ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้โปรแกรม Microsoft Paint ในคอมพิวเตอร์ Windows ให้คุณเอง Microsoft Paint เป็นโปรแกรมสุดคลาสสิคของ Windows ที่อยู่รอดปลอดภัยมาจนถึง Windows 10 ได้ ถ้าอยากรู้ว่าโปรแกรมนี้มีดีอะไร เลื่อนลงไปอ่านข้างล่างเลย
ขั้นตอน
-
สำรวจ toolbar. toolbar จะอยู่ด้านบนของหน้าต่างโปรแกรม Paint ตรงนี้จะมีตัวเลือกทั้งหมดสำหรับใช้งานในกระดาษของ Paint
-
เลือกสีหลัง. คลิกสีไหนก็ได้ในจานสี ที่ด้านขวาบนของหน้าต่าง Paint แล้วสีนั้นจะไปโผล่ในช่อง "Color 1" นี่คือสีที่คุณใช้ เวลาคลิกเมาส์ลากในกระดาษ
- ถ้าจะปรับสีเองแบบ custom ให้คลิก Edit colors มุมขวาบนของหน้าต่าง เลือกสีและเฉดสีที่จะใช้จากในวงล้อสี แล้วคลิก OK
-
เลือกสีรอง. คลิกช่อง "Color 2" ทางซ้ายของจานสี แล้วคลิกเลือกสีที่จะใช้เป็นสีรอง ใช้สีนี้ได้โดยคลิกขวาที่กระดาษ
-
เลือกหัวแปรง. คลิกเลือก Brushes ทางด้านบนของหน้าต่าง Paint แล้วคลิกเลือกหัวแปรงที่จะใช้ แต่ละหัวแปรงก็มีขนาด รูปร่าง และความกว้างต่างกันไป
- ถ้าจะลากเส้นแบบฟรีสไตล์ (free-form) ให้คลิกไอคอน "Pencil" รูปดินสอ ในหัวข้อ "Tools"
-
เลือกความหนาของเส้น. คลิกเลือก Size ทางซ้ายของจานสี แล้วคลิกความหนาของเส้นที่ต้องการ
-
คลิกแล้วลากเส้นไปตามกระดาษ. คลิกเมาส์ค้างไว้ แล้วลากเส้นวาดรูปตามสะดวก
- หรือคลิกขวาแล้วลากเส้น เพื่อวาดรูปด้วยสีรองแทน
-
เทสีใส่บริเวณที่ต้องการ. คลิก "Fill with color" tool ที่เป็นรูปถังสี ในหัวข้อ "Tools" แล้วคลิกที่กระดาษ เพื่อเปลี่ยนสีเป็นสีหลักที่เลือกไว้ (จะคลิกขวาเพื่อเทสีรองแทนก็ได้)
- ถ้าแบ่งกระดาษออกเป็นส่วนๆ ไว้ (เช่น มีเส้นแบ่งกระดาษเป็น 2 ส่วน) ก็เท่ากับเปลี่ยนสีเฉพาะฝั่งที่คลิก
- ถ้าเป็นหน้ากระดาษว่าง หรือไม่ได้แบ่งส่วนไว้ กระดาษทั้งแผ่นก็จะเปลี่ยนสีไป หลังคลิก "Fill with color" tool
-
ลบส่วนที่วาดผิด. คุณใช้ยางลบได้โดยคลิกไอคอน "Eraser" สีชมพู ในหัวข้อ "Tools" แล้วคลิกลากยางลบไปตามส่วนที่ไม่ต้องการ
- ปกติยางลบจะเป็นสีรอง อาจจะต้องรีเซ็ตสีรองเป็นสีขาวก่อน (หรือสีของพื้นหลัง ถ้าไม่ใช่สีขาว) แล้วค่อยลบ
โฆษณา
-
เลือกสี. คลิกเลือกสีที่จะใช้เป็นกรอบของรูปทรงนั้น
-
เลือกสี "Fill" ถ้าจะใช้. ถ้าจะให้รูปทรงนั้นมีสีข้างในด้วย ไม่ใช่แค่กรอบสี ให้คลิกช่อง "Color 2" แล้วคลิกเลือกสีที่จะใช้สี fill (เติมสีข้างใน)
-
หารูปทรงที่จะใช้. ในหัวข้อ "Shapes" ของ toolbar ให้เลื่อนขึ้นหรือลงเพื่อดูรูปทรงทั้งหมดที่ใช้ได้
-
เลือกรูปทรงที่ต้องการ. คลิกเลือกรูปทรงที่จะใช้ได้เลย
-
เลือกความหนาของเส้น. คลิก Size แล้วคลิกเลือกความหนาของเส้นที่ต้องการ ในเมนูที่ขยายลงมา
-
เลือก "Outline" ถ้าต้องการ. ตามค่า default กรอบของรูปทรงนั้น จะสีเดียวกันกับสีในช่อง "Color 1" ถ้าอยากปรับเปลี่ยนสีหรือไม่ให้มีสี ก็คลิกช่อง Outline ให้ขยายลงมา แล้วคลิกตัวเลือก (เช่น No outline ) ที่ต้องการได้เลย
-
เลือก "Fill" ถ้าต้องการ. ถ้าเลือกสี "Fill" ไว้ ให้ใช้ "Fill" กับรูปทรงนั้น โดยคลิก Fill แล้วคลิก Solid color
- คุณเลือก "Fill" แบบอื่นได้ด้วย (เช่น Crayon ) ถ้าอยากให้สีในรูปทรงมีสไตล์หรือสภาพพื้นผิวแตกต่างออกไป
-
คลิกแล้วลากเฉียงในกระดาษ. เพื่อสร้างรูปทรง
-
ยึดรูปทรง. พอได้รูปทรงตามขนาดและในตำแหน่งที่ต้องการแล้ว ก็ปล่อยเมาส์ จากนั้นคลิกนอกกระดาษ Paint ได้เลยโฆษณา
-
เลือกสีข้อความ. คลิกช่อง "Color 1" แล้วคลิกเลือกสีที่จะใช้
-
คลิก A . ทางด้านบนของหน้าต่าง
-
เลือกตำแหน่งที่จะใส่ข้อความ. หาตำแหน่งที่จะใส่ข้อความในกระดาษ เลือกได้แล้วคลิกเลย จะมีกล่องพิมพ์ข้อความเป็นเส้นประโผล่มา
-
เปลี่ยนฟอนต์ของข้อความ. ในหัวข้อ "Font" ของ toolbar ให้คลิกช่องพิมพ์ด้านบน แล้วคลิกเลือกฟอนต์ที่จะใช้ จากในเมนูที่ขยายลงมา
-
เปลี่ยนขนาดฟอนต์. คลิกเลขล่างชื่อฟอนต์ แล้วคลิกเลขขนาดฟอนต์ที่ต้องการ
-
ปรับแต่งฟอร์แมตของข้อความ. ถ้าอยากให้ข้อความเป็นตัวหนา ตัวเอียง และ/หรือขีดเส้นใต้ ให้คลิกปุ่ม B , I และ/หรือ U ในหัวข้อ "Font" ของ toolbar
-
จะขยายขนาดช่องพิมพ์ข้อความก็ได้. พอเลือกและปรับขนาดฟอนต์จากค่า default แล้ว บางทีก็ต้องขยายช่องพิมพ์ให้ใหญ่ขึ้น ทำได้โดยคลิกเคอร์เซอร์ที่มุมใดมุมหนึ่งของช่องพิมพ์ แล้วลากออกไปจากตรงกลางในแนวเฉียง
-
พิมพ์ข้อความ. ให้พิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไปในช่อง
-
ใส่พื้นหลังข้อความตามต้องการ. ถ้าไม่อยากให้ข้อความอยู่บนกระดาษโล่งๆ ให้คลิก Opaque ในหัวข้อ "Background" ของ toolbar
- พื้นหลังของข้อความจะเป็นสีรองที่เรากำหนดไว้ในช่อง "Color 2"
-
ยึดข้อความ. พอแก้ไขข้อความเสร็จแล้ว ให้คลิกตรงไหนก็ได้ในกระดาษ (หรือนอกกระดาษ) เพื่อยึดข้อความ
- พอยึดข้อความแล้ว จะขยับข้อความนั้นไปมายังตำแหน่งอื่นไม่ได้อีก
โฆษณา
-
คลิก File . มุมซ้ายบนของหน้าต่าง Paint แล้วเมนูจะโผล่มา
-
คลิก Open . กลางเมนู เพื่อเปิดหน้าต่าง File Explorer
-
เลือกรูป. ไปยังตำแหน่งที่มีไฟล์รูปที่จะเปิดขึ้นมาใน Paint แล้วคลิกเลือกรูป
-
คลิก Open . มุมขวาล่างของหน้าต่าง เพื่ออัพโหลดรูปเข้า Paint เท่านี้หน้ากระดาษของ Paint ก็จะปรับตามขนาดรูป
-
เปิดรูปขึ้นมาใน Paint โดยใช้เมนูคลิกขวา. ถ้าจะเปิดรูปขึ้นมาในโปรแกรม Paint โดยที่ไม่ได้เปิดโปรแกรมไว้ ให้คลิกขวาที่รูป เลือก Open with ในเมนูที่ขยายลงมา แล้วคลิก Paint ในเมนูที่โผล่มาโฆษณา
-
คลิก Select . ด้านซ้ายบนของ toolbar ใน Paint แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Rectangular selection . ในเมนูที่ขยายลงมา
- ถ้าจะลากเส้นตีกรอบเองแบบฟรีสไตล์ ให้คลิก Free-form selection แทน
-
ตีกรอบ. คลิกแล้วลากเฉียงๆ ออกไปจากด้านซ้ายบนของส่วนที่จะเซฟ ลงไปทางด้านขวาล่าง แล้วปล่อยเมาส์
- ถ้าใช้ free-form selection คือลากเส้นตีกรอบเอง ให้คลิกแล้วลากเส้น ตีกรอบรอบบริเวณที่จะ crop อย่าลืมให้จุดตรงปลาย 2 ข้างมาบรรจบกัน
-
คลิก Crop . ทางด้านบนของหน้าต่าง Paint เพื่อลบส่วนของรูปนอกกรอบที่กำหนด เหลือแต่ส่วนที่เลือกไว้
- แต่ถ้าจะลบส่วนที่ตีกรอบไว้แทน แล้วคงส่วนที่อยู่นอกกรอบไว้ ให้กด Del แทน
-
คลิก Rotate . ที่เป็นตัวเลือกทางด้านบนของหน้าต่าง Paint แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
เลือก rotation option. คลิกหนึ่งใน rotation options ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อหมุนรูปตามองศาที่เลือก
- เช่น ถ้าคลิก Rotate right 90º รูปก็จะหมุนขอบขวาสุดไปเป็นขอบล่างสุดแทน
โฆษณา
-
คลิก Resize . ใน toolbar ของ Paint แล้วหน้าต่าง pop-up จะโผล่มา
-
ติ๊กช่อง "Maintain aspect ratio". ที่เป็นตัวเลือกกลางหน้าต่าง เพื่อให้แน่ใจว่าปรับเปลี่ยนค่าใดค่าหนึ่งของขนาดรูปแล้ว รูปจะไม่เสียสัดส่วนไป
- ถ้าจะเพิ่มความสูงของรูปโดยไม่เพิ่มความกว้าง (หรือกลับกัน) ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
-
ติ๊กช่อง "Percentage". ทางด้านบนของหน้าต่าง
- ถ้าจะปรับขนาดรูปโดยกำหนดพิกเซล ให้ติ๊กช่อง "Pixels" แทน
-
เปลี่ยนค่า "Horizontal". ในช่อง "Horizontal" ให้พิมพ์เลขเพื่อปรับขนาดรูปตามต้องการ (เช่น ถ้าจะเพิ่มขนาดรูปเป็น 2 เท่า ให้พิมพ์ 200 )
- ถ้าใช้พิกเซลแทนเปอร์เซ็นต์ ให้พิมพ์เลขพิกเซลในช่อง "Horizontal" แทน
- ถึงไม่ติ๊กช่อง "Maintain aspect ratio" ก็ยังต้องเปลี่ยนค่าในช่อง "Vertical" อยู่ดี
-
ทำให้รูปเอียงได้ ถ้าต้องการ. skew คือการทำให้รูปเอียงไปทางซ้ายหรือขวา คุณ skew รูปได้โดยพิมพ์เลขในช่อง "Horizontal" และ/หรือ "Vertical" ในหัวข้อ "Skew (Degrees)"
- ถ้าจะ skew รูปในทิศทางตรงกันข้าม ให้พิมพ์ค่าติดลบ (เช่น "-10" แทน "10")
โฆษณา
-
เซฟค่าใหม่ให้มีผลใน project ของ Paint. ถ้าเคยเซฟ project ไว้แล้ว ก็กด Ctrl + S (หรือคลิกไอคอนแผ่นดิสก์ มุมซ้ายบนของหน้าจอ) เพื่อเซฟค่าใหม่ได้เลย
- แต่ถ้าทำขั้นตอนนี้ตอนแก้ไขรูปที่มี ก็เท่ากับเซฟทับเวอร์ชั่นเก่า เพราะงั้นแนะนำให้ copy รูปแล้วค่อยแก้ไข โดยเก็บไฟล์รูปต้นฉบับไว้จะดีกว่า
-
คลิก File . มุมซ้ายบนของหน้าต่าง Paint แล้วเมนูจะโผล่มา
-
เลือก Save as . ที่เป็นตัวเลือกกลางเมนู แล้วอีกเมนูจะโผล่มาทางขวา
-
คลิก JPEG picture . ในเมนูทางขวา เพื่อเปิดหน้าต่าง "Save As"
- คุณเลือกใช้รูปฟอร์แมตไหนก็ได้ (เช่น PNG picture )
-
พิมพ์ชื่อไฟล์. ในช่อง "File name" ให้พิมพ์ชื่อ project ตามต้องการ
-
เลือกตำแหน่งเซฟไฟล์. คลิกโฟลเดอร์ทางซ้ายของหน้าต่าง (เช่น Desktop ) เพื่อเลือกตำแหน่งเซฟ project
-
คลิก Save . มุมขวาล่างของหน้าต่าง เพื่อเซฟไฟล์ตามชื่อที่ระบุ ในตำแหน่งที่เลือกไว้โฆษณา
เคล็ดลับ
- ต่อไปนี้คือคีย์ลัดในโปรแกรม Paint ที่ช่วยให้คุณทำงานได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น [1]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หมุนรูป: Ctrl + R
- ใช้กระดาษแผ่นใหม่: Ctrl + N
- Cut: Ctrl + X
- Paste: Ctrl + V
- Copy: Ctrl + C
- เซฟ: Ctrl + S
- ลบ: Del
- พริ้นท์: Ctrl + P
- Undo: Ctrl + Z
- เลือกทั้งหมด: Ctrl + A
- เปิด: Ctrl + O
- ทำซ้ำ: Ctrl + Y
- ซ่อน Toolbar: Ctrl + T
- เปิด Attributes: Ctrl + E
- ยืดและ Skew รูป: Ctrl + W
- ซ่อนแถบสี: Ctrl + L (ถ้าจะซ่อนแถบสี ก็กดซ้ำอีกที)
- คุณใส่เส้นตาราง (gridlines) ใน project ของ Paint ได้ โดยคลิก tab View แล้วติ๊กช่อง "Gridlines"
- ถ้าอยากให้ไม้บรรทัดโผล่มาในกระดาษของ Paint ให้คลิก tab View แล้วติ๊กช่อง "Ruler"
โฆษณา
คำเตือน
- ต้อง copy รูปไว้ก่อนแก้ไขเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เซฟทับรูปต้นฉบับ ตอนแก้ไขใน Paint
- ตอนนี้ Microsoft เลิกสนับสนุนโปรแกรม Paint แล้ว เพราะงั้นต่อไปใครใช้ Windows เวอร์ชั่นใหม่ๆ ก็ต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมจากใน Microsoft Store แทน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา