ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หากคุณเคยนึกอยากจะทาสีตกแต่งวัตถุที่เป็นโลหะเสียใหม่ หรือแค่อยากจะทาสีพื้นที่เป็นโลหะโดยทั่วไป เรื่องนี้ทำได้สบาย แถมง่ายอีกต่างหาก! ยิ่งไปกว่านั้น พื้นผิวโลหะของวัตถุที่จะนำมาตกแต่งใหม่นั้นไม่ได้ต้องการให้คุณต้องเก็บรักษาสีเดิมของมันเลย ซึ่งทำให้มันเปิดกว้างต่อความคิดสร้างสรรค์หลากแบบ ตราบเท่าที่คุณเตรียมพื้นผิวโลหะนั้นให้เหมาะสมก่อนจะลงสี คุณก็จะสามารถทำมันได้สำเร็จโดยง่าย
ขั้นตอน
-
ทำงานในที่ซึ่งอากาศถ่ายเท. การทำงานที่มีอนุภาคของสีและสนิมนั้นมีอันตราย ดังนั้นเลือกสถานที่ซึ่งอากาศถ่ายเทสะดวกโดยที่คุณสามารถปูผ้าใบใต้วัตุโลหะนั้นได้ สวมถุงมือกับหน้ากากกันฝุ่นระหว่างทำงานด้วย
- หาผ้าเปียกหมาดๆ มาวางใกล้มือเพื่อช่วยเช็ดอนุภาคสี ฝุ่นและสนิมออกไปอยู่เรื่อยๆ ขณะทำงาน นี่จะปลอดภัยสำหรับคุณมากกว่าจะไปเช็ดออกทีเดียวตอนจบงาน
- หากมีความเป็นไปได้ว่าสีที่คุณจะลอกออกอาจมีส่วนผสมของตะกั่ว จะต้องใช้หน้ากากกันฝุ่นแน่นอนเพื่อความปลอดภัย
-
ลอกสีเก่าออกจากพื้นผิว. ใช้แปรงขนลวดขัดลอกสีออกจากพื้นโลหะ จำไว้ว่าต้องใช้ผ้าเปียกเช็ดอนุภาคสีและฝุ่นในขณะทำงานเรื่อยๆ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง หรือคุณอาจเลือกใช้กระดาษทรายขัดสีก็ได้- ถ้าผสมทั้งสองอย่างด้วยกันจะดีที่สุด การขัดพื้นผิวขนาดใหญ่ใช้แปรงขนลวดจะไวกว่า แล้วค่อยใช้กระดาษทรายเก็บตามซอกตามมุม
- สว่านไฟฟ้าไร้สายที่ติดหัวแปรงขนลวดได้ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง และเป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณใช้ในพื้นผิวที่ใหญ่มาก จำไว้เสมอว่าต้องสวมที่ปิดหูเวลาใช้สว่านด้วย [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำความสะอาดพื้นผิวโลหะ. ใช้ผ้าเปียกเช็ดละอองเม็ดสีทั้งหมดและทิ้งผ้าผืนนั้น ขูดสะเก็ดสีที่ยังหลงเหลือ ใช้ผ้าสะอาดถูพื้นผิวโลหะให้ทั่ว กำจัดอนุภาคสี ฝุ่น คราบมัน และสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิว
- ถึงแม้พื้นผิวจะดูสะอาดดี ก็อย่าข้ามขั้นตอนนี้ คุณต้องให้พื้นผิวโลหะนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไร้มลทินหรือเอาให้ใกล้เคียงคำนี้ที่สุด
- ถ้าไม่ทำความสะอาดโลหะจนหมดจดมันจะส่งผลให้ทาสีใหม่ไม่เรียบ สีจะไม่เกาะตัวกับพื้นผิวและจะลอกออกง่ายๆ
- คราบมันบนพื้นผิวโลหะชุบสังกะสีซึ่งอาจจะมองเห็นด้วยตาเปล่าหรือไม่ก็ได้นั้นสามารถเป็นอุปสรรคต่อการทาสีถ้าไม่ได้กำจัดมันให้หมดไป ให้ใช้น้ำละลายผงซักฟอกเช็ดโลหะชับสังกะสีใหม่ก่อน [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ขัดโลหะจนกระทั่งมันเรียบเนียนเท่าที่จะทำได้. นี่จะเพิ่มความมั่นใจว่าสีที่ทาจะติดทนทาน หลังขัดแล้วให้ใช้ผ้าเปียกเช็ดโลหะเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเอาเศษใดๆ ที่ยังค้างคาออกเสียโฆษณา
-
รองพื้นด้วยสีกันสนิม (zinc-chromate primer) ก่อนถ้าโลหะนั้นขึ้นสนิม. คุณต้องทำเช่นนี้ก่อนที่จะลงรองพื้นปกติเฉพาะถ้ากำลังจะทาสีโลหะที่ขึ้นสนิม ถ้าไม่มีสนิมก็เริ่มด้วยรองพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมันแบบปกติดังที่อธิบายด้านล่าง ก่อนจะลงสีรองพื้นให้ขูดสนิมที่หลุดร่อนแล้วเช็ดออก พอเอาสนิมออกแล้วก็เคลือบโลหะด้วยสีรองพื้นกันสนิมก่อนใช้สีรองพื้นเต็มตัว
- คุณจำต้องรองพื้นโลหะด้วยสีรองพื้นเต็มตัวทันทีหลังลงสีกันสนิม ฉะนั้นอย่าเพิ่งทาจนกว่าคุณจะพร้อม
- สีกันสนิมเป็นสารที่ทนต่อการสึกกร่อน ให้ฉีดสเปรย์ก่อนเพราะต้องให้มันติดกับพื้นผิวของโลหะที่สุดจะได้ป้องกันมันจากสนิมได้ หลังจากลงรองพื้นกันสนิมนี้แล้วก็ต้องลงรองพื้น "เต็มตัว" ทันทีเพื่อให้สีกันสนิมยังคงเป็นชั้นที่หนึ่ง มันยังทำตัวเป็นตัวเกาะยึดให้กับรองพื้นเต็มตัวอีกด้วย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เลือกรองพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน. ให้แน่ใจว่ารองพื้นกับสีของคุณนั้นเข้ากัน คุณจะใช้สีอะคริลิค (ซึ่งใช้งานได้ดีที่สุดกับโลหะ) ดังนั้นจึงต้องเลือกรองพื้นที่ผสมน้ำมันซึ่งจะเข้ากันกับสีอะคริลิค มองหาผลิตภัณฑ์รองพื้นที่ทำมาเพื่อใช้กับโลหะโดยเฉพาะด้วย เพราะมันจะเกาะยึดกับพื้นผิวได้ดีเป็นพิเศษ
- สีรองพื้นส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบกระป๋องสเปรย์เพื่อให้ใช้สะดวก แต่ถ้าคุณอยากใช้แปรงทา สีรองพื้นโลหะก็มีแบบถังหรือกระป๋องสนองความต้องการนี้
- สีรองพื้นจะเตรียมสภาพพื้นผิวเพื่อให้สีติดทนทาน และมันยังช่วยทำให้สีหรือผิวสัมผัสที่คุณไม่สามารถกำจัดออกได้ดูเรียบเนียนกลืนกันไปอีกด้วย
-
ลงสีรองพื้นหนึ่งชั้น. ฉีดสีรองพื้นลงบนพื้นผิวให้สม่ำเสมอจนกระทั่งมันถูกลงจนถ้วนทั่ว ถ้าต้องทำกลางแจ้งก็อย่าทำในวันที่ลมแรง แนะนำให้คุณเขย่ากระป๋องสีรองพื้นสัก 2 นาทีก่อนเริ่มนำมาใช้ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลงสีรองพื้นชั้นที่สอง. เนื่องจากโลหะนั้นเสี่ยงต่อการขึ้นสนิมได้ง่าย การลงรองพื้นสองชั้นจึงเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่จะช่วยให้สีติดกับพื้นผิวแต่มันยังทำให้โลหะทนทานต่อกาลเวลาและสภาพแวดล้อมด้วย
- สนิมสามารถกำจัดออกได้ถ้าใช้รองพื้นอย่างถูกต้อง
-
ปล่อยให้สีรองพื้นได้แห้งสนิท. เวลากว่าจะแห้งนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ ดังนั้นตรวจดูข้อมูลบนกระป๋องที่ใช้ก่อน สีอะคริลิคจะทาได้สนิทและติดทนนานกว่าถ้าคุณทาลงบนรองพื้นที่แห้งสนิทแล้วโฆษณา
-
ทาสีอะคริลิคหนึ่งชั้นด้วยแปรงหรือหัวฉีดสีสเปรย์. จะใช้แบบสเปรย์ก็เป็นอีกทางเลือก แต่สีชนิดนี้ไม่ทนเท่าไหร่นักบนพื้นผิวโลหะ ทาสีบนพื้นผิวโลหะให้สม่ำเสมอกัน
- ถ้าคุณใช้แปรง อย่าจุ่มสีบนขนแปรงให้ชุ่มเกินไป เพราะจะเลอะและทำให้เกิดชั้นสีชั้นแรกที่หนาเกินไป
-
ปล่อยให้สีที่ทาชั้นแรกแห้งสนิท. ตรวจดูเวลากว่าสีจะแห้งบนกระป๋อง ถ้าคุณไม่ทิ้งสีชั้นแรกไว้จนแห้งสนิทแล้วละก็ สีขั้นสุดท้ายจะไม่ติดทนนาน โชคดีที่สีอะคริลิคส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่นานก็แห้งแล้ว คุณจึงสามารถจบงานภายในวันเดียวถ้าคำนวณเวลาได้เหมาะสม
-
ทาสีอะคริลิคชั้นที่สองลงบนพื้นผิว. ให้แน่ใจว่าได้ทาสีสม่ำเสมอกัน สีชั้นที่สองจะเพิ่มความมั่นใจว่าตอนจบงานมันจะออกมาสวยสมบูรณ์ มันยังช่วยเพิ่มการป้องกันอีกชั้นและติดทนบนพื้นผิวโลหะนานขึ้น
- การจะลงสีชั้นแรกสีหนึ่ง ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทแล้วลงสีชั้นที่สองอีกสีนั้นทำได้ วิธีนี้เหมาะกับการจะระบายโลโก้หรือเขียนตัวหนังสือลงบนวัตถุชิ้นนั้น
- สีอะคริลิคนั้นไม่ละลายน้ำ ซึ่งหมายถึงการลงสีหลายชั้นสามารถทำให้เกิดผลแตกต่างกันไปได้
- เวลาลงสีหลายๆ ชั้น คุณจะต้องให้สีของแต่ละชั้นแห้งสนิทเสียก่อนถึงจะลงสีชั้นใหม่ได้
-
ปล่อยให้สีชั้นสุดท้ายแห้งสัก 36-48 ชั่วโมงก่อนจะใช้งานวัตถุชิ้นนั้น. ถ้าเป็นไปได้ให้ทาสีในบริเวณที่คุณสามารถปล่อยมันไว้ทันทีที่เสร็จงานโดยไม่ต้องขยับหรือเก็บ นี่จะช่วยป้องกันความเสียหายอย่างไม่ตั้งใจกับสีชั้นสุดท้ายโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
