ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เลข IMEI หรือ MEID ในมือถือคือหมายเลขประจำเครื่อง โดยแต่ละเครื่องจะมีหมายเลขแตกต่างกันไป ไม่มีเครื่องไหนที่มีหมายเลขซ้ำกัน ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์อย่างมากในการตามหา กรณีที่มือถือหายหรือถูกขโมย เราสามารถหาเลข IMEI หรือ MEID ของเครื่องได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับมือถือที่ใช้ ถ้าอยากรู้ว่าทำอย่างไร ก็ลองอ่านแล้วทำตามขั้นตอนที่อยู่ข้างล่างนี้ได้เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 7:

กดรหัสในแป้นโทรศัพท์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถหาเลข IMEI/MEID ของมือถือเครื่องใดก็ได้โดยการกดรหัส “*#06#” ในแป้นโทรศัพท์ (รหัสนี้สามารถใช้ได้กับมือถือทุกเครื่อง) โดยปกติ เมื่อคุณกดรหัสเสร็จ เลข IMEI/MEID จะปรากฏขึ้นมาทันที โดยไม่จำเป็นต้องกดโทรออก [1]
  2. หน้าต่างที่แสดงเลข IMEI/MEID จะเด้งขึ้นมาเมื่อคุณกดรหัสเสร็จ ให้คุณจดเลขนั้นไว้ เนื่องจากมันไม่สามารถก็อปปี้จากหน้าจอไปวางที่อื่นได้
    • มือถือส่วนใหญ่จะบอกว่าตัวเลขที่แสดงขึ้นมาเป็นเลข IMEI หรือ MEID แต่ถ้ามือถือไม่ระบุว่าเป็นเลขอะไร คุณก็สามารถเช็คได้จากผู้ให้บริการโทรศัพท์ โดยในต่างประเทศ ผู้ใช้เครือข่าย GSM อย่าง AT&T และ T-Mobile จะใช้เลข IMEI ส่วนผู้ใช้เครือข่าย CDMA อย่าง Sprint, Verizon และ US Cellular จะใช้เลข MEID
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 7:

มือถือไอโฟน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไอโฟน 6 Plus, 6, 5c, 5s, 5 และไอโฟนรุ่นแรก จะมีเลข IMEI ระบุอยู่ด้านหลังตัวเครื่องข้างล่าง ส่วนเลข MEID นั้น ก็เป็นเลขเดียวกับเลข IMEI เพียงแต่ตัดเลขหลักสุดท้ายออก (IMEI มีเลข 15 หลัก ส่วน MEID มีเลข 14 หลัก)
    • ในต่างประเทศ ผู้ใช้เครือข่าย GSM อย่าง AT&T และ T-Mobile จะใช้เลข IMEI ส่วนผู้ใช้เครือข่าย CDMA อย่าง Sprint, Verizon และ US Cellular จะใช้เลข MEID
    • ถ้าคุณใช้ไอโฟนรุ่นที่เก่ากว่า ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง
  2. สำหรับผู้ใช้ไอโฟน 3G, 3GS, 4 และ 4s สามารถเช็คเลข IMEI ได้จากถาดใส่ซิมการ์ด โดยคุณต้องเอาถาดใส่ซิมการ์ดออกมาก่อน ซึ่งตำแหน่งของถาดก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น แต่ก็สามารถหาได้ไม่ยาก เมื่อนำถาดออกมาแล้ว คุณก็จะสังเกตเห็นเลข IMEI/MEID ระบุอยู่บนถาดดังกล่าว สำหรับผู้ใช้ในต่างประเทศ ถ้าคุณใช้เครือข่าย CDMA (Verizon, Sprint, US Cellular) มันจะระบุมาเพียงหมายเลขเดียว ดังนั้นถ้าคุณต้องการเลข MEID ก็เพียงแค่ตัดเลขหลักสุดท้ายออก
  3. แอปดังกล่าวจะอยู่ในหน้าโฮมสกรีนของไอโฟนของคุณ วิธีนี้ใช้ได้กับไอโฟนเครื่องใดก็ได้ รวมถึงไอแพดรุ่นเซลลูลาร์
  4. จากนั้นกดที่ “About” ในเมนู “General”
  5. จากนั้นเลข IMEI/MEID ของเครื่องก็จะปรากฏขึ้นมา ถ้าคุณต้องการก็อปปี้ลงคลิปบอร์ดของไอโฟน ให้คุณกดปุ่ม “IMEI/MEID” ในเมนู “About” ค้างไว้สักสองสามวินาที จากนั้นก็จะมีข้อความเด้งขึ้นมาแจ้งว่าคุณได้ก็อปปี้เลขดังกล่าวแล้ว
  6. ถ้าไม่สามารถเปิดไอโฟนได้ ให้คุณเชื่อมต่อไอโฟนกับคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วใช้โปรแกรม “iTunes” ในการหาเลข IMEI/MEID ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ [2]
    • เชื่อมต่อไอโฟนกับคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วเปิดโปรแกรม “iTunes”
    • คลิกเลือกไอโฟนของคุณจากเมนู “Device” ซึ่งอยู่ด้านมุมบนขวาของหน้าต่าง จากนั้นคลิกที่แท็บ “Summary”
    • คลิกที่รายการ “Phone Number” ซึ่งอยู่ด้านข้างรูปไอโฟนของคุณ จากนั้นมันก็จะแสดงหมายเลข ID ของเครื่องคุณขึ้นมา
    • ก็อปปี้เลข IMEI/MEID ถ้ามันแสดงขึ้นมาทั้งสองหมายเลข ให้คุณเช็คกับผู้ให้บริการโทรศัพท์ของคุณเพื่อดูว่าต้องใช้หมายเลขไหน ในต่างประเทศ ผู้ใช้เครือข่าย GSM อย่าง AT&T และ T-Mobile จะใช้เลข IMEI ส่วนผู้ใช้เครือข่าย CDMA อย่าง Sprint, Verizon และ US Cellular จะใช้เลข MEID
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 7:

มือถือแอนดรอยด์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยกดที่แอป “Settings” ซึ่งอยู่ในหน้ารวมแอป (app drawer) หรือใช้ปุ่มเมนูในมือถือของคุณก็ได้
  2. คุณอาจจะต้องเลื่อนลงไปด้านล่างของเมนู “Settings” เพื่อหารายการดังกล่าว
  3. จากนั้นเลื่อนลงไปเรื่อยๆ กระทั่งเจอรายการ “MEID” หรือ “IMEI” มือถือของคุณอาจแสดงทั้งสองหมายเลข ดังนั้นคุณต้องเช็คกับผู้ให้บริการโทรศัพท์ของคุณเพื่อดูว่าต้องใช้หมายเลขไหน ในต่างประเทศ ผู้ใช้เครือข่าย GSM อย่าง AT&T และ T-Mobile จะใช้เลข IMEI ส่วนผู้ใช้เครือข่าย CDMA อย่าง Sprint, Verizon และ US Cellular จะใช้เลข MEID
  4. คุณไม่สามารถก็อปปี้หมายเลขลงคลิปบอร์ดในเครื่องได้ ดังนั้นคุณต้องจดหรือพิมพ์มันด้วยตัวเอง
    • ในต่างประเทศ ผู้ใช้เครือข่าย GSM อย่าง AT&T และ T-Mobile จะใช้เลข IMEI ส่วนผู้ใช้เครือข่าย CDMA อย่าง Sprint, Verizon และ US Cellular จะใช้เลข MEID
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 7:

สังเกตใต้แบตเตอรี่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กดปุ่มปิดเครื่องก่อนที่จะถอดแบตเตอรี่ออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลในเครื่องสูญหาย และป้องกันไม่ให้แอปทำงานผิดปกติ เมื่อแบตถูกถอดออก
  2. วิธีนี้ใช้ได้กับมือถือที่สามารถถอดแบตได้เท่านั้น ดังนั้นไอโฟนหรือมือถือเครื่องอื่นที่ถอดแบตไม่ได้จึงไม่สามารถทำได้
  3. โดยค่อยๆ ทำอย่างระมัดระวัง โดยทั่วไปจะต้องกดแบตลงมาด้านล่างก่อนดึงออกจากเครื่อง
  4. ตำแหน่งของเลขดังกล่าวจะแตกต่างกันไปตามมือถือแต่ละรุ่น แต่ปกติเลข IMEI/MEID จะพิมพ์อยู่บนสติกเกอร์ซึ่งติดอยู่กับมือถือใต้แบตเตอรี่
    • ถ้ามือถือระบุเพียงเลข IMEI แต่คุณใช้เครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้เลข MEID ให้คุณตัดเลขหลักสุดท้ายของ IMEI ออก (MEI มีเลข 15 หลัก ส่วน MEID มีเลข 14 หลัก)
    • ในต่างประเทศ ผู้ใช้เครือข่าย GSM อย่าง AT&T และ T-Mobile จะใช้เลข IMEI ส่วนผู้ใช้เครือข่าย CDMA อย่าง Sprint, Verizon และ US Cellular จะใช้เลข MEID
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 7:

มือถือโมโตโรล่าไอเดน (Motorola iDen)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปิดหน้าที่ใช้โทรออก แล้วกดปุ่ม “#” ตามด้วย “*” จากนั้นกดปุ่ม “Menu” และปุ่มขวา ทั้งนี้ขณะที่กดปุ่ม ห้ามคุณหยุดกลางคัน เว้นแต่ต้องการเริ่มต้นใหม่
  2. สำหรับเครื่องที่มีซิมการ์ด ให้เลื่อนลงไปด้านล่าง กระทั่งเจอรายการ “IMEI/SIM ID” ให้กดปุ่ม “Enter” เสร็จแล้วคุณก็จะเห็น IMEI, SIM และอื่นๆ อย่าง MSN ทั้งนี้หมายเลขที่ปรากฏขึ้นมาจะมี 14 หลัก ส่วนหลักที่ 15 นั้นเป็นเลข 0 เสมอ
    • สำหรับเครื่องรุ่นเก่าที่ไม่มีซิมการ์ด ให้กดที่ปุ่มขวาต่อไป กระทั่งเห็น IMEI [0] ปรากฏขึ้นมา ทั้งนี้หมายเลขที่ปรากฏจะมีเพียง 7 หลักแรก ให้จดเลขดังกล่าวไว้ เนื่องจากมีเลขเพียง 7 หลักเท่านั้นที่จะแสดงขึ้นมาในส่วนนี้
    • กดที่ปุ่ม “Menu” ตามด้วยปุ่ม “Next” เพื่อไปยังหน้าที่แสดงเลขอีก 7 หลักถัดไป ส่วนเลขหลักที่ 15 หรือหลักสุดท้ายนั้นเป็นเลข 0 เสมอ [3]
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 7:

เช็คบนกล่องใส่มือถือ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ต้องสนใจเอกสารอื่นใด หาเพียงแค่กล่องก็พอแล้ว
  2. บาร์โค้ดอาจจะอยู่ตรงส่วนที่เปิดกล่องก็ได้ โดยทำหน้าที่ในการปิดผนึกกล่อง
  3. หมายเลขดังกล่าวจะถูกระบุไว้อย่างชัดเจน โดยปกติจะอยู่ที่เดียวกับบาร์โค้ดและซีเรียลนัมเบอร์ (serial number)
    โฆษณา
วิธีการ 7
วิธีการ 7 ของ 7:

ค้นหาผ่านแอคเคาท์ AT&T

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไปยังเว็บ “AT&T” แล้วล็อกอินเข้าใช้ด้วยแอคเคาท์ AT&T. ในต่างประเทศ ผู้ที่ใช้เครือข่าย AT&T สามารถเช็คเลข IMEI/MEID ได้ผ่านเว็บไซต์
  2. ลากเมาส์ไปวางบนลิงก์ “Profile” กระทั่งมีเมนูปรากฏขึ้นมา. ให้คลิกที่ “Update My Profile”
  3. จากนั้นหน้าข้อมูลของเบอร์โทรศัพท์ที่คุณใช้ก็จะเปิดขึ้นมา ถ้าคุณใช้แอคเคาท์กับมือถือหลายเครื่อง คุณสามารถสลับเปลี่ยนไปยังเบอร์มือถือเครื่องอื่นได้ตามต้องการ
  4. เลื่อนลงไปด้านล่างแล้วคลิกที่ลิงก์ “Customer Service Summary & Contract”
  5. เมื่อมีหน้าต่างเด้งขึ้นมา ให้คลิกที่ “Wireless Customer Agreement”. จากนั้นมันก็จะทำการดาวน์โหลดไฟล์ PDF
  6. คุณอาจจะจำได้ว่าเคยเห็นเอกสารนี้เมื่อตอนที่ซื้อมือถือ ให้เลื่อนลงไปด้านล่างจนถึงท้ายเอกสาร แล้วคุณก็จะสังเกตเห็นเลข IMEI
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จดเลข IMEI เครื่องของคุณไว้ ก่อนที่มือถือจะหายหรือถูกขโมย
  • ถ้ามือถือของคุณถูกขโมย คุณสามารถติดต่อหรือไปยังที่ตั้งของเครือข่ายที่ให้บริการโทรศัพท์ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดได้ แล้วบอกเลข IMEI เพื่อให้เจ้าหน้าที่บล็อกมือถือของคุณ
  • สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกา มือถือแบบพรีเพด (pre-paid) และไม่ติดสัญญา (non-contract) ส่วนใหญ่จะไม่มีเลข IMEI เช่นเดียวกับมือถือที่ใช้ครั้งเดียวในยุโรป เอเชีย และแอฟริกา
  • ถ้าคุณเป็นชาวแอฟริกาใต้ ตามกฎหมาย ในกรณีที่มือถือถูกขโมย คุณจะต้องแจ้งไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ (จะเป็น South African Police Service (SAPS) หรือตำรวจประจำท้องที่ที่คุณอยู่ก็ได้) จากนั้นมือถือก็จะถูกขึ้นแบล็คลิสต์ในทุกเครือข่าย ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ในการก่ออาชญากรรมได้ และถ้าคุณตามหามือถือคืนมาได้ มันก็จะถูกถอดออกจากแบล็คลิสต์ แต่คุณต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวเองเป็นเจ้าของจริงๆ
โฆษณา

คำเตือน

  • การบล็อกมือถือที่ถูกขโมยหรือสูญหายผ่าน IMEI นั้น จะเป็นการตัดมือถือของคุณออกจากเครือข่ายของผู้ให้บริการ ซึ่งทำให้คุณไม่สามารถตามหาผ่านจีพีเอสหรือระบุตำแหน่งมือถือผ่านสัญญาณโทรศัพท์ได้อีก วิธีนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย ในกรณีที่คุณมีข้อมูลสำคัญอยู่ในเครื่องจริงๆ
  • หัวขโมยบางรายจะนำเลข IMEI ของเครื่องอื่นมาใช้แทนเลข IMEI ของเครื่องที่ขโมยมา ดังนั้นถ้าคุณซื้อมือถือมาจากใครหรือร้านไหน คุณไม่ควรไว้วางใจมากนัก ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าเลข IMEI ของเครื่องตรงกับรุ่นของมือถือที่ซื้อมาจริงๆ

ถ้าคุณซื้อมือถือจากร้านที่ไม่น่าเชื่อถือหรือผิดกฎหมาย มือถือนั้นอาจถูกเปลี่ยนเลข IMEI ก็ได้ ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์อย่าง AT&T ไม่สามารถตามหาได้ เพราะแม้คุณจะแจ้งเลข IMEI ของเครื่องไป เพื่อให้ตามหาหรือบล็อกเครื่องก็ตาม แต่ถ้าหัวขโมยเปลี่ยนเลขดังกล่าว ผู้ให้บริการก็ไม่สามารถดำเนินการได้ และเครื่องที่ถูกขโมยไปก็ยังใช้ได้ตามปกติ

โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

แก้ไขเมื่อมือถือขึ้นข้อความเตือนว่าไม่มีซิม
ใช้งาน WeChat
กำจัดฟองอากาศบนฟิล์มกันรอย
หา PUK Code ของมือถือ
ปลดล็อคซิมโดยไม่ใช้รหัส PUK
เช็คเบอร์มือถือตัวเองจากซิม
โทรออกแบบไม่โชว์เบอร์
แก้ไขเมื่อมือถือขึ้นว่าโทรฉุกเฉินเท่านั้น
โทรเข้าเบอร์ต่อ (extension)
ค้นหา Apple Watch ที่หายไปอย่างไรเมื่อแบตเตอรี่หมด
เช็คว่ามือถือปลดล็อคเครือข่ายหรือยัง
โกงจำนวนนับก้าวในมือถือแบบไม่ต้องเดิน
หาเบอร์มือถือสำหรับใช้ชั่วคราว
เช็คผ่าน iPhone หรือ iPad ว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความของคุณหรือยัง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 18,195 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา