ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ทุกคนรู้สึกอับอายเป็นบางครั้งบางคราว เพราะทุกคนย่อมทำผิดพลาด ความอับอายอาจจะเป็นผลของความสนใจที่ไม่เป็นที่ต้องการ ความผิดพลาดหรือการถูกจับให้อยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้คุณอึดอัด คุณอาจจะรู้สึกต้องการหลบหนีไปจนกว่าความอับอายหมดสิ้นไป แต่มันมีวิธีที่ดีกว่าในการรับมือกับความอับอาย คุณสามารถพยายามเข้าใจความรู้สึกของความอับอายให้ดีขึ้น เรียนรู้ที่จะหัวเราะให้ตัวเองและเห็นอกเห็นใจตัวเองเมื่อรู้สึกอับอาย
ขั้นตอน
-
ประเมินสถานการณ์. วิธีที่คุณรับมือกับสถานการณ์ที่น่าอับอายนั้นขึ้นอยู่กับว่าอะไรที่ทำให้คุณอับอาย เช่น หากคุณทำอะไรผิด ประเภทให้ความเห็นที่ไม่เหมาะสมแก่เพื่อน คุณก็อาจจะรู้สึกอับอายเพราะคุณไม่ควรพูดสิ่งที่พูดไป แต่หากคุณรู้สึกอับอายเพราะคุณทำบางอย่างผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น สะดุดล้มต่อหน้าคนจำนวนมาก สิ่งนั้นคือสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป แต่ละสถานการณ์ต้องใช้วิธีที่ต่างกันในการเอาชนะความรู้สึกอับอาย [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ขอโทษหากจำเป็น. หากคุณทำบางอย่างผิด คุณจำเป็นต้องขอโทษสำหรับความผิดพลาดนั้น การที่ต้องขอโทษอาจจะทำให้คุณรู้สึกอาย แต่มันจำเป็นต่อการจัดการกับความอายที่แท้จริง และต่อการเดินหน้าต่อไป คุณต้องขอโทษอย่างจริงใจและตรงไปตรงมา [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองพูดว่า “ฉันขอโทษที่ทำ/พูดแบบนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจ วันหลังฉันจะพยายามคิดให้รอบคอบมากกว่านี้”
-
ให้อภัยและหยุดโทษตัวเอง. หลังจากที่คุณได้ขอโทษแล้ว (หากจำเป็น) คุณต้องให้อภัยตัวเองกับสิ่งที่ทำหรือพูด การให้อภัยตัวเองคือขั้นตอนสำคัญในการจัดการกับความอาย เพราะมันจะช่วยให้คุณหยุดโทษตัวเอง การให้อภัยตัวเองคือการบอกตัวเองว่าคุณได้ทำผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ และคุณไม่จำเป็นต้องว่าตัวเอง [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองพูดว่า “ฉันให้อภัยตัวเองสำหรับสิ่งที่ทำ ฉันเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งและฉันทำผิดพลาดได้เป็นครั้งคราว”
-
ดึงความสนใจของตัวเองและผู้อื่นไปที่เรื่องอื่น. แม้คุณคงไม่อยากเพิกเฉยต่อเรื่องน่าอายที่คุณได้ทำหรือพูด แต่หลังจากที่คุณได้ประเมินผลมันและจัดการกับสถานการณ์แล้ว คุณก็ควรเดินหน้าต่อไป คุณสามารถช่วยให้คุณและคนอื่นก้าวผ่านเรื่องที่น่าอายนั้นได้ โดยการเปลี่ยนเรื่องหรือเชิญชวนให้พวกเขาทำอย่างอื่น [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น หลังจากที่คุณได้ขอโทษและให้อภัยตัวเองสำหรับการพูดสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับเพื่อนแล้ว ลองถามเขาว่าได้ดูข่าวเมื่อคืนหรือเปล่า หรือเอ่ยคำชมแก่เขา เช่น “นี่ ฉันชอบชุดของเธอจัง ซื้อที่ไหนเหรอ?”
โฆษณา
-
มองสะท้อนไปที่ช่วงเวลาที่น่าอายที่สุด. แม้มันอาจจะเจ็บปวดที่ต้องมองย้อนไปยังสิ่งที่น่าอายที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับคุณ แต่มันก็สามารถช่วยให้คุณเห็นช่วงเวลาที่น่าอายเหล่านั้นในแง่มุมต่างๆ ทำลิสต์ของสิ่งที่น่าอับอายที่สุด 5 อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับคุณและเปรียบเทียบมันกับความอับอายล่าสุดที่เกิดขึ้น [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หัวเราะกับตัวเอง. หลังจากที่คุณได้สร้างลิสต์ของช่วงเวลาที่น่าอายแล้ว ลองปล่อยตัวเองให้หัวเราะกับมัน การหัวเราะกับสิ่งที่คุณได้ทำสามารถลบล้างเรื่องเหล่านั้นได้ คุณสามารถช่วยให้ตัวเองทิ้งความรู้สึกของความอับอายไว้ในอดีตได้ ด้วยการมองเรื่องเหล่านั้นให้เป็นเรื่องงี่เง่าที่เกิดขึ้นในอดีต [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น หากคุณเคยเดินผ่านห้องอาหารกลางวันโดยที่กระโปรงติดอยู่ข้างในกางเกงในก็พยายามหัวเราะไปกับเรื่องนี้ ลองมองมันจากมุมมองของคนนอกและดึงตัวเองออกจากความรู้สึกลบๆ ตระหนักไว้ว่ามันเป็นแค่ความผิดพลาดที่งี่เง่า ซึ่งอาจจะทำให้คนอื่นหันมามองซ้ำหรืออาจจะตกใจ
- ลองพูดเรื่องช่วงเวลาที่น่าอายเหล่านี้กับเพื่อนที่ไว้ใจได้ มันอาจจะทำให้คุณหัวเราะใครสักคนได้ง่ายขึ้น หากคุณเล่าเรื่องให้กับคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และมันสามารถเป็นวิธีที่ดีสำหรับคุณในการได้ยินเรื่องราวของช่วงเวลาที่น่าอายของใครบางคน
-
เห็นอกเห็นใจตัวเอง. หากคุณไม่สามารถนำตัวเองให้หัวเราะกับสิ่งที่คุณทำ ก็ลองเห็นอกเห็นใจตัวเอง รับรู้ความอับอายและพูดกับตัวเองเหมือนเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง อนุญาตให้ตัวเองรู้สึกอับอายและเข้าใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นั้น [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พยายามเตือนตัวเองว่าคุณเป็นใครและคุณค่าที่แท้จริงของคุณคืออะไร วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณกลับสู่ความจริงและขจัดความอับอายออกไปด้วยความเห็นอกเห็นใจตัวเอง
-
จดจ่อกับปัจจุบัน. เมื่อคุณได้ปลอบโยนตัวเองผ่านเสียงหัวเราะหรือความเห็นอกเห็นใจแล้วก็นำตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน ตระหนักว่าช่วงเวลาที่น่าอับอายนั้นเป็นอดีตไปแล้ว พยายามจดจ่อความสนใจอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตในตอนนี้ คุณอยู่ที่ไหน? คุณทำอะไรอยู่? คุณอยู่กับใคร? คุณรู้สึกอย่างไร? การจดจ่ออยู่กับปัจจุบันอาจช่วยให้คุณหยุดพล่ามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณในอดีต [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พยายามทำให้ดีที่สุด. ถึงแม้ความอับอายอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด แต่มันก็เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบุคคล หากคุณทำหรือพูดอะไรผิดซึ่งทำให้คุณต้องรู้สึกอับอาย ก็ลองคิดเกี่ยวกับว่าคุณสามารถทำอะไรได้เพื่อหลีกเลี่ยงการทำหรือพูดบางอย่างที่คล้ายกันในอนาคต หากคุณทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจที่เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป ก็พึงนึกว่าคุณไม่ได้ทำอะไรผิดและเดินหน้าต่อไป
- พยายามไม่ยึดติดกับสิ่งที่ทำหรือพูด เพราะการพล่ามถึงมันอาจเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมากกว่าประสบการณ์ที่ได้รับจริงๆ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองปรึกษานักบำบัด. หากคุณยังไม่สามารถเอาชนะความรู้สึกอับอายได้ ถึงแม้จะพยายามมากเท่าไหร่ก็ลองขอความช่วยเหลือจากนักบำบัด คุณอาจจะกำลังรับมือกับสิ่งที่ต้องอาศัยการดำเนินการต่อเนื่อง หรือความอับอายของคุณอาจจะเกี่ยวข้องกับรูปแบบการคิดอื่นๆ เช่น การใคร่ครวญหรือความเคารพตัวเองที่ต่ำโฆษณา
-
ตระหนักว่าความอับอายนั้นเป็นเรื่องปกติ. การรู้สึกอับอายสามารถทำให้คุณรู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติกับคุณ หรือคุณโดดเดี่ยวเดียวดาย แต่มันสำคัญที่ต้องจำว่าความรู้สึกเหล่านี้นั้นไม่แม่นยำ ความอับอายเป็นความรู้สึกปกติเช่นเดียวกับการเป็นสุข เศร้า โกรธ เป็นต้น เมื่อคุณรู้สึกอับอาย ก็จำไว้ว่าทุกคนรู้สึกอับอายเช่นเดียวกัน ณ จุดๆ หนึ่งของชีวิต
- เพื่อเห็นว่าความอับอายนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนย่อมรู้สึก ก็ลองถามพ่อแม่หรือคนที่คุณไว้ใจได้ให้เล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับช่วงเวลาที่พวกเขาอับอาย [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เรียนรู้ว่ามันไม่เป็นไรหากคนอื่นรู้ว่าคุณอับอาย. สิ่งที่แย่ที่สุดสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับการรู้สึกอับอายคือเมื่อคนรู้ว่าคุณอับอาย การรู้ว่าคนอื่นรู้ว่าคุณอับอายสามารถทำให้คุณอับอายมากขึ้นอีก เพราะความอับอายทำให้คุณรู้สึกถูกเปิดโปง หรืออ่อนแอจากความกลัวการถูกตัดสินโดยคนอื่น [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ต่างจากความน่าอายซึ่งสามารถเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่สาธารณะและที่ลับตาคน เพราะความอับอายส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่สาธารณะ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พยายามเตือนตัวเองว่ามันไม่เป็นไร หากคนอื่นรู้ว่าคุณอับอายเกี่ยวกับบางอย่าง เพราะมันเป็นอารมณ์ที่ปกติ
- วิธีหนึ่งในการจัดการกับคำตัดสินของคนอื่นคือ ยึดหลักความจริงและถามตัวเองว่าคนอื่นหรือตัวคุณเองที่กำลังตัดสินคุณอยู่ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง .
-
เข้าใจว่าความอับอายบางอย่างสามารถเป็นประโยชน์. แม้การรู้สึกอับอายนั้นไม่ใช่ประสบการณ์ที่สนุกแต่ความอับอายเล็กๆ น้อยๆ ในบางโอกาสสามารถเป็นประโยชน์ได้ งานวิจัยพบว่าคนที่หน้าแดงเวลาที่พวกเขาทำหรือพูดอะไรผิดนั้นมักจะถูกมองว่าเป็นคนที่เชื่อถือได้ เพราะคนเหล่านี้กำลังแสดงให้เห็นถึงความตระหนักของกฎเกณฑ์ทางสังคม ฉะนั้นหากคุณหน้าแดงเป็นบางโอกาสเมื่อคุณทำผิด ก็อย่าบ่นถึงเรื่องนี้เพราะมันอาจจะทำให้คนมองคุณในทางที่บวก [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างความอับอายกับความเป็นคนรักความสมบูรณ์แบบ. ความเป็นคนรักความสมบูรณ์แบบสามารถสร้างความรู้สึกของความอับอาย คุณอาจจะยึดตัวเองติดกับมาตรฐานที่สูงจนเกินจริงที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนว่าคุณกำลังล้มเหลวหากคุณไปไม่ถึงมาตรฐานนั้น ความรู้สึกล้มเหลวเหล่านี้อาจนำไปสู่ความอับอาย ฉะนั้นมันจำเป็นที่ต้องตั้งมาตรฐานที่ไม่เกินจริงให้กับตัวเอง [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เตือนตัวเองว่าคุณคือนักวิจารณ์ที่ร้ายที่สุดของตัวคุณเอง. แม้มันอาจจะดูเหมือนว่าโลกนี้กำลังจับจ้องและตัดสินคุณอยู่ แต่นั่นไม่ใช่มุมมองที่เป็นจริง ลองคิดดูว่าคุณใส่ใจกับเรื่องจุกจิกที่คนอื่นพูดและทำมากแค่ไหน คุณไม่น่าที่จะพิจารณาคนอื่นในทางเดียวกับที่คุณมองตัวเอง [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างความอับอายกับความมั่นใจ. คนที่มั่นใจมักเจอความอับอายน้อยกว่าคนที่ไม่มั่นใจ [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง หากคุณไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองคุณก็อาจจะเจอกับความอับอายหรือความรู้สึกอับอายที่รุนแรงมากกว่าที่คุณควรเจอ ลองสร้างความมั่นใจในตัวเองเพื่อลดปริมาณของความอับอายที่คุณรู้สึกในแต่ละวัน
- หากคุณระแวดระวังตัวเองมากคุณก็อาจจะต้องรับมือกับความน่าอายซึ่งไม่ใช่สิ่งเดียวกับความอับอาย ความน่าอายคือผลลัพธ์ของภาพลักษณ์ตัวเองที่ต่ำซึ่งเกิดจากการรู้สึกอับอายบ่อยๆ [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ลองคุยกับนักบำบัดหากคุณรู้สึกว่าความอับอายทำให้คุณรู้สึกน่าอาย
โฆษณา
เคล็ดลับ
- หัวเราะกับเพื่อนๆ ทำเหมือนมันไม่ได้กวนใจคุณและเพื่อนๆ จะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่
- อย่าหมกมุ่นกับเรื่องจุกจิก ความอับอายเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรพล่ามถึง ลองกำจัดเรื่องพวกนี้ทิ้งไปและเดินหน้าต่อ
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://blogs.psychcentral.com/dbt/2011/03/how-to-handle-an-embarrassing-moment/
- ↑ http://blogs.psychcentral.com/dbt/2011/03/how-to-handle-an-embarrassing-moment/
- ↑ http://blogs.psychcentral.com/dbt/2011/03/how-to-handle-an-embarrassing-moment/
- ↑ http://www.webmd.com/parenting/features/helping-kids-handle-embarrassment?page=2
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2011/06/18/how-to-overcome-embarrassment/
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2011/06/18/how-to-overcome-embarrassment/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/turning-straw-gold/201302/are-you-embarrassed
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2011/06/18/how-to-overcome-embarrassment/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/intense-emotions-and-strong-feelings/201112/embarrassment
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2011/06/18/how-to-overcome-embarrassment/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/intense-emotions-and-strong-feelings/201112/embarrassment
- ↑ https://www.researchgate.net/publication/14534449_Are_Shame_Guilt_and_Embarrassment_Distinct_Emotions
- ↑ http://www.apsu.edu/sites/apsu.edu/files/counseling/COGNITIVE_0.pdf
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/in-love-and-war/201205/theres-nothing-wrong-turning-red
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2011/06/18/how-to-overcome-embarrassment/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/fighting-fear/201307/dont-be-embarrassed-nobody-is-paying-attention
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/fighting-fear/201307/dont-be-embarrassed-nobody-is-paying-attention
- ↑ https://www.psychologytoday.com/articles/200406/self-conscious-get-over-it
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,647 ครั้ง
โฆษณา