ท้องเสียไม่ใช่แค่อาการเจ็บป่วย แต่ยังเป็นอาการของปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น การติดเชื้อหรือเพราะไวรัส รวมทั้งเป็นปฏิกิริยาจากการแพ้อาหารหรือการรักษา โดยเกิดจากเชื้อโปรโตซัวประมาณ 10 – 15 % จากไวรัสประมาณ 50 – 70% หรือจากแบคทีเรีย 15 – 20 % ที่อยู่ในอาหารหรือน้ำ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.). โดยส่วนใหญ่แล้วจะหายภายใน 2 – 3 วัน แต่การท้องเสียอาจจะก่อให้เกิดปัญหาหนักๆ อย่างการท้องเสียเฉียบพลันจนต้องเข้าโรงพยาบาลกันถึงปีละ 150,000 คน [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.). และที่กล่าวมานี้เป็นสาเหตุการตายที่มากสุดทั่วโลก 5 อย่าง ถือเป็น 11 % ของประชากรเลยทีเดียว [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.). ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ มันก็เป็นการล้างสารพิษออกจากร่างกายได้ด้วยนะ โดยต้องปล่อยให้มันออกมาให้หมดก่อน แล้วรักษาให้ดีขึ้น แต่อาจเป็นการทำให้ขาดน้ำและสารน้ำและเกลือแร่ในร่างกายไม่คงตัวได้
ขั้นตอน
-
ดื่มน้ำและของเหลวเพื่อฟื้นฟูวิตามินและเกลือแร่. เมื่อท้องเสียร่างกายจะเอาของเหลวที่มีทั้งวิตามินและเกลือแร่ออกไปหมด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเอาเกลือแร่พวกนั้นกลับมาในรูปของเหลวโดยเฉพาะน้ำและเครื่องดื่มสำหรับเล่นกีฬาต่างๆ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
- การสู้กับอาการขาดน้ำเป็นการรักษาอาการท้องเสียเบื้องต้น ยิ่งถ้ามีอาการอาเจียนด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งต้องดื่มบ่อยๆ เลย จิบน้อยๆ แต่บ่อยๆ
- ของเหลวอื่นๆ ที่สามารถดื่มได้เพื่อบรรเทาอาการขาดน้ำคือซุปไก่และซุปเนื้อ เกลือแร่หรือตัวช่วยการขาดน้ำ อย่างพีเดียไลท์ [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ FamilyDoctor.org ไปที่แหล่งข้อมูล
- ดื่มอะไรที่ปราศจากคาเฟอีนจะดีกว่าเพราะมันเป็นตัวขับปัสสาวะอ่อนๆ อาจทำให้เกิดอาการขาดน้ำได้ [6] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล เพราะฉะนั้นถ้าท้องเสียก็อย่าดื่มอะไรที่อาจจะทำให้ขาดน้ำได้หรือเป็นหนักขึ้นล่ะ
-
นอนเพิ่ม. ไม่มีการรักษาใดจะดีเท่ากับการนอนหลับอีกแล้ว เพราะอาการท้องเสียเป็นตัวที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังสู้กับตัวปัญหาอย่างไวรัส ดังนั้นการนอนหลับและพักผ่อนให้เพียงพอนี่แหละจะเป็นการรักษาระบบภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด
-
เปลี่ยนไปกิน BRAT diet. ถ้าไม่มีอาการอาเจียนแล้วหรือไม่ได้อาเจียน ก็เริ่มกินของที่มีประโยชน์อย่างกล้วย ข้าว ซอสแอปเปิ้ลและขนมปังปิ้งได้ เพราะมันเป็นอาหารใยอาหารต่ำที่จะช่วยให้ระบบขับถ่ายกลับมาแข็งแรง [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ FamilyDoctor.org ไปที่แหล่งข้อมูล ถึงมันจะจืดแต่ไม่ทำร้ายกระเพาะแน่ๆ
- กล้วยจะช่วยเพิ่มโพแทสเซียมที่หายไปจากการท้องเสีย [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ FamilyDoctor.org ไปที่แหล่งข้อมูล
-
กินอย่างอื่นเพิ่มด้วย. การกิน BRAT ไม่ได้ดีไปซะหมดหรอก [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.). อย่างแครกเกอร์เค็มๆ มันฝรั่งต้ม ซุปใส ไก่อบแบบลอกหนังออก แครอทสุก หรืออาหารจืดๆ อื่นๆ ที่จะช่วยเมื่อมีอาการท้องไส้ปั่นป่วน [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ FamilyDoctor.org ไปที่แหล่งข้อมูล [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล
- บางคนอาจจะลองกินโยเกิร์ต แต่แลคโตสอาจจะทำให้กระเพาะทำงานหนักได้ ถ้าจะกินก็เลือกโพรไบโอติกที่หลากหลายที่มีแบคทีเรียที่มีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะเอาแบคทีเรียที่ดีกลับมาสู่กระเพาะและช่วยในการฟื้นตัว [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล
-
หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้อาการแย่ลง. การรู้ว่าอะไรกินได้กินไม่ได้สำคัญมาก โดยปกติแล้วก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารมันๆ เผ็ดๆ หรือหวาน รวมทั้งที่มีใยอาหารสูง [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล นอกจากนี้นมและผลิตภัณฑ์จากนมอื่นๆอาจจะทำให้ระบบย่อยอาหารแปรปรวนได้ [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล และยังควรหลีกเลี่ยงของเหล่านี้ด้วย :
- หมากฝรั่งที่มีซอร์บิทอลซึ่งเป็นยาระบาย
- อาหารเผ็ด ผลไม้และแอลกอฮอล์ อย่างน้อยก็จนกว่าจะผ่านไปซัก 2 วันแล้ว [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อาหารที่มีคาเฟอีนอย่าง ช็อคโกแลตเพราะคาเฟอีนเป็นตัวทำให้เกิดอาการขาดน้ำได้ [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
กินสังกะสีเพิ่ม. จากการวิจัยพบว่ามันช่วยรักษาการท้องเสีย [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Walker CL, Black RE. Zinc for the treatment of diarrhoea: Effect on diarrhoea morbidity, mortality and incidence of future episodes. Int J Epidemiol. 2010;39(Suppl 1):i63–i69. เพราะมันเป็นสารอาหารที่มาจากการสังเคราะห์ของโปรตีนและขนส่งทั้งน้ำและสารที่รักษาน้ำและเกลือแร่ในร่างกายที่อยู่ในลำไส้ [18] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ World Health Organization ไปที่แหล่งข้อมูล
- องค์การอนามัยโลกแนะนำให้กินสังกะสีประมาณวันละ 10 มิลลิกรัมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน และ 20 มิลลิกรัมสำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 6 เดือน [19] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ World Health Organization ไปที่แหล่งข้อมูล ส่วนผู้ใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับคำแนะนำของผู้ผลิตยานั้น
-
กลับไปกินแบบปกติ. โดยคร่าวๆ 1 – 2 วันหลังจากมีอาการข้างเคียงก็สามารถกลับไปกินอาหารได้ตามปกติ [20] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ FamilyDoctor.org ไปที่แหล่งข้อมูล ค่อยๆ กินเพื่อผลที่ดี
- ใช้วิจารณญาณด้วย โดยกินปลาหรือไก่รสชาติอ่อนๆ ดีกว่าหมูปรุงรสจัดๆ จานนั้นนะ
โฆษณา
-
ซื้อยาแก้ท้องเสียกินเอง. ยาที่เป็นสารดูดซึมเหล่านี้จะเข้าไปบีบผนังลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่แล้วดูดซับน้ำ จึงทำให้ถ่ายเหลวน้อยลง [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง โดยกินตามที่แนะนำ
- ถ้าจะใช้ห้ามกินยาอื่นร่วมด้วย เพราะมันจะทำให้ยาเสื่อมสภาพลง ดังนั้นควรกินแยกกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
-
ซื้อยาที่มีสารประกอบบิสมัทกินเอง. จากผลิตภัณฑ์ทั่วไปอย่าง Pepto-Bismol ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติของสารแอนตี้ไบโอติกที่ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการท้องเสีย [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ไม่มีการพิสูจน์ที่แน่ชัดว่ามันช่วยรักษาอาการท้องเสียได้อย่างแท้จริง แต่มันแค่ช่วยบรรเทาอาการปวดและต้านเชื้อ H. pylori ได้เท่านั้นเอง
-
กินยาหยุดถ่าย. ทำให้ทั้งลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่เคลื่อนไหวช้าลง ให้ผ่อนคลายลงเพื่อจะได้ดูดซึมน้ำได้มากขึ้น สังเกตได้จากการถ่ายเหลวที่น้อยลง และที่ใช้กันโดยทั่วไปคือ loperamide และ diphenoxylate รวมทั้งยา loperamide ที่กินได้เลยโดยไม่ต้องมีใบสั่ง เช่น ยา Imodium A-D [23] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล [24] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- แต่หากมีการท้องเสียเรื้อรัง เช่น จากเชื้อโรคอี.โคไลไม่ควรกินยานี้ [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
-
พบแพทย์เพื่อหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย. ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 3 วันทั้งๆ ที่กินทั้งยาและกินอาหารจืดๆ และดื่มน้ำเยอะๆ แล้ว อาจจะต้องกินยาปฏิชีวนะเพื่อยับยั้งแบคทีเรียและพยาธิต่างๆ แต่จะไม่ช่วยเรื่องไวรัส [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เมื่อยาที่ซื้อมาเองไม่มีผลก็จำเป็นต้องพบแพทย์ เพราะอาการท้องเสียจากเชื้อแบคทีเรียหรือพยาธิอาจจะแย่ลงเพราะยาพวกนี้ [27] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะแบบเฉพาะกับอาการให้ หลังจากรู้ว่าแบคทีเรียตัวไหนเป็นตัวต้นเหตุ
โฆษณา
-
พบแพทย์. การจะรักษาด้วยสมุนไพรอาจจะทำให้แย่ลงแทนที่จะดีขึ้นได้ เพราะอาการท้องเสียเกิดจากการติดเชื้อหลายแบบ [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ดังนั้นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะหันไปรักษาด้วยสมุนไพร
-
กินโปรไบโอติก. จุลินทรีย์ที่มีชีวิตในโปรไบโอติกจะช่วยเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ซึ่งมักจะสูญเสียไปตอนที่ท้องเสีย โดยการเอาแบคทีเรียดีเข้าไปสู่ร่างกายนี้จะทำให้ระบบย่อยอาหารกลับมาทำงานปกติได้อย่างรวดเร็ว [29] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- โปรไบโอติกจะอยู่ในอาหารเสริมและจะพบในโยเกิร์ต
-
ดื่มชาคาโมมายล์. ตามหลักแล้วมันใช้เพื่อการรักษาอาการอักเสบ แต่ก็รวมไปถึงระบบย่อยอาหารได้ด้วย โดยควรดื่มให้ได้วันละ 3 แก้ว และต้องค่อยๆ จิบเพื่อให้ร่างกายซึมซับของเหลวเข้าไป [30] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อาจทำให้เกิดปฏิกิริยากับคนที่แพ้หญ้า ragweed และยังตีกับยาบางชนิดรวมทั้งยาเกี่ยวกับฮอร์โมนด้วย [31] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองอาหารเสริมจากรากมาร์ชแมลโลว์. ปกติแล้วจะใช้เป็นสมุนไพรเพื่อลดอาการบวม ทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตยาได้เลย [34] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมผงดอกเอ็ลม์. ซึ่งปกติใช้บรรเทาอาการอักเสบของระบบย่อยอาหาร [37] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ดื่มตามที่แนะนำ
- แช่ผงนี้ซัก 4 กรัมลงในน้ำเดือด 2 ถ้วย แล้วปล่อยให้มันอิ่มตัวซัก 3 – 5 นาที สามารถดื่มได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อวัน เมื่อมีการท้องเสีย [38] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นักสมุนไพรวิทยาบางท่านเชื่อว่ามันทำให้แท้งลูกได้ [39] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ดังนั้นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนหากท้องหรือกำลังให้นมบุตรอยู่ [40] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองดื่มน้ำส้มสายชูหมัก. เชื่อว่ามันมีคุณสมบัติในการต่อต้านจุลชีพ [41] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง และถ้าจะใช้แก้อาการท้องเสีย ให้ใช้ 2 ช้อนชา แล้วคนให้เข้ากันในน้ำอุ่น ดื่มได้วันละหลายครั้งเลย [42] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้ากินร่วมกับโปรไบโอติกอื่นๆ ต้องเว้นระยะระหว่างกันหลายๆ ชั่วโมง เช่น โยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียดีและเป็นประโยชน์กับอาการท้องเสีย ต้องรอซัก 1 หรือ 2 ชั่วโมงหลังจากดื่มน้ำส้มสายชูไปแล้วถึงจะกินได้
-
ลองใช้สมุนไพรสมานแผล. ทำให้เนื้อเยื่อบุเมือกบริเวณลำไส้เล็กแห้งลงได้ และยังช่วยลดการถ่ายลงด้วย [43] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง และนี่ก็เป็นตัวเลือกส่วนใหญ่ของอาหารเสริมหรือชาเหล่านั้น: [44] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใบแบล็คเบอร์รี
- ใบราสพ์เบอร์รี
- ผงคารอบ
- สารสกัดจากบิลเบอรืรี
- หญ้า Agrimony
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าอาการแย่ลงให้พบแพทย์
- ถ้ามีไข้เกิน 38.5 องศาในเด็ก หรือ 38.9 องศาในผู้ใหญ่ให้รีบไปหาหมอ
- อย่าขาดน้ำ
- ยังไม่ต้องไปทำงาน หรือไปโรงเรียน พักอยู่บ้านจนอาการดีขึ้นก่อนและหัดล้างมือบ่อยๆ ด้วย
คำเตือน
- พาลูกน้อยไปพบแพทย์ถ้ามีอาการท้องเสียมากกว่า 1 วัน และขาดน้ำ
- รีบไปพบแพทย์ถ้ามีเลือดออกมากับการท้องเสียด้วย ร่างกายขาดน้ำ กินยาปฏิชีวนะครบแล้ว หรือมีอาการมามากกว่า 3 วันแล้ว
- สัญญาณที่บ่งบอกถึงการขาดน้ำคือ การรู้สึกเหนื่อย กระหายน้ำ ปากแห้ง เป็นตะคริว มึนงง สับสน และปัสสาวะน้อยลง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
- ↑ Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
- ↑ Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
- ↑ Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
- ↑ http://familydoctor.org/familydoctor/en/prevention-wellness/food-nutrition/weight-loss/brat-diet-recovering-from-an-upset-stomach.html
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/expert-answers/caffeinated-drinks/faq-20057965
- ↑ http://familydoctor.org/familydoctor/en/prevention-wellness/food-nutrition/weight-loss/brat-diet-recovering-from-an-upset-stomach.html
- ↑ http://familydoctor.org/familydoctor/en/prevention-wellness/food-nutrition/weight-loss/brat-diet-recovering-from-an-upset-stomach.html
- ↑ Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
- ↑ http://familydoctor.org/familydoctor/en/prevention-wellness/food-nutrition/weight-loss/brat-diet-recovering-from-an-upset-stomach.html
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/facts.aspx#eating
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/facts.aspx#eating
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/facts.aspx#eating
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/facts.aspx#eating
- ↑ http://www.webmd.com/digestive-disorders/understanding-diarrhea-treatment
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/expert-answers/caffeinated-drinks/faq-20057965
- ↑ Walker CL, Black RE. Zinc for the treatment of diarrhoea: Effect on diarrhoea morbidity, mortality and incidence of future episodes. Int J Epidemiol. 2010;39(Suppl 1):i63–i69.
- ↑ http://www.who.int/elena/titles/bbc/zinc_diarrhoea/en/
- ↑ http://www.who.int/elena/titles/bbc/zinc_diarrhoea/en/
- ↑ http://familydoctor.org/familydoctor/en/prevention-wellness/food-nutrition/weight-loss/brat-diet-recovering-from-an-upset-stomach.html
- ↑ http://www.medicinenet.com/diarrhea/page13.htm
- ↑ http://www.medicinenet.com/diarrhea/page13.htm
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diarrhea/basics/lifestyle-home-remedies/con-20014025
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1601396/
- ↑ Domino, F. (n.d.). The 5-minute clinical consult standard 2015 (23rd ed.).
- ↑ http://www.mayoclinic.com/health/diarrhea/DS00292/DSECTION=treatments-and-drugs
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diarrhea/basics/lifestyle-home-remedies/con-20014025
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diarrhea/basics/lifestyle-home-remedies/con-20014025
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/herb/slippery-elm
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/herb/slippery-elm
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/herb/slippery-elm
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/food-poisoning
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/food-poisoning
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ https://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea