ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การจะรู้ว่าใครบางคนกำลังหลบหน้าคุณอยู่หรือเปล่าเป็นเรื่องที่บอกได้ยาก เป็นไปได้ว่าคุณสองคนอาจจะบังเอิญไม่ได้เจอกันจริงๆ แต่มันก็พอจะมีสัญญาณที่บ่งบอกได้ เช่น คุณอาจจะเจอเขา/เธออยู่บ้าง แต่เขา/เธอก็ไม่แม้แต่จะมองคุณเลย หรือคุณอาจจะส่งข้อความหาเขา/เธอใน Facebook ตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่เขา/เธอก็ไม่ตอบมาเลย ลองจินตนาการว่าตัวเองเป็นเขา และพยายามเข้าใจว่าทำไมเขาหรือเธอถึงได้หลบหน้าคุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สังเกตพฤติกรรมหลบหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คอยสังเกตเวลาที่อีกฝ่ายเลิกติดต่อคุณไปเลยหรือแม้แต่การติดต่อนานๆ ครั้ง เขาอาจจะไม่คุยกับคุณต่อหน้า อาจจะแค่ติดต่อทางอีเมล ข้อความ และโซเชียลมีเดีย ถ้าคุณคิดว่าคุณกับเขาเป็นเพื่อนกันหรือแอบมีใจให้กัน แต่จู่ๆ เขาหรือเธอก็เลิกคุยกับคุณไปเลย ก็อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขา/เธอกำลังหลบหน้าคุณ [1]
    • ลองคิดดูว่าเพื่อนอาจจะแค่ยุ่งมากและอยากเจอคุณจริงๆ ก็ได้ เขาอาจจะส่งข้อความมาว่า "ขอโทษนะที่ไม่ได้โทรกลับ...ตอนนี้ฉันเรียนหนักมากเลย ไว้อาทิตย์หน้าที่ฉันมีเวลามากกว่านี้เรานัดเจอกันนะ" แต่ถ้าคุณยังคงได้รับข้อความลักษณะนี้สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า หรือไม่มีข้อความตอบกลับมาเลย คุณก็อาจจะเดาได้ว่าเขาพยายามหลบหน้าคุณ
  2. รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาหาข้อแก้ตัวที่จะไม่ใช่เวลาร่วมกับคุณ. เขาอาจจะเอาแต่โทษตารางงานที่ยุ่งมาก ชีวิตการพบปะผู้คนที่แสนวุ่นวาย หรืออาจจะมีอะไร "โผล่มา" อยู่เสมอ ถ้าเขาหาเหตุผลที่จะไม่ไปตามนัดได้เรื่อยๆ ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะหลบหน้าคุณอยู่
    • อย่าใจร้ายกับเขาเกินไปนัก เพราะอะไรๆ มันก็ "โผล่มา" ได้และเขาอาจจะรู้สึกหัวหมุนกับตารางเวลาที่แน่นเอี้ยดจริงๆ การแก้ตัวบ่งบอกว่าเขาหลบหน้าคุณจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความเขาจะไม่อยากใช้เวลาร่วมกับคุณเสมอไป
  3. ถ้าคุณเจอเขาแบบต่อหน้า พยายามมองเข้าไปในดวงตาของเขา/เธอ ถ้าเขา/เธอพยายามหลบหน้าคุณจริง เป็นไปได้ว่าเขา/เธออาจจะไม่ยอมสบตาคุณ หรือถ้าสบตาก็อาจจะแค่แวบเดียวหรือไม่ก็กลอกตา [2]
  4. ส่งข้อความไปหาเขา 2-3 ข้อความแล้วคอยดูการตอบกลับ. ถ้าคุณแค่ส่งข้อความไปว่า "ไง เป็นไงบ้าง" แต่ผ่านไป 2-3 วันแล้วเขาก็ไม่ตอบ ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะไม่อยากคุยกับคุณ ถ้าเขาไม่ตอบกลับมา ลองส่งไปอีกครั้ง แต่ไม่ต้องว่าอะไรเขา แค่พยายามชวนคุยปกติ ถ้าเขาไม่ตอบข้อความที่สอง ก็ไม่ต้องเซ้าซี้เขาอีก เคารพเหตุผลที่เขาอยากหลบหน้าคุณ และอย่าทำให้เขายิ่งมีเหตุผลให้ต้องหลบหน้าคุณมากกว่าเดิม [3]
    • บริการส่งข้อความบางแห่งจะมีข้อความบอกเวลาที่ผู้รับอ่านข้อความแล้ว ใช้สิ่งนี้ประเมินว่าเขาเมินคุณหรือเปล่า ถ้าเขา/เธออ่านข้อความของคุณทั้งหมดแต่ไม่ตอบเลย อย่างน้อยก็แสดงว่าเขา/เธอไม่อยากคุยกันผ่านข้อความ แต่ถ้าข้อความของคุณไม่ขึ้นว่า "อ่านแล้ว" หรือ "เห็นแล้ว" คุณก็รู้ได้ว่าเขา/เธอออนไลน์อยู่หรือเปล่าจาก "แชต" บาร์หรือช่วงเวลาที่เขา/เธอโพสต์ข้อความอื่นๆ
    • ใช้นิสัยการใช้เทคโนโลยีของเขาที่คุณรู้เป็นเกณฑ์ ถ้าคุณรู้ว่าเพื่อนไม่ได้เข้า Facebook บ่อยๆ ก็อาจเป็นเรื่องปกติที่เขา/เธอจะไม่เห็นข้อความของคุณ แต่ถ้าเขา/เธอเข้า Facebook อยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ตอบข้อความคุณ เขา/เธอก็น่าจะหลบหน้าคุณอยู่
  5. ถ้าคุณสามารถหาทางเริ่มคุยกับเขาได้ในที่สุด ให้สังเกตว่าเขาตอบคำถามห้วนๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบๆ หรือเปล่า เขาอาจจะแค่พยายามเบี่ยงเบนคำถามของคุณเพื่อปลีกตัวออกไปก็ได้ [4]
    • เช่น คุณพูดว่า "ไง ไม่ได้คุยกันนานเลยนะ เป็นไงบ้าง" แล้วเธอตอบกลับมาว่า "ก็ดี" แล้วเดินหนีไปเลย แสดงว่าเพื่อนกำลังหลบหน้าคุณ
  6. สังเกตว่าคนที่คุณสงสัยว่ากำลังหลบหน้าคุณอยู่ปฏิบัติกับคุณอย่างไรเมื่ออยู่กันเป็นกลุ่ม. ถ้าเพื่อนหาเรื่องคุยกับทุกคนยกเว้นคุณ เขาก็อาจจะกำลังหลบหน้าคุณอยู่ การหลบหน้าไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อยากใช้เวลาร่วมกับคุณเสมอไป แต่มันอาจจะเป็นแค่การไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของคุณก็ได้ พยายามพูดอะไรกับเพื่อนโดยตรงแล้วดูว่าเขาตอบกลับมาอย่างไร ถ้าเพื่อนตอบสั้นๆ ห้วนๆ แล้วเบือนหน้าหนีหรือไม่ตอบเลย เป็นไปได้มากว่าเพื่อนกำลังหลบหน้าคุณ [5]
    • ลองเปรียบเทียบการกระทำของเขากับเวลาที่อยู่กันสองต่อสอง เขา/เธออาจจะ "หลบหน้า" คุณเฉพาะเวลาที่อยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม หรืออาจจะรีบปลีกตัวออกไปเลยทันทีที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน พยายามหาคำตอบให้ได้ว่าเขาเป็นอย่างนี้เฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น หรือเวลาอยู่กันแค่สองคน
    • สังเกตว่าเขาออกจากห้องทันทีที่คุณเข้าไปหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้ตลอด ก็เป็นไปได้ว่าเขา/เธอไม่อยากใช้เวลาร่วมกับคุณ
  7. ถ้าเขาไม่ได้ขอข้อมูลจากคุณในที่ประชุมหรือการพูดคุยกันทั่วไป ก็อาจเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเขา/เธอพยายามเมินคุณ เธออาจจะไม่ถามว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับการตัดสินใจ หรือเธออาจจะไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเมื่อคุณแสดงมุมมองของคุณ
  8. ทบทวนดูว่าคุณเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของเขา/เธอหรือเปล่า บางคนอาจจะหลบหน้าคุณถ้าเขา/เธอไม่ได้จัดสรรเวลาให้คุณ ไม่แน่ว่าคนๆ นี้อาจจะไม่สบายใจกับการผูกมัดและอยากให้คุณพอใจกับการ "ไหลไปตามน้ำ" สังเกตสัญญาณต่อไปนี้ที่อาจบอกว่า คุณไม่ใช่สิ่งสำคัญในชีวิตของเขา :
    • ความสัมพันธ์ไม่ได้ก้าวไปไหน มีเรื่องดรามาเข้ามาถี่ๆ ไม่พัฒนา หรือยิ่งถอยหลังลงคลองด้วยซ้ำ
    • คนๆ นี้อาจจะอยู่กับคุณเฉพาะเวลาที่เขา/เธอต้องการอะไรบางอย่างจากคุณ อาจจะเป็นเงิน ความสนใจ เซ็กส์ หรือแค่คนรับฟังก็ได้ ทบทวนดูว่าคุณถูกหลอกใช้มาตลอดหรือเปล่า
    • เขาวางแผนในนาทีสุดท้ายเท่านั้น เขา/เธออาจจะโผล่มาหน้าบ้านหรือส่งข้อความหาคุณกลางดึกโดยที่ไม่แม้แต่จะวางแผนล่วงหน้า
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เข้าใจการหลบหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจจะทะเลาะกันหรือเลิกคบกัน คุณอาจจะเผลอพูดอะไรที่ทำให้เขาโกรธโดยไม่รู้ตัว หรือคุณอาจจะทำให้เขาหรือเธอรู้สึกอึดอัดในทางใดทางหนึ่ง ทบทวนพฤติกรรมของตัวเองอย่างละเอียด และพยายามหาเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร
  2. วิเคราะห์สถานการณ์ทุกครั้งที่คุณรู้สึกว่าตัวเอง "โดนหลบหน้า" และสังเกตว่ามักมีลักษณะร่วมกันบางอย่างในแต่ละครั้งไหม คนๆ นี้อาจจะหลบหน้าคุณเฉพาะในเวลานี้หรือกับคนกลุ่มนี้ มันอาจจะเกี่ยวกับคุณโดยตรง หรือมันอาจจะเป็นที่เขาเองก็ได้ ลองจับต้นชนปลายแล้วพยายามทำความเข้าใจว่าทำไม
    • คนๆ นี้ดูจะหลบหน้าคุณในบางช่วงเวลาหรือตอนที่คุณกำลังทำอะไรสักอย่างหรือเปล่า เช่น ช่วงนี้คุณอาจจะกำลังลองยาเสพติด และเพื่อนก็ไม่อยากเห็นคุณในสภาพเมายา
    • คนๆ นี้หลบหน้าคุณเวลาที่คุณอยู่กับคนกลุ่มนี้หรือเปล่า บางทีคุณอาจจะไม่ใช่คนที่เขาหลบหน้าก็ได้ หรือไม่เขาก็อาจจะไม่ชอบพฤติกรรมของคุณเวลาที่อยู่กับคนกลุ่มนี้ เพื่อนของคุณอาจจะขี้อายหรือเป็นคนเก็บตัว ก็คือเขา/เธอชอบคุยกันแค่สองคนมากกว่า แต่จะหายจ้อยไปอย่างรวดเร็วถ้าคุณมากลับคนกลุ่มใหญ่
    • คนๆ นี้หลบหน้าคุณเวลาที่เขา/เธอกำลังใช้สมาธิทำงานหรือทบทวนบทเรียนหรือเปล่า เพื่อนอาจจะใช้เวลาร่วมกับคุณในสถานการณ์ทางสังคมที่ผ่อนคลาย แต่มักจะทำงานไม่เสร็จเวลาที่คุณอยู่ด้วย
  3. ถ้าเพื่อนหรือคนรักพูดคุยและสนใจคุณตามปกติเวลาที่อยู่ด้วยกัน แต่ไม่เคยตอบข้อความคุณเลย เป็นไปได้ว่าเขา/เธออาจจะไม่ชอบคุยกันทางข้อความก็ได้ ซึ่งเป็นไปได้มากหากชีวิตของเพื่อนคุณยุ่งมากหรือต้องมีวินัยสูง เพราะมันยากที่จะหาเวลาคุยกันผ่านทางข้อความอย่างลึกซึ้งหากคุณทำงาน เรียน หรือฝึกซ้อมตลอดเวลา
  4. ประเมินว่าคนๆ นี้เปลี่ยนไปหรือเปล่าตั้งแต่เขา/เธอเริ่มหลบหน้าคุณ และถ้าเป็นอย่างนั้น เขาเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เขาอาจจะเริ่มคบหากับเพื่อนกลุ่มใหม่ หรือโลกของเขาอาจจะเต็มไปด้วยรักครั้งใหม่ หรือเขาอาจจะเริ่มเล่นกีฬาหรือทำงานอดิเรกใหม่ๆ ที่คุณไม่ได้สนใจเลย การได้สนิทกับใครสักคนนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงและสิ่งต่างๆ ก็ต้องแตกสลาย ถ้าคุณรู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังใช้ชีวิตต่อไป ก็อาจถึงเวลาที่คุณต้องเดินหน้าต่อไปเช่นกัน
    • นอกจากนี้ก็ให้ทบทวนด้วยว่าตัวเองเปลี่ยนไปอย่างไร คนๆ นี้เขาอาจจะทำตัวเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นมาตลอด แต่คุณเองนั่นแหละที่เริ่มจะทำตัวแปลกไป คุณอาจจะเริ่มคบเพื่อนกลุ่มใหม่ ทำนิสัยใหม่ๆ ที่เพื่อนไม่ชอบ หรือคุณอาจจะแค่ไม่ค่อยว่างเลยก็ได้
    • การแยกย้ายกันไปเติบโตไม่ได้หมายความว่าคุณจะกลับมาเติบโตไปด้วยกันอีกไม่ได้ ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่างจากใครสักคน ก็ตัดสินใจว่าคุณจะปล่อยเขาไปหรือพยายามรักษาความสัมพันธ์ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่ก็ต้องจำไว้ด้วยว่ากระบวนการนี้ต้องอาศัยทั้งสองฝ่าย
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รับมือการกับโดนหลบหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณแน่ใจว่าเขาพยายามหลบหน้าคุณ คุณก็อาจจะเกริ่นเรื่องนี้ขึ้นมาแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น คุณอาจจะอยากแก้ไขความผิดพลาดที่คุณได้ทำลงไป หรือคุณอาจจะสงสัยว่าเพื่อนหลบหน้าคุณเพราะว่าเธอเองกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เคารพและพูดออกไปตรงๆ อธิบายให้ชัดเจนว่าอะไรที่ทำให้คุณไม่สบายใจ [6]
    • ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงหลบหน้าคุณ ลองพูดว่า " ฉันว่าจะพูดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนช่วงนี้เธอหลบหน้าฉัน ฉันทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า"
    • ถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่าเขาหลบหน้าคุณทำไม อย่าพูดอ้อมค้อม ขอโทษในสิ่งที่คุณทำและพยายามไกล่เกลี่ยสถานการณ์ เช่น พูดว่า "ฉันรู้สึกถึงความกระอักกระอ่วนตั้งแต่ตอนที่เราทะเลาะกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มิตรภาพของเราสำคัญกับฉันมากนะ ฉันก็เลยอยากคุยกับเธอเรื่องนี้ เราจะได้ข้ามผ่านมันไปสักที เรื่องที่เราทะเลาะกันมันไม่คุ้มกับความเป็นเพื่อนของเราหรอกนะ"
    • คุณจะเผชิญหน้ากับคนๆ นี้ตัวต่อตัว หรือจะขอให้อาจารย์แนะแนวมาช่วยไกล่เกลี่ยด้วยก็ได้ คิดดูว่าระดับไหนที่คุณสบายใจ และเลือกสถานการณ์ที่คุณคิดว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด
  2. ขอความเห็นจากคนที่เป็นเพื่อนคุณทั้งสองคน แต่อย่านินทาเขาลับหลัง. ถ้าคุณกับคนที่หลบหน้าคุณมีเพื่อนร่วมกัน ให้ขอความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์จากคนที่ไว้ใจได้ พูดว่า "เธอพอจะรู้มั้ยว่าทำไม ก ถึงโกรธฉัน ฉันรู้สึกเหมือนช่วงนี้เธอหลบหน้าฉันยังไงไม่รู้"
    • อย่าปล่อยข่าวลือหรือนินทาคนที่หลบหน้าคุณ ถ้าคุณเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ที่มีต่อคนๆ นี้ ต้องระมัดระวังมากๆ เวลาจะพูดอะไร เพราะถ้าคุณพูดถึงเขาไม่ดีลับหลังเขา เป็นไปได้ว่าคำพูดนั้นจะเข้าหูเขา/เธอ ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์ยิ่งคุกรุ่นเข้าไปใหญ่
  3. บางครั้งคนเราก็ต้องผ่านเส้นทางส่วนบุคคลก่อนที่จะพร้อมกลับมาสานสัมพันธ์กับคนอื่นๆ อีกครั้ง หลายๆ ครั้งการฝืนความสัมพันธ์ก็มีแต่จะทำให้คนที่หลบหน้าคุณยิ่งถอยห่างออกไป อดทน เปิดใจ และใช้ชีวิตต่อไป ถ้าคนๆ นี้ตัดสินใจแล้วว่าเขาหรือเธออยากอยู่ในชีวิตของคุณ คุณจะรู้เอง
    • บอกเจตนาของคุณให้ชัดเจน พูดว่า "ดูเหมือนว่าช่วงนี้เธอต้องการพื้นที่ส่วนตัวในการเติบโตนะ ฉันก็เลยจะให้เธออยู่ตามลำพัง แต่ถ้าเธออยากคุยเมื่อไหร่ ฉันยินดีต้อนรับเสมอนะ"
    • เปิดใจให้กว้าง มันอาจจะยากมากที่เราต้องใช้ชีวิตต่อไปโดยที่ยังคงเว้นที่ว่างไว้ให้คนๆ นี้กลับเข้ามา ถอยหลังจากความสัมพันธ์ จดจำช่วงเวลาที่ดี และพยายามละวางความโกรธทิ้งไป
  4. มันยากที่เราจะตัดขาดจากใครสักคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณลงทุนทั้งเวลาและพลังงานไปกับเขาตั้งมากมาย แต่พอถึงจุดนึงคุณอาจจะต้องยอมรับว่าอะไรๆ มันจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์ด้วย ถ้าคุณมัวแต่จมอยู่กับอดีต จมจ่อมอยู่กับสิ่งที่เคยเป็นและอาจเป็นไปได้ คุณก็จะเรียนรู้และมีความสุขกับปัจจุบันได้ยากมาก เพราะฉะนั้นต้องปล่อยวาง
    • การปล่อยวางไม่ได้หมายถึงตลอดไป มันไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่สามารถกลับไปเป็นเพื่อนกับคนๆ นี้ได้อีก แต่มันคือการที่คุณจะไม่ใช้พลังงานทางอารมณ์อันมีค่าไปกับคนที่ไม่พร้อมจะรับมันในตอนนี้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคนๆ นี้หลบหน้าคุณมานานมากแล้ว ก็อาจถึงเวลาที่คุณต้องปล่อยวาง ถ้าเขาไม่แม้แต่จะอยากใช้เวลาร่วมกับคุณ เขาก็อาจจะแค่ไม่ได้สนใจคุณแล้วก็ได้
  • ถ้าเขาดูอึดอัดเวลาที่คุณอยู่ใกล้ๆ ก็อาจจะบ่งบอกว่าเขาไม่เปิดใจรับการมีอยู่ของคุณ
  • ถ้าคุณกลุ้มใจมากๆ ที่คนๆ นี้หลบหน้าคุณ ขอให้คนที่เป็นเพื่อนสนิทของคุณทั้งสองคนไปหาคำตอบมาว่าทำไมเขาถึงไม่พอใจคุณ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,498 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา