ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เลขยกกำลัง (Exponent) ก็คือเลขตัวยก (superscripted) หรือตัวแปร (อักษรเดียว) ที่เอาไว้บอกว่าเลขข้างหน้ายกกำลังเท่าไหร่ หรือก็คือจำนวนครั้งที่เอาเลขข้างหน้าคูณตัวเอง (เช่น 5 ยกกำลัง 3 ก็คือเอา 5 คูณกัน 3 ครั้ง 5 x 5 x 5 = 125) คุณใส่เลขยกกำลังใน Microsoft Word ได้หลายวิธี เช่น ใช้สัญลักษณ์ เป็นข้อความที่จัดฟอร์แมตในหน้าต่าง Font หรือ Equation Editor ว่าแล้วก็เลื่อนลงไปอ่านขั้นตอนการใส่เลขยกกำลังในบทความวิกิฮาวนี้ได้เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

แทรกเลขยกกำลังแบบสัญลักษณ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Word ให้คุณใส่ (insert) สัญลักษณ์พิเศษในข้อความได้ ด้วย Symbol dialog วิธีเปิดหน้าต่างหรือ dialog นี้ จะต่างกันไปตาม Word เวอร์ชั่นที่คุณใช้
    • ถ้าใช้ Word 2007 หรือใหม่กว่า จะเป็นเมนู ribbon ให้คลิกปุ่ม Symbol (อักษรกรีก omega) ในหัวข้อ Symbols ของ Insert ribbon เลือก "More Symbols" ทางด้านล่างของเมนู pop-up ของสัญลักษณ์ที่ใช้บ่อย แล้วหน้าต่าง Symbol จะโผล่ขึ้นมา
    • ถ้าใช้ Word 2003 หรือเก่ากว่า ให้เลือก "Symbol" จากในเมนู "Insert"
  2. ส่วนใหญ่คนก็จะใช้ฟอนต์เลขยกกำลังเดียวกับเนื้อหา เพราะงั้นก็ใช้ setting "(normal text)" ใน Font ที่ขยายลงมาได้เลย แต่ถ้าอยากให้เลขยกกำลังเป็นฟอนต์อื่น ให้คลิกปุ่มลูกศรชี้ลง ทางด้านขวาของเมนูที่ขยายลงมา แล้วเลือกฟอนต์ที่ต้องการจากในรายชื่อ
    • ไม่ใช่ทุกฟอนต์ที่จะมีตัวอักษรหรือเลขตัวยก ถ้าฟอนต์ที่ใช้ในเนื้อหา ใส่เลขยกกำลังไม่ได้ ให้เลือกฟอนต์อื่นที่ทำได้แทน
  3. คุณเลื่อนไปที่เลขยกกำลัง โดยใช้ scroll bar ทางขวาของหน้าต่างอักขระ หรือเลือกหนึ่งในตัวเลือกของเมนู Subset ที่ขยายลงมา คือ "Latin-1 Supplement" (บางทีก็แค่ "Latin-1") หรือ "Superscripts and Subscripts" เลขยกกำลังที่มีคือ "1", "2" และ "3" นอกจากนี้ยังมีตัวยก "n" แทนตัวแปรเลขยกกำลัง ให้คลิกตัวยกที่จะใช้ได้เลย
  4. คลิกปุ่ม Insert ทางด้านล่างของหน้าต่าง Symbol เพื่อปิดหน้าต่าง และใส่เลขยกกำลังในเนื้อหา ตรงจุดที่คลิกเคอร์เซอร์ไว้
    • ถ้าใช้ Word 2007 หรือใหม่กว่า พอเลือกเลขยกกำลังแล้ว จะไปโผล่ในส่วน Recently Used Symbols ทางด้านล่างของหน้า Symbols ถ้าจะใช้เลขยกกำลังนั้นอีก ก็เลือกจากตรงนี้ได้เลย
    • จะใส่เลขยกกำลังด้วยคีย์ลัดของเลขยกกำลังนั้นก็ได้ เวลาเลือกเลขยกกำลัง หน้าต่าง Symbol จะแสดงคีย์ลัด "Alt" ตามด้วยตัวอักษรหรือชุดตัวเลข 4 หลัก ถ้ากด "Alt" กับปุ่มอื่นที่ว่ามา เท่ากับใช้คีย์ลัดใส่เลขยกกำลังโดยไม่ต้องเปิดหน้า Symbol (ถ้าเป็น Word เวอร์ชั่นเก่าๆ บางเลขยกกำลังอาจจะไม่มีคีย์ลัดให้) หรือจะสร้าง/ปรับแต่งคีย์ลัดด้วยปุ่ม Shortcut Key ก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

แทรกเลขยกกำลังด้วยหน้าต่าง Font

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คลิกเคอร์เซอร์หน้าตัวเลขหรือตัวอักษรที่จะแปลงเป็นเลขตัวยก (เลขยกกำลัง) แล้วคลิกเมาส์ค้างไว้ จากนั้นลากเคอร์เซอร์คลุมข้อความเพื่อเลือก
  2. หน้าต่าง Font นอกจากใช้เปลี่ยนฟอนต์และขนาดข้อความแล้ว ยังใช้แปลงข้อความเป็นฟอร์แมตต่างๆ ได้ด้วย รวมถึงเลขยกกำลัง ส่วนจะเปิดหน้าต่าง Font ยังไง ก็แล้วแต่ Word เวอร์ชั่นที่คุณใช้
    • ถ้าใช้ Word 2007 หรือใหม่กว่า ให้คลิกปุ่มลูกศรชี้ลงเฉียงๆ ทางขวาของหัวข้อ Font ใน ribbon Home
    • ถ้าใช้ Word 2003 หรือเก่ากว่า ให้เลือก "Font" จากในเมนู "Format"
    • ข้อความที่เลือกไว้จะขึ้นในหน้าต่าง Preview
  3. ข้อความในหน้าต่าง Preview จะย่อเล็กลงและยกลอยขึ้น
  4. เพื่อปิดหน้าต่าง Font แล้วแสดงข้อความที่เลือกไว้เป็นตัวยก
    • นอกจากใช้ใส่เลขยกกำลังแล้ว คุณใช้วิธีนี้ใส่ ionic charge ที่เป็นเครื่องหมายบวกหรือลบลอยๆ (พร้อมเลขบอกจำนวนอิเล็กตรอนที่เพิ่มหรือเสียไป หรือพร้อมสัญลักษณ์ของแต่ละอิเล็กตรอนที่เพิ่มมาหรือหายไป) ต่อท้ายสัญลักษณ์ทางเคมีได้ด้วย อย่าใช้เลขตัวยกแทน multiple atoms ขององค์ประกอบในโมเลกุล ให้ใช้ตัวห้อยแทน
    • แทนที่จะพิมพ์ข้อความที่จะทำเป็นตัวยกก่อน ให้เปิดหน้าต่าง Font ติ๊ก "Superscript" คลิก "OK" แล้วพิมพ์ข้อความ ถ้าทำแบบนี้ ต้องเปิดหน้าต่าง Font หลังพิมพ์ข้อความที่จะทำเป็นตัวยก แล้วเอาติ๊กออก "Superscript" ถ้าจะปิดฟีเจอร์นี้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

แทรกเลขยกกำลังด้วย Equation Editor (Word 2007 หรือใหม่กว่า)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คลิกปุ่ม Equation (ที่เป็นอักษรกรีก pi) ในหัวข้อ Symbols ของ ribbon Insert แล้วเลือก "Insert New Equation" ทางด้านล่างของเมนูที่ขยายลงมา
    • คุณเปิด editor จากในเอกสารใหม่หรือเอกสารที่มีก็ได้ แต่ Equation Editor จะใช้ได้เฉพาะในไฟล์ Word แบบ XML ที่เป็น .docx หรือ .dotx เท่านั้น
  2. ปุ่มตัวเลือกนี้จะเป็นตัว "e" ยกกำลัง "x" คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมาพร้อมหัวข้อ "Subscripts and Superscripts" กับ "Common Subscripts and Superscripts"
  3. ตัวเลือกนี้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมเส้นประขนาดใหญ่และเล็ก โดยกล่องที่สูงกว่าอยู่ทางขวา ให้เลือกเพื่อแสดง 2 กล่องแบบนี้ในช่อง Equation ของหน้าเอกสารนั้น
  4. ใช้คีย์บอร์ดพิมพ์ค่าเลขฐานในช่องใหญ่กว่าทางซ้าย ถ้าใส่ตัวอักษรแทนตัวแปร จะกลายเป็นตัวเอียงโดยอัตโนมัติ
  5. ใช้คีย์บอร์ดพิมพ์ค่าเลขยกกำลังในช่องเล็กทางขวา ถ้าใส่ตัวอักษรแทน จะกลายเป็นตัวเอียงโดยอัตโนมัติ
    • หรือพิมพ์เลขฐานกับเลขยกกำลังในช่อง Equation ด้วยคีย์บอร์ดทั้งหมด โดยพิมพ์เลขฐานก่อน ตามสัญลักษณ์ caret (^) และเลขยกกำลัง พอกด Enter ปิดช่อง Equation สัญลักษณ์ caret จะหายไป เหลือแต่เลขยกกำลังแบบตัวยก
    • Equation Editor ใน Word 2007 หรือใหม่กว่า จะมองสมการเป็นเนื้อหาของเอกสาร Word ถ้า Equation Editor ใช้ฟอนต์สัญลักษณ์พิเศษทางคณิตศาสตร์
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

แทรกเลขยกกำลังด้วย Equation Editor (Word 2003 หรือเก่ากว่า)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คลิก "Object" ในเมนู "Insert" เลือก "Create New" จากในหน้าต่าง Insert Object แล้วเลือก "Microsoft Equation 3.0"
  2. เพื่อแสดงเทมเพลตที่เว้นที่ไว้ให้เลขฐาน และเลขยกกำลัง
  3. ใช้คีย์บอร์ดพิมพ์ค่านี้ในช่องที่ใหญ่กว่าทางซ้าย
  4. พิมพ์ค่านี้ในช่องเล็กกว่าทางขวา
    • Equation Editor ใน Word 2003 หรือเก่ากว่า จะมองสมการเป็นวัตถุ (objects) ไม่ได้มองเป็นข้อความ (text) แต่ก็เปลี่ยนฟอนต์และปรับขนาด ฟอร์แมต และเลื่อนตำแหน่งได้เหมือนข้อความปกติ
    โฆษณา

คำเตือน

  • ถึง Word จะให้คุณใส่เลขยกกำลังและตัวยกได้หลายวิธี ก็ถือเป็น special characters หรืออักขระพิเศษอยู่ดี เพราะงั้นไม่ใช่ทุกฟอนต์ที่ใช้กับเลขยกกำลังได้ และถ้า copy เนื้อหาใน Word ที่มีเลขยกกำลัง ไปแปะในแอพหรือโปรแกรมอื่นๆ ก็อาจจะไม่ขึ้นได้ ถ้าไม่แน่ใจว่าเลขยกกำลังจะขึ้นไหม ให้พิมพ์ ^ ตามด้วยเลขยกกำลังแบบตัวเลขธรรมดา (ถ้าใส่เลขยกกำลังด้วย Equation Editor ใน Word 2007 หรือใหม่กว่า เลขยกกำลังจะถูกแปลงเป็นฟอร์แมตนี้ ให้คลิกสมการที่มีเลขยกกำลังที่จะแปลง แล้วจะเห็นช่อง Equation ก็ให้คลิกปุ่มลูกศรชี้ลง ทางด้านขวาล่าง แล้วเลือก Linear จากเมนู Equation Options ที่ขยายลงมา)
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Rodney Ruff จากโอมาฮา เนบราสก้า ผู้คร่ำหวอดเรื่อง Microsoft Word

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 56,604 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา