บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเลือกเสียงแจ้งเตือนและรูปแบบการสั่นเตือนใน iPhone ให้คุณเอง แทบจะทุกเสียงแจ้งเตือนใน iPhone นั้นเปลี่ยนเองได้ รวมถึงเสียงเตือน SMS เข้า เสียงเตือนเหตุการณ์ในปฏิทิน ไปจนถึงเสียงเตือนมี voicemail แต่ถึงจะเปลี่ยนเสียงแจ้งเตือนทั่วไปในแอพของ Apple ได้ เช่น FaceTime และ Mail แต่ถ้าเป็นแอพ third-party ใน App Store ขั้นตอนจะต่างไปหน่อย คือเลือกเสียงแจ้งเตือนในแอพที่ไม่ใช่ของ Apple เองไม่ได้ แต่จะ ปิด/เปิด เสียงแจ้งเตือนได้
ขั้นตอน
-
เปิดแอพ Settings ใน iPhone . เป็นไอคอนฟันเฟืองสีเทาในหน้า home ถ้าไม่เจอ ให้พิมพ์ค้นหา หรือถาม Siri
-
แตะ Sounds & Haptics . ที่เป็นตัวเลือกในเมนู จะอยู่กลุ่มที่ 2 ของ settings
- ใน iPhone รุ่นเก่าๆ จะเป็นตัวเลือก Sounds
-
เลื่อนลงไปที่หัวข้อ "Sounds and Vibration Patterns". จะเห็นรายชื่อเสียงแจ้งเตือนต่างๆ ของ iPhone
-
แตะเลือกประเภทการแจ้งเตือนที่จะเปลี่ยน. เช่น ถ้าจะเปลี่ยนเสียงแจ้งเตือนเวลา SMS เข้า ก็ให้แตะ Text Tone
-
แตะ Vibration เพื่อเลือกรูปแบบการสั่น. ปกติจะเลือก Synchronized ไว้แต่แรก คือสั่นนานเท่าที่เสียงแจ้งเตือนดัง แต่จะเลือกรูปแบบการสั่นที่แตกต่างออกไปจากนี้ก็ได้
- แตะผ่านรูปแบบการสั่นไปเรื่อยๆ จนเจอที่ชอบ ปกติจะเลือกรูปแบบการสั่นของแต่ละประเภทการแจ้งเตือนได้เลย
- ถ้าอยากสร้างรูปแบบการสั่นเอง ให้เลื่อนไปที่ด้านล่าง แล้วเลือก Create New Vibration [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง จากนั้นแตะกำหนดรูปแบบเองได้เลย!
- ถ้าไม่อยากให้มือถือสั่นเลย ตอนมีแจ้งเตือนประเภทนั้นๆ ก็แตะ None ที่ด้านล่างของรายการได้เลย
- เสร็จแล้วแตะปุ่ม back เพื่อกลับไปที่ Sounds & Haptics
-
เลื่อนลงไปเลือกเสียงแจ้งเตือน. ปกติจะมีตัวเลือกเสียง 2 กลุ่มด้วยกัน คือ Ringtones กับ Alert Tones โดย Ringtones จะยาวกว่า เหมาะกับเป็นเสียงเรียกเข้า ส่วน alert tones จะสั้นกว่า เหมาะจะเป็นเสียงแจ้งเตือน
- แตะผ่านเสียงต่างๆ ไป จนเจอเสียงที่ต้องการ หรือจะปิด (disable) เสียงของแจ้งเตือนประเภทนั้นก็ได้ โดยแตะ None ทางด้านบน
- ถ้าชอบเสียงแจ้งเตือนแบบสมัยก่อน ให้แตะ Classic ทางด้านล่างของหัวข้อ Alert Tones แล้วจะมีเสียงแบบเก่าๆ ให้เลือกใช้
- หรือดาวน์โหลดเสียงแจ้งเตือนใหม่ๆ ก็ได้ โดยแตะลิงค์ Tone Store ทางด้านบนของหน้า จะเป็นเสียงแจ้งเตือนราคาไม่แพง (ประมาณ 30 - 60 บาท) จ่ายด้วยบัตรของขวัญของ iTunes ได้เลย
-
ปรับแต่งเสียงและการสั่นอื่นๆ ตามต้องการ. คุณปรับแต่งเสียงแจ้งเตือนได้ตามใจชอบเลย!
- ถ้าจะเพิ่ม-ลด volume ของเสียงแจ้งเตือนหรือเสียงเรียกเข้า ให้ลากแถบเลื่อน "Ringer and Alerts" ด้านบนของหน้า Sounds & Haptics โดยจะมีแถบเลื่อนเดียว ใช้เพิ่ม-ลดความดังของเสียงแจ้งเตือนทั้งหมด
- จะเปิดเสียงเวลาพิมพ์คีย์บอร์ด รวมถึงเสียงล็อคเครื่อง และ haptic feedback (สั่นเวลาแตะบางตัวเลือกของแอพ) ด้วยก็ได้ ทางด้านล่างของหัวข้อนี้
โฆษณา
-
เปิดแอพ Settings ใน iPhone . เป็นไอคอนฟันเฟืองสีเทาในหน้า home ถ้าไม่เจอ ให้ค้นหาเอง หรือถาม Siri
-
แตะ Notifications . ทางด้านบนของตัวเลือกกลุ่มที่ 2 แล้วจะเห็น notification settings ของทุกแอพใน iPhone
- แอพส่วนใหญ่ของ iPhone จะไม่มีให้ตั้งเสียงแจ้งเตือนเฉพาะ ส่วนแอพอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของ Apple ก็จะใช้เสียงแจ้งเตือนหลักของ iPhone ถ้าแอพไหนมีเสียงแจ้งเตือนเฉพาะ ก็มักจะเปลี่ยนไม่ได้ เลยทำให้กำหนดเสียงแจ้งเตือนเองไม่ได้ ถ้าไม่ใช่แอพของ Apple
-
แตะแอพที่จะเปลี่ยนเสียงแจ้งเตือน. บางแอพที่เลือกเสียงแจ้งเตือนเองได้ ก็เช่น FaceTime , Mail และ Messages ถ้าแอพไหนไม่มีให้เปลี่ยนเสียงแจ้งเตือน ก็จะมีให้ปิดและเปิดเสียงแจ้งเตือนแทน
-
เปิดหรือปิดเสียง (แอพที่ไม่ใช่ของ Apple). ถ้าแอพนั้นๆ มีเสียงแจ้งเตือน จะมีแถบ "Sounds" ถ้าแถบนี้เป็นสีเขียว แสดงว่าแอพจะส่งเสียงเวลามีแจ้งเตือน โดยเป็นเสียงที่มีในแอพ หรือเสียงแจ้งเตือนหลักของ iPhone ถ้าแถบนี้สีขาว แสดงว่าปิดเสียงไว้ ก็แตะแถบหรือสวิตช์นี้เพื่อปิด-เปิดเสียงได้ตามต้องการ
-
แตะ Sounds (แอพของ Apple). ถ้าเป็น FaceTime, Messages หรือแอพอื่นๆ ของ Apple ที่ให้ปรับแต่งเสียงแจ้งเตือนได้ ตัวเลือกเมนูจะมีเสียงต่างๆ ให้เลือกใช้
-
แตะ Vibration เพื่อเลือกรูปแบบการสั่น (ไม่บังคับ). ตามค่า default มือถือจะสั่นพร้อมเสียงแจ้งเตือนที่เลือกไว้ ถ้าจะเปลี่ยนรูปแบบการสั่น หรือปิดสั่น เวลาแจ้งเตือนประเภทนั้นๆ ก็ทำตรงนี้ได้เลย
- แตะผ่านรูปแบบการสั่นไปเรื่อยๆ จนเจอรูปแบบที่ต้องการ
- หรือกำหนดรูปแบบการสั่นเองทั้งหมด โดยเลื่อนไปที่ด้านล่าง แล้วเลือก Create New Vibration
- ถ้าจะปิดการสั่นของแอพนั้น ให้แตะ None ทางด้านล่าง
- แตะปุ่ม back เพื่อกลับไปยังเมนูก่อนหน้า หลังดูหรือปรับเปลี่ยนอะไรเสร็จแล้ว
-
เลือกเสียงเรียกเข้าหรือเสียงแจ้งเตือน. เสียงที่มีให้เลือก จะแบ่งเป็น 2 หัวข้อด้วยกัน คือ Ringtones และ Alert Tones โดย Ringtones จะยาวกว่า เหมาะกับแอพอย่าง FaceTime ถ้าเป็นเสียงของแอพ Mail หรือ Messages ก็เลือกเสียงได้ในหัวข้อ Alert Tones พอเจอเสียงที่ใช่ ก็แตะเพื่อเลือกได้เลย
- แตะผ่านเสียงต่างๆ ไปเรื่อยๆ จนเจอเสียงที่ต้องการ
- ถ้าอยากได้เสียงเตือนแบบเก่า ให้แตะ Classic ด้านล่างของ Alert Tones หรือ Ringtones จะมีเสียงของ iPhone รุ่นเก่าๆ ให้เลือก
- หรือดาวน์โหลดเสียงเตือนใหม่ๆ ได้โดยแตะลิงค์ Tone Store ด้านบนของหน้า ราคาไม่แพงเลย (ประมาณ 30 - 60 บาท) จ่ายด้วยบัตรของขวัญ iTunes ได้ด้วย
- ถ้าจะเพิ่ม-ลด volume ของเสียงเตือนและเสียงเรียกเข้า ให้เลื่อนแถบ "Ringer and Alerts" ด้านบนของหน้า Sounds & Haptics
-
ปรับ volume และ preferences อื่นๆ (ไม่บังคับ). เสียงแจ้งเตือนของแอพตามที่คุณเลือกไว้ จะดังพอๆ กับเสียงเรียกเข้า และเสียงเตือน SMS (ถ้าเปิดไว้) ถ้าอยากเช็ค sound preferences ทั่วไป ให้แตะปุ่ม back เพื่อกลับไปเมนู Settings แล้วเลือก Sounds & Haptics (หรือบางรุ่นเป็น Sounds )
- ลากแถบ "Ringers and Alerts" ปรับแต่ง volume ตามต้องการได้เลย
- จะเปิดเสียงเวลาพิมพ์คีย์บอร์ด เสียงล็อคเครื่อง และ haptic feedback (สั่นตอนแตะแอพ) ด้วยก็ได้ ทำได้ที่ด้านล่างของหัวข้อนี้ แต่ iPhone บางรุ่นก็ไม่มีฟีเจอร์นี้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- เสียงปลุก (alarm clock) จะแยกจากเสียงแจ้งเตือน (notification) ถ้าจะเปลี่ยนเสียงปลุก ต้องไปเปลี่ยนในแอพ Clock แทน
- ถ้าเปิด silent mode ไว้ใน iPhone จะไม่มีเสียงแจ้งเตือน มีแต่เสียงปลุกเท่านั้น [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา