ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ความเป็นผู้นำครอบคลุมคุณสมบัติและทักษะต่างๆ มากมาย ผู้นำที่ดีคือคนที่สามารถบริหารคนและงานได้ สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างบรรยากาศการทำงานเป็นทีมที่ดี พยายามพัฒนาคุณสมบัติความเป็นผู้นำด้วยการวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เพื่อนร่วมงาน
ขั้นตอน
-
ถามตัวเองว่าคุณเป็นผู้นำแบบไหน. ถ้าคุณอยากพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ คุณต้องวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถระบุสิ่งที่คุณต้องปรับปรุงได้ และทำให้คุณรู้ว่าคุณต้องทำอะไรและปฏิบัติตัวอย่างไร เพราะฉะนั้นให้เริ่มจากการถามตัวเองก่อนว่า “ฉันเป็นผู้นำแบบไหน”
- บางทีคุณอาจจะเป็นผู้นำที่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง และไม่เข้าไปก้าวก่ายงานของคนอื่นมากนัก
- หรือบางทีคุณอาจจะเป็นผู้นำที่ช่วยแก้ปัญหา และมีบทบาทการเป็นผู้นำที่มีส่วนร่วมและคอยแทรกแซงมากกว่า
- การเป็นผู้ร่วมทีมที่ดี คอยช่วยเหลือให้คนอื่นเข้าขากันและทำงานด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นก็ถือเป็นวิถีของผู้นำเช่นกัน [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจจะทำแบบทดสอบความเป็นผู้นำในอินเทอร์เน็ตเพื่อประเมินทักษะความเป็นผู้นำของคุณก็ได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองคิดดูว่าคนอื่นน่าจะมองคุณแบบไหน. พอคุณเริ่มจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นแล้วว่าคุณเป็นผู้นำแบบไหน การพิจารณาว่าคนอื่นมองคุณในฐานะผู้นำอย่างไรก็อาจจะช่วยคุณได้ด้วย คนอื่นที่ว่านี้อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ทำงานหรือเพื่อนๆ ที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็ได้ ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยการคอยสังเกตปฏิสัมพันธ์ในทีม เช่น เพื่อนร่วมงานมาขอคำแนะนำจากคุณบ่อยแค่ไหน และพวกเขาสบายใจที่จะทำเช่นนั้นไหม [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หรือคุณอาจจะถามเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานที่คุณไว้ใจว่า เธอมองคุณสมบัติความเป็นผู้นำของคุณอย่างไร
- คุณอาจจะขอข้อเสนอแนะและแนวทางเรื่องการบริหารและความเป็นผู้นำจากเพื่อนร่วมงานที่อายุมากกว่าที่คุ้นเคยกับคุณและงานของคุณ
-
วิเคราะห์คุณสมบัติความเป็นผู้นำของคุณ. หลังจากถามคำถามเบื้องต้นเกี่ยวกับการเป็นผู้นำของคุณและการรับรู้ของคนอื่นที่มีต่อคุณแล้ว คุณก็สามารถวิเคราะห์คุณสมบัติความเป็นผู้นำของคุณอย่างละเอียดมากขึ้นได้ และคุณก็จะตัดสินใจได้ว่าคุณจะปรับปรุงปัจจัยไหน เขียนคำถามเหล่านี้ลงไปและพยายามตอบคำถามอย่างละเอียดและซื่อสัตย์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ :
- ฉันได้พยายามที่จะเข้าใจความคิดและความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานหรือเปล่า
- ฉันได้ช่วยเหลือคนอื่นให้ทำงานอย่างสุดความสามารถและใช้ศักยภาพที่มีอย่างเต็มที่หรือเปล่า
- ฉันออกหน้ารับผิดชอบเรื่องต่างๆ หรือไม่
- ฉันเปิดใจและลองทำสิ่งใหม่ๆ ด้วยแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ หรือไม่
- ฉันสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
- ฉันเป็นนักแก้ปัญหาที่ดีหรือไม่
- ฉันส่งเสริมและยอมรับความคิดเห็นและมุมมองอื่นๆ หรือไม่ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ระบุสิ่งที่ต้องปรับปรุง. คำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่าคุณสมบัติความเป็นผู้นำแบบไหนที่คุณทำได้ดี และอะไรที่ต้องปรับปรุง ใช้คำตอบของคำถามด้านบนแล้วแบ่งคุณสมบัติความเป็นผู้นำออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกให้เขียนคุณสมบัติที่คุณรู้สึกว่าคุณทำได้ดีมากๆ อยู่แล้ว ส่วนที่สองให้ระบุสิ่งที่คุณยังต้องปรับปรุง และส่วนที่สามให้ระบุสิ่งที่คุณยังทำได้ไม่ดีและต้องปรับปรุงอีกมาก
- เช่น ถ้าคุณเข้าใจความคิดและความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานและคุณยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น การเปิดใจและการมีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมงานก็น่าจะเป็นสิ่งที่คุณทำได้ดีอยู่แล้ว
- ถ้าคุณไม่ได้ช่วยให้เพื่อนร่วมงานทำงานอย่างเต็มศักยภาพ และการสื่อสารของคุณยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทักษะเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่คุณยังต้องปรับปรุง
- คุณสมบัติความเป็นผู้นำเหล่านี้ยังสามารถแยกย่อยออกมาเป็นหัวข้อที่กว้างขึ้นได้คือ การสื่อสาร การสร้างแรงบันดาลใจและการเป็นตัวอย่างให้ผู้อื่น การเปิดใจ และการทำงานเป็นทีมกับการให้ความร่วมมือ [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Business Review ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
สามารถสนทนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ. การสื่อสารน่าจะเป็นคุณสมบัติความเป็นผู้นำที่สำคัญที่สุด และเป็นคุณสมบัติที่อยู่ในคุณสมบัติที่สำคัญอื่นๆ ทั้งหมดอีกทีด้วย หนึ่งในหัวใจสำคัญของการสื่อสารที่ดีคือ ความสามารถในการสร้างบทสนทนาเชิงบวกหรือบางครั้งก็เด็ดขาดในเรื่องปัญหาและวิธีแก้ปัญหา การเป็นผู้นำมีหลากหลายรูปแบบก็จริง แต่คนที่เอาแต่ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นและไม่ยอมพูดคุยเป็นเรื่องเป็นราวก็อาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนอื่นในระยะยาว
- ถามและส่งเสริมคำถามปลายเปิดมากกว่าคำถามแคบๆ
- เน้นไปที่ส่วนที่เห็นตรงกันก่อน แล้วค่อยมาคุยเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันทีหลัง
- อย่าควบคุมคนอื่น และสร้างบรรยากาศการทำงานแบบเปิดที่ทุกคนไม่กลัวที่จะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา. [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ"ถ้าคุณได้ยินคนอื่นพูดคุยกันในห้องพักเบรกถึงสิ่งที่คุณพูดด้วยคำพูดของเขาเอง ก็แปลว่าเขาเข้าใจสารที่คุณส่งออกไปแล้ว"
Maureen Taylor
CEO, SNP CommunicationsMaureen Taylor
CEO, SNP Communications -
มีภาษาท่าทางเชิงบวก. ภาษาท่าทางเชิงบวกจะช่วยให้คุณดูมีพลัง ผึ่งผาย และพร้อมให้ความร่วมมือ นอกจากนี้มันยังช่วยสร้างความประทับใจอย่างแรงกล้าขณะที่คุณพูด และทำให้คำพูดของคุณทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กฎที่สำคัญข้อหนึ่งก็คือการมีภาษาท่าทางที่สอดคล้องกับสิ่งที่คุณกำลังพูด เช่น อย่าเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นเวลาขอให้ใครทำอะไรให้ แต่ให้สบตา แสดงท่าทีผึ่งผายและมีเสน่ห์
-
เป็นผู้ฟังที่ดี. การจะเป็นนักสื่อสารที่ดีนั้น คุณจะต้องเป็นผู้ฟังที่ดีด้วย ถ้าคุณตั้งใจฟังอีกฝ่ายพูด เขาก็จะรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของคุณและคิดว่าคุณเป็นคนที่เขาสามารถคุยด้วยได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติความเป็นผู้นำข้อสำคัญที่คุณต้องพัฒนา ภาษาท่าทางเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นพยายามสบตากับคนที่คุณพูดด้วย [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ในการเป็นผู้ฟังที่ดีนั้น คุณต้อง :
- ไม่ตัดสินคนอื่น
- สนใจแต่คนที่คุณคุยด้วย
- พยายามเข้าใจคนอื่นก่อนพยายามทำให้คนอื่นเข้าใจคุณ
- อย่าพูดขัดโดยไม่จำเป็น [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Department of State ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
ใช้ความคิดริเริ่ม. หนึ่งในแง่มุมของการเป็นผู้นำที่ดีก็คือการลงมือแก้ปัญหาอย่างฉับไวและเด็ดขาด ถ้าคุณเห็นอะไรที่ต้องจัดการและมั่นใจว่าคุณรู้วิธีที่จะจัดการกับสิ่งนั้นได้ดีที่สุด ก็ให้ใช้ความคิดริเริ่มของคุณเลย ผู้นำที่แข็งแกร่งคือคนที่พร้อมที่จะเป็นผู้นำในสถานการณ์ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ใครร้องขอ
- ใช้ความคิดริเริ่มแสดงถึงทัศนคติเชิงบวกและทัศนคติ “ทำได้” [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แต่คุณต้องมั่นใจในสิ่งที่คุณทำด้วย ตั้งสติและลงมือทำอย่างมั่นใจ แต่อย่าพยายามด่วนหาวิธีแก้ไขปัญหาที่ต้องมีการปรึกษาหารือกันก่อน
- อีกมุมหนึ่งของการเป็นผู้นำที่ดีก็คือ การรู้ว่าเมื่อไหร่ควรรับฟังคำแนะนำ และเข้าใจว่าปัญหาไหนที่ต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อนถึงจะลงมือแก้ไขได้
-
รับผิดชอบ. ในการเป็นตัวอย่างผู้นำที่แข็งแกร่งนั้น คุณจะต้องรับผิดชอบงานของคุณ การจัดลำดับความสำคัญ และทีมทั้งทีมของคุณด้วย การจัดลำดับความสำคัญและการมอบหมายงานอย่างชัดเจนจะทำให้คนในทีมรู้หน้าที่และรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ง่ายขึ้น [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ช่วยเหลือคนในทีมให้ทำงานสำเร็จลุล่วงและพยายามสร้างบรรยากาศการทำงานและวัฒนธรรมที่ทุกคนช่วยเหลือกันแทนที่จะเป็นบรรยากาศของการแข่งขัน [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Business Review ไปที่แหล่งข้อมูล
- การรับผิดชอบงานยังรวมถึงการเอาหน้าที่ความรับผิดชอบออกจากคนที่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่สามารถจัดการงานที่มอบหมายให้ได้
-
พัฒนาทักษะอยู่เสมอ. หนึ่งในวิธีที่แสดงถึงทักษะความเป็นผู้นำที่ดีก็คือ การแสวงหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่คุณจะได้เรียนรู้และพัฒนาความสามารถของตัวเองอยู่เสมอ [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การแสดงความปรารถนาที่จะพัฒนาตัวเองและงานอยู่ตลอดเวลาอาจกลายเป็นปัจจัยที่สร้างแรงจูงใจให้กับคนรอบข้าง เพราะมันแสดงถึงความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศและการไม่พอใจที่จะหยุดอยู่กับที่
- วางแผนและเขียนมาตรฐานที่ชัดเจนสำหรับตัวเอง จากนั้นพยายามทำตามมาตรฐานที่วางไว้ให้ได้เสมอ
- พยายามตรวจตรางานของตัวเองและระบุสิ่งที่คุณยังต้องพัฒนาต่อไป
- คุณสามารถใช้มาตรฐานส่วนตัวเหล่านี้ในการวางแผนการพัฒนาส่วนบุคคลได้
-
ให้วิสัยทัศน์. ผู้นำที่ดีคือคนที่สามารถให้วิสัยทัศน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวที่ชัดเจนและน่าสนใจได้ ความสามารถในการวางแผนล่วงหน้า คิดอย่างมีกลยุทธ์ และพัฒนาลำดับความสำคัญคือคุณสมบัติเฉพาะของผู้นำที่แข็งแกร่ง ซึ่งในการที่จะทำเช่นนี้ได้ คุณต้องพัฒนามุมมองให้กว้างไกลเพื่อที่คุณจะได้เห็นอะไรไกลกว่ากำหนดส่งงานที่กำลังใกล้เข้ามา
- การมองเห็นภาพรวมจะช่วยให้คุณจินตนาการปัญหาได้ออกก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
- วิธีการในลักษณะนี้ยังนำไปสู่นวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ให้ประโยชน์ในระยะยาว [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Business Review ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
สร้างแรงจูงใจให้ผู้อื่น. ในการทำงานเป็นทีมนั้นคุณต้องการเพื่อนร่วมงานที่มีแรงจูงใจในการทำงาน หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดของผู้นำในการสร้างแรงจูงใจให้แก่เพื่อนร่วมงานก็คือ การให้ความใส่ใจและแสดงออกอย่างชัดเจนว่าคุณอยู่ตรงนี้เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือเขาเมื่อเขาต้องการ พยายามให้คนในทีมจดจ่อไปที่เป้าหมายที่มีความสำคัญเป็นลำดับแรกเพื่อให้พวกเขาเห็นทิศทางที่จะเดินไปข้างหน้าได้อย่างชัดเจน [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Business Review ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณไม่ควรเป็นคนสุดท้ายที่รู้ว่าคนในทีมกำลังมีเรื่องกังวลหรือมีปัญหาอยู่
- มีส่วนร่วมและเข้าไปพูดคุยกับคนอื่นเพื่อให้เห็นปัญหาและรับมือกับมัน
- วิธีนี้อาจรวมถึงการปรับเปลี่ยนทีมงานหรือการกระจายงาน
- เช่น ถ้ามีใครที่เบื่องานเพราะงานไม่ท้าทายอีกต่อไปแล้ว ให้หาวิธีที่จะทำให้เธออยากมีส่วนร่วมในงานของเธอ
- คุณอาจจะอธิบายให้เธอฟังว่างานนี้สำคัญต่อโปรเจ็กต์ในภาพรวมอย่างไร แม้ว่ามันอาจจะน่าเบื่อสักหน่อยก็ตาม
- คุณอาจจะพูดว่า “ผมรู้ว่างานนี้มันก็น่าเบื่อนิดนึง แต่ถ้าไม่มีส่วนนี้โปรเจกต์ก็ต้องล่มแน่ๆ ผมให้คุณทำงานนี้ก็เพราะว่าคุณเป็นคนใส่ใจรายละเอียด”
-
ชื่นชมเมื่องานออกมาดี. ส่วนสำคัญของการสร้างแรงจูงใจให้ผู้อื่นคือ การกล่าวชมเมื่องานออกมาดี มองหาโอกาสที่จะได้กล่าวชมเมื่องานออกมาดี และแสดงออกว่าคุณเห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาทำ การให้ความสนใจกับผลงานของเพื่อนร่วมงานอย่างชัดเจนคือคุณสมบัติสำคัญข้อหนึ่งของผู้นำที่ดีที่สามารถจูงใจทีมของตัวเองได้
- ถ้าในทีมของคุณมีพนักงานชั้นผู้น้อยมากกว่า ให้มองหาโอกาสในการพัฒนาด้านอาชีพการงานอยู่เสมอ
- วัฒนธรรมการทำงานเชิงบวกและถ้อยทีถ้อยอาศัยที่ผู้นำเองก็เคารพและเห็นคุณค่าของการทุ่มเททำงานจะส่งผลให้เกิดทีมงานที่มีแรงจูงใจมากขึ้นไปอีก
-
ร่วมมือแต่ไม่แข่งขัน. ถ้าคุณพยายามจะเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง คุณก็อาจจะอยากกระตุ้นให้ผลงานออกมาดีขึ้นด้วยการสร้างบรรยากาศการแข่งขันระหว่างเพื่อนร่วมงานด้วยกัน แต่แท้จริงแล้วการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ร่วมมือร่วมใจกันมักจะนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าและมีความสัมพันธ์ที่ดีกว่า
- ความขัดแย้งที่เกิดจากวัฒนธรรมการทำงานที่แข่งขันทำให้บริษัทต้องสูญเสียเวลาและทรัพยากรอันมีค่าในการจัดการกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
- คุณควรจะสร้างเป้าหมายที่คุณร่วมบรรลุไปด้วยกันจะดีกว่า [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Business Review ไปที่แหล่งข้อมูล
- การสร้างบรรยากาศการทำงานที่ร่วมแรงร่วมใจกันจะกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือและป้องกันการทำงานแบบตัวใครตัวมัน
-
ให้คนในทีมนึกถึงคุณและให้คนในทีมเข้าหาคุณได้. ถ้าคุณเป็นหัวหน้าทีมในการทำโปรเจ็กต์ คุณต้องมีเวลาให้เพื่อนร่วมงาน จำไว้ว่าผู้นำที่ดีไม่ใช่แค่คนที่ทำงานให้สำเร็จลุล่วง แต่เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานให้พัฒนาตัวเองและใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ เปิดใจให้คำปรึกษากับเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง แต่อย่าลืมหาเวลาฝึกอบรมแบบตัวต่อตัวเมื่อจำเป็นด้วย
- คุณสามารถทำให้คนในทีมนึกถึงคุณและมีเวลาให้คนในทีมได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น คุณอาจจะกำหนดตารางเวลาสั้นๆ ในแต่ละวันที่คุณมีเวลารับฟังปัญหาทุกปัญหา
- คุณอาจจะจัดสรรเวลาอย่างเป็นทางการ หรือแค่แบ่งเวลาสักครึ่งชั่วโมงที่คุณสามารถเดินไปหาคนในทีมและดูว่าทุกคนเป็นอย่างไรบ้าง
- ถ้ามีใครถามอะไรคุณบางอย่างและคุณไม่มีเวลาจะตอบคำถามเดี๋ยวนั้น อย่าบอกปัดทันที แต่ให้กำหนดเวลาที่คุณว่างคุยด้วยทีหลัง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.soar.ucsc.edu/forms/developing_leadership.pdf
- ↑ http://www.kent.ac.uk/careers/sk/leadership.htm
- ↑ http://www.soar.ucsc.edu/forms/developing_leadership.pdf
- ↑ http://www.soar.ucsc.edu/forms/developing_leadership.pdf
- ↑ https://hbr.org/2013/02/how-poor-leaders-become-good-l
- ↑ http://www.soar.ucsc.edu/forms/developing_leadership.pdf
- ↑ http://www.cci.health.wa.gov.au/resources/docs/Info-assertive%20communication.pdf
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/spycatcher/201108/body-language-basics
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2014/06/04/5-tips-for-communicating-assertively-without-being-passive-aggressive/
- ↑ http://www.state.gov/m/a/os/65759.htm
- ↑ http://www.kent.ac.uk/careers/sk/leadership.htm
- ↑ http://www.kent.ac.uk/careers/sk/leadership.htm
- ↑ https://hbr.org/2013/02/how-poor-leaders-become-good-l
- ↑ http://www.kent.ac.uk/careers/sk/leadership.htm
- ↑ https://hbr.org/2013/02/how-poor-leaders-become-good-l
- ↑ https://hbr.org/2013/02/how-poor-leaders-become-good-l
- ↑ https://hbr.org/2013/02/how-poor-leaders-become-good-l
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,743 ครั้ง
โฆษณา