ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

นกค๊อกคาเทล เป็นหนึ่งในสายพันธุ์นกตัวเล็กในตระกูลนกแก้ว และมันยังเป็นนกที่ทั้งน่ารักและหัวไวอีกด้วย นกค๊อกคาเทลเป็นสัตว์สังคมที่จะชอบเลียนเสียงของคุณ และวิ่งดุ๊กดิ๊กไปมาตั้งแต่นิ้วมือไปจนถึงไหล่ของคุณ บทความนี้จะบอกถึงวิธีการเลี้ยงดูนกค๊อกคาเทลให้มีความสุขและสุขภาพดีไปเลยล่ะ!

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ซื้อวัสดุอุปกรณ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูว่านกค๊อกคาเทลเหมาะที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณแล้วหรือไม่. นกค๊อกคาเทลเป็นสัตว์ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ทุกวัน และอาจส่งเสียงดัง ทำข้าวของเลอะเทอะได้ ถ้าหากว่าดูแลมันดีๆ นกชนิดนี้ก็อยู่กับคุณได้มากกว่า 20 ปีอีกนะ! ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อนกค๊อกคาเทลมา คุณควรอ่านคำถามเหล่านี้แล้วตัดสินใจเสียก่อน (รวมถึงให้คนที่อาศัยอยู่กับคุณตัดสินใจร่วมกันนะ):
    • เรามีเงินพร้อมจ่ายเท่าไรนะ? ขณะที่นกค๊อกคาเทลอาจราคาไม่สูงมากนัก แต่มันก็ต้องการกรงขนาดที่เหมาะสม ของเล่นอีกมากมาย รวมถึงของตกแต่งอื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ คุณยังต้องพาเจ้านกค๊อกคาเทลไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายประจำปีอีกด้วย
    • เรามีเวลาที่จะให้เจ้านกค๊อกคาเทลของเราแค่ไหนกันนะ? ยกเว้นว่าจะมีใครอยู่บ้านทั้งวัน นกค๊อกคาเทลที่อาศัยอยู่เพียงตัวเดียวจะขี้เหงา ถ้าเลี้ยงคู่กันก็จะต้องการการเอาใจใส่น้อยลง แต่ก็ยังต้องดูแลเอาใจใส่ให้ดีในทุกๆ วันอยู่ดี
    • เราเป็นคนไม่ชอบเสียงดังกับของรกๆ หรือเปล่านะ? แม้ว่านกค๊อกคาเทลจะไม่ส่งเสียงดังอะไรขนาดนั้น แต่มันอาจร้องเพลงในตอนเช้าและช่วงบ่ายๆ และยังทำให้ของกระจัดกระจายอีกด้วย ถ้าคุณเป็นคนรักความสะอาด เรียบร้อยมากๆ หรือไม่ชอบที่จะต้องตื่นเช้า นกค๊อกคาเทลก็อาจไม่เหมาะกับคุณเท่าไรนัก
    • เราเตรียมความพร้อมในการที่จะเลี้ยงสัตว์มานานเท่าไรกันแล้วนะ? เพราะนกค๊อกคาเทลมีอายุขัยมากกว่ายี่สิบปี ขอให้ตัดสินใจดีๆ ก่อนที่จะซื้อมันมา ถ้าเกิดว่าคุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ควรหาคนมาเลี้ยงนกค๊อกคาเทลแทนก่อน ในขณะที่คุณไม่สามารถเอามันไปโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยได้
  2. กรงควรมีความสูงอย่างน้อย 2 ฟุต (0.6 เมตร) กว้าง 20 นิ้ว และลึก 18 นิ้ว แต่กรงที่ใหญ่กว่านี้ก็ใช้ได้เช่นกัน กรงควรมีซี่กรงที่ห่างกันไม่เกิน ¾ นิ้ว ควรใช้กรงสแตนเลส เพราะสังกะสีและตะกั่วนั้นเป็นพิษต่อนก กรงนกควรได้รับการยืนยันว่าไม่มีส่วนผสมของวัสดุเหล่านั้นผสมอยู่ นอกจากนี้ เพราะนกค๊อกคาเทลชอบปีนเล่นไปมารอบๆ กรง กรงจึงควรมีคอนเอาไว้เกาะอย่างน้อยสักอันหนึ่ง [1]
  3. นกค๊อกคาเทลก็เหมือนกับนกเลี้ยงชนิดอื่น ที่ต้องการของเล่นเพื่อความบันเทิงในกรง คุณจะต้องซื้อของดังต่อไปนี้ [2] :
    • ชามใส่อาหารสองชาม และชามใส่น้ำหนึ่งชาม คุณต้องแยกระหว่างชามใส่อาหารเปียกและอาหารแห่ง (อาหารเปียกก็อย่างเช่นผลไม้ ถั่วต้ม เป็นต้น)
    • ที่รองใต้กรง เพื่อรองเมล็ดพืชที่ตกลงมา
    • คอนจำนวนมากไว้ใส่ในกรง นกค๊อกคาเทลนั้นชอบปีนป่ายและเล่นไปทั่ว ฉะนั้นการที่มีคอนมากๆ ก็จะทำให้นกค๊อกคาเทลเริงร่าเป็นพิเศษ คุณจะเห็นว่านกค๊อกคาเทลจะเลือกคอนหนึ่งอันเป็นบ้านหลักของมัน (คอนที่เอาไว้เกาะนอนนั่นเอง)
    • ของเล่นให้นกค๊อกคาเทลได้เล่น ซื้อของเล่นมาหลายๆ แบบแล้วเวียนเปลี่ยนทุกอาทิตย์ เพื่อไม่ให้นกของคุณเกิดอาการเบื่อ นกค๊อกคาเทลชอบที่จะเคี้ยว ฉะนั้นของเล่นอย่างบอลที่ทำจากกิ่งไม้ (Twig ball) หรือช่อปาล์มแห้งๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ
  4. แม้ว่ามันอาจไม่จำเป็น แต่การซื้อวัสดุสำหรับทำความสะอาด เช่น ที่ตักมูล หรือเครื่องดูดฝุ่นขนาดพกพาก็ถือเป็นความคิดที่ดี คุณอาจอยากซื้อกระดองปลาหมึกเพื่อเสริมแคลเซียมให้มันด้วยก็ได้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญต่อนกค๊อกคาเทลตัวเมียที่กำลังมีปัญหาไข่ติดค้างด้วย (นกตัวเมียจะวางไข่โดยไม่ได้มีการผสมพันธุ์จากตัวผู้ ไข่จึงไม่ปฏิสนธิ)
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การซื้อและฝึกนกค๊อกคาเทล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เรียนรู้เกี่ยวกับนกค๊อกคาเทลให้มากยิ่งขึ้น. ก่อนที่จะซื้อมันมาสักตัว การศึกษาเกี่ยวกับนกค๊อกคาเทล และวิธีดูแลมันถือเป็นสิ่งจำเป็นมาก ซึ่งบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีดูแลพื้นฐาน คุณควรต้องศึกษาในเชิงลึกต่อเอง แหล่งสืบค้นที่ดีนั้นก็มีทั้งในอินเทอร์เน็ต ห้องสมุดใกล้ๆ บ้าน และร้านขายสัตว์เลี้ยง ที่จะมีหนังสือและสื่ออื่นๆ ที่บอกเกี่ยวกับการดูแลนกค๊อกคาเทล นอกจากนี้ การมีปฏิสัมพันธ์กับนกค๊อกคาเทลก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราแนะนำ พอๆ กับการพูดคุยกับผู้ที่เลี้ยงนกค๊อกคาเทลคนอื่นถึงประสบการณ์การเลี้ยงนกของพวกเขา
  2. คุณอาจอยากซื้อนกค๊อกคาเทลที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้ ขอแนะนำว่าไม่ควรซื้อจากร้านขายสัตว์เลี้ยง เพราะตามร้านขายสัตว์เลี้ยง นกราคาถูกๆ อาจสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง และไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร (ซึ่งทำให้การฝึกเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น) คุณสามารถซื้อลูกนกแบเบาะจากร้านขายนกที่น่าเชื่อถือหรือจากคนที่เพาะพันธุ์นกก็ได้ ควรซื้อนกค๊อกคาเทลที่มีอายุสามเดือนหรือมากกว่านั้นเล็กน้อย มือใหม่ในการเลี้ยงนกไม่ควร ป้อนอาหารนกค๊อกคาเทลแบเบาะด้วยมือเอง
    • ซื้อนกค๊อกคาเทลจากศูนย์อนุบาลสัตว์ ก่อนที่จะลองหาซื้อนกเลี้ยง ไปรับหาเลี้ยงนกน่าจะดีกว่า ถึงนกค๊อกคาเทลหลายตัวที่อยู่ในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี แต่การไปรับเลี้ยงจากศูนย์อาจไม่เหมาะกับผู้เลี้ยงมือใหม่ เพราะนกค๊อกคาเทลเหล่านั้นอาจสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง และมีปัญหาเรื่องนิสัยอยู่บ้าง
    • ซื้อนกค๊อกคาเทลจากผู้เลี้ยงก่อนหน้านี้ ในบางครั้ง ก็ต้องมีการส่งต่อสัตว์เลี้ยงเกิดขึ้นบ้างในบางเหตุผล ตราบใดที่คุณมั่นใจว่าผู้เลี้ยงคนเก่าไม่ได้หาบ้านให้มันใหม่เพราะเรื่องของนิสัย และคุณก็ได้ตรวจสอบประวัติสุขภาพมันเรียบร้อยแล้ว ก็ถือเป็นวิธีที่ดีในการซื้อนกค๊อกคาเทลต่อมา โดยเฉพาะกับผู้เลี้ยงมือใหม่
  3. ถ้านกค๊อกคาเทลที่ได้มานั้นผ่านการฝึกเรียบร้อยแล้ว จะผ่านขั้นตอนนี้ไปเลยก็ได้ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการฝึกนกค๊อกคาเทล คือการทำให้มันชินกับที่อยู่ของคุณ เมื่อนำนกกลับมาที่บ้านแล้ว ให้วางกรงไว้ในที่ที่คนจะชอบมาอยู่ทำกิจกรรมตรงนั้นบ่อยๆ นั่งข้างๆ กรงมันทุกวันแล้วพูดหรือผิวปากเบาๆ สัก 10 นาที มันจะช่วยให้นกของคุณชินกับเสียงและความเป็นอยู่ของคุณได้ [3]
    • เมื่อนกมาอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของกรงฝั่งที่คุณชอบนั่งอยู่ และดูปกติไม่ตื่นกลัวเมื่อคุณอยู่ตรงนั้น ให้เริ่มให้รางวัลมัน (ไปดูที่ขั้นตอนแรกของส่วนต่อไปว่าควรให้รางวัลเป็นอะไรบ้าง) หลังจากที่ทำแบบนั้นไปประมาณสัปดาห์หนึ่ง ให้เปิดกรงแล้วถือรางวัลไว้ เป็นการเตรียมให้นกมาอยู่ใกล้ๆ กับประตูกรง ขั้นตอนต่อมา ให้วางอาหารไว้บนมือ แล้วปล่อยให้นกเข้ามาจิกกินอาหารจากฝ่ามือขิงคุณ
  4. หลังจากที่ฝึกให้นกค๊อกคาเทลให้มากินอาหารจากมือได้แล้ว ก็ควรฝึกให้มันขึ้นมาบนมือคุณ การฝึกนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีนกที่ชอบจิกนู่นกัดนี่หรือเป็นประเภทน่ารักเป็นมิตร ห้ามบังคับจับให้นกค๊อกคาเทลขึ้นมาบนมือเด็ดขาด เพราะนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณถูกจิกได้ [4]
    • ถ้าคุณมีนกที่ชอบจิกชอบกัด: ให้ขยับนิ้วอย่างรวดเร็วและไหลลื่นผ่านบนขาของมัน เหมือนตอนที่คุณลากนิ้วผ่านเปลียวไฟจากเทียนไขอย่างไรอย่างนั้น นกของคุณจะขึ้นมาบนนิ้วเอง จากนั้นให้รางวัลและชมมันทันทีหลังจากที่มันขึ้นมา แต่ถ้านกของคุณก้มลงมาจิกอย่างรุนแรง ให้หยุดแล้วค่อยลองทำใหม่อีกครั้ง
    • ถ้าคุณมีนกที่ไม่ค่อยชอบจิก: ให้วางนิ้วไว้แถวๆ ช่วงท้องตรงหว่างขา แล้วค่อยๆ กดลงไปเบาๆ มันมักจะไต่ขึ้นมาบนนิ้วเองทันที เมื่อมันขึ้นมาแล้ว ให้รางวัลแล้วเอ่ยชมมัน เมื่อฝึกครั้งต่อให้พูดคำว่า “ขึ้นมา” ตอนที่กดลงไปด้วย แล้วมันจะเชื่อมโยงคำนี้กับการที่ให้’ขึ้นมา’เองในที่สุด
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การดูแลนกค๊อกคาเทล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้เวลามันเมื่อนำนกค๊อกคาเทลมาไว้ที่บ้านในวันแรก. ถ้านกค๊อกคาเทลที่ได้มาเป็นนกที่ยังเล็กอยู่และผ่านการป้อนอาหารด้วยมือมาแล้ว อาจใช้เวลาน้อยหน่อย สักสองสามชั่วโมง ส่วนนกอายุน้อยที่ไม่ค่อยเข้าสังคม อาจต้องใช้เวลาประมาณสองสามวันในการทำความคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ขณะที่อยู่ในช่วงเวลาปรับตัว ห้ามอุ้มนกขึ้นมาเด็ดขาด แต่ยังสามารถทำความสะอาด ให้อาหาร และพูดคุยอย่างอ่อนโยนกับมันได้นะ
  2. มูลของนกค๊อกคาเทลควรมาจากอาหารของมันประมาณ 70% เมล็ดพืชถือเป็นรางวัลที่ดีที่จะให้มัน แต่อย่าให้มากเกินไปเพราะมันอุดมไปด้วยไขมัน คุณควรให้ผักหรือไม่ก็ผลไม้ด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีของนกค๊อกคาเทล ถั่วต้มและเส้นสปาเกตตี้เป็นของอร่อยเหมาะแก่การเป็นรางวัลให้กับมัน เมื่อคุณจะเลือกผลไม้และผักที่จะให้มัน ให้เลือกแบบปลอดสารพิษจะดีที่สุด และคุณต้องล้างผลไม้และผักดิบๆ เหล่านั้นให้สะอาดก่อนที่จะให้นกของคุณด้วยล่ะ
    • ห้าม ให้อโวคาโด [5] ช็อกโกแลต เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หัวหอม เห็ด ใบมะเขือเทศ คาเฟอีน หรือถั่วที่ยังไม่สุกกับนกค๊อกคาเทลเป็นอันขาด เพราะมันถือเป็นพิษ และอาหารที่มีน้ำตาลหรือไขมันมากเกินไปอย่างพวกขนมหวานก็ไม่ดีต่อสุขภาพของนกค๊อกคาเทลเท่าไรนัก
    • นำอาหารสดที่นกไม่กินภายในเวลาประมาณสี่ชั่วโมงออกมาด้วย เพราะมันอาจดึงดูดแบคทีเรียเข้ามาได้ (รวมถึงยังสกปรกอีกด้วย)
  3. ดูให้แน่ใจว่านกค๊อกคาเทลได้รับน้ำสะอาดตลอดเวลา. คุณควรเปลี่ยนน้ำให้มันทุกวัน จะเปลี่ยนให้ตอนที่เห็นว่ามีอาหารตกลงไปในน้ำก็ได้ และควรให้น้ำดื่มแบบที่คุณดื่มกับนก [6]
    • ตอนที่ทำความสะอาดชามใส่น้ำ ให้ใช้น้ำร้อนกับสบู่เล็กน้อย จากนั้นล้างให้สะอาดเพื่อกำจัดคราบสบู่ การทำเช่นนี้จะช่วยให้มั่นใจว่าพวกราและสาหร่ายที่ไม่ดีจะไม่เจริญเติบโตขึ้นมา
  4. ถ้านกค๊อกคาเทลผ่านการฝึกมาแล้ว (หรือคุณฝึกมันเรียบร้อยแล้ว โดยดูที่ส่วนที่สอง) คุณควรใช้เวลากับมันอย่างน้อยวันละชั่วโมงในการทำให้มันเชื่องและเป็นมิตร โดยควรใช้เก้าอี้ที่คลุมผ้าขนหนูหรือเล่นกับมันในห้องที่ง่ายต่อการทำความสะอาด เว้นแต่ว่าคุณจะซื้อ"ผ้าอ้อม"สำหรับนกมาแล้ว
  5. เข้าใจว่าบางทีนกค๊อกคาเทลอาจมีจิกมีกัดบ้าง. คุณอาจรู้สึกเจ็บหรือหงุดหงิดเมื่อมันกัดคุณ แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ว่าที่นกมันจิกก็เพราะเป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดของมัน ไม่ใช่ว่ามันนิสัยไม่ดีหรืออะไร นกจะจิกบ่อยเป็นพิเศษตอนที่มันรู้สึกกลัวหรือหงุดหงิด และคุณก็ไม่ได้ถูกมันจิกเพียงคนเดียว ลองนึกดูว่าคุณทำอะไรตอนที่มันจิกคุณ และลองมองในมุมของมันดู ตัวอย่างเช่น นกค๊อกคาเทลอาจจิกคุณตอนที่คุณจะพยายามจะคว้าตัวมันไว้ หรือตอนที่คุณอุ้มมันไว้ด้วยความสะเพร่า ไม่ระมัดระวัง นอกจากนี้นกค๊อกคาเทลหลายตัวยังหวงถิ่น และปกป้องกรงของมันเอาไว้ ซึ่งอาจก้าวร้าวขึ้นมาได้เมื่อคุณพยายามจะยื่นมือเข้าไปในกรงของมัน
    • ถ้านกค๊อกคาเทลจิกคุณขณะอยู่นอกกรง ส่งมันกลับเข้าไป และรอให้มันใจเย็นก่อนจะพาออกมาอีกครั้ง
    • ถ้านกค๊อกคาเทลของคุณเป็นพวกหวงกรง แทนที่คุณจะยื่นมือเข้าไปในกรง ให้ฝึกให้มันกระโดดขึ้นมาบนไม้หรือคอนแทน วิธีนี้จะทำให้มันกระโดดขึ้นบนคอนตอนที่คุณอยากจะพามันออกมานอกกรงนั่นเอง
  6. ขณะที่นกตัวผู้นั้นเก่งเรื่องการพูดและผิวปาก แต่ตัวเมียก็สามารถเรียนรู้การผิวปากและเรียนรู้คำบางคำได้ในบางโอกาสเช่นกัน เราแนะนำให้คุณสอนให้นกค๊อกคาเทลรู้จักที่จะพูดก่อนที่จะผิวปาก ถ้าสลับกันมันอาจทำให้สอนยากขึ้นก็ได้ ในการสอนให้นกค๊อกคาเทลพูดนั้น ให้พูดกับมันบ่อยๆ และพูดคำที่คุณต้องการให้นกค๊อกคาเทลพูดเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น พูดคำว่า "แม่จ๋า!" ทุกครั้งที่คุณเข้าหานกค๊อกคาเทล เมื่อคุณได้ยินมันพูดคำหรือวลีใดๆ ขึ้นมา ให้รีบให้รางวัลและความสนใจกับมันในทันทีเลยนะ
    • การสอนให้นกค๊อกคาเทลผิวปากก็มีลักษณะที่คล้ายกัน คือให้ผิวปากต่อหน้ามันบ่อยๆ และให้รางวัลมันเมื่อมันเริ่มผิวปาก
  7. เพราะนกค๊อกคาเทลมักจะเก็บอาการไว้จนรู้สึกแย่จริงๆ คุณจึงควรสังเกตถึงสัญญาณของอาการป่วยของมัน นกค๊อกคาเทลที่ป่วยหนักจะนอนขดขนฟูอยู่บริเวณล่างกรง นกค๊อกคาเทลที่มีเลือดออกก็จะย่อมมีแผลอย่างเห็นได้ชัด สัญญาณอาการป่วยของมันมีดังต่อไปนี้:
    • กระตือรือร้นเกินเหตุหรือชอบจิกชอบกัด นอนพักบ่อยเกินกว่าปกติ น้ำหนักลด หรือไม่ค่อยกินอาหาร ไม่ดื่มน้ำ ไอ จาม หรือหายใจติดขัด ดูอ่อนแอ เกิดรอยปูดบวม ดวงตาอักเสบหรือมีขี้ตา รูจมูกอักเสบหรือมีคราบสกปรกเกาะ ตาเป็นฝ้า มีมูลเกาะที่ขนนกบริเวณทวาร คอตก ปีกตก หรือหางตก
  8. คุณควรพานกค๊อกคาเทลไปหาสัตวแพทย์รักษานกเพื่อทำการ"ตรวจสุขภาพ"ประจำปี นอกจากนี้ยังควรติดต่อกับสัตวแพทย์เมื่อมันส่งสัญญาณดังที่กล่าวไว้ข้างต้น จำไว้ว่าถึงค่ารักษาอาจแพงไปหน่อย แต่นกมักจะอาการแย่ลงได้เร็ว ฉะนั้นการ"รอดูอาการก่อน"จึงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะนกค๊อกคาเทลถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่บอบบาง
  9. ระวังอาการสะดุ้งตกใจในตอนกลางคืนของนกค๊อกคาเทล. นกค๊อกคาเทลบางตัวไม่ชอบความมืด และอาจมีอาการ"สะดุ้งตอนกลางคืน"ขณะที่อยู่ในกรง ในการป้องกันไม่ให้เกิดอะไรแบบนี้ขึ้น ให้เปิดโคมไฟสำหรับตอนกลางคืนเอาไว้ในห้องที่นกค๊อกคาเทลนอนอยู่ และอย่าคลุมกรงทั้งกรงในตอนกลางคืน
    • เมื่อคุณรู้แล้วว่านกค๊อกคาเทลเลือกคอนไหนเอาไว้เกาะนอนบ่อยที่สุด ต้องดูว่าไม่มีของเล่นแขวนอยู่บนคอนนั้น ถ้านกเกิดอาการสะดุ้งตกใจในเวลากลางคืนแล้วเผลอพันแข้งพันขากับของเล่นเข้า อาจทำให้เกิดแผลใหญ่ขึ้นได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • มอบความอ่อนโยนให้นกตัวน้อย เพราะนกค๊อกคาเทลนั้นบอบบางและเจ็บตัวง่ายมาก
  • เลี้ยงนกไปไว้ใกล้ๆ หน้าต่าง (แต่อย่าไว้ตรงกับหน้าต่างโดยตรง) คุณไม่ควรเลี้ยงมันไว้ในห้องใต้ดินหรือห้องมืดๆ มันอาจทำให้นกซึมเศร้าและเกิดปัญหาด้านลักษณะนิสัยเอาได้ เช่น จิกขนตัวเองทิ้ง
  • ร้องเพลงให้มันฟังเพื่อที่มันจะได้คุ้นชินกับเสียงของคุณ
  • นกค๊อกคาเทลต้องการการเอาใจใส่ทุกวัน ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องทำงานทั้งวัน ก็ควรตัดสินใจซื้อนกค๊อกคาเทลมาเป็นคู่ เพื่อที่มันจะได้อยู่ด้วยกันเอง
  • ในวันที่อากาศร้อนมากๆ ให้ใส่น้ำแข็งลงไปในชามใส่น้ำของมันด้วยนะ
  • ห้ามทำการผสมพันธุ์มันเด็ดขาดถ้าคุณไม่รู้วิธี มันอาจทำให้นกคุณตายได้เลย!
  • ถ้าคุณอยากให้นกคุ้นชินกับคนมากขึ้น อย่าเลี้ยงมันไว้ในกรงที่มีนกตัวอื่น เพราะมันจะสนใจนกตัวอื่นในกรงเดียวกันแทนที่จะสนใจมนุษย์
  • ในการป้องกันไม่ให้นกทำร้ายตัวเองด้วยการบินไปชนพัดลมเพดาน ไปโดนน้ำร้อนในครัว ไปชนหน้าต่าง หรืออื่นๆ คุณควรตัดปีกมันซะ โดยขอให้ผู้เลี้ยงนกที่มีความเชี่ยวชาญหรือสัตวแพทย์ทำให้ดูจนคุณรู้แล้วค่อยมาทำเองได้
  • ซื้อนกค๊อกคาเทลอีกตัวมาทำให้มันหายเหงา ยกเว้นว่าคุณจะมีเวลาให้มันมากพอ
  • นกค๊อกคาเทลชอบที่จะฟังมนุษย์และมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ ซึ่งถ้าคุณสามารถมาทำงานหรือมาที่ห้องที่เลี้ยงมันได้บ่อยๆ มันจะชอบมากๆ เลยล่ะ
  • เมื่อคุณเห็นนกของคุณยืนอยู่มุมใดมุมหนึ่งของกรง บางทีอาจเป็นเพราะว่ามันไม่คุ้นชินกับสิ่งแวดล้อมภายนอก นั่นหมายความว่าคุณควรปล่อยให้มันอยู่ในกรงอีกสัก 3 หรือ 4 วัน และรอจนกว่านกจะร้องออกมาหรือมีทีท่ากระตือรือร้นกว่าก่อนอย่างแน่ชัด
  • ให้แน่ใจว่าคุณได้ให้อาหารนกค๊อกคาเทลในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว วันหนึ่งควรให้สักสองช้อนโต๊ะต่อนกแต่ละตัว ถ้าคุณให้อาหารน้อยไปมันก็จะหิว ถ้าให้มากไปแล้วนกของคุณอาจไม่กิน ก็เสียของอีก!
โฆษณา

คำเตือน

  • นกค๊อกคาเทลชอบเล่นกับกระจกและของที่มีแสงประกายแวววาว อย่างไรก็ตาม อย่าใส่กระจกเข้าไปในกรง มันจะเห็นเงาสะท้อนของตัวเองเป็นนกตัวอื่น และอาจรู้สึกผิดหวังเมื่อเงาสะท้อนไม่ตอบสนองอย่างที่หวังไว้ ก็ยังดีถ้าเอาไว้ส่องตอนถึงเวลาเล่น แต่ถ้าปล่อยให้นกค๊อกคาเทลได้ส่องกระจกทั้งวัน อาจทำให้มันกังวลและสติแตกไปเลยก็ได้
  • ห้ามเปิด พัดลมเพดานขณะที่ปล่อยนกไว้นอกกรง เพราะมันอาจบินไปชนใบพัดที่หมุนอยู่และตายได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 134,903 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา