ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าคุณจะพยายามเรียกร้องความสนใจจากใครสักคนในฝูงชน ต้องการเรียกรถแท็กซี่ หรือโชว์ของในงานปาร์ตี้ การเรียนผิวปากเป็นเสียงนกหวีดให้ดังได้ถือเป็นทักษะที่น่ารู้ไว้ ก่อนที่จะเรียนการผิวปาก จำเป็นที่ตัดสินใจก่อนว่าจะผิวปากแบบใช้นิ้วหรือไม่ใช้ เพราะเทคนิคนั้นแตกต่างกันมาก พอตัดสินใจได้แล้ว ทั้งหมดที่คุณต้องทำคือเรียนเทคนิคที่ถูกต้องและฝึกฝนทุกวัน!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ผิวปากเสียงดังด้วยนิ้ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากทั้งบนและล่างให้เปียกชื้น ทาลิปมันหรือมอยเจอไรเซอร์เพื่อที่ริมฝีปากจะไม่แตกระหว่างหัดผิวปากดังๆ ความชื้นยังจำเป็นสำหรับเสียงผิวปาก ดังนั้นต้องรักษาริมฝีปากให้เปียกเสมอในระหว่างฝึกผิวปาก [1]
    • ดื่มน้ำสักแก้วก็ช่วยให้ริมฝีปากชื้นได้
  2. จีบนิ้วชี้กับนิ้วโป้งเข้าหากันเป็นรูปสัญลักษณ์ "โอเค". เอานิ้วชี้มาจีบกับนิ้วโป้ง ส่วนนิ้วที่เหลือก็ปล่อยสบายๆ ไม่เกร็ง แตะปลายนิ้วชี้จรดนิ้วโป้งให้กลายเป็นวงกลม [2]
    • นิ้วที่เหลือทั้งสามจะอยู่ยังไงก็ได้ ขอเพียงแต่ไม่มารบกวนก็พอ
    • หากคุณไม่ชอบการจีบนิ้วเป็นรูปสัญลักษณ์ “โอเค” ทดลอง ผิวปากด้วยนิ้ว ดู
  3. วางปลายนิ้วไว้ตรงปลายลิ้นแล้วกดนิ้วให้ม้วนลิ้นกลับ ห่อปลายลิ้นราว ¼ กลับไป อย่ากดแน่นเกินไป และพยายามให้ปลายนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ติดกันตลอด [3]
    • คุณควรใช้นิ้วกดเบาๆ พอที่จะทำให้ปลายลิ้นห่อกลับไปเล็กน้อย แต่ไม่ห่อกลับไปจนหมด
    • ให้แน่ใจว่าได้ล้างมือก่อนจะเอานิ้วใส่ปาก
  4. หุบริมฝีปากลงเหนือข้อต่อแรกของนิ้วชี้และนิ้วโป้ง ไม่เหลือช่องให้อากาศหนีออกมาทางข้างริมฝีปากได้ เหลือเพียงช่องเล็กๆ ระหว่างริมฝีปากล่างกับด้านในของวงนิ้ว นี่จะเป็นจุดที่ลมที่เป่าผ่านออกมา ทำให้เกิดเสียงผิวปากเหมือนเสียงนกหวีด [4]
    • ให้แน่ใจว่าบริเวณอื่นๆ รอบนิ้วทั้งหมดปิดแน่นไม่ให้อากาศออก หากอากาศมีช่องหนีออกมาจากตำแหน่งใดๆ หน้าริมฝีปาก คุณจะผิวปากได้ไม่ดัง
    • ทำให้ริมฝีปากเปียกอีกครั้งหากทำไปแล้วมันเริ่มแห้ง
  5. สูดหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูกและหายใจออกผ่านทางช่องว่างที่สร้างขึ้นมาระหว่างนิ้วกับริมฝีปากล่าง เป่าลมหายใจต่อเนื่องผ่านช่องนี้จนกระทั่งคุณได้ยินเสียงผิวปาก หลังฝึกไปเรื่อยๆ เสียงที่ได้ยินผ่านทางช่องนิ้วนี้จะดังและชัดเจน [5]
    • อย่าท้อหากทำครั้งแรกๆ แล้วล้มเหลว สำหรับคนหลายคน มันต้องใช้เวลาและการฝึกฝนกว่าจะผิวปากได้คล่อง
    • ให้แน่ใจว่าลมที่เป่าออกมานั้นมีการควบคุมและตีวงให้แคบเพื่อที่ลมจะถูกเป่าออกมาถูกช่อง
  6. ตั้งใจฟังเสียงที่คุณเป่าออกมาแล้วปรับตามที่คุณได้ยิน เสียงที่ออกมาฟี้ดๆ มีแต่ลมแสดงว่าคุณไม่ได้เป่าผ่านช่องที่ทำจากนิ้วมือและคุณควรบังคับลมให้ออกไปทางรูนั้น หรืออไม่ก็ปิดปากรอบนิ้วให้สนิท [6]
    • เสียงผิวปากที่เบาหมายความว่าคุณออกแรงเป่าน้อยไป แต่ลมนั้นถูกเป่าออกมาถูกช่องแล้ว
    • คุณสามารถฝึกและปรับปรุงระหว่างที่เดินหรือฟังเพลงอยู่ก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ฝึกผิวปากโดยไม่ใช้นิ้ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ยื่นริมฝีปากออกมาแบบกำลังจะจูบ ทำให้เกิดช่องว่างทรงกลมระหว่างริมฝีปาก ทำโดยที่ไม่รู้สึกว่าต้องเกร็ง ทำริมฝีปากให้เปียกก่อนยื่นริมฝีปากด้วย เพราะความชื้นทำให้ผิวปากได้เสียงดังกว่า [7]
    • วงกลมนี้จะเป็นช่องที่ลมถูกเป่าออกมา ทำให้เกิดเสียงเป่าปาก
  2. ห่อลิ้นกลับให้มัน "ลอย" ภายในปากก่อนจะถึงฟันหน้าแถวล่าง แตะลิ้นหลังฟันล่างเบาๆ ไม่ต้องเกร็งลิ้น ลิ้นจะช่วยให้เกิดเสียงผิวปากที่หวีดดัง โดยนำลมผ่านเข้ามาทางช่องว่างระหว่างริมฝีปาก [8]
    • ฟันกรามบนจะแตะกับลิ้นด้วยเช่นกัน
  3. สูดหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูกแล้วหายใจออกอย่างสม่ำเสมอ โดยบังคับลมให้ผ่านช่องว่างระหว่างริมฝีปาก ทดลองเป่าด้วยระดับความแรงต่างกันในระดับคงที่เพื่อหาเสียงผิวปากที่ตรงกับความต้องการของคุณ เมื่อทำได้อย่างถูกต้องแล้ว เสียงผิวปากจะดังชัดเจน [9]
    • เริ่มด้วยการเป่าลมเบาๆ จนกระทั่งคุณสามารถได้ยินเสียงผิวปากต่ำๆ คุณจะทราบได้ว่าทำมาถูกทางแล้ว
  4. สำหรับนักผิวปากมือใหม่ส่วนใหญ่แล้ว มันมีการฝึกอยู่สี่ขั้นตอนสำคัญอยู่ในการฝึกผิวปากให้มีเสียงดัง ทำการปรับระหว่างแต่ละขั้นถ้าคุณประสบปัญหาในการก้าวต่อไป [10]
    • ในตอนเริ่มคุณจะได้ยินเสียงลมพ่นผ่านริมฝีปากโดยไม่ได้ยินเสียงผิวปากเลย สิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในระหว่างขั้นตอนนี้คือการย้อนกลับไปทวนขั้นตอนการผิวปากให้ดังแล้วทำการปรับเปลี่ยนเทคนิคการผิวปากของคุณ
    • หลังจากนั้นคุณจะได้ยินเสียงที่เหมือนกับเครื่องยนต์เจ็ต คุณอาจได้ยินเสียงที่ใกล้เคียงเสียงผิวปากโดยมีแรงสั่นสะเทือนอยู่ในริมฝีปาก จากตรงนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องของการปรับตำแหน่งนิ้วใหม่จนกระทั่งคุณได้ยินเสียงที่ชัดเจนขึ้น
    • ไม่ช้าคุณจะได้ยินเสียงผิวปาก แต่เสียงนั้นยังคงนุ่มแผ่วเบา ทั้งนี้เนื่องจากมีลมเล็ดลอดออกจากภายนอกช่องระหว่างนิ้ว ดังนั้นคุณจำต้องปิดช่องที่เกิดจากลิ้นกับริมฝีปากให้สนิท
    • สุดท้ายคุณจะพบว่าทำเสียงผิวปากได้ดังชัดเจน ถ้าคุณทำได้ถึงจุดนี้ คุณก็รู้วิธีการผิวปากแล้ว!
  5. พอคุณได้เทคนิคและสามารถผิวปากได้แล้ว ฝึกผิวปากดังๆ โดยการหายใจออกหนักขึ้นและเป่าลมมากขึ้น เรียนรู้การเป่าลมออกมามากขึ้นในขณะที่ยังคงรักษาเทคนิคที่ถูกต้องและแยกลมออกมาเพื่อมันจะได้เสียงที่ดังคมชัด [11]
    • เทคนิคที่ถูกต้องกับการเป่าแรงขึ้นจะทำให้เกิดเสียงผิวปากที่ดังหนักแน่นอย่างที่คุณต้องการ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 73,298 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา