ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการหารหัสผ่าน Wi-Fi ที่ลืมไป ในคอม Windows หรือ Mac โดยเข้า settings ของคอม หรือเข้าหน้า settings ของเราเตอร์ แต่ถ้าทุกวิธีไม่ได้ผล ให้รีเซ็ตเราเตอร์กลับค่าโรงงาน แล้วใช้รหัสผ่านตามค่า default แต่จะหารหัสผ่าน Wi-Fi ในมือถือไม่ได้
ขั้นตอน
-
เช็คก่อนว่าใช้ stock password ของเราเตอร์อยู่หรือเปล่า. ถ้าใช้รหัสผ่านตั้งต้นที่ติดมากับเราเตอร์แต่แรก ตั้งแต่ตอนติดตั้ง ให้หารหัสผ่านโดยเช็คในเราเตอร์หรืออ่านคู่มือ
- ถ้าหลังจากได้เราเตอร์มาเคยเปลี่ยนรหัสผ่านของเราเตอร์ไปแล้ว ก็ต้องใช้วิธีการอื่นแทน
-
เช็คตัวเครื่องของเราเตอร์. เราเตอร์ส่วนใหญ่จะมีรหัสผ่านเป็นสติกเกอร์ติดที่ด้านหลังหรือด้านล่างของตัวเครื่อง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ปกติรหัสผ่านจะอยู่แถวหัวข้อ "SSID"
- ส่วนใหญ่รหัสผ่านจะเป็นข้อความยาวๆ ประกอบด้วยทั้งตัวเลขและตัวอักษร ทั้งตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่
-
หารหัสผ่านในคู่มือหรือที่กล่องของเราเตอร์. ถ้าคุณยังเก็บกล่องกับคู่มือไว้ตั้งแต่ซื้อเราเตอร์ ก็ให้ลองหาสติกเกอร์ข้อมูลล็อกอินดู ทั้งตามกล่องและในคู่มือ (หรือที่ด้านหลัง) บางทีก็มีการ์ดแยกมาให้เลยตอนซื้อเราเตอร์ ขั้นตอนนี้เอาไว้ใช้กรณีที่หา stock password ของเราเตอร์ไม่เจอเท่านั้น
- ข้อเสียคือคุณหาคู่มือเราเตอร์ออนไลน์ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรหัสผ่านจะต่างกันในแต่ละเครื่อง
-
เชื่อมต่อเราเตอร์โดย bypass. เราเตอร์ส่วนใหญ่ให้คุณเชื่อมต่อได้โดยกดปุ่ม "WPS" ที่ด้านหลังของเครื่อง แล้วเลือกสัญญาณเน็ตในคอม อุปกรณ์พกพา เครื่องเกมคอนโซล หรือกล่องรับสัญญาณต่างๆ ถ้าเลือกเครือข่ายภายใน 30 วินาที ก็ต่อเน็ตในคอม (หรืออุปกรณ์อื่นๆ) ได้เลยแบบไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
- แต่ไม่ใช่ทุกเราเตอร์จะมีฟีเจอร์นี้ เพราะงั้นต้องอ่านคู่มือ (หรือคู่มือออนไลน์) ของเครื่องที่ใช้ ว่ามีฟีเจอร์ WPS (หรือ Wi-Fi Protected Setup) ไหม
- ขั้นตอนนี้ไม่ใช่ขั้นตอนแกะรหัส Wi-Fi แต่ทำให้ต่อเน็ตในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้แบบไม่ต้องใช้รหัสผ่าน ถ้าต้องการหารหัสผ่านจริงๆ ก็ต้องใช้วิธีการอื่นในบทความนี้แทน
โฆษณา
-
คลิกไอคอน Wi-Fi . ที่ด้านขวาสุดของ taskbar ท้ายหน้าจอ แล้วเมนู Wi-Fi จะโผล่มา
- วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะกรณีที่ต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi ที่ลืมรหัสอยู่แล้ว
- ถ้าเป็นไอคอนรูปหน้าจอคอมข้างสายแทน แสดงว่าคุณเชื่อมต่อเราเตอร์ผ่าน Ethernet อยู่ จะหารหัสผ่าน Wi-Fi โดยต่อเน็ตผ่าน Ethernet ไม่ได้
-
คลิก Network & Internet settings . ที่เป็นลิงค์ท้ายเมนู Wi-Fi
-
คลิก tab Wi-Fi . ทางซ้ายของหน้าต่าง Settings
-
คลิก Change adapter options . ที่เป็นลิงค์มุมขวาบนของหน้า Wi-Fi ใต้หัวข้อ "Related settings" พอดี แล้วหน้า Control Panel จะเปิดขึ้นมา
-
คลิกสัญญาณ Wi-Fi ที่ใช้อยู่. จะเห็นไอคอนรูปหน้าจอคอมที่มีแถบสีเขียวข้างๆ ในหน้านี้ นั่นแหละสัญญาณเน็ตที่ใช้อยู่
-
คลิก View status of this connection . ที่เป็นเมนูล่างแถบ address ทางด้านบนของหน้าต่าง Network Connections
-
คลิก Wireless Properties . ที่เป็นตัวเลือกกลางหน้าต่าง
-
คลิก tab Security . ปกติ tab นี้จะอยู่ด้านบนของหน้าต่าง คลิกแล้วหน้าใหม่จะโผล่มา พร้อมช่อง "Network security key" ตรงกลางหน้า สำหรับใส่รหัสผ่าน
-
ติ๊กช่อง "Show characters". ล่างช่อง "Network security key" แล้วจุดดำในช่อง "Network security key" จะกลายเป็นรหัสผ่าน Wi-Fi ขึ้นมาโฆษณา
-
เปิด Finder. คลิกไอคอนของแอพ Finder ที่เป็นรูปหน้าสีฟ้าใน Dock ของ Mac
- ถ้าใช้ Mac ก็ไม่จำเป็นต้องต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi นั้นอยู่ถึงจะเช็ครหัสผ่าน Wi-Fi ได้
-
คลิก Go . ที่เป็นเมนูในแถวเมนูต่างๆ ทางด้านซ้ายบนของหน้าจอ Mac
-
คลิก Utilities . ในเมนู Go ที่ขยายลงมา
-
ดับเบิลคลิก Keychain Access . ที่เป็นแอพรูปกุญแจในโฟลเดอร์ Utilities
-
หาชื่อสัญญาณเน็ต แล้วดับเบิลคลิก. หรือก็คือชื่อที่ขึ้นตอน Mac เชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi
- คุณเรียงรายการ Keychain ตามลำดับอักษรได้ โดยคลิกหมวดหมู่ Name ทางด้านบนของหน้าต่าง Keychain
-
ติ๊กช่อง "Show password". ทางด้านล่างของหน้าต่าง network
-
ใส่รหัสผ่านแอดมินตอนถูกถาม. หรือก็คือรหัสผ่านที่ใช้ล็อกอินเข้าเครื่อง Mac ถ้าใส่รหัสผ่านแอดมินถูกต้อง ก็จะบังคับให้แสดงรหัสผ่าน Wi-Fi ขึ้นมาในช่อง passwordโฆษณา
-
เชื่อมต่อคอมกับเราเตอร์ ผ่าน Ethernet . ถ้าไม่รู้รหัสผ่าน Wi-Fi แถมคอมที่ใช้ก็ไม่ได้ต่อเน็ตอยู่ ก็เหลือทางเดียวว่าต้องเชื่อมต่อผ่าน Ethernet ถึงจะทำขั้นตอนต่อไปได้
- ส่วนใหญ่ถ้าใช้ Mac ก็ต้องซื้อ adapter แปลง Ethernet เป็น USB-C (หรือ Thunderbolt 3) ก่อน ถึงจะต่อเน็ตโดยเสียบสาย Ethernet ได้
- แต่ถ้าต่อผ่าน Ethernet ไม่ได้ ก็ต้อง รีเซ็ตเราเตอร์ กลับค่า default ก่อน
-
หา IP address ของเราเตอร์. จะเข้าหน้าของเราเตอร์ได้ ต้องรู้ IP address ของเราเตอร์ซะก่อน
- Windows — เปิด Start คลิกไอคอน Settings รูปฟันเฟือง คลิก Network & Internet คลิก View your network properties แล้วดู address ข้าง "Default gateway"
- Mac — เปิด Apple menu คลิก System Preferences คลิก Network คลิก Advanced คลิก tab TCP/IP แล้วมองหาหมายเลขทางขวาของ "Router:"
- ปกติ address ของเราเตอร์จะเป็น 192.168.0.1 , 192.168.1.1 หรือ 192.168.2.1 ไม่ก็ 10.0.0.1 ถ้าเป็นเราเตอร์ของ Apple
- บางเราเตอร์ IP address จะอยู่ที่สติกเกอร์ด้านข้างของเราเตอร์
-
ไปที่หน้าของเราเตอร์. เปิดเบราว์เซอร์ที่ถนัด แล้วใส่ IP address ของเราเตอร์ ในแถบ address ของเบราว์เซอร์
- ขั้นตอนนี้จะทำในเบราว์เซอร์ไหนก็ได้ตามสะดวก
-
ล็อกอินเข้าหน้าเราเตอร์. พอใส่ address ถูกแล้ว อาจจะมีถาม username กับรหัสผ่านของเราเตอร์ด้วย ก็ให้ล็อกอินไปตามนั้น ซึ่งจะคนละอันกับที่ใช้ตอนต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi
- ปกติ username ตามค่า default จะเป็น admin ส่วนรหัสผ่านตามค่า default ก็คือ admin , password หรือไม่ต้องใส่เลย คนส่วนใหญ่มักเปลี่ยนข้อมูลพวกนี้หลังปรับแต่งเราเตอร์ เพราะงั้นถ้าจำ username กับรหัสผ่านไม่ได้ ก็ต้อง รีเซ็ตเราเตอร์ ซะก่อน
- ถ้าไม่เคยเปลี่ยน username กับรหัสผ่านตามค่า default ก็ดูในคู่มือของเราเตอร์ หรือตรงสติกเกอร์ที่ติดตัวเครื่องได้เลย
-
ไปที่หัวข้อ "Wireless". พอล็อกอินเข้าเราเตอร์แล้ว ให้หาหัวข้อ "Wireless" หรือ "Wi-Fi" ปกติจะเข้าได้โดยคลิก tab ทางด้านบนของหน้า หรือหาในเมนู navigation
- แต่ละเมนูในหน้าของเราเตอร์จะต่างกันไป เพราะงั้นอาจจะต้องเลื่อนดูหลายเมนูหน่อย
- บางทีรหัสผ่านของเราเตอร์ก็อยู่ด้านบนของหน้าหลักของเราเตอร์
-
หารหัสผ่าน. ในหน้า "Wireless" จะเห็นชื่อสัญญาณ Wi-Fi (SSID) กับประเภทการเข้ารหัส/รักษาความปลอดภัย (เช่น WEP, WPA, WPA2 และ WPA/WPA2) ใกล้ๆ ตัวเลือก security จะมีช่อง "Passphrase" หรือ "Password" นี่แหละรหัสผ่าน Wi-Fi ของคุณโฆษณา
-
ต้องใช้วิธีนี้เมื่อไหร่. ถ้าหารหัสผ่านเราเตอร์ไม่ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหนในบทความนี้ แสดงว่าก็หารหัสผ่าน Wi-Fi ไม่ได้เหมือนกัน ต้องรีเซ็ตเราเตอร์กลับค่าโรงงาน
- รีเซ็ตเราเตอร์กลับค่าโรงงานแล้วไม่ทำให้ได้รหัสผ่านมา แต่เป็นการเปลี่ยนรหัสผ่านเราเตอร์กลับไปยังค่าตั้งต้น ตามที่ติดอยู่ที่ด้านล่างหรือด้านหลังของเราเตอร์
- รีเซ็ตเราเตอร์แล้วทุกอุปกรณ์ที่ต่อเน็ตผ่านเราเตอร์นี้อยู่จะถูกตัดการเชื่อมต่อ ถึงได้แนะนำให้เลือกวิธีรีเซ็ตเราเตอร์นี้เป็นวิธีสุดท้ายจริงๆ
-
หาปุ่ม "Reset" ของเราเตอร์. ปกติปุ่มนี้จะอยู่ที่ด้านหลังของเราเตอร์ อาจจะต้องใช้ปลายคลิปหนีบกระดาษหรือเข็มจิ้มเข้าไปกดปุ่ม "Reset"
-
กดปุ่ม "Reset" ค้างไว้. อย่างน้อย 30 วินาทีขึ้นไป เพื่อให้แน่ใจว่าเราเตอร์จะรีเซ็ตจริงๆ
- ไฟที่เราเตอร์จะกะพริบหรือดับไปครู่สั้นๆ หลังรีเซ็ตเราเตอร์แล้วเรียบร้อย
-
หาข้อมูลล็อกอินตามค่า default ของเราเตอร์. เป็นข้อมูลที่ปกติจะอยู่ด้านล่างของเราเตอร์ โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้
- Network name หรือ SSID — ชื่อสัญญาณเน็ตตามค่าตั้งต้น ที่เห็นในเมนู Wi-Fi
- Password หรือ Key — รหัสผ่านตั้งต้นของสัญญาณเน็ต
-
ต่อเน็ต . เวลาใส่รหัสผ่าน ให้ใส่รหัสผ่านตั้งต้นที่ติดอยู่ด้านล่างของเราเตอร์
- อาจจะมีตัวเลือกให้เปลี่ยนรหัสผ่านก่อนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
โฆษณา
เคล็ดลับ
- เวลารีเซ็ตรหัสผ่าน ต้องตั้งใหม่ให้แน่นหนา มีทั้งตัวเลข ตัวอักษร และอักขระพิเศษ และไม่รวมข้อมูลส่วนตัวไว้ในรหัสผ่าน
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าแฮกรหัสผ่านของสัญญาณเน็ตคนอื่น โดยเฉพาะที่ไม่ได้รับอนุญาต
- ถ้าใช้มือถือจะกู้หรือแฮกรหัสผ่าน Wi-Fi ไม่ได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา