ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ทุกคนต้องการเป็นที่ชื่นชมและยอมรับ การมีเพื่อนสามารถกระตุ้นอารมณ์และความเชื่อมั่นในตัวเองของคุณ [1] ถ้าหากคุณเป็นนักเรียนใหม่หรือขี้อายและไม่กล้า การหาเพื่อนใหม่ที่โรงเรียนอาจเป็นเรื่องท้าทายแต่คุณสามารถทําได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 5:

การระบุตัวเพื่อนที่น่าจะเป็น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลงลึกในสิ่งที่คุณชอบทำและทำมันอย่างเปิดเผย ลองดูว่ามีใครปรากฏตัวและชอบทำในสิ่งเดียวกัน หาคนที่มีความชอบเดียวกับคุณและคุณน่าจะเข้ากันได้ [2]
    • คุณชอบวาดรูปหรือเปล่า? ลงทะเบียนเรียนศิลปะ เยี่ยมชมงานศิลปะ มองหาคนที่นั่งวาดรูประหว่างเรียนคณิตศาสตร์
    • คุณชอบอ่านหนังสือหรือไม่? เข้าชมรมหนังสือ ไปยังสถานที่อ่านหนังสือสาธารณะ มองหาคนที่ถือหนังสือนิยายควบคู่กับหนังสือเรียน
  2. คุณอาจจะอยากเป็นเพื่อนกับคนที่เป็นที่รู้จักในโรงเรียน แต่ถ้าหากพวกเขาไม่เคารพคุณ นั่นก็ไม่ใช่เพื่อนแท้ การหาใครบางคนที่จะปฏิบัติต่อคุณอย่างดีและสนับสนุนคุณเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการเป็นที่รู้จัก
  3. ถ้าหากคุณเข้ากับใครบางคนได้เป็นอย่างดี ลองจัดงานที่พวกเขาสามารถเชิญเพื่อนมาได้ เพื่อนของคุณอาจจะได้เตรียมพร้อมโดยการหาคนที่มีความชอบและนิสัยคล้ายกับคุณไว้แล้ว
  4. สิ่งนี้อาจจะตรงกันข้ามกับแนวคิดของการสบตาแต่มันจะเกิดขึ้นในภายหลัง งานวิจัยเผยว่ากลุ่มคนที่ยืนรวมกันเป็นวงกลมโดยมีเท้าชี้ไปตรงกลางมักจะไม่ค่อยต้อนรับสมาชิกใหม่ แต่คนที่มีเท้าชี้ออกด้านนอกมักจะต้อนรับคุณให้เข้ากลุ่ม คุณสามารถลองใช้วิธีนี้ครั้งถัดไปที่คุณเห็นกลุ่มคนยืนคุยอยู่ในห้องโถง งานปาร์ตี้หรืองานสังคมต่างๆ [6]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 5:

การหาเพื่อน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถหาชมรมที่ตรงตามความชอบ ถ้าหากคุณต้องการขยายวงของเพื่อนเพื่อหาเพื่อนใหม่ ลองขยายประสบการณ์ในปัจจุบันและลองสิ่งใหม่ๆ เช่น กีฬาใหม่ๆ ดูว่าพวกเขาเจอกันครั้งถัดไปเมื่อไหร่และสอบถามเกี่ยวกับการเข้าร่วม
    • คุณไม่จำเป็นต้องเล่นกีฬาเก่งเพื่อเล่นกีฬาที่เป็นทีม มันอาจจะเป็นฟุตบอล ฟริสบี้ กอล์ฟและดอดจ์บอล วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีในการหาความสนุก ออกกำลังกายและได้เพื่อนใหม่ รวบรวมกลุ่มคนเพื่อสร้างทีมหรือเข้าร่วมทีมในฐานะผู้เล่นอิสระ [7]
    • มีชมรมที่เกี่ยวกับงานอดิเรกมากมาย ชมรมหลานนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของวิชาเรียนที่โรงเรียน เช่น ละครเวทีหรือวงดนตรี อีกทั้งยังสามารถมีความชอบนอกเหนือจากวิชาเรียน เช่น ถักนิตติ้งหรือเล่นเกมส์ สอบถามอาจารย์หรือศูนย์กิจกรรมของนักเรียนเพื่อดูว่ามีอะไรบ้าง
    • ชมรมที่เกี่ยวกับวิชาเรียนสามารถรวมกลุ่มเพื่อนที่สนใจด้านธุรกิจ เช่น ทีมโต้วาทีและองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น ประชาสัมพันธ์และผู้ก่อตั้งธุรกิจ สอบถามอาจารย์และขอให้พวกเขาแนะนำให้คุณไปในทิศทางที่ถูกต้อง [8]
  2. โรงเรียนของคุณเปิดโอกาสให้คุณรวมตัวและพบปะกับนักเรียนคนอื่น ใช้ประโยชน์จากกิจกรรมเหล่านี้เมื่อมีโอกาส ยิ่งคุณพบใครมากเท่าไหร่ คุณก็น่าจะสามารถเป็นเพื่อนกันได้มากเท่านั้นเพราะคุณมักจะเจอกัน [9]
    • เข้าร่วมงานเต้นรำ ดูหนังและผสมเครื่องดื่มของโรงเรียน
    • ดูการแข่งขันของทีมกีฬาของโรงเรียนและเชียร์พวกเขากับกลุ่มคนเพื่อสร้างสายสัมพันธ์
  3. คุณอาจจะไม่รู้ตัวว่าคุณกำลังสร้างโลกส่วนตัวของตัวเอง สิ่งนี้อาจทำให้ผู้คนเข้าถึงคุณได้ยาก ออกจากขีดจำกัดของตัวเองโดยการเปลี่ยนแปลงและผลักดันตัวเองออกมา
    • ใช้เส้นทางใหม่เพื่อเดินไปห้องเรียน คุณอาจจะติดอยู่ในโลกส่วนตัวถ้าคุณมีกิจวัตรเดิม ลองหาเส้นทางใหม่เพื่อเดินไปห้องเรียนและพบเจอผู้คนมากขึ้น
    • นั่งกับคนใหม่ๆ ตอนช่วงพักกลางวัน วิธีนี้จะทำให้คุณมีโอกาสในการเข้าร่วมกลุ่มคนใหม่
  4. บางครั้งเราติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเรามากเกินไปจนเราไม่มีส่วนร่วมกับผู้คนรอบตัว เพื่อนใหม่ของคุณอาจจะนั่งอยู่ข้างหน้าคุณก็ได้
    • ถอดหูฟังออก ถ้าหากคุณกำลังใส่หูฟังเวลาที่เดินไปรอบๆ จะไม่มีใครอยากให้คุณเข้าร่วมในบทสนทนา
    • วางโทรศัพท์ลง ถึงแม้ว่าสื่อโซเชียลอาจดูเหมือนเป็นการมีปฏิสัมพันธ์ การรับเพื่อนใหม่ในมือถือไม่เหมือนกับมิตรภาพที่เป็นส่วนตัว พูดคุยกับบุคคลที่มีตัวตนจริงโดยการวางโทรศัพท์ลงและมีปฏิสัมพันธ์กับโลกที่อยู่รอบตัว [10]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 5:

การสร้างมิตรภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สบตากับคนอื่น ยิ้มและพยายามดูอบอุ่นและผ่อนคลายแทนที่จะดูประหม่าหรือกังวล [11] พูดถึงอะไรก็ตามที่อยู่รอบตัวคุณ [12] ทำความคิดเห็นของคุณให้เป็นบวก
    • หากคุณได้ยินเพลง ลองพูดว่า “ฉันชอบเพลงนี้ เธอชอบไหม?”
    • เลือกเมนูอาหารกลางวันที่อร่อยและพูดว่าวันนี้อาหารอร่อยแค่ไหน
  2. แนะนำตัวเองให้กับกลุ่มคนโดยการเข้าร่วมบทสนทนา. สิ่งนี้มีประโยชน์ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น นั่งอยู่กับคนกลุ่มใหม่ช่วงพักกลางวันหรือถูกแวดล้อมไปด้วยผู้อื่นในงานกีฬา มีส่วนร่วมเมื่อคุณได้ยินบางอย่างที่คุณสามารถออกความคิดเห็นแต่หลีกเลี่ยงการควบคุมบทสนทนา ลองถามคำถามคนทั้งกลุ่มแทนที่จะถามคนเดียว [13]
  3. ทุกคนชอบเป็นที่ชื่นชม วิธีที่ดีและเป็นมิตรในการเริ่มบทสนทนาคือการทำให้ใครบางคนรู้ว่าคุณชอบสไตล์ของเขา ชมเชยเสื้อผ้าหรือทรงผมของเขา [14]
  4. นึกถึงสิ่งที่คนจำนวนมากชอบและใช้มันเป็นตัวเริ่มบทสนทนา คุณยังสามารถตั้งคำถามปลายเปิดเพื่อเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาสนใจ
    • ถามเกี่ยวกับรายการทีวีโปรดของพวกเขา คุณอาจจะมีรายการที่ชอบเหมือนกันซึ่งจะทำให้คุณมีเรื่องพูดคุย
    • พูดกับพวกเขาเกี่ยวกับบางอย่างที่กำลังเป็นกระแสในสื่อโซเชียล ถ้าหากคุณเห็นบางอย่าง พวกเขาก็น่าจะเห็นเช่นกัน ลองถามว่าพวกเขาเห็นหรือยังและคิดอย่างไร
  5. เปลี่ยนจากการพูดคุยเป็นการทำความรู้จักในระดับส่วนตัว ใช้คำถามปลายเปิดแทนคำถามปลายปิด คุณสามารถลองใช้คำถามที่ขึ้นต้นด้วยใคร อะไร เมื่อไหร่ ที่ไหนและอย่างไร [15]
    • ถามว่าพวกเขารู้จักใครที่งานปาร์ตี้
    • ถามว่าพวกเขากำลังอ่านหนังสืออะไรในตอนนี้
    • ถามว่าพวกเขากินอะไรกันช่วงพักกลางวัน
    • ถามว่าพวกเขาชอบทำอะไรในวันหยุดสุดสัปดาห์
    • ถามว่าพวกเขาเลือกวิชาอะไรเป็นวิชาเลือก
  6. ถึงแม้ว่าคุณสามารถเชื่อมต่อกับพวกเขาบนสื่อโซเชียลได้แต่มันจะดีกว่าถ้าหากคุณแลกเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อเป็นการส่วนตัว ให้เบอร์โทรศัพท์ของคุณก่อนจะขอเบอร์โทรศัพท์ของเขา เมื่อเขามีเบอร์โทรศัพท์คุณแล้วก็สามารถขอให้พวกเขาส่งข้อความหรือโทรหาคุณเพื่อที่คุณจะได้มีเบอร์ของพวกเขา
    • ส่งข้อความหาพวกเขาเมื่อคุณต้องการเชิญพวกเขามาทำบางสิ่งหรือเพื่อสอบถามว่าเขาทำข้อสอบได้หรือไม่หรือเขาชนะเกมนั้นหรือเปล่า หลีกเลี่ยงการส่งข้อความบ่อยเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเริ่มต้นของมิตรภาพ
    • โทรหาพวกเขาเป็นบางครั้ง การโทรศัพท์หากันเป็นสิ่งที่พบยากกว่าการส่งข้อความซึ่งทำให้การโทรหาเป็นเรื่องที่พิเศษมากกว่า [16] การส่งข้อความเป็นเรื่องธรรมดาแต่การโทรหาเป็นสิ่งที่ดีสำหรับโอกาสพิเศษ เช่น วันเกิดหรือเพื่อถามว่าทำไมถึงไม่มาโรงเรียนหลายวัน
  7. เมื่อคุณได้เจอคนที่มีความชอบเหมือนกันแล้ว คุณสามารถถามพวกเขาว่าต้องการไปเที่ยวกับคุณหลังเลิกเรียนหรือไม่ เลือกกิจกรรมที่คุณคิดว่าคุณทั้งสองจะชอบ
    • ขอคำแนะนำเกี่ยวกับร้านอาหารในบริเวณและดูว่าพวกเขาต้องการไปทานมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นกับคุณหรือไม่
    • ถ้าหากคุณทั้งสองคนชอบศิลปะ ลองหาพิพิธภัณฑ์ ละครเวทีหรือวงดนตรีที่คุณสามารถไปดูได้
    • ชวนพวกเขาไปดูหนัง ถ้าหากมีหนังที่คุณอยากดู ถามพวกเขาว่าอยากไปกับคุณหรือไม่ วางแผนการใช้เวลาร่วมกันหลังจากดูหนังเพื่อที่คุณจะมีโอกาสพูดคุยกัน ร้านกาแฟเป็นสถานที่ที่ดีในการนั่งและพูดคุยเกี่ยวกับหนังและอะไรก็ตามที่คุณนึกได้
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 5:

การทำตัวเป็นมิตร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การยิ้มเป็นคำเชื้อเชิญที่เปิดเผยให้กับคนอื่น โต้ตอบการสบตาด้วยการยิ้ม เราอยากอยู่รอบตัวคนที่มีความสุข การยิ้มให้ใครบางคนสามารถดึงให้พวกเขาทักทายคุณได้ [17]
  2. ลองนึกถึงวิธีที่คุณนำเสนอตัวเองว่ามันทำให้ผู้อื่นอยากเข้าหาคุณหรือไม่ สไตล์การแต่งตัวและท่าทางสามารถบอกได้ว่าคุณพร้อมพบเจอคนอื่นหรือเปล่า [18]
    • ใส่ใจกับภาษากายของคุณ การมองพื้นหรือมองหนีหรือแม้แต่การกอดอกและนั่งไขว่ห้างสามารถทำให้คุณดูปิดและกันผู้คนออกจากการพูดคุยกับคุณ
    • แต่งตัวให้ดูเป็นมิตรมากขึ้น ถ้าหากคุณใส่เสื้อผ้าสีเข้มหรือแต่งตัวแนวโกธิค คุณอาจจะดึงดูดเพื่อนที่เป็นแนวโกธิคเหมือนกัน คนอื่นอาจมองเสื้อผ้าสีเข้มของคุณและสรุปว่าคุณชอบอยู่คนเดียว ลองแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสว่าง ไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณดูน่าเข้าหามากขึ้นแต่มันยังมีผลต่ออารมณ์และทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นด้วย [19]
  3. เพื่อนควรทำให้เรารู้สึกดี คุณควรให้สิ่งเดียวกับที่คุณต้องการได้รับเพื่อหาเพื่อนที่ดี การฝึกฝนกฎเหล็กคือกุญแจสำคัญในการมีมิตรภาพที่ยั่งยืน [20]
    • ทำตัวว่างเวลาที่พวกเขาต้องการคุณ มิตรภาพไม่ควรมาจากฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพียงฝั่งเดียว คนสองคนคนช่วยกันสร้างผลประโยชน์ ทำให้มั่นใจว่าคุณกำลังให้มากเท่ากับที่คุณได้รับจากคนอื่น [21]
    • ให้กำลังใจอีกฝ่าย ทำให้พวกเขารู้ว่าคุณเชื่อในตัวเขาและยินดีกับความสำเร็จทั้งในโรงเรียนและเป้าหมายในชีวิต [22]
  4. อย่าทำตัวติดเพื่อนเกินไปหรือคาดหวังให้พวกเขาให้เวลาและความสนใจกับคุณ พร้อมเคียงข้างเมื่อพวกเขาต้องการคุณและขยายคำเชื้อเชิญเสมอแต่อย่ารู้สึกโกรธถ้าหากพวกเขาปฏิเสธเพราะพวกเขายุ่งหรือต้องการเวลาส่วนตัวลำพัง
  5. ผู้คนมักจะมีความกลัวการเข้าหาผู้อื่นและสร้างเพื่อนใหม่ ถ้ามีใครที่ดูหน้าใหม่หรือขี้อาย คุณควรเข้าหาพวกเขาก่อนและเริ่มบทสนทนาหรือพาเดินไปดูรอบโรงเรียน
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 5:

การเข้าใจสิ่งที่กำลังฉุดรั้งคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บางคนยุ่งเกินไปที่จะใช้เวลาที่ดีกับคนอื่น หาเวลาให้กับผู้อื่นเช่นเดียวกับที่คุณหาเวลาทำสิ่งอื่น อย่าพึ่งพาคำเชื้อเชิญนาทีสุดท้าย วางแผนล่วงหน้าและยืนหยัดกับมัน [23] สิ่งนี้จะตอกย้ำว่าคุณให้ความสำคัญกับมิตรภาพ
  2. อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการออกไปหาเพื่อนใหม่คือความกลัวว่าคุณจะไม่เป็นที่ต้อนรับ พยายามอย่าคิดมากถ้าหากใครบางคนไม่ยอมรับคำเชิญของคุณ คุณคงไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับทุกคนที่คุณพบเจอเช่นกัน ลองเสี่ยงออกไปข้างนอกและเข้าสังคมและคุณจะพบใครบางคนที่เป็นเพื่อนแท้ [24]
  3. ความเชื่อมั่นในตัวเองที่ต่ำมักจะแสดงออกโดยการดูโดดเดี่ยว ไม่ชอบเข้าสังคมและสื่อสารได้ไม่ดี [27] ถ้าหากคุณเชื่อว่าผู้คนไม่ชอบคุณหรือคุณเป็นคนน่าอึดอัดและแปลกประหลาด สถานการณ์ในสังคมอาจจะดูน่ากลัวมาก ท้าทายเสียงที่เป็นลบในหัวของคุณและรับรู้ว่าคุณอาจจะกำลังกดดันตัวเองมากเกินไป
    • คนอื่นก็กังวลเกี่ยวกับตัวเองมากพอกับที่คุณกังวล พวกเขาอาจจะไม่ได้นึกถึงคุณและวิจารณ์คุณมากเท่ากับที่คุณคิดเพราะพวกเขามัวแต่ยุ่งกับตัวเอง [28]
    • อย่าจดจ่อกับความสมบูรณ์แบบ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ แค่ดีพอก็พอแล้ว [29]
    • จดจ่อกับความสำเร็จส่วนตัวแทนที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น [30]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เชื่อในตัวเอง ยิ้ม หัวเราะด้วยกันและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ถ้ามันไปไม่รอดก็ไม่ต้องเครียดและพยายามต่อไป
  • ตระหนักว่าคุณไม่สามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนได้ ถ้ามิตรภาพนี้ดูจะไปไม่รอดก็อย่าดันทุรัง ปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้ามันไปไม่รอด คุณก็ยังมีเพื่อนคนอื่น
  • พวกเขาคือเพื่อนถ้าหากคุณรู้สึกปลอดภัยเวลาที่อยู่กับพวกเขา คุณยังจะรู้สึกมั่นใจเช่นกัน ถ้าเขาเป็นเพื่อน คุณจะสามารถเชื่อใจและพวกเขาจะสามารถเชื่อใจคุณ คุณต้อง สร้างความเชื่อใจ เก็บความลับของพวกเขาและคาดหวังให้พวกเขาเก็บความลับของคุณ
  • เป็นคนใจดีและคิดบวกและห้ามโกหกเพื่อน มันจะทำลายมิตรภาพของคุณ
  • ค่อยเป็นค่อยไปเพราะมันใช้เวลาในการทำให้มิตรภาพที่ดีแข็งแกร่ง
  • ทำตามกฎเหล็ก “สิ่งที่คุณทำที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับคุณ คุณก็ไม่ควรทำกับคนอื่น”
  • มองหาความคล้ายคลึงในตัวของคนที่คุณต้องการเป็นเพื่อนด้วย ถ้าหากคุณพบว่าพวกเขามีความชอบเหมือนกับคุณ คุณก็ควรพูดกับพวกเขา
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าละทิ้งเพื่อนเก่าถ้าพวกเขาดีกับคุณ พยายามเก็บทั้งเพื่อนใหม่และเก่า ถ้าหากเพื่อนเก่ามีปัญหากับเพื่อนใหม่ของคุณ พยายามหาวิธีที่ดีที่สุด
  • อย่ากระจายข่าวซุบซิบนินทาลับหลังเพื่อน
  • อย่าละเลยเพื่อนถ้าหากคุณกำลังพูดกับคนอื่นที่คุณต้องการเป็นเพื่อนด้วย คุณสามารถพูดว่า “แป๊บนึงนะ” แล้วค่อยกลับมาพูดกับเพื่อน
โฆษณา
  1. http://mediashift.org/2007/10/how-cell-phones-are-killing-face-to-face-interactions295/
  2. http://shynesshelp.com/tipsonmeeting.html
  3. http://www.helpguide.org/articles/relationships/overcoming-loneliness-and-shyness.htm
  4. http://shynesshelp.com/tipsonmeeting.html
  5. http://www.smallfuel.com/blog/entry/how-to-introduce-yourself-to-someone-youve-never-met/
  6. พวกเขาชอบเพลงที่กำลังเล่นแบบไม่?
  7. http://www.pewinternet.org/2011/09/19/americans-and-text-messaging/
  8. http://inspiyr.com/9-benefits-of-smiling/
  9. http://www.healthguidance.org/entry/14466/1/How-to-Look-Approachable.html
  10. http://www.collegefashion.net/fashion-tips/colors-and-mood-how-the-colors-you-wear-affect-you/
  11. http://www.refinethemind.com/living-golden-rule/
  12. https://www.psychologytoday.com/blog/happiness-in-world/201002/what-makes-true-friend
  13. https://www.psychologytoday.com/blog/happiness-in-world/201002/what-makes-true-friend
  14. http://www.huffingtonpost.com/jordan-dansky/are-you-making-time-for-y_b_5939624.html
  15. http://psychcentral.com/blog/archives/2014/03/17/deconstructing-the-fear-of-rejection-what-are-we-really-afraid-of/
  16. http://www.helpguide.org/articles/relationships/overcoming-loneliness-and-shyness.htm
  17. http://www.helpguide.org/articles/relationships/overcoming-loneliness-and-shyness.htm
  18. http://www.simplypsychology.org/self-esteem.html
  19. http://www.helpguide.org/articles/relationships/overcoming-loneliness-and-shyness.htm
  20. http://www.positivityblog.com/index.php/2013/09/11/improve-self-esteem/
  21. http://www.positivityblog.com/index.php/2013/09/11/improve-self-esteem/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,010 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา