้านซ้ายบนของตัวเครื่อง ให้เลื่อนสวิตช์ "ลง" (ปิดเสียง) เท่านี้มือถือจะสั่นอย่างเดียว และเห็นแถบสีส้มข้างใต้สวิตช์ [3]
    • ถ้าเลื่อนสวิตช์ “ขึ้น” แปลว่า "เปิดเสียง" ของมือถือไว้
    • ถ้าเปิดโหมด silent ตอนหน้าจอ iPhone เปิดอยู่ จะมีแจ้งเตือน “Ringer Silent” ขึ้นมาในหน้าจอ
  3. ถ้าอยากให้มือถือปิดทั้งเสียงและสั่น ก็ปิดสั่นได้ตอนเข้าโหมด silent โดยไปที่ Settings > Sounds หาสวิตช์ “Vibrate on Silent” แล้วเลื่อนไปที่ off ให้เป็นสีขาว [4]
    • ใช้ setting นี้แล้ว หน้าจอจะยังสว่างขึ้นมาตอนมีแจ้งเตือนหรือสายเข้า
  4. ถ้ารำคาญเสียงเวลาพิมพ์ข้อความในคีย์บอร์ด ก็ปิดได้โดยเข้า "Settings" > "Sounds" เลื่อนสวิตช์ข้าง “Keyboard Clicks” จาก on สีเขียว ไปที่ off สีขาว
  5. มือถือจะยังมีเสียงเวลาล็อคเครื่องหรือปิดเครื่อง ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดโหมด silent ถ้าอยากปิดเสียงนี้ ให้ไปที่ "Settings" > "Sounds" แล้วค้นหา "Lock Sounds" ทางด้านล่างของเมนู จากนั้นเลื่อนสวิตช์จาก on สีเขียว ไปที่ off สีขาว เพื่อปิดเสียงล็อคทั้งหมด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เปิดโหมด Do Not Disturb

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โหมด "Do not disturb" ใน iPhone จะปิดเสียงทั้งหมด รวมถึงปิดสั่น และปิดไฟชั่วคราว ตอนเปิดโหมดนี้ใน iPhone จะยังรับสายและข้อความได้ตามปกติ แค่มือถือไม่สั่น ดัง หรือสว่างขึ้นมา
    • หมายเหตุ: เสียงตั้งปลุกในแอพ Clock ของ iPhone จะยังดังตามปกติ เวลาเปิดโหมด "do not disturb" ไว้
    • หลายคนจะเปิดโหมดนี้ทิ้งไว้ข้ามคืน จะได้ไม่ตื่นกลางดึกเพราะมือถือสั่น ดัง หรือสว่างขึ้นมา [5]
  2. เพื่อเปิด control panel ของ iPhone
  3. ที่เป็นปุ่มด้านบนของ control panel ใช้เปิดโหมด "do not disturb" ได้ ถ้าปุ่มนี้เป็นสีขาว แสดงว่าเปิด "do not disturb" ไว้ ให้แตะปุ่มอีกรอบ (กลับไปเป็นสีเทา) ถ้าอยากปิด "do not disturb"
    • คุณเปิด "do not disturb" ได้อีกทาง คือไปที่ Settings > Do Not Disturb แล้วเลื่อนสวิตช์ข้าง "Manual" จากสีขาวให้เป็นสีเขียว [6]
    • Control panel จะมีอีกไอคอนแบบเดียวกัน รูปพระจันทร์เสี้ยวในพระอาทิตย์ เป็นปุ่มใช้เปิดฟังก์ชั่น NightShift
  4. ถ้าโหมด "do not disturb" เป็นฟีเจอร์ประจำวันของคุณ ก็ตั้งโปรแกรมให้ iPhone เปิดและปิดโหมดนี้อัตโนมัติได้ ตามเวลาที่กำหนดในช่วงวัน โดยเลือก Settings > Do Not Disturb เลื่อนสวิตช์ข้าง “Scheduled” จากขาวเป็นเขียว แล้วตั้งเวลา “From” (เปิด) และ “To” (ปิด) [7]
    • เช่น เปิดโหมดนี้ในเวลาทำงาน (9 AM - 5 PM (9 โมงเช้า - 5 โมงเย็น)) จะได้ไม่รบกวนสมาธิ
  5. ตามค่า default ถ้าเปิด "do not disturb" ไว้ จะอนุญาตบาง contacts ได้ โดยกำหนดเป็น "Favorites" เท่านี้ก็จะรับสายจากเบอร์ดังกล่าวได้แล้ว คุณปรับแต่ง settings ได้ที่ Settings > Do not Disturb > Allow Calls From
    • คลิก “Everyone”, “No One”, “Favorites” หรือ “All Contacts” [8]
  6. ตามค่า default ถ้าเปิด "do not disturb" ไว้ จะตั้งให้รับสายของเบอร์เดิมที่โทรซ้ำภายใน 3 นาทีได้ setting นี้เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน แต่จะปิดไปเลยก็ได้เหมือนกัน
    • ไปที่ Settings > Do not Disturb
    • หาสวิตช์ข้าง “Repeated Calls” ถ้าเป็นสีเขียว เท่ากับเปิดโหมดนี้ ถ้าเป็นสีขาว เท่ากับปิดโหมดนี้ [9]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 24,393 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา