ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการหารหัสผ่านของบัญชีที่ไม่ใช่ของคุณ สำหรับใช้ล็อกอินเพื่อตรวจสอบข้อมูลของลูกๆ และพนักงานในบริษัทโดยเฉพาะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ติดตั้ง Keylogger

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยพิมพ์ "keylogger" ลงใน search engine แล้วเลือกจากในผลการค้นหา keylogger เป็นแอพลับที่ทำงานอยู่เบื้องหลังของระบบปฏิบัติการในคอม โดยจะบันทึกไว้หมดเวลาเจ้าของบัญชีกดรหัสผ่าน หรือก็คือจะบันทึก username กับรหัสผ่านไว้เวลาเขาเข้าใช้เว็บดังกล่าว [1]
  2. ถ้าไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ตัวเลือกที่ปลอดภัยน่าลองก็คือ Best Free Keylogger กับ Revealer Keylogger Free [2]
  3. ถ้าเป็นไปได้ให้คุณดาวน์โหลดลงเครื่องที่จะใช้รหัสผ่าน ถ้าเป็นโปรแกรมแบบเสียเงิน ก็ต้องกรอกรายละเอียดการจ่ายเงินลงไป
    • ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกจ่ายด้วย PayPal จะดีที่สุด
    • ถ้าคุณไม่ดาวน์โหลด keylogger ลงคอมที่จะใช้รหัสผ่านโดยตรง สุดท้ายคุณก็ต้องมานั่งย้ายโปรแกรมไปลงคอมเครื่องที่ว่าด้วย USB อีก
  4. โดยดับเบิลคลิกไฟล์ติดตั้ง keylogger แล้วทำตามขั้นตอนที่ปรากฏ ปกติเรามักกดยอมรับไปงั้นๆ แต่บอกเลยว่าคุณควรอ่านรายละเอียดการใช้งานและข้อตกลงต่างๆ ในหน้าต่างติดตั้ง keylogger ให้ดี จะได้ไม่เผลอยอมรับ แชร์ข้อมูลจาก keylogger ออนไลน์โดยไม่รู้ตัว (หรืออะไรที่น่ากลัวพอกัน)
  5. พอเปิดโปรแกรมแล้ว คุณเลือกได้ว่าจะ "hiding" หรือซ่อนโปรแกรมไหม ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกซ่อนแล้วปล่อยโปรแกรมทำงานไปที่เบื้องหลัง
  6. ก็แล้วแต่ว่าเขาใช้คอมเครื่องนั้นบ่อยแค่ไหน อาจจะอาทิตย์นึงค่อยเช็คทีก็ได้
    • แล้วแต่ว่าคุณใช้โปรแกรม keylogger ตัวไหน บางโปรแกรมคุณไม่ต้องเหนื่อยค้นจากข้อมูลจำนวนมากเลย เพราะจะลิสต์ชื่อเว็บที่เจ้าของเครื่องเข้าใช้ออกมาให้เห็นชัดเจน
    • แต่ถ้าเป็นโปรแกรม keylogger แบบพื้นๆ ก็จะบันทึกไว้แค่ keystrokes หรือตรวจจับการพิมพ์คีย์บอร์ดไว้ คุณต้องมานั่งค้นจากข้อมูลทั้งหมดจนเจอข้อมูลล็อกอินที่ต้องการเอง (เช่น username หรือหมายเลขโทรศัพท์)
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

เดาแบบหวังผล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ค้นรหัสผ่านที่อาจเซฟอยู่ในเครื่องของเจ้าของบัญชีนั่นแหละ. ถ้าคุณลองเข้าไปค้นในคอมของเจ้าของบัญชีดู เขาอาจจะบังเอิญเซฟรหัสผ่านที่ใช้บ่อยไว้ในไฟล์เอกสารสักไฟล์ในคอมก็ได้
    • คอมส่วนใหญ่ให้คุณหาเอกสารแบบ cursory search หรือ quick search ได้ด้วยแถบค้นหา (PC) หรือแอพ Finder (Mac) ให้ลองพิมพ์คีย์เวิร์ดอย่าง "password", "account" หรือ "user name" (ไม่ก็ "username") ดู [3]
    • อย่าลืมหาที่เป็น hidden file หรือไฟล์ที่ซ่อนไว้ด้วย
  2. ไล่มาให้หมด คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าของรหัสบ้าง. ตั้งแต่พวกข้อมูลส่วนตัวอย่างวันเกิด ไปจนถึงชื่อสัตว์เลี้ยงตัวโปรด เพราะเราต้องการจะจดคำตอบที่น่าจะเป็น security question หรือคำถามยืนยันตัวตนของเขาออกมาให้มากที่สุด รวมถึงคำที่อาจเป็นรหัสผ่านด้วย
    • เช่น รหัสผ่านอาจเป็นชื่อน้องหมาน้องแมวตามด้วยหมายเลข
  3. ถ้าคุณเดารหัสผ่านเขาโดยอ้างอิงจากข้อมูลทั่วๆ ไปไม่ได้ แถมไม่มีไฟล์รหัสผ่านเซฟอยู่ในคอมของเขา ให้ลองระดมสมอง เค้นทุกอย่างที่คุณรู้เกี่ยวกับเขาออกมาเดารหัสผ่านให้หมด ข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ก็เช่น [4]
    • ข้อมูลส่วนตัว (เช่น ชื่อน้องหมาน้องแมวของเขา) - อันนี้ช่วยตอบคำถามยืนยันตัวตนได้ ถ้าใช่ละก็ฉลุย ไม่ต้องใช้รหัสผ่านเดิมเลย
    • ข้อมูลในโซเชียลมีเดีย - ถ้าคุณเป็นเพื่อนกับเขาในโซเชียลมีเดีย (หรือเป็นเพื่อนของเพื่อน) ก็น่าจะเห็นเพจที่เขาไลค์ และความสนใจต่างๆ ของเขา ที่อาจใช้เป็นข้อมูลตอบคำถามยืนยันตัวตนของเขาได้เช่นกัน
  4. โดยเฉพาะในกรณีที่คุณเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองที่พยายามจะเข้าบัญชีของลูก หรือเป็นเจ้านายที่สงสัยเรื่องพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของลูกน้อง คุณก็คงมีอำนาจพอจะลองสอบถามคนอื่นๆ ที่อาจพอรู้เกี่ยวกับรหัสผ่านของเขา
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

เข้า Password Manager

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เช็คได้ง่ายๆ แค่พิมพ์ "Password Manager" ลงในแถบค้นหาในคอม (หรือแอพ Finder) Password manager จะเก็บและกรอกรหัสผ่านที่ใช้บ่อยตามเว็บและโปรแกรมต่างๆ ให้คุณเอง (เช่น Facebook หรือ Google) password manager ที่นิยมใช้กันก็เช่น
    • Keychain
    • Google Smart Lock
    • ข้อมูลรหัสผ่านที่เซฟไว้ในเบราว์เซอร์
  2. ปกติตัว password manager ก็มักเข้ารหัสไว้ ถ้าคุณรู้รหัสผ่านตรงนี้ ก็เข้าดูและใช้งานรหัสผ่านต่างๆ ที่เซฟอยู่ข้างในได้เลยตามเว็บและโปรแกรม
    • แต่ถ้าไม่รู้ ก็ต้องอาศัย autofill data หรือรหัสผ่านที่กรอกอัตโนมัติ (จากครั้งก่อน) ของเว็บหรือโปรแกรมที่คุณพยายามจะลงชื่อเข้าใช้
  3. ถ้าบัญชีนั้นมีรหัสผ่านแบบเซฟไว้ก่อนหน้าในเบราว์เซอร์ (หรือโปรแกรม) รหัสผ่านที่ว่าก็จะโผล่ขึ้นมาในช่องโดยอัตโนมัติ
    • Google Chrome กับ Mozilla Firefox ก็ทำแบบนี้ได้ ในกรณีที่ผู้ใช้เปิดใช้คุกกี้กับ autofill ไว้
    • ถ้าเจ้าของรหัสผ่านเขาใช้เครื่อง Mac แล้วคุณมีรหัส Keychain ของเขา ก็สามารถใช้ Keychain เข้าไปดูรหัสผ่านที่เซฟเก็บไว้ได้เลย แค่เข้าไปที่ Keychain Access (ในโฟลเดอร์ Utilities ของ Mac) เปิด tab "Passwords" ทางด้านซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือกรหัสผ่านที่เกี่ยวข้อง พอใส่รหัส Keychain แล้ว จะมีตัวเลือกแสดงรหัสผ่านแบบ plain text หรือข้อความธรรมดาด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้ลิงค์รีเซ็ตรหัสผ่าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาลิงค์ forgotten password หรือ "ลืมรหัสผ่าน" ให้เจอแล้วคลิก. ปกติจะอยู่ด้านล่างของช่อง "Password" (หรือแถวๆ นั้น หาไม่ยากหรอก)
  2. บัญชีส่วนใหญ่จะให้คุณรีเซ็ตรหัสผ่านได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
    • รับลิงค์รหัสผ่านทางโทรศัพท์ (SMS)
    • รับลิงค์รหัสผ่านทางอีเมล
    • ต้องตอบคำถามยืนยันตัวตนก่อน
  3. นี่แหละ เราถึงบอกว่ารู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าของรหัสผ่านให้เค้นออกมาให้หมด ถ้าไม่มีละก็ คงเหลือแต่วิธีแอบเปิดมือถือหรืออีเมลของเขา (ยากไหมละนั่น)
    • ถ้าเขาใช้อุปกรณ์ iOS ที่ sync กับคอมเครื่องที่คุณกำลังใช้อยู่ ก็อาจจะเข้าดูลิงค์รีเซ็ตรหัสผ่านทาง messages ของ Mac ได้ วิธีนี้เสี่ยงตายน่าดู เพราะจะแจ้งเตือนไปที่เจ้าของรหัสด้วย ว่ามีคนเปลี่ยนรหัสผ่านของเขา
  4. ถ้าคุณมีทุกข้อมูลที่จำเป็น และได้ลิงค์รีเซ็ตรหัสผ่านมาแล้ว (หรือตอบคำถามยืนยันตัวตนได้) คุณก็จะรีเซ็ตรหัสผ่านและเข้าบัญชีของเขาได้ในที่สุด
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ในบางสถานการณ์ เช่น การเป็นพ่อแม่ที่เป็นห่วงลูกเล็ก หรือเป็นเจ้านายที่สงสัยว่าลูกน้องใช้คอมหรืออีเมลบริษัทในทางที่ผิด คุณก็พอมีสิทธิ์หาวิธีตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวได้โดยไม่ต้องแจ้งให้เจ้าของบัญชีหรือรหัสผ่านทราบ
โฆษณา

คำเตือน

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,763 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา