ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการอัดเสียงตอนคุยโทรศัพท์ใน iPhone ปกติ Apple จะไม่มีฟีเจอร์หรือแอพตั้งต้นสำหรับอัดเสียงสนทนาใน iPhone ด้วยเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว เพราะงั้นต้องดาวน์โหลดแอพนอก หรือหาอุปกรณ์มาใช้อัดเสียงแทน เช่น ไมโครโฟนของคอม หรือมือถือเครื่องอื่น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ใช้แอพอัดเสียงสนทนา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ที่ไอคอนเป็นเครื่องเขียนประกอบกันเป็นตัว "A" สีขาวบนพื้นฟ้า ปกติ App Store จะอยู่ที่หน้า Home
  2. ที่ด้านขวาล่างของหน้าจอ มีไอคอนรูปแว่นขยาย
  3. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านบนของหน้าจอ
  4. ส่วนใหญ่ที่ใช้ได้ผลจะเป็นแอพอัดเสียงที่ต้องเสียเงิน แอพที่คนนิยมใช้กัน คะแนนรีวิวดีๆ ก็เช่น [1]
    • TapeACall Pro - เป็นแอพราคา $9.99 (ประมาณ 300 กว่าบาท) โดยจะต่างจากแอพอัดเสียงสนทนาอื่นๆ ตรงที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเป็นนาที
    • Call Recorder - IntCall - เป็นแอพที่ดาวน์โหลดได้ฟรี แต่จะคิดค่าอัดเสียงนาทีละประมาณ $0.10 (3 บาทกว่า) และต้องต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi ถึงจะใช้แอพนี้ได้
    • Call Recording by NoNotes - เป็นแอพที่ดาวน์โหลดได้ฟรี โดยอัดเสียงสนทนาได้ฟรีไม่เกิน 20 นาทีต่อเดือน พอครบตามที่กำหนดแล้ว จะคิดประมาณนาทีละ $0.25 (ประมาณ 8 บาท)
  5. ถ้าเป็นแอพแบบเสียเงิน ปุ่มนี้จะเป็นราคาของแอพแทน
  6. จุดเดียวกับที่เคยเป็นปุ่ม Get
  7. แล้วแอพนั้นจะเริ่มดาวน์โหลดลงเครื่อง
    • ถ้าล็อกอิน App Store ไว้แล้ว ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
    • ถ้า iPhone มี Touch ID ก็สแกนลายนิ้วมือได้เลย
  8. ถึงขั้นตอนเฉพาะจะต่างกันไปตามแอพที่ใช้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้งานเหมือนๆ กัน ให้เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ของแอพตอนโทรออก เพื่อ merge หรือรวมกับสายที่สนทนาอยู่
    • ถ้ามี ก็ต้องยอมรับ Terms and Conditions หรือเงื่อนไขและข้อตกลงการใช้งานก่อน ค่อยใส่เบอร์โทร
    • พอ merge สายแล้ว ก็เริ่มอัดเสียงสนทนาได้เลย
    • พอคุยจบ หรืออัดเสียงเกินเวลาที่กำหนด สายก็จะตัดไป
  9. เสียงสนทนาจะเก็บอยู่ในระบบคลาวด์ หรือในเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ และจะรวมกันไว้ในรายการ
    • ถ้าใช้ Call Recorder - IntCall ให้แตะ "Recording" ทางด้านล่างของหน้าจอ เพื่อเปิดรายการเสียงที่อัดไว้ แล้วแตะปุ่ม "Play" เพื่อเปิดฟังได้เลย
    • บางแอพจะมีพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ให้ คุณก็จัดการและกู้คืนไฟล์ได้เลย
    • คุณแก้ไขเสียงที่อัดไว้ได้ตลอด โดยตัดให้เหลือแต่ส่วนที่อยากเก็บไว้ จากนั้นก็ส่งอีเมลหรือจัดการไฟล์ตามต้องการได้เลย เหมือนไฟล์ในคอมตามปกติ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ใช้โปรแกรมหรืออุปกรณ์อื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้ามีอุปกรณ์อื่นที่ใช้อัดเสียงได้ เช่น iPad หรือคอมที่มีไมโครโฟน ก็ใช้อัดเสียงสนทนาได้เลย หรือ ดาวน์โหลดโปรแกรมที่ใช้กับ Windows และ Mac มาใช้
    • ถ้าใช้ Mac ก็มี "QuickTime Player" ที่เป็นโปรแกรมพื้นฐานสำหรับอัดเสียงและเปิดฟัง
    • ส่วน PC ก็มี "Sound Recorder" ที่ฟังก์ชั่นใช้งานเดียวกัน
    • Audacity ก็เป็นอีกโปรแกรมฟรีของทุกแพลตฟอร์ม รวมถึง Linux ด้วย
    • ถ้ามี iPad หรือ iPhone อีกเครื่อง ก็ใช้อัดเสียงได้เลย ใช้แอพ "Voice Memos" ก็ได้ สะดวกดี
  2. จะได้ผลดีก็ต่อเมื่ออยู่ในห้องเงียบๆ โดยโทรคุยแล้วเปิด speaker ให้เสียงออกมา
  3. ถ้าใช้แล็ปท็อปหรือแท็บเล็ต ต้องจ่อไมโครโฟนให้ใกล้มือถือที่สุด แต่ถ้าใช้ไมโครโฟนแบบเอามาเสียบต่อ ก็ต้องเอาไปจ่อที่ด้านล่างของ iPhone
  4. ขั้นตอนจะต่างกันไปตามอุปกรณ์ที่ใช้ แต่ส่วนใหญ่จะต้องเปิดโปรแกรมอัดเสียง แล้วเลือก "New Recording"
  5. ให้ทำก่อนโทรหาใคร จะได้อัดทันตั้งแต่เริ่มคุยกัน
  6. โดยแตะแอพ Phone ที่ไอคอนเป็นรูปโทรศัพท์สีขาวบนพื้นเขียว แตะตัวเลือก Keypad ทางด้านล่างของหน้าจอ พิมพ์เบอร์โทรของคนที่จะคุยด้วย แล้วแตะปุ่ม "Call" สีเขียว ทางด้านล่างของหน้าจอ
    • หรือเลือกคนใน contact ไม่ก็เบอร์ที่โทรหาล่าสุด จากใน Contacts หรือ Recents ทางด้านล่างของหน้าจอ
  7. ที่เป็นตัวเลือกมุมขวาบนของตัวเลือกโทรออก ใต้เบอร์ที่โทรอยู่ เพื่อเปิดลำโพงหรือ speaker ให้เสียงออกมาข้างนอก จนอัดเสียงได้ชัดเจน
    • พออีกฝ่ายรับสาย ก็อย่าลืมบอกด้วย ว่ากำลังอัดเสียงที่พูดคุยกัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าใช้เฮดโฟนตอนโทรออก เพราะจะอัดได้เฉพาะเสียงสนทนาฝั่งคุณ
โฆษณา

คำเตือน

  • การอัดเสียงสนทนาโดยไม่แจ้งอีกฝ่าย ถือเป็น "การดักฟัง" ระวังผิดกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยต้องแจ้งอีกฝ่ายก่อนว่าคุณกำลังจะอัดเสียงสนทนา แต่กฎหมายนี้ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ประเทศไหน และคู่สนทนาอยู่ประเทศไหน [2]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 459,474 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา