ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกที่สามารถใช้จ่ายได้โดยไม่ผ่านตัวกลาง ด้วยลักษณะการหลีกเลี่ยงระบบธนาคารและกระบวนการใช้จ่าย บิทคอยน์จึงได้กลายเป็นตลาดแบบใหม่ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกโดยใช้แค่อินเทอร์เน็ตในการร่วมตลาดเท่านั้น ในการเริ่มต้นนั้น ให้หาเงินสกุลใดก็ได้และติดตั้งกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลเพื่อเก็บบิทคอยน์เอาไว้ จากนั้น คุณสามารถใช้บิทคอยน์ในการลงทุน หรือใช้จ่ายกับหน่วยที่รองรับการใช้จ่ายด้วยบิทคอยน์ [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

จัดหาบิทคอยน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ซื้อบิทคอยน์จำนวนเล็กน้อยบนอินเทอร์เน็ตโดยตรง. เว็บไซต์บางเว็บ เช่น Indacoin หรือ Spectrocoin คุณสามารถซื้อบิทคอยน์ได้ทันทีโดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตก็ได้ [2]
    • จำกัดจำนวนการซื้อบิทคอยน์ให้แตกต่างกันไปในแต่ละเว็บใซต์ ยกตัวอย่างเช่น Indacoin จำกัดการทำธุรกรรมครั้งแรกที่ 1500 บาท หลังจากนั้น 4 วัน คุณสามารถทำธุรกรรมครั้งที่สองด้วยวงเงิน 3000 บาท
    • ถ้าคุณต้องการซื้อบิทคอยน์จำนวนเล็กน้อยโดยไม่ต้องลงทะเบียนหรือสร้างบัญชีของเว็บไซต์ การทำธุรกรรมประเภทนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
  2. ติดต่อศูนย์แลกเปลี่ยนเพื่อซื้อบิทคอยน์เป็นจำนวนมาก. ด้วยการศูนย์แลกเปลี่ยนผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น Coinbase หรือ Kraken คุณสามารถสร้างบัญชีเพื่อซื้อและขายบิทคอยน์เป็นจำนวนมากได้ ศูนย์แลกเปลี่ยนเหล่านี้จะมีรูปแบบคล้ายตลาดหลักทรัพย์ ด้วยการประมูลและเสนอซื้อ [3]
    • การเปิดบัญชีที่ศูนย์แลกเปลี่ยนนั้นเหมือนกับการเปิดบัญชีธนาคารหรือบัญชีลงทุน คุณต้องใช้ชื่อจริงและข้อมูลการติดต่อ เมื่อตัวตนของคุณได้รับการยืนยัน คุณจะสามารถฝากงเนเข้าบัญชีเพื่อใช้ซื้อบิทคอยน์ได้ โดยศูนย์แลกเปลี่ยนที่ต่างกันอาจจะมีบัญชีขั้นต่ำได้
    • เมื่อคุณซื้อบิทคอยน์ผ่านศูนย์แลกเปลี่ยนแล้ว คุณสามารถเก็บบิทคอยน์ไว้ที่บัญชีแลกเปลี่ยนได้ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจจะมีความเสี่ยง เพราะจำนวนบิทคอยน์ที่หมุนเวียนอยู่ในศูนย์แลกเปลี่ยนนั้นอาจจะเป็นเป้าของแฮคเกอร์ได้
  3. แลกเงินสดเป็นบิทคอยน์ที่ตู้กดบิทคอยน์อัตโนมัติ. ตู้กดบิทคอยน์อัตโนมัตินั้นมีให้บริการตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก คุณเพียงแค่สอดเงินสดและซื้อบิทคอยน์ได้ โดยเครื่องจะโอนบิทคอยน์ไปยังกระเป๋าสตางค์ออนไลน์ของคุณ และจ่ายกระเป๋าสตางค์กระดาษที่มีคิวอาร์โค้ดเพื่อให้คุณสแกนรับบิทคอยน์ [4]
    • ไปยังเว็บไซต์ https://coinatmradar.com/ เพื่อตรวจสอบแผนที่ที่มีตู้กดบิทคอยน์อัตโนมัติใกล้ตัวคุณ
  4. ถ้าคุณขายสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ต คุณอาจจะเพิ่มช่องทางการจ่ายเงินด้วยบิทคอยน์บนร้านค้าหรือเว็บไซต์ [5]
    • ถ้าคุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์และต้องการรับเงินบิทคอยน์ คุณสามารถดาวน์โหลดภาพเพื่อการโฆษณาได้ที่ https://en.bitcoin.it/wiki/Promotional_graphics
    • เว็บไซต์ประมูลบิทคอยน์ เช่น OpenBazaar จะช่วยให้คุณเปิดร้าน เหมือนกับเว็บไซต์ eBay และขายสินค้าเพื่อหาบิทคอยน์ได้
  5. ซื้อบิทคอย์จากผู้อื่นในโลกแห่งความเป็นจริง. เช่นเดียวกับสกุลเงินใดๆ ก็ตาม คุณสามารถพบผู้คนและแลกเปลี่ยนเงินสด (หรือสิ่งอื่น) เป็นบิทคอยน์ได้ ไปยังเว็บไซต์ https://localbitcoins.com/ เพื่อติดต่อกับผู้คนในพื้นที่ที่สนใจการแลกเปลี่ยนแบบไม่ใช้อินเทอร์เน็ต [6]
    • ระวังตัว และตอบรับการซื้อขายด้วยจำนวนเงินเล็กน้อยจนกว่าคุณจะเชื่อใจอีกฝ่าย อย่าพกเงินจำนวนมากติดตัว และนัดพบในที่สาธารณะ หรือในลานจอดรถที่ใกล้กับสถานีตำรวจเพื่อความปลอดภัย
  6. คุณต้องใช้เครื่องมือและโปรแกรมที่มีราคาแพง เช่นเดียวกับเซิฟเวอร์ที่ดี เพื่อขุดเหมืองบิทคอยน์ บริษัทขุดเหมืองบางที่จะให้คุณขุดเหมืองร่วมกับพวกเขา แต่โดยทั่วไปแล้วการซื้อบิทคอยน์จากศูนย์แลกเปลี่ยนนั้นง่ายกว่าการขุดบิทคอยน์เอง [7]
    • ในช่วงเริ่มต้นของระบบบิทคอยน์ การขุดบิทคอยน์เพื่อกำไรด้วยตัวเองสามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม การขุดเหมืองในปี 2018 นั้น การที่จะได้กำไรสูงสุดจะต้องขุดเหมืองผ่านบริษัทใหญ่และเชี่ยวชาญ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

สร้างกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้กระเป๋าสตางค์แบบเคลื่อนที่เพื่อเข้าถึงบิทคอยน์. กระเป๋าสตางค์แบบเคลื่อนที่เป็นแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน โดยใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโฟน โดยแอพพลิเคชั่นนั้นง่ายต่อการใช้ง่ายและเป็นตัวเลือกที่ดีของผู้เริ่มต้น โดนเฉพาะถ้าคุณมีบิทคอยน์จำนวนเล็กน้อยและต้องการเข้าถึงได้เสมอ [8]
    • แอพพลิเคชั่นบิทคอยน์ที่เป็นที่นิยมคือ Airbitz และ Breadwallet ไม่เหมือนกับ Breadwallet แอพพลิเคชั่น Airbitz จะจัดการบัญชีด้วยการใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน และไม่ต้องเก็บหรือเข้าถึงบิทคอยน์ได้จริงๆ
  2. สร้างกระเป๋าสตางค์เว็บไซต์เพื่อใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต. ถ้าคุณต้องการใช้บิทคอยน์เพื่อใช้จ่ายผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก กระเป๋าสตางค์แบบเว็บไซต์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะใช้งานได้สะดวกและง่าย ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคนิคมากมายอะไร [9]
    • กระเป๋าสตางค์แบบเว็บไซต์ทำงานเหมือนกับบัญชีออนไลน์ คุณสามารถลงทะเบียน โอนบิทคอยน์ และเข้าระบบเพื่อจัดการกระเป๋าสตางค์ของคุณ
    • ด้วยความเสี่ยงที่มีต่อกระเป๋าสตางค์แบบเว็บไซต์ การใช้กระเป๋าสตางค์แบบผสมจะเป็นตัวเล็กที่ดีกว่า เช่น Copay ซึ่งสามารถใช้ข้ามอุปกรณ์และช่วยสร้างความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งที่กระเป๋าสตางค์แบบเว็บไซต์ทำไม่ได้
  3. ดาวน์โหลดโปรแกรมกระเป๋าสตางค์ถ้าคุณต้องการควบคุมกระเป๋าสตางค์. โปรแกรมกระเป๋าสตางค์ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมไว้บนคอมพิวเตอร์ เมื่อดาวน์โหลดโปรแกรมได้แล้ว คุณไม่ต้องใช้บริการอื่นๆ เพื่อทำธุรกรรมบิทคอยน์ บล็อกเชนอาจจะใช้เวลาดาวน์โหลด 2 วัน ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณ คุณอาจจะต้องดาวน์โหลดกระเป๋าสตางค์บนคอมพิวเตอร์ที่ใช้โดยเฉพาะ [10]
    • Bitcoin Core เป็นกระเป๋าสตางค์ "อย่างเป็นทางการ" เพื่อใช้บิทคอยน์โดยเฉพาะ แต่อาจจะใช้ได้ยากเพราะประมวลผลช้าและใช้งานได้ไม่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม Bitcoin Core จะมีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูงเพราะไม่จำเป็นต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ภายนอกและธุรกรรมต่างๆ ก็สามารถทำได้โดยการติดตั้งเครือข่าย Tor
    • Armory เป็นโปรแกรมกระเป๋าสตางค์ที่ปลอดภัย เพราะมีความหลากหลายในการใช้งานมากกว่า Bitcoin Core แต่มีความซับซ้อนและเป็นอันตรายได้
  4. ลงทุนซื้อกระเป๋าสตางค์ชนิดอาร์ดแวร์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ หรือที่เรียกว่า "cold storage" เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อบิทคอยน์เท่านั้น เพราะไม่มีโปรแกรมที่สามารถติดตั้งได้ และมีความปลอดภัยสูง [11]
    • กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์เริ่มต้นที่ 3000 บาท คุณไม่จำเป็นต้องซื้อกระเป๋าสตางค์ที่แพงที่สุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยกระเป๋าสตางค์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ Trezor โดยมีราคาประมาณ 3300 บาท
    • ถ้าคุณมีไอโฟนเก่าๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน คุณสามารถล้างเครื่องและติดตั้งแอพพลิเคชั่นกระเป๋าสตางค์ได้ เช่น Breadwallet และใช้เป็นอุปกรณ์ cold storage เช่นกัน
  5. ใช้กระเป๋าสตางค์กระดาษเพื่อการเก็บบิทคอยน์ในระยะยาว. กระเป๋าสตางค์แบบกระดาษนั้นยุ่งยากถ้าคุณวางแผนที่จะใช้บิทคอยน์บ่อยๆ ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณแค่ต้องการซื้อบิทคอยน์เพื่อเก็บไว้ในระยะยาวเพื่อลงทุน การเก็บไว้ที่กระเป๋าสตางค์แบบกระดาษเป็นวิธีที่ดีที่สุดหี [12]
    • กระเป๋าสตางค์แบบกระดาษ ที่อยู่สาธารณะและส่วนตัวสำหรับเก็บบิทคอยน์จะถูกเก็บไว้ในกระดาษโดยจะอยู่ในรูปแบบคิวอาร์โค้ด เพราะบิทคอยน์ของคุณจะไม่ใช้อินเทอร์เน็ตเลย ดังนั้นจึงปลอดภัยจากแฮคเกอร์ อย่างไรก็ตาม คุณต้องสแกนรหัสเพื่อเข้าถึงบิทคอยน์ของคุณ
    • แม้ว่ากระเป๋าสตางค์แบบกระดาษช่วยให้คุณปลอดภัยจากแฮดเกอร์ได้ แต่จำไว้ว่าเป็นกระดาษ ที่ติดไว้ เปียกน้ำ หรือถูกทำลายได้ง่าย (เช่น หนูกัดหรือสุนัขกัด) ดังนั้น เก็บกระเป๋าสตางค์กระดาษไว้ในที่ที่ปลอดภัย
  6. ไม่ว่ากระเป๋าสตางค์คุณจะปลอดภัยมากแค่ไหน คุณก็สามารถเพิ่มความปลอดภัยอีกได้ ให้ทำกระเป๋าสตางค์สำรองเอาไว้ และเก็บไว้ในหลายๆ ที่ที่คุณสามารถเข้าถึงได้ เมื่อกระเป๋าสตางค์อีกอันถูกทำลายไป [13]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะสำรองกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้าน และอีกอันไว้ที่ทำงาน (ช่วยให้คุณมีสถานที่ที่เก็บรักษาได้) คุณควรจะเก็บตัวสำรองไว้ในลิ้นชักภายในรถด้วยเช่นกัน หรือคุณอาจจะฝากเพื่อนที่ไว้ใจหรือคนในครอบครัวเก็บไว้ก็ได้
    • กระเป๋าสตางค์สำรองใดๆ ก็ตามที่คุณเก็บไว้ในอินเทอร์เน็ตอาจจะถูกถอดรหัสได้ ให้ใช้รหัสผ่านที่หนาแน่น และเพิ่มการยืนยันสองปัจจัยเมื่อเป็นไปได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้หรือลงทุนบิทคอยน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ที่อยู่สาธารณะจะช่วยให้คุณได้รับบิทคอยน์จากคนอื่นได้ ที่อยู่ส่วนตัวจะเป็นที่อยู่ที่คุณจะส่งบิทคอยน์ไปให้คนอื่น ส่วนที่อยู่สาธารณะจะเป็นรหัสตัวเลขที่เรียงกันแบบสุ่มประมาณ 30 ตัวโดยมักจะเริ่มต้นด้วยเลข "1" หรือ "3" ส่วนที่อยู่ส่วนตัวจะยาวกว่าและเริ่มต้ด้วยเลข "5" หรือ "6" [14]
    • กระเป๋าสตางค์ของคุณจะสร้างที่อยู่นี้ หรือเรียกว่า "กุญแจ" ซึ่งมักจะอยู่ในรูปคิวอาร์โค้ด และเข้าถึงหรือซื้อสินค้าและบริการผ่านการสแกนโค้ด
  2. ผู้ขายสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก เข่น Overstock Microsoft OKCupid ยอมรับการใช้จ่ายด้วยบิทคอยน์ เมื่อคุณค้นหาเว็บไซต์ซื้อของออนไลน์ ให้มองให้โลโก้บิทคอยน์ [15]
    • จำนวนผู้ขายสินค้าและบริการที่ยอมรับบิทคอยน์นั้นเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้น ถ้าเว็บไซต์ที่คุณชื่นชอบไม่รองรับบิทคอยน์ในตอนนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในวันข้างหน้า คุณอาจจะส่งคำแนะนำไปยังศูนย์บริการลูกค้าเพื่อร้องขอให้รองรับบิทคอยน์
  3. ดำเนินการผ่านเว็บไซต์ Gyft ซึ่งจะมีเว็บไซต์บัตรของขวัญมากมายรองรับบิทคอยน์เพื่อซื้อบัตรของขวัญสำหรับผู้ขายสินค้าและบริการ รวมไปถึงยักษ์ใหญ่ในวงการขายสินค้าเช่น Amazon, Starbucks และ Target [16]
    • บางเว็บไซต์ เช่น Gyft มีส่วนลดและรางวัลให้กับลูกค้าที่ซื้อบัตรของขวัญผ่านบิทคอยน์
  4. เพราะสกุลเงินดิจิทัลนั้นผันผวนได้ง่าย การเก็บบิทคอยน์ไว้ลงทุนอาจจะมีความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณตั้งใจดูตลาดอย่างระมัดระวัง คุณอาจจะทำกำไรได้ [17]
    • ระวังบริษัทหรือเว็บไซต์ที่อ้างว่าจะเพิ่มจำนวนบิทคอยน์เป็นสองเท่า หรือเสนอให้อัตราดอกเบี้ยที่สูง หรือช่วยคุณลงทุนบิทคอยน์ด้วยกำไรดี เพราะเว็บไซต์และบริษัทเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นการหลอกลวงหรือแชร์ลูกโซ่ คุณอาจจะเห็นผลกำไรที่ดีกลับมาภายในไม่กี่เดือน จากนั้นจะลดลงอย่างรวดเร็ว
    • คุณอาจจะแลกเปลี่ยนรายวันกับบิทคอยน์เพียงแค่คุณต้องการ ซื้อขายรายวัน ด้วยหุ้นหรือสิ่งอื่น อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาศัยความรู้และการฝึกฝนค่อยข้างมากกว่าจะสำเร็จ
  5. มีองค์กรการกุศลและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรได้ยอมรับบริจาคด้วยสกุลเงินดิจิทัล รวมไปถึงบิทคอยน์ โดยองค์กรเหล่านี้ เช่น Electronic Frontier Foundation (EFF) และ The Internet Archive นั้นก่อตั้งมาเพื่อให้อิสระบนอินเทอร์เน็ต [18]
    • ก่อนช่วงฤดูพักร้อนในปี 2017 บิทคอยน์ได้ประกาศรายชื่อองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 15 แห่งที่ยอมรับการบริจาคด้วยบิทคอยน์ที่เว็บไซต์ https://news.bitcoin.com/fifteen-ways-to-donate-bitcoin-to-charity-this-season/ .
    • เช่นเดียวกับผู้ขายบนอินเทอร์เน็ต ให้มองหาโลโก้บิทคอยน์บนเว็บไซต์บริจาคเพื่อหน่วยงานหรือองค์กรที่คุณชื่นชอบ ถ้าพวกเขายังไม่ยอมรับบิทคอยน์ คุณอาจจะพิจารณาติดต่อไปยังองค์กรและเสนอให้พวกเขาพิจารณา
  6. เพราะบิทคอยน์ก่อตั้ง เติบโต และเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ผู้ขายสินค้าและบริการทั่วไปที่ยอมรับการซื้อขายด้วยบิทคอยน์ก็มีเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Subway และ KFC ที่ประเทศแคนาดา [19]
    • ผู้ค้าขนาดเล็กหรือในท้องถิ่นอาจจะยอมรับบิทคอยน์มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น บิทคอยน์นั้นเป็นที่ยอมรับโดย Pembury Tavern ซึ่งเป็นสถานบันเทิงในกรุงลอนดอน เช่นเดียวกับ Old Fitzroy สถานบันเทิงในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
    • เช่นเดียวกับผู้ค้าออนไลน์ ให้มองหาโลโก้บิทคอยน์ที่อยู่ติดกับโลโก้บัตรเครดิตที่อยู่บนประตูร้านค้าหรือช่องจ่ายเงิน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • บิทคอยน์สามารถหารแบ่งได้ไม่รู้จบ คุณไม่จำเป็นต้องซื้อบิทคอยน์ 1 เหรียญเต็ม เพราะคุณสามารถใช้และส่งบิทคอยน์จำนวน .0000000001 หรือน้อยกว่านั้นก็ได้ จำนวนอาจจะลดลงจนสามารถใช้เหรียญบาทซื้อได้เลยทีเดียว
โฆษณา

คำเตือน

  • ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับบิทคอยน์คือเป็นระบบนิรนาม เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ต บิทคอยน์เป็นนามสมมติที่สามารถติดตามได้ เว้นแต่ว่าคุณได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อปกปิดการติดตามของคุณ ถ้าคุณซื้อของผิดกฎหมายผ่านบิทคอยน์ เจ้าหน้าที่กฎหมายอาจจะติดตามการซื้อขายของคุณก็เป็นไปได้
  • การทำธุรกรรมบิทคอยน์ไม่สามารถทำย้อนกลับได้ จำไว้เสมอเวลาทำการแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายโดยใช้สกุลเงินดิจิทัล [20]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,051 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา