ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีเบื้องต้นในการเล่นหรือ "แก้" รูบิค (Rubik's cube) เป็นวิธีที่เรียกว่า layer-by-layer หรือ layer method ซึ่งค่อนข้างเข้าใจง่ายถ้าเทียบกับวิธีอื่นๆ เพราะไม่ต้องจำเยอะว่าต้องขยับตรงไหนยังไงบ้าง ถ้าฝึกฝนวิธีการนี้บ่อยๆ จนเชี่ยวชาญแล้ว จะขยับขยายไปใช้วิธี Fridrich method ที่บิดรูบิคเร็วๆ ได้ง่ายขึ้น เป็นวิธีที่นิยมใช้กันในการแข่งแบบแก้ให้ได้ใน 20 วินาที ขอแค่คุณมุ่งมั่นและใจเย็นฝึกฝนไป รับรองว่าจะแก้เกมรูบิคสุดหินนี้ได้แน่นอน ขอให้โชคดี!

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 5:

ศัพท์ที่ต้องรู้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    ในรูบิค 1 อัน จะมีช่อง 3 แบบด้วยกัน โดยแบ่งตามตำแหน่งของช่อง [1]
    • Center (กลาง) เป็นช่องที่อยู่ตรงกลางของรูบิคแต่ละหน้า ช่องนี้จะล้อมรอบด้วยอีก 8 ช่อง เป็นช่องที่มีหน้าเดียว ขยับไปไหนไม่ได้
    • Corner (มุม) เป็นช่องที่อยู่แต่ละมุมของรูบิค แต่ละช่องจะมีได้ 3 หน้า
    • Edge (ขอบ) เป็นช่องที่อยู่ระหว่างช่องมุมของรูบิค แต่ละช่องจะมี 2 หน้า
    • หมายเหตุ — แต่ละช่องจะยึดชื่อประจำช่องนี้ไว้ ไม่เปลี่ยนไปเป็นแบบอื่น เช่น ช่องมุมก็จะเป็นช่องมุมอยู่ตลอด
  2. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    รูบิคมี 6 หน้า (ด้าน) ด้วยกัน แต่ละหน้าก็จะมี "ช่องกลาง" ต่างสีกันไป เช่น "หน้าสีแดง" ช่องอื่นที่เป็นสีแดงอาจกระจัดกระจายไปตามหน้าอื่นๆ แต่ช่องตรงกลางต้องเป็นสีแดง แต่จะสะดวกกว่าถ้าเรียกชื่อหน้าตามตำแหน่งปัจจุบันที่คุณกำลังมองอยู่ คำศัพท์หรือชื่อหน้าที่คุณควรรู้ก็คือ [2]
    • F (Front/หน้า) — ให้ถือรูบิคระดับสายตา หน้าที่เห็นก็คือหน้า Front หรือด้านหน้านั่นเอง
    • B (Back/หลัง) — คือหน้าหลัง (ตรงข้ามกับด้านหน้า) หรือก็คือด้านที่คุณมองไม่เห็น
    • U (Upper/บน) — หน้าบน เป็นด้านที่หันขึ้นไปหาเพดาน
    • D (Down/ล่าง) — หน้าล่าง หรือด้านที่หันลงพื้น
    • R (Right/ขวา) — หน้าข้างของรูบิค อยู่ทางขวา
    • L (Left/ซ้าย) — หน้าข้างของรูบิค อยู่ทางซ้าย
  3. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    ศัพท์เรียกทิศทางการบิดรูบิค ตามเข็มนาฬิกา (clockwise) กับทวนเข็มนาฬิกา (counterclockwise). จะบิด "ตาม" หรือ "ทวน" ให้ยึดหน้าที่กำลังเล่นเป็นหลัก เพราะฉะนั้นถ้าขั้นตอนไหนใช้ตัวอักษรเดี่ยวๆ (เช่น L ) ก็แปลว่าให้บิดหน้าที่คุณกำลังเล่นตามเข็ม 90º (บิด 1 ครั้ง หรือ 1/4 ของหน้าปัดนาฬิกา) แต่ถ้าเป็นตัวอักษรพร้อม apostrophe (เช่น L' ) แปลว่าต้องบิดหน้านั้นทวนเข็ม 90º นั่นเอง ชื่อทิศทางที่ควรรู้ก็คือ [3]
    • F' คือให้บิดรูบิคด้านหน้า (Front) ทวนเข็ม
    • R คือให้บิดรูบิคหน้าขวา (Right) ตามเข็ม คือบิดหน้าขวาออกจากตัวคุณ (พูดง่ายๆ คือเวลาเล่นคุณกำลังมองรูบิคด้านหน้า เพราะงั้นหน้าขวาของรูบิคจะอยู่ข้างๆ เวลาบิดหน้าขวาตามเข็ม ก็เท่ากับบิดแถวขวาสุดของด้านหน้าไปข้างหลัง หรือออกจากตัวคุณนั่นเอง)
    • L คือให้บิดรูบิคหน้าซ้าย (Left) ตามเข็ม หรือก็คือบิดหน้าซ้ายเข้าตัวนั่นเอง
    • U' คือให้บิดรูบิคหน้าบน (Upper) ทวนเข็ม โดยที่หน้านั้นหันเข้าหาเพดานอยู่ แปลว่าให้บิดซ้ายเข้าตัวนั่นเอง
    • B คือให้บิดรูบิคหน้าหลัง (Back) ตามเข็ม โดยที่หน้านั้นหันเข้าหาผนัง แปลว่าถ้าคุณกำลังมองด้านหน้าของรูบิคอยู่ คุณต้องบิดหน้าหลังของรูบิคไป "ทางซ้าย" นั่นเอง
  4. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    ถ้ามีเลข "2" ตามตัวอักษรไหน แปลว่าต้องบิด "หน้า" นั้น 180º ไม่ใช่แค่ 90º อีกต่อไป เช่น ถ้าเราบอกว่า D2 ก็แปลว่าให้บิด "หน้าล่าง" 180º (บิด 2 ครั้ง หรือบิดไป "ครึ่งหน้าปัดนาฬิกา") [4]
    • จริงๆ แล้วจะตามเข็มหรือทวนเข็มก็ได้ เพราะพอบิด 2 ครั้ง แถวนั้นของรูบิคจะมาจบลงที่จุดเดียวกัน
  5. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    ในขั้นตอนการเล่นที่เราจะพูดถึงต่อไป จะมีชื่อเฉพาะของช่องโผล่มา โดยเป็นการระบุว่าช่องนั้นอยู่ที่หน้าไหน เช่น
    • BD = ช่องขอบ (Edge) ของหน้าหลัง (Back) และหน้าล่าง (Down) ของรูบิค
    • UFR = ช่องมุม (Corner) แต่ละช่องของหน้าบน (Upper) ด้านหน้า (Front) และหน้าขวา (Right) ของรูบิค
    • หมายเหตุ — ถ้าขั้นตอนไหนพูดถึง square (ด้านหนึ่งของก้อนย่อยของรูบิค แต่ละด้านของก้อนนั้นจะมีสีต่างกัน) ตัวอักษรตัวแรกจะบอกว่า square หรือสีด้านนั้นอยู่ในหน้าไหนของรูบิค เช่น
      • LFD square → ให้หาก้อนที่อยู่ตรงมุมของทั้งหน้าซ้าย ด้านหน้า และหน้าล่างของรูบิค แล้วดูสีด้านที่อยู่หน้าซ้าย (Left) เพราะเป็นอักษรตัวแรก
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 5:

แก้รูบิคหน้าบน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าจะเปลี่ยนไปจากนี้เมื่อไหร่ เดี๋ยวเราจะบอกอีกที จุดมุ่งหมายของตอนนี้คือต้องบิดเอา "ช่องขอบสีขาว" มาขนาบ "ช่องกลางสีขาว" จนกลายเป็น 'เครื่องหมาย +' สีขาวให้ได้ [5]
    • จะใช้วิธีนี้ได้ คุณต้องมีรูบิคมาตรฐาน ที่หน้าสีขาวอยู่ตรงข้ามหน้าสีเหลือง ถ้าเป็นรูบิครุ่นเก่าๆ จะทำตามยาก
    • ตอนนี้ให้ช่องกลางสีขาวอยู่หน้าบน (Upper) ไปก่อน หลายคนที่พลาดก็เพราะเปลี่ยนตำแหน่งนี่แหละ
  2. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    บิด "ช่องขอบสีขาว" มารวมกันที่หน้าบน ให้ได้เครื่องหมายบวก. ทำได้หลายวิธีมาก จนเราไม่อาจบอกขั้นตอนเฉพาะเจาะจงได้ แต่พอมีคำแนะนำให้ดังต่อไปนี้ [6]
    • ถ้ามีช่องขอบสีขาวที่ "แถวล่างสุด" ของ "หน้าขวา (R)" หรือ "หน้าซ้าย (L)" ให้บิดหน้านั้น 1 ครั้ง จนช่องสีขาวมาอยู่ที่ "แถวกลาง" แล้วทำตามข้อต่อไป
    • ถ้ามีช่องขอบสีขาวที่ "แถวกลาง" ของ "หน้าขวา (R)" หรือ "หน้าซ้าย (L)" ให้บิด "ด้านหน้า (F)" หรือ "หน้าหลัง (B)" แล้วแต่ว่าอะไรอยู่ข้างช่องสีขาว จนช่องสีขาวมาอยู่ใน "หน้าล่าง (D)" แล้วทำขั้นตอนต่อไป
    • ถ้ามีช่องขอบสีขาวใน "หน้าล่าง (D)" ให้บิด "หน้าล่าง (D)" จนช่องสีขาวอยู่ตรงข้ามกับ "ช่องขอบสีอื่นที่ไม่ใช่สีขาว" ใน "หน้าบน (U)" แล้วถือรูบิคให้ "ช่องที่ไม่ใช่สีขาว" อยู่ในตำแหน่ง UF (หน้าบนติดด้านหน้า) แล้วบิดแบบ F2 (บิดด้านหน้าไป 180º) ให้ช่องสีขาวมาอยู่ที่ตำแหน่ง UF
    • ทำซ้ำแบบเดียวกันกับแต่ละช่องขอบสีขาว จนมารวมกันอยู่ที่ "หน้าบน" ทั้งหมด
  3. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    ให้ดู "ช่องขอบแถวบน" ของหน้า F, R, B และ L คราวนี้คุณต้องให้ช่องขอบแถวบนนั้นสีเดียวกับช่องกลาง เช่น ถ้าช่องขอบ FU (ด้านหน้าติดหน้าบน) เป็นสีส้ม แสดงว่าช่องกลางหน้า F ก็ต้องเป็นสีส้มเหมือนกัน วิธีเปลี่ยนช่องขอบแถวบนของทั้ง 4 หน้าให้กลายเป็นสีเดียวกับช่องกลางก็คือ [7]
    • บิดหน้า U จนอย่างน้อย 2 หน้ามีสีช่องกลางกับช่องขอบแถวบนตรงกัน (ถ้าบิดแล้วช่องขอบแถวบนของทั้ง 4 หน้ากลายเป็นสีเดียวกับช่องกลางของแต่ละหน้า ก็ไม่ต้องทำข้อต่อๆ ไป)
    • ถือรูบิคให้หนึ่งในช่องขอบที่สีไม่ตรงกับช่องกลางนั้นมาอยู่ที่หน้า F (โดยที่เครื่องหมายบวกสีขาวยังอยู่ที่หน้า U)
    • บิดแบบ F2 แล้วเช็คให้แน่ใจว่ามีช่องขอบสีขาว 1 ช่องที่หน้า D จากนั้นเช็คอีกด้านของก้อนเดียวกัน (ในตำแหน่ง FD) ถ้าในตัวอย่างของเรา อีกด้านจะเป็นสีแดง
    • บิดหน้า D จนช่องสีแดงมาอยู่ล่างช่องกลางสีแดงพอดี
    • บิดหน้าสีแดง 180º ให้ช่องสีขาวกลับมาที่หน้า U
    • สำรวจหน้า D ว่ามีช่องขอบสีขาวช่องใหม่โผล่มาไหม และอย่าลืมเช็คอีกด้านของก้อนเดียวกัน ถ้าในตัวอย่างของเรา อีกด้านจะเป็นสีเขียว
    • บิดหน้า D จนช่องสีเขียวมาอยู่ล่างช่องกลางสีเขียวพอดี
    • บิดหน้าสีเขียว 180º ให้เครื่องหมายบวกสีขาวกลับมาที่หน้า U เท่านี้หน้า F, R, B และ L ก็จะมีช่องขอบแถวบนที่สีตรงกับช่องกลางครบถ้วน
  4. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    คราวนี้จะเริ่มยากขึ้นแล้ว ต้องอ่านขั้นตอนให้ละเอียด พอจบข้อนี้ หน้าสีขาวของคุณจะครบถ้วนสมบูรณ์ คือช่องมุมสีขาวมาเติมเต็มช่องกลางและช่องขอบสีขาวที่มีอยู่ [8]
    • หาก้อนมุมสีขาวที่หน้า D ต้องเป็นก้อนที่มี 3 ด้าน 3 สีด้วยกัน ในบทความนี้เราขอเรียกว่า สีขาว สี X และสี Y (ถึงตอนนี้ช่องสีขาวไม่ต้องอยู่ในหน้า D ก็ได้)
    • บิดหน้า D จนก้อนมุมขาว/X/Y อยู่ระหว่างสี X กับสี Y (ย้ำว่า "หน้าสี X" ก็คือหน้าที่มีสี X อยู่ช่องกลาง)
    • ถือรูบิคให้ก้อนมุมขาว/X/Y อยู่ที่ตำแหน่ง DFR โดยแต่ละสีจะอยู่ด้านไหนของก้อนนั้นก็ได้ แต่ช่องกลางของหน้า F และหน้า R ต้องตรงกับสี X และ Y ตอนนี้หน้า U จะยังเป็นสีขาวอยู่
    • จากตรงนี้ คุณมี 3 ทางเลือก
      • ถ้าช่องสีขาวอยู่ในหน้า F (ตำแหน่ง FRD) ให้หมุนแบบ F D F'
      • ถ้าช่องสีขาวอยู่ในหน้า R (ตำแหน่ง RFD) ให้หมุนแบบ R' D' R
      • ถ้าช่องสีขาวอยู่ในหน้า D (ตำแหน่ง DFR) ให้หมุนแบบ F D2 F' D' F D F'
  5. โดยใช้ขั้นตอนเดิม ให้ช่องมุมสีขาว 3 ช่องที่เหลือมาอยู่ในหน้าสีขาวทั้งหมด พอเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน จะได้หน้า U ทั้งหมดจะกลายเป็นสีขาว ส่วนหน้า F, R, B และ L จะมีแถวบนเป็น 3 ช่องที่สีเดียวกับช่องกลาง [9]
    • บางทีก้อนมุมสีขาวก็บังเอิญอยู่ในหน้า U (หน้าสีขาว) พอดี แค่ผิดตำแหน่ง สีอีก 2 ด้านที่เหลือเลยไม่ตรงกับช่องกลางของหน้านั้นๆ ถ้าเป็นแบบนี้ ให้ถือรูบิคโดยที่ก้อนมุมอยู่ในตำแหน่ง UFR แล้วบิดแบบ F D F' ซะ ช่องสีขาวก็จะมาอยู่ในหน้า D เท่านี้คุณก็บิดมาตำแหน่งที่ถูกต้องตามขั้นตอนข้างบนได้แล้ว
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 5:

แก้รูบิคแถวกลาง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาก้อนขอบในหน้า D ที่ ไม่มี ด้านไหนเป็นสีเหลือง. ตอนนี้หน้าสีขาวจะยังอยู่ที่หน้า U ส่วนหน้าสีเหลืองที่ยังไม่สมบูรณ์อยู่ที่หน้า D ให้สำรวจหน้า D หาก้อนขอบที่ ไม่มี ด้านไหนเป็นสีเหลือง และดูด้วยว่าก้อนขอบนั้นมีสีอะไรบ้าง (2 สี) [10]
    • สีด้านที่อยู่ในหน้า D เป็นสี X
    • อีกด้านเป็นสี Y
    • ต้องเป็นก้อนขอบเท่านั้น อย่าเริ่มจากก้อนมุม
  2. ให้หมุนรูบิคทั้งก้อนโดยแกนกลางตั้งตรง (เหมือนโลกหมุน) แล้วหยุดตอนที่ช่องกลางสี X มาอยู่หน้า F
    • ระหว่างนี้หน้า U กับหน้า D ต้องอยู่ที่เดิมตลอด
  3. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    บิดหน้า D ไปในทิศทางไหนก็ได้ จนก้อนขอบสี X/Y มาอยู่ในตำแหน่ง DB โดยที่ด้านสี X อยู่หน้า D แล้วด้านสี Y อยู่หน้า B [11]
  4. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    จากนี้จะบิดรูบิคยังไงต่อไป ก็แล้วแต่ว่าช่องกลางสี Y นั้นอยู่ที่ไหน [12]
    • ถ้าด้านสี Y สีตรงกับช่องกลางของหน้า R ให้บิดแบบ F D F' D' R' D' R
    • ถ้าด้านสี Y สีตรงกับช่องกลางของหน้า L ให้บิดแบบ F' D' F D L D L'
  5. หาก้อนขอบใหม่ในหน้า D ที่ไม่มีด้านสีเหลือง (ถ้าไม่เจอ ให้ข้ามไปขั้นตอนถัดไป) จากนั้นทำซ้ำตามที่บอกข้างบน ให้มาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ถ้าทำถูก หน้า F, R, B และ L จะมี 2 แถวบนที่สีเดียวกัน [13]
  6. จะบิดยังไงถ้าทุกก้อนขอบของหน้า D มีด้านสีเหลือง. ต้องเช็คก้อนกลางทั้ง 4 ก้อนของหน้า D ว่าแต่ละก้อนมี 2 ด้าน 2 สี ซึ่งทั้ง 2 สีต้อง ไม่ใช่ สีเหลือง ถึงจะใช้วิธีที่บอกในส่วนนี้ได้ ถ้าไม่มีก้อนมุมไหนตรงกับที่บอกเลย (แถม 2 แถวบนของแต่ละหน้าก็ยังไม่เป็นสีเดียวกัน) ให้บิดตามขั้นตอนต่อไปนี้ [14]
    • เลือกก้อนขอบที่ มี ด้านสีเหลือง
    • ถือรูบิคให้ก้อนขอบนี้อยู่ในตำแหน่ง FR โดยที่หน้าสีขาวอยู่หน้า U (จับเปลี่ยนด้านทั้งก้อน อย่าไปบิดหน้าไหน)
    • บิดแบบ F D F' D' R' D' R
    • เท่านี้ก็จะได้ก้อนขอบที่ไม่มีสีเหลืองในหน้า D ก็กลับไปที่จุดเริ่มต้นของส่วนนี้ได้เลย แล้วทำตามขั้นตอน
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 5:

แก้รูบิคหน้าสีเหลือง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    ต้องถือรูบิคไว้ในตำแหน่งนี้จนกว่าจะแก้รูบิคได้เสร็จสิ้น [15]
  2. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    สังเกตว่ามีก้อนขอบสีเหลืองกี่ช่องในหน้า U (อย่าลืมว่าก้อนมุมไม่ใช่ก้อนขอบ) คุณบิดได้ 4 วิธีด้วยกัน [16]
    • ถ้ามีก้อนขอบสีเหลือง 2 ก้อนตรงข้ามกันในหน้า U: บิดหน้า U จน 2 ก้อนขอบมาอยู่ตำแหน่ง UL กับ UR แล้วบิดแบบ B L U L' U' B'
    • ถ้ามีก้อนสีเหลือง 2 ก้อนติดกัน ในตำแหน่ง UF กับ UR (เหมือนลูกศรชี้ไปข้างหลังทางซ้าย): บิดแบบ B U L U' L' B'
    • ถ้าไม่มีก้อนขอบสีเหลืองเลย: จะบิดแบบไหนก็ได้ใน 2 วิธีบนที่บอกมา เพื่อให้ก้อนขอบสีเหลือง 2 ก้อนมาอยู่หน้า U แล้วบิดซ้ำวิธีไหนก็ได้ใน 2 วิธีบน แล้วแต่ว่าก้อนขอบอยู่ตำแหน่งไหน
    • ถ้ามีก้อนขอบ 4 ก้อนเลย: แสดงว่าคุณได้เครื่องหมายบวกสีเหลืองเรียบร้อย ข้ามไปขั้นตอนต่อไปได้เลย
  3. หมุนรูบิคทั้งก้อนจนหน้าสีน้ำเงินมาอยู่หน้า F และหน้าสีเหลืองยังอยู่ที่หน้า U โดยบิดช่องมุมสีเหลืองให้เข้าที่เข้าทางดังต่อไปนี้
    • หมุนหน้า U จนก้อนมุม UFR ไม่มี สีเหลืองในหน้า U
    • จากนี้บิดได้ 2 วิธี
      • ถ้าก้อนมุมนี้มีด้านสีเหลืองในหน้า F ให้บิดแบบ F D F' D' F D F' D'
      • ถ้าก้อนนี้มีสีเหลืองในหน้า R ให้บิดแบบ D F D' F' D F D' F'
    • หมายเหตุ: ถึงตอนนี้ รูบิคจะดูเละๆ แต่อย่าเพิ่งเครียด เพราะเดี๋ยวร้ายจะกลายเป็นดีเอง
  4. หน้าสีน้ำเงินต้องอยู่หน้า F ให้หมุนหน้า U ให้ก้อนมุมอื่นมาอยู่ที่ตำแหน่ง UFR แล้วทำซ้ำตามขั้นตอนข้างบนเพื่อให้สีเหลืองมาอยู่หน้า U ทำซ้ำจนกว่าหน้า U ทั้งหน้าจะกลายเป็นสีเหลือง [17]
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 5:

แก้ให้ครบทุกด้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    หมุนหน้า U จนก้อนขอบ 1 ก้อนสีตรงกับช่องกลางติดกัน. เช่น ถ้าหน้า F มีช่องกลางสีน้ำเงิน ให้หมุนหน้า U จนช่องเหนือช่องกลางสีน้ำเงินเป็นสีน้ำเงินเหมือนกัน โดยที่มีก้อนขอบ เดียว เท่านั้นที่สีตรงกับช่องกลาง อย่าให้มี 2 - 3 ก้อนขอบ [18]
    • ถ้าก้อนขอบทั้ง 4 เรียงกันกับช่องกลางแล้ว ก็ข้ามไปอ่านขั้นตอน "แก้รูบิคทุกด้านให้เสร็จ" ได้เลย
    • แต่ถ้าทำไม่ได้ ให้บิดแบบ R2 D' R' L F2 L' R U2 D R2 แล้วลองใหม่อีกรอบ
  2. Watermark wikiHow to เล่นรูบิคแบบ Layer Method
    พอก้อนขอบ 1 จาก 4 ตรงกับช่องกลางแล้ว ให้บิดด้วยวิธีต่อไปนี้ [19]
    • หมุนรูบิคให้ก้อนขอบที่ตรงกับช่องกลางไปอยู่หน้า L
    • เช็คว่าก้อน FU นั้นสีตรงกับช่องกลางของหน้า R หรือเปล่า
      • ถ้าตรง ให้บิดแบบ R2 D' R' L F2 L' R U2 D R2 แล้วข้ามไปขั้นตอนต่อไป ตอนนี้รูบิคจะเรียบร้อยหมด เหลือแต่ช่องมุม
      • ถ้าไม่ตรง ให้บิดแบบ U2 แล้วหมุนรูบิคแบบโลกหมุน ให้หน้า F กลายเป็นหน้า R แล้วบิดแบบ R2 D' R' L F2 L' R U2 D R2
  3. ทีนี้ก็เหลือแต่ช่องมุม [20]
    • ถ้ามี 1 ช่องมุมอยู่ถูกตำแหน่ง ให้ข้ามไปอ่านข้อย่อยถัดไป แต่ถ้าไม่มีช่องมุมไหนอยู่ตรงตำแหน่งเลย ให้บิดแบบ L2 B2 L' F' L B2 L' F L' ทำซ้ำจนกว่าจะมี 1 ช่องมุมที่อยู่ถูกตำแหน่ง
    • หมุนรูบิคให้ช่องมุมที่ถูกอยู่ในตำแหน่ง FUR โดยที่ด้าน FUR สีตรงกับช่องกลางของหน้า F
    • บิดแบบ L2 B2 L' F' L B2 L' F L'
    • ถ้าตอนนี้ยังแก้รูบิคทุกหน้าไม่สำเร็จ ให้บิดแบบ L2 B2 L' F' L B2 L' F L' อีกรอบ เท่านี้ก็น่าจะเรียบร้อย!
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าอยากบิดสะดวกขึ้น ให้แยกส่วนรูบิค แล้วใช้น้ำยาหล่อลื่นชิ้นส่วนด้านใน หรือเอากระดาษทรายขัดขอบด้านในให้มนขึ้น ใช้ Silicon oil จะดีที่สุด ถ้าน้ำมันพืชจะได้ผลแค่ไม่นาน [21]
  • ถ้าจำขั้นตอนและทิศทางการบิดได้ขึ้นใจแบบไม่แคร์ตัวเลขและตัวอักษร จะทำให้เล่นเร็วขึ้นอีกเยอะ ประมาณว่าบิดบ่อยจนมือไปเอง แต่กว่าจะถึงขั้นนี้คงต้องฝึกสักพัก
  • วิธีที่แนะนำในบทความนี้ ถ้าฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ จะทำให้คุณแก้รูบิคได้เร็วมาก ใช้เวลาไม่เกิน 45 - 60 วินาที ถ้าแก้ได้ขนาด 1:30 ให้เริ่มฝึก Fridrich method ต่อได้เลย แต่บอกเลยว่าโหดหินกว่าเยอะ นอกจากนี้ยังมีวิธี Petrus, Roux และ Waterman อีก วิธีที่เร็วที่สุดคือ ZB method แต่ถือว่ายากระดับมหากาฬทีเดียว
  • ถ้าจำทิศทางการบิดไม่ค่อยได้ ให้จดไว้เป็นขั้นๆ ไป แล้วพกไว้เผื่อหยิบออกมาดูประกอบการเล่น
โฆษณา

คำเตือน

  • เล่นรูบิคบ่อยเกินไป ระวังเป็นโรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูกผิดปกติ (musculoskeletal disorder) เช่น Rubik's wrist (ข้อมือบาดเจ็บจากการเล่นรูบิค) หรือ cube thumb (นิ้วโป้งบาดเจ็บจากการเล่นรูบิค)
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • รูบิคที่มีหน้าสีขาวอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหน้าสีเหลือง (ถ้ารูบิครุ่นเก่าๆ มักไม่เป็นตามนี้)
  1. https://mzrg.com/rubik/mech.shtml
  2. http://www.rubiksplace.com/move-notations/
  3. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/notation/
  4. http://www.rubiksplace.com/
  5. https://how-to-solve-a-rubix-cube.com/
  6. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  7. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  8. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  9. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  10. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  11. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  12. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  13. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  14. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  15. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  16. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  17. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  18. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  19. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  20. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/how-to-solve-the-rubiks-cube-beginners-method/
  21. https://ruwix.com/the-rubiks-cube/lubricate-rubiks-cube-with-silicone-or-vaseline-petroleum-jelly/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 592,534 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา