ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อันธพาลสามารถพบได้ทุกวัย ผู้คนส่วนใหญ่ต้องรับมือกับอันธพาลสักคนสองคน บางครั้งเราอาจต้องรับมือกับอันธพาลที่เป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ข้อมูลทางสถิติเมื่อไม่นานมานี้เปิดเผยว่าเด็กหนึ่งในสี่ประสบปัญหาถูกข่มแหงรังแกไม่คราวใดก็คราวหนึ่ง [1] ผู้ใหญ่อาจพบปัญหาถูกกลั่นแกล้งในที่ทำงาน ที่บ้าน กองทัพ โรงพยาบาล หรือแม้แต่สถานพักฟื้น ฉะนั้นจึงต้องรับมือกับพวกอันธพาลด้วยความรอบคอบและถ้าสามารถทำให้วงจรอันธพาลหยุดลงได้ ก็จะยิ่งดี

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ฝึกตนเองให้สามารถรับมือกับอันธพาลได้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าแสดงให้พวกอันธพาลเห็นว่าเราไม่พอใจและเห็นว่ากวนโมโหเราได้สำเร็จ เดินออกห่างราวกับเราไม่สนใจ พวกอันธพาลดีใจที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกเจ็บใจหรือทุกข์ใจ ฉะนั้นการแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบคนพวกนี้จะยิ่งกระตุ้นให้คนพวกนี้ได้ใจ [2] อันธพาลต้องการได้รับความสนใจและถ้าเราแสดงอาการเจ็บใจให้พวกนั้นเห็น พวกนั้นก็จะยิ่งหาเรื่องข่มแหงรังแกเรามากขึ้น
    • วิธีนี้อาจส่งผลตรงข้ามก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราเจอกับอันธพาลแบบไหน ฉะนั้นดูสถานการณ์ให้ดี อันธพาลบางคนรู้สึกดีที่ได้กลั่นแกล้งเรามากขึ้น (พวกนี้ก็ชอบข่มแหงรังแกผู้อื่นอยู่แล้ว) ถ้าเห็นว่าเราไม่รู้สึกอะไรกับการกระทำของพวกนี้
    • เราไม่สามารถพูดคุยอย่างมีเหตุผลกับคนที่ไร้เหตุผลได้ เดินจากไปอย่างมีเกียรติจะดีกว่า บอกไปว่าเรามีเรื่องที่ดีกว่าต้องไปทำ ถ้าอันธพาลหาเรื่องเราไม่หยุด ก็พยายามยืนหยัดเพื่อตนเองไว้ ถ้าอันธพาลหาเรื่องกลั่นแกล้งผู้อื่น เราก็ต้องยืนหยัดเพื่อผู้อื่นที่โดนพวกนั้นรังแกด้วย
  2. เราต้องพยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง เพราะพวกอันธพาลพยายามกลั่นแกล้งเราเพื่อให้เรารู้สึกว่าตนเองเป็นคนอ่อนแอและไม่มีค่า ความจริงแล้วเราไม่ใช่คนอ่อนแอและไร้ค่า ฉะนั้นพึงระลึกไว้ว่าพวกอันธพาลมีเจตนาร้ายถึงได้พูดจาดูถูกเราและทำให้เรารู้สึกว่าตนเองนั้นด้อยกว่าพวกนั้น
    • บางครั้งเราคิดว่าพวกอันธพาลสามารถเอาทุกอย่างไปจากเราได้เพราะพวกนั้นเหนือกว่าเรา จงเชื่อว่าเราแข็งแกร่งกว่าพวกนั้น เพราะลึกลงไปข้างในแล้วเรา แข็งแกร่ง กว่าพวกนั้นและจะยิ่งแข็งแร่งกว่าพวกนั้นยิ่งขึ้นไปอีก
  3. พยายามหลีกเลี่ยงการเจอพวกนี้ที่โรงเรียนและสถานที่อื่นๆ ถ้าพวกนี้ใช้เส้นทางในการเดินทางเดียวกับเรา ให้เราเลือกใช้เส้นทางอื่น ถ้าพวกนี้ไม่เจอเรา พวกนี้ก็ไม่สามารถหาเรื่องแกล้งเราได้ ฉะนั้นพยายามหาทางหลีกเลี่ยงการพบเจออันธพาลเข้าไว้ แต่อย่าแสดงให้พวกนี้เห็นว่าเรากำลังพยายามเลี่ยงการเผชิญหน้าอยู่ ถ้าพวกคนพาลรู้ว่าเรากลัวหรือแกล้งเราได้สำเร็จ พวกนี้จะยิ่งแกล้งเราหนักขึ้น
    • เดินไปไหนมาไหนกับเพื่อนเสมอ ถือเสียว่าคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย อันธพาลส่วนใหญ่จะไม่กล้าหาเรื่อง ถ้าไม่มีพรรคพวกของตนอยู่ด้วย อันธพาลก็จะไม่อยากมีเรื่องและถ้าเรามีเพื่อนไปด้วย คนแบบนั้นก็จะไม่กล้าเข้ามาหาเรื่องเรา
  4. อย่าทำให้เรื่องที่น่าอายของเราเป็นเรื่องขบขันเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกอันธพาลนั้นไม่สามารถทำร้ายความรู้สึกเราได้. ถ้าเราทำแบบนั้นจะยิ่งทำให้อันธพาลได้ใจใหญ่และนำเรื่องน่าอายของเรามาเยาะเย้ยเราบ่อยๆ ทำให้เราอับอายขายหน้าจนหมดความภาคภูมิใจในตนเอง เราจะตกเป็นเป้าหมายของการกลั่นแกล้งและยังต้องเป็นอยู่อย่างนั้น
    • การกลั่นแกล้งไม่ใช่เรื่องสนุกและการเห็นคล้อยตามพวกอันธพาลไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องของตนเองหรือเรื่องของคนอื่นจะยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น การสร้างความตลกขบขันไม่เหมาะกับการรับมืออันธพาล แต่กลายเป็นว่าจะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเสียมากกว่า เป็นแค่การเติมเชื้อไฟเพิ่มเท่านั้น
  5. เมื่ออันธพาลพูดจาหาเรื่อง ถ้าใช้วิธีนี้ในที่สาธารณะ การพูดจาตอกกลับอันธพาลอย่างเผ็ดร้อนอาจตรงใจผู้คนรอบข้างหรือเหยื่อของอันธพาลนั้นจนพากันหัวเราะเยาะเย้ยอันธพาลให้ได้รับความอับอายขายหน้า อันธพาลก็จะเห็นว่าตนไม่มีทางอยู่เหนือเราได้ จำไว้ว่าอย่าแสดงอาการสนใจสิ่งที่พวกอันธพาลพูดและเต้นไปตามคำพูดของคนพวกนี้ เพราะจะทำให้อันธพาลสะใจที่สามารถทำร้ายความรู้สึกของผู้อื่นได้สำเร็จ
    • อย่าพูดจาตอบโต้อันธพาลที่มีประวัติเคยทำร้ายร่างกายเรามาก่อน เพราะจะยิ่งทำให้เรื่องราวยิ่งรุนแรงและเราเองก็อาจถูกทำร้ายร่างกายได้ แทนที่จะพูดจาตอบโต้กลับไปและทำให้สถานการณ์แย่ลง เดินออกห่างดีกว่า ถ้ามั่นใจว่าตนเองตกอยู่ในอันตราย รายงานให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทราบ
  6. อันธพาลมักจะไม่ฉลาดหรือมีไหวพริบมากนัก ฉะนั้นเราจึงสามารถใช้จุดอ่อนตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ ต่อไปจะเป็นคำแนะนำที่อาจนำไปประยุกต์ใช้ได้
    • หัวเราะกับทุกๆ เรื่องที่อันธพาลพูด ยิ่งคำพูดดูถูกถากถางนั้นรุนแรงมากเท่าไร ให้เรายิ่งหัวเราะหนัก พยายามคิดเสียว่านี้เป็นเรื่องตลกขบขันและหัวเราะออกมา การทำแบบนี้จะทำให้อันธพาลผิดหวัง เพราะต้องการให้เราร้องไห้ ไม่ใช่หัวเราะ
    • ตะโกนถ้อยคำบางอย่างให้ดังสุดเสียงต่อหน้าอันธพาล ควรใช้วิธีนี้เมื่ออันธพาลแกล้งเหยียบเท้าเราหรือชอบทำอะไรบางอย่างเพื่อสร้างความรำคาญให้อยู่เสมอ มีถ้อยคำดีๆ มากมายให้นำมาใช้ได้อย่างเช่น วรรคแรกของบทกวีที่เราชื่นชอบ บทเพลงที่เราแทบจะหลงลืมไปแล้ว หรือแต่งคำคมขึ้นมาเองก็ได้ เมื่อคิดจะใช้วิธีนี้ เราต้องตะโกนอย่างสุดเสียงในตอนที่อันธพาลนั้นไม่ทันตั้งตัว คนพวกนี้จะได้ตกใจและเราจะได้เป็นฝ่ายหัวเราะบ้าง หรืออย่างน้อยอันธพาลก็ไม่มาเข้าใกล้เรา ถ้าอันธพาลคิดว่าเราบ้า ก็ดีเหมือนกัน!
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาจเลือกเรียนคาราเต้ กังฟู เทควันโด ยูโด ยิวยิตสู ไอคิโด มวยไทย มวย คราฟมากา หรือศิลปะป้องกันตัวแบบอื่น การเข้าเรียนศิลปะป้องกันตัวจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ได้เตรียมร่างกายให้พร้อม และสามารถต่อสู้ หรือมีทักษะในการป้องกันตัว พวกอันธพาลชอบเหยื่อที่ดูอ่อนแอมากกว่าพวกตน ฉะนั้นการพัฒนาตนเองให้มีท่าทางน่าเกรงขามจะช่วยให้อันธพาลไม่อยากเข้าใกล้ การมีทักษะในการป้องกันตัวยังช่วยให้เรารู้วิธีปรากฏตัวแบบไม่ให้เป็นเป้าหมายได้ง่ายด้วย
    • ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นนักสู้ เพียงแต่ต้องทำให้ตนเองดูเป็นคนเด็ดขาดและน่าเกรงขาม เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้และปกป้องตนเองไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ
  2. ดูสภาพแวดล้อมรอบตัวเพื่อจะได้รู้เส้นทางหลบหนี รู้จักสถานที่ซึ่งอันธพาลไปเป็นประจำ บริเวณที่พบเจออันธพาลเป็นประจำ บริเวณที่ปลอดภัยสำหรับเรา และบริเวณที่พวกอันธพาลจะไม่กล้าเข้ามาหาเรื่องเราถึงแม้เจอกัน พยายามจับอะไรบางอย่างให้ได้เช่น วันเวลาสถานที่ซึ่งมักพบเจออันธพาล จะได้เอาข้อมูลนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง การรู้จักศัตรูและสภาพแวดล้อมตอนเจอกันอาจช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงการพบปะได้ดีและมีความสำคัญอย่างยิ่งตอนที่ต้องเผชิญหน้ากันโดยตรง [3]
    • อย่าแสดงท่าทีหวาดกลัวเมื่อต้องเดินเข้าไปใกล้ เดินด้วยท่าทางมาดมั่นและไม่แสดงท่าทีหวาดกลัว เดินพร้อมให้ศีรษะมองตรงไปข้างหน้าในทิศทางที่เป็นจุดหมายปลายทางและใช้สายตาสอดส่องผู้คนรอบข้างด้วย ถึงแม้จะรู้สึกหวาดกลัว แต่ให้ทำเป็นกล้าหาญเข้าไว้และเดินไปด้วยความมั่นใจ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเรากลัวอยู่
  3. การรู้วิธีป้องกันตัวนั้นสำคัญมาก เมื่อเราจำเป็นต้องสู้ (ซึ่งก็หวังว่าไม่ต้องทำถึงขั้นนั้น) เราไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญศิลปะป้องกันตัวจนได้สายดำ แค่รู้วิธีป้องกันตัวเท่านั้นก็พอ ปกป้องตัวเองด้วยกำลังทั้งหมดที่มีและทำให้เต็มที่
    • การเตะเข้าที่ง่ามขาอย่างรวดเร็วจะช่วยให้อันธพาลชะงักและอับอายนานพอที่จะทำให้เรามีโอกาสหนี พวกอันธพาลมักจะไม่คาดคิดว่าเหยื่อจะสู้
    • ถ้าการเตะง่ามขาไม่ได้ผล ลองต่อยเข้าไปที่ลิ้นปี่ (อยู่ใต้ซี่โครง) หรือเตะเข้าที่เข่าเพื่อให้อันธพาลสะดุดล้ม
    • ถ้าอันธพาลจับเราหรือผลักเรา ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ พยายามทรงตัวให้ได้ จับแขนข้างหนึ่งของคู่กรณีไว้ด้วยมือซ้ายของเราและใช้มืออีกข้างกระแทกข้อศอก จากนั้นใช้มืออีกข้างผลักแขนข้างที่เหลือออกไป
    • จากนั้นเมื่อได้โอกาส ให้วิ่งไปที่ปลอดภัยและร้องขอความช่วยเหลือ
  4. 4
    พยายามทำความเข้าใจตนเองให้ลึกซึ้ง (และเข้าใจว่าตนเองนั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน). รู้ข้อดี ข้อเสีย และเป้าหมายของตนเอง รู้ว่าตนเองต้องการอะไรและมีความสามารถอะไรบ้าง การเชื่อมั่นในตนเองจะช่วยเราได้เมื่อต้องรับมือกับคำพูดดูถูกถากถาง เพราะไม่ว่าอันธพาลจะพูดจาดูหมิ่นเรารุนแรงแค่ไหน เราก็จะไม่หวั่นไหว การพูดจาดูหมิ่นผู้อื่นมักจะต้องการคนฟังเสมอ เพราะต้องให้ผู้ฟังรับรู้และคำพูดของอันธพาลมักจะไม่ได้มาจากความจริง แค่ต้องการให้ผู้คนสนใจฟังเท่านั้น
  5. 5
    หากเจอสิ่งของที่สามารถเป็นอาวุธได้ก็สามารถใช้มันต่อกรกับอันธพาลได้หรือคุณจะพกอาวุธเบาที่ไม่ทำให้ตายหรือบาดเจ็บหรือพิการมาก็ได้
    โฆษณา
  1. 1
    • อย่าให้ข่าวลือมามีผลต่อชีวิตของเรา บอกทุกคนว่าข่าวลือเกี่ยวกับเรานั้นไม่เป็นความจริงและบอกว่าพวกอันธพาลแค่ต้องการเรียกร้องความสนใจ ให้ผู้คนตระหนักถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของพวกนั้น ชี้ให้เห็นว่าพวกนั้นเป็นอันธพาล สร้างความทุกข์เดือดแก่ผู้อื่นมามากมายแค่ไหน
    • การพูดจาดูถูกถากถางและการทำพฤติกรรมไม่ดีใส่เราไม่ใช่เพราะเรานั้นเป็นตัวปัญหา ความจริงแล้วไม่เกี่ยวกับเราเลยด้วยซ้ำ แต่เกี่ยวกับอันธพาลพวกนั้น นี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกนั้นขาดความเชื่อมั่นและไม่มีความสุข เมื่อพวกนั้นทำแบบนี้กับเรา ก็น่าจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นด้วย
  2. ถ้าเราโต้ตอบกลับไปรุนแรงเช่นกัน เราก็จะกลายเป็นพวกเดียวกับอันธพาล ถึงแม้เราควรหาสาเหตุว่าทำไมพวกอันธพาลถึงชอบหาเรื่องเรานักและหาช่องว่างจากการปะทะเพื่อให้ตนเองรอดพ้นและได้เปรียบ แต่อย่าถึงขั้นทำตัวแบบพวกนั้น ทำแบบนี้จะยิ่งเข้าทางพวกอันธพาล แถมทำให้เราดูแย่เหมือนพวกนั้นอีก
    • ถ้าเราโต้ตอบกลับอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับที่อันธพาลทำแล้วเหตุการณ์กลับบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนผู้ใหญ่ต้องเข้ามาจัดการ ไม่มีใครมานั่งตรวจสอบหรอกว่าใครเป็นฝ่ายหาเรื่องใครก่อน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

แก้ไขปัญหาการถูกข่มแหงรังแก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การข่มแหงรังแกผู้อื่นมีหลายแบบ บางคนชอบทำร้ายร่างกาย บางคนชอบด่าทอผู้อื่น บางคนชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้อื่น อันธพาลจำนวนมากใช้วิธีการข่มแหงรังแกผู้อื่นหลายแบบผสมปนเปกันไป การทำความเข้าใจวิธีการข่มแหงรังแกแบบต่างๆ มีประโยชน์ หากต้องรับกับพวกอันธพาล
    • อันธพาลชอบทำร้ายร่างกายไหม พวกอันธพาลที่มีนิสัยก้าวร้าวมักชอบตี ทุบ เตะ และดึงผม พวกนี้จะชอบทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่มีความลังเล คนแบบนี้ไม่เพียงทำร้ายร่างกายเราเท่านั้น แต่เขาจะโทษว่าเป็นความผิดของเราที่ทำให้เขาต้องทำแบบนี้หรือบอกว่าเราเป็นฝ่ายหาเรื่องเขาก่อนเอง
    • อันธพาลชอบตั้งชื่อล้อเลียนผู้อื่น ชอบพูดจาดูหมิ่นผู้อื่นหรือเปล่า พวกที่ชอบพูดจาเหน็บแนมเสียดสีถือเป็นพวกชอบทำร้ายผู้อื่นด้วยการใช้วาจา (ตั้งชื่อล้อเลียน ทำให้ผู้อื่นกลายเป็นตัวตลก ชอบเย้าแหย่) [4]
    • อันธพาลแสร้งทำเป็นเพื่อนเรา แต่จากนั้นทำให้เรากลายเป็นตัวตลกต่อหน้าคนอื่นหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้ แสดงว่าคนคนนั้นใช้วิธีข่มแหงรังแกด้วยการทำร้ายความรู้สึก วิธีกลั่นแกล้งที่เข้าข่ายวิธีนี้ เช่น การขู่ทำร้ายหรือทำลายข้าวของสำคัญของเรา ทำอะไรบางอย่างเพื่อทำให้ผู้อื่นแกล้งเรา (อย่างเช่น แอบติดป้าย "เตะฉัน" ไว้ที่หลัง) หรือเล่าเรื่องโกหกเพื่อให้ผู้อื่นเกลียดเรา การกลั่นแกล้งโดยอ้อม เช่น การนินทาลับหลังหรือการแอบซุบซิบนินทา ปล่อยข่าวลือ พยายามกันผู้อื่นให้ออกห่างและก่อกวนเหยื่อทุกครั้งที่มีโอกาส
  2. รู้ว่าการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตคือการข่มแหงรังแกแบบซึ่งๆ หน้าหรือการข่มแหงรังแกแบบหนึ่ง. พวกอันธพาลทางอินเทอร์เน็ตคุกคามผู้อื่นด้วยการส่งข้อความ อีเมล และการใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แบบอื่นๆ วิธีรับมือกับอันธพาลทางโลกออนไลน์ที่ดีที่สุดคือลบข้อความที่ได้จากพวกนั้นทั้งหมด และไม่อ่านอะไรที่พวกนั้นเขียนทั้งสิ้น อย่าลืมบล็อกช่องทางสื่อสารระหว่างเรากับพวกนั้นด้วย
    • ถ้าเราถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต ให้ถือว่านี้เป็นการกลั่นแกล้งซึ่งๆ หน้า ถ้าจำเป็น บอกพ่อแม่ หัวหน้างาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คุณครูให้ทราบ หรือแจ้งตำรวจ อย่าปล่อยไว้และอย่าทนกับการถูกกลั่นแกล้ง
  3. รายงานการถูกข่มแหงรังแก ทุกอย่าง ต่อผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง. บอกให้พ่อแม่ ครูอาจารย์ ครูใหญ่ หัวหน้างาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทหาร ตำรวจหรือคนที่จะสามารถจัดการหรือลงโทษพวกอันธพาลรวมทั้งช่วยรับประกันความปลอดภัยให้เราได้ทราบ เราควรแจ้งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องทราบโดยตลอดจนกว่าปัญหาการถูกกลั่นแกล้งจะหมดไป นี่ไม่ใช่วิธีการของคนขี้ขลาดแต่นี้เป็นการแสดงความกล้าหาญและการเห็นคุณค่าของตนเอง
    • อย่ากลัวว่าอันธพาลจะกลับมาแก้แค้น ถ้าเรารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใหญ่ทราบ เพราะไม่ว่าอย่างไรพวกนั้นก็จะข่มแหงรังแกเราอยู่ดีและการยอมพวกนั้นก็ไม่ได้แก้ปัญหาให้ตนเองหรือใครก็ตามที่ถูกกลั่นแกล้ง เรายังสามารถไปบอกเพื่อนที่ดีสักคนก็ได้ เพื่อนที่ดีจะยืดหยัดเพื่อเราและเราก็จะยืดหยัดเพื่อเพื่อนเช่นกัน
    • ถ้ามีการสำรวจบุคคลที่ถูกข่มแหงรังแกที่โรงเรียน ให้กล้าที่จะเขียนชื่อตนเองลงไป อย่าอาย เราอาจได้รับโอกาสคุยเป็นการส่วนตัวกับคนที่มีประสบการณ์ และอาจได้รับกลเม็ดเคล็ดลับต่างๆ ที่มีประโยชน์มาก เราอาจรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอมากแต่ในความเป็นจริงแล้วเรานั้นเข้มแข็งกว่าพวกอันธพาลเสียอีก
  4. พวกอันธพาลพยายามทำให้ตนเองดูเก่งและดูเหนือกว่าผู้อื่น พวกนั้นต้องการเรียกร้องความสนใจเท่านั้น อันธพาลอาจเรียนรู้การข่มแหงรังแกจากครอบครัวหรือเพื่อน ถ้าเราไม่สนใจพวกนั้น พวกนั้นก็ทำอะไรเราไม่ได้! เนื่องจากเราเคยประสบปัญหาถูกข่มแหงรังแกมาก่อน เราจึงรู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนและรู้ว่าจะช่วยคนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกันอย่างไร!
    • วิธีหนึ่งที่ง่ายที่สุดซึ่งจะช่วยให้ผู้อื่นรู้สึกดีขึ้นเมื่อประสบปัญหาถูกข่มแหงรังแกคือการทำความเข้าใจปัญหานี้เสียใหม่ เน้นย้ำให้ผู้อื่นเห็นว่าพวกอันธพาลเองก็ไม่มีความสุขและไม่พอใจในชีวิตของตน จึงพยายามควบคุมความรู้สึกของผู้อื่นเพื่อให้ตนเองรู้สึกดี ถ้าเราคิดแบบนี้ เราก็จะรู้สึกว่าพวกนั้นน่าเห็นใจไม่น้อย
    • ถ้าคนที่เข้ามาหาเราประสบปัญหาถูกข่มแหงรังแกเช่นเดียวกับเรา ไปกับเขาเพื่อรายงานปัญหานี้ให้ผู้ใหญ่ทราบ พวกเขาจะได้มีกำลังใจในการสู้ปัญหา ถ้าคนเหล่านั้นไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เราก็สามารถช่วยเหลือคนเหล่านี้ได้
  5. พยายามให้ผู้อื่นตระหนักถึงปัญหาการถูกข่มแหงรังแก. ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรเพิกเฉยและปล่อยให้เหยื่อจัดการเพียงลำพัง พยายามนำปัญหานี้มาพูดคุยกับผู้อื่นอย่างจริงจัง ขอให้โรงเรียนจัดการพบปะพูดคุยหรือสัมมนาเพื่อทุกคนจะได้เห็นความสำคัญของปัญหานี้ ทำให้ทุกคนรู้ว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทุกวัน มีเพียงคนที่ตระหนักและเห็นความสำคัญของปัญหาเท่านั้นถึงจะสามารถทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหาได้
    • เราอาจคิดว่าตนเองโดดเดี่ยวหรือไม่มีใครพบปัญหาแบบเดียวกับเรา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะบางคนก็อายเกินกว่าที่จะพูดออกมา ถ้าเราเป็นฝ่ายเปิดใจก่อน เราอาจต้องประหลาดใจที่พบว่าตนเองนั้นมีแนวร่วมเยอะมากแค่ไหน
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

เข้าใจเรื่องการข่มแหงรังแกอย่างถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ควรรู้ความหมายของคำนี้อย่างถูกต้อง จะได้ไม่เหมารวมว่าการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ไม่ดีเป็นการข่มแหงรังแก เพราะความขัดแย้งในบางเรื่องก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการข่มแหงรังแกเลยและอาจถือว่าเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำ อีกทั้งยังแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีอีกด้วย การข่มแหงรังแกผู้อื่นเป็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เป็นพฤติกรรมแสดงอำนาจ พฤติกรรมนี้มักจะเกิดขึ้นซ้ำหรือมีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำ ทั้งอันธพาลและเหยื่ออาจมีปัญหาต่อกันอย่างรุนแรงไม่จบไม่สิ้น
  2. รู้ว่าการกระทำของอันธพาลอาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากตัวเหยื่อเลย. อาจเกิดปัญหาส่วนตัวในชีวิตของอันธพาลพวกนั้น จึงต้องระบายความโกรธและความทุกข์ใส่อะไรสักอย่างและโชคไม่ดีเลยที่คนโดนคือเรา อย่าคิดว่าเป็นความผิดของเรา โดยส่วนใหญ่การกระทำของพวกนั้นไม่ได้มีต้นเหตุมาจากตัวเราเลย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อันธพาลบางคนอาจอิจฉาเราก็เป็นได้ จึงหาเรื่องกลั่นแกล้งเพราะอิจฉาที่เรามีพรสวรรค์ที่เขาไม่มี ฉะนั้นจงมีความภาคภูมิใจในตนเองเข้าไว้
  • พยายามนิ่งเข้าไว้ การทำแบบนี้จะสร้างความแปลกใจและผิดหวังแก่อันธพาล เพราะตั้งใจจะทำให้เราแสดงปฏิกิริยาที่ไม่ดีตอบโต้
  • ถ้าเราถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต ให้เก็บหลักฐานการถูกข่มขู่เอาไว้ รายงานให้ผู้อื่นรับรู้ว่ามีการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต บล็อกช่องทางการติดต่อไม่ให้อันธพาลส่งข้อความมาได้หรือรายงานให้ทางเซิฟเวอร์นั้นทราบ และบอกคนอื่นว่าใครเป็นคนกลั่นแกล้งเราทางอินเทอร์เน็ต
  • เราอาจกลัวว่าอันธพาลจะโมโห ถ้าเราบอกคนอื่นถึงเรื่องที่คนพวกนี้ทำกับเรา แต่การบอกผู้อื่นไว้จะเป็นผลดีในระยะยาว ถ้าเรายอมพวกนี้ เราก็จะต้องยอมไปตลอด
  • อย่ารู้สึกว่าตนเองพยายามหลบเลี่ยงอันธพาล บางครั้งเราก็จำเป็นต้องหลบเลี่ยงพวกนั้นเหมือนกัน แต่เราก็ต้องแสดงให้เห็นว่าตนเองไม่กลัวที่ต้องเผชิญหน้ากับคนพวกนี้ ถ้าเราสงสัยว่าตนเองมักจะถูกแกล้งเวลาใดเวลาหนึ่งเป็นประจำ (เช่น มักถูกแกล้งหลังเลิกเรียน) ก็ให้ชวนเพื่อนกลับบ้านด้วยกันเพื่อจะได้ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุกลั่นแกล้งหรือเพื่อนจะได้เรียกให้คนช่วย เป็นต้น
  • อย่าร้องไห้ให้พวกอันธพาลเห็น ถ้าพวกนี้เห็นเราแสดงความอ่อนแอออกมา พวกนี้จะยิ่งข่มแหงรังแกเราหนักขึ้น
  • ถ้าเราไม่ใช่คนที่มีความมั่นใจในตนเองมากนัก ขอให้ลองพยายามยืดหยัดปกป้องตนเองจากคนพาล พอทำได้แล้ว เราจะมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้นและสามารถยืดหยัดเพื่อปกป้องผู้อื่นได้
  • อันธพาลแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคงก็ยังข่มแหงรังแกเราอยู่ดี ถึงแม้เราจะแสดงท่าทีเมินเฉยและทำเป็นไม่สนใจแล้วก็ตาม ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ เราต้องแจ้งให้คุณครูทราบ
  • อย่ากลัวที่จะบอกเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา ถ้าเพื่อนรู้ เพื่อนๆ จะสามารถช่วยเราได้ หรือไปแจ้งให้คุณครูทราบแทนเรา เราจะได้ไม่รู้สึกอับอาย
  • อย่า ตอบโต้อันธพาลในแบบที่พวกนั้นต้องการ พวกนั้นต้องการให้เราแสดงปฏิกิริยาที่ไม่ดีออกมาและพยายามทำลายวันดีๆ ของเรา
โฆษณา

คำเตือน

  • เด็กหลายคนได้รับการสั่งสอนว่าการทำให้คนอื่นเป็นตัวตลกไม่ใช่การกลั่นแกล้ง นี้ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป เพราะการทำแบบนนั้นอาจทำให้เรื่องราวบานปลายได้เสมอ ให้ระวังอันธพาลไว้ อยู่ในที่คนพลุกพล่านหรืออยู่กับผู้อื่น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่) เมื่ออันธพาลจะมาหาเรื่องเรา
  • อย่าทะเลาะวิวาทกับอันธพาล
  • ถ้าอันธพาลนั้นเป็นผู้ใหญ่หรืออยู่ในวัยฉกรรจ์ กำลังข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายเรา การกระทำแบบนี้เรียกว่าการทารุณ แจ้งผู้อื่นให้ทราบโดยทันที
  • อย่าเพิกเฉยอันธพาลที่กำลังแตะเนื้อต้องตัวเรา ถึงแม้นี้ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายโดยตรง แต่ก็ให้ระมัดระวังและป้องกันตัวไว้เช่นกัน
  • แจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบเสมอ (ครูอาจารย์ ตำรวจ ผู้ใหญ่คนอื่น) และแจ้งไปเรื่อยๆ จนกว่าพวกท่านจะรับฟัง
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 63,328 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา