ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

สัญญาณ Wi-Fi มีระยะจำกัด ขึ้นอยู่กับว่าตัวส่งสัญญาณแรงแค่ไหน ใช้เสาอากาศแบบไหน ตั้งอยู่ที่ตำแหน่งใด สภาพแวดล้อมรอบด้านเป็นยังไง ปกติเราเตอร์ Wi-Fi ที่ใช้กันในบ้าน จะเชื่อมต่อไปยังหลายจุด โดยใช้ 802.11b หรือ 802.11g และใช้เสาแบบ stock antenna ซึ่งกระจายสัญญาณได้ 32 เมตร (105 ฟุต) บทความวิกิฮาวนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆ ที่ใช้กระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ไกลและแรงขึ้น รวมถึงวิธีจัดบ้านให้ไม่รบกวนสัญญาณ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ขยายระยะสัญญาณเน็ตบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปกติสัญญาณจะผ่านเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ และหนาทึบได้ลำบาก แบบนี้อาจช่วยให้สัญญาณแรงและไกลขึ้นได้
  2. พวกผิวหน้ามันเงาสะท้อนแสง (เมทัลลิค) พวกนี้สัญญาณ Wi-Fi จะกระทบแล้วสะท้อนกลับ พวกโลหะแผ่นบางๆ ในกระจกส่วนใหญ่นี่แหละตัวดี
  3. ตำแหน่งที่คุณจัดวางเราเตอร์นี่แหละที่มีผลต่อความแรงของสัญญาณมาก เวลาจะจัดวางเราเตอร์เลยต้องคำนึงถึง
    • ให้เราเตอร์อยู่กลางบ้านที่สุด และอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน เพราะคลื่นวิทยุจะไหลลงต่ำแบบเฉียงๆ [1]
    • ยกเราเตอร์จากพื้น ติดผนังหรือวางบนชั้นสูงๆ ได้จะดีที่สุด [2]
    • วางให้ห่างจากเราเตอร์ Wi-Fi ของบ้านข้างๆ ที่สุด (ซึ่งต้องไม่ใช่ช่องสัญญาณเดียวกัน)
    • อยู่ให้ห่างโทรศัพท์ไร้สายและไมโครเวฟ เพราะคลื่นความถี่ 2.4 GHz เหมือนกัน (เดี๋ยวนี้เขาเลยมีโทรศัพท์ไร้สายแบบไม่กวนสัญญาณ Wi-Fi)
    • อยู่ให้ห่างสายไฟ สายคอมพิวเตอร์ ไมโครเวฟ เบบี้มอนิเตอร์ และตะเกียงฮาโลเจน [3] เพราะสารไฟและคลื่นต่างๆ รบกวนสัญญาณ Wi-Fi หรือคลื่นวิทยุได้
  4. ถ้าโต๊ะคุณในออฟฟิศอยู่ห่างจากเราเตอร์ Wi-Fi ต้องย้ายที่ทำงานหาสัญญาณไปเรื่อยๆ ลำบากเหลือเกิน ก็ลองติดตั้ง wireless signal repeater ดู เป็นตัวขยายสัญญาณ Wi-Fi โดยไม่ต้องต่อสายให้วุ่นวาย [4] ให้ต่อ repeater ตรงกึ่งกลางระหว่าง access point กับคอม รับรองสัญญาณแรงสมใจ
    • wireless bridge (หรือ Ethernet converter) เอาไว้ใช้ขยายสัญญาณให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านสาย ถ้ามีปัญหาสัญญาณ ให้ลองใช้ Ethernet converter น่าจะได้แท่งสัญญาณเพิ่มมาบ้าง
  5. WEP กับ WPA/WPA2 เป็นระบบรักษาความปลอดภัย (เข้ารหัส) ป้องกันแฮกเกอร์เจาะเครือข่าย ปัญหาเดียวคือ WEP ("Wired Equivalent Privacy") นั้นหละหลวมกว่า WPA/WPA2 ("Wireless Protected Access") เยอะเลย [5] เพราะงั้นถ้ายังต่อเน็ตผ่าน WEP ให้ลองเปลี่ยนไปใช้ WPA/WPA2 ดู จะได้ไม่เปิดช่องให้ใครเจาะระบบได้โดยไง
  6. ยิ่งต่อเน็ตน้อยอุปกรณ์เท่าไหร่ เน็ตก็ยิ่งแรง (ตามปกติ) คุณจำกัดจำนวนอุปกรณ์ที่ต่อเน็ตได้ โดยสร้าง device access list ของ MAC address ตัว MAC address นี้คือ "Media Access Control" identifier ขออุปกรณ์ที่คุณและครอบครัวใช้นั่นเอง [6]
    • สร้าง device access list ของ MAC address โดย หา MAC address ของอุปกรณ์ แล้วเข้าหน้า configuration และ setting ของ access point ซึ่ง address จะมีไฟเขียว
  7. ถ้าไม่อยากให้ใครมาแอบดึงสัญญาณไปใช้จนเน็ตอืด ก็อย่าให้ใครรู้ว่ามีเน็ตแต่แรก (จริงๆ ก็มีโปรแกรมที่ใช้หาสัญญาณเน็ตที่ "ถูกซ่อน" โดยเฉพาะ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ป้องกันอะไร) ให้เข้าไปที่หน้าแอดมินของ access point แล้วเอาติ๊กออกจาก "Enable SSID Broadcast" คุณจะยังต่อเน็ตได้อยู่ แต่คอมเปิดรายชื่อ available networks หรือสัญญาณ Wi-Fi ที่ต่อได้แล้วจะไม่ขึ้นชื่อ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ใช้ฟอยล์ห่ออาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อสะท้อนสัญญาณ Wi-Fi จากเราเตอร์
  2. ก่อนจะเริ่มลงมือ ให้เข้า Network and Sharing Center ของคอมก่อน. คลิกชื่อ Wi-Fi จะมีหน้าต่างใหม่โผล่มา ให้เช็ค speed/mbps แล้วจดตัวเลขที่ขึ้นไว้ (เช่น 72.2 mbps) เสร็จแล้วก็ฉีกแผ่นฟอยล์ขนาดประมาณกระดาษ A4 สำหรับพริ้นท์หรือถ่ายเอกสารทั่วไป (ประมาณ 22 x 28 ซม. หรือ 8.5 x 11 นิ้ว)
  3. สะดวกสุดคือเอาแผ่นฟอยล์ไปห่อขวดน้ำอัดลมแบบ 2 ลิตร เหมือนใช้ทำเป็นฉลาก ห่อค้างไว้ 5 วินาทีแล้วแกะออก เท่านี้แผ่นฟอยล์ก็ม้วนสมใจ
  4. ตั้งแผ่นฟอยล์ที่ดัดโค้งแล้วไว้หลังเราเตอร์ในแนวนอน.
  5. เช็ค mbps/speed ตอนนี้ควรจะเร็วกว่าความเร็วตอนแรก ก่อนจะตั้งเราเตอร์
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ใช้ Wi-Fi นอกบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. (เช่น Power Management เป็น Maximum, Transmit Power เป็น Maximum และ Throughput Enhancement เป็น Enabled).
  2. พอเข้าเมืองก็ลองเปิดใหม่ รับรองเจอ Wi-Fi เต็มไปหมด แต่จะเข้าใช้ได้หรือเปล่านั่นอีกเรื่อง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้ายังอยากได้ระยะสัญญาณกว้างกว่านี้ ลองอัพเกรด wireless standard ไปเป็น Wireless N หรือ Wireless G ที่มี MIMO ดู เพราะเป็น 2 เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มระยะสัญญาณให้ Wi-Fi 802.11g หรือ 802.11b แบบเก่าๆ ได้แน่นอน
  • เช็คก่อนว่าตั้ง transmission power คือความแรงของสัญญาณเราเตอร์ไปที่ full คือแรงสุดหรือยัง
  • reflector หรือแผ่นสะท้อนแสงที่เราเรียกกันว่า reflect ก็ใช้สะท้อนกระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้ดี จะใช้ NetStumbler ช่วยหาด้วยก็ได้ ว่าควรวางแผ่นสะท้อนตรงไหน หรือใช้แผ่น CD แทน รวมถึงอื่นๆ ที่สะท้อนแสงและโค้ง ถ้าจะใช้ reflect ให้วางหลังอุปกรณ์รับสัญญาณหรือเสาอากาศ ช่วยเพิ่มระยะสัญญาณได้ดี วิธีนี้ใช้กับมือถือได้ด้วย
  • เคสคอมบางทีก็กลายเป็นตัวปิดกั้นสัญญาณ Wi-Fi ซะงั้น ให้ลองขยับเคสคอมไม่ให้ขวางระหว่าง network card กับเสาเราเตอร์ดู
  • ถ้าทุกวิธีที่ว่ามาไม่ได้ผล ให้ลองหาซื้อ Wi-Fi repeater ที่เป็นอุปกรณ์ใช้ต่อตรงกลางระหว่างเราเตอร์กับอุปกรณ์ ช่วยขยายสัญญาณได้
  • อันนี้แล้วแต่ยี่ห้อกับรุ่นเราเตอร์ Wi-Fi ที่ใช้ บางทีก็ต้องเปลี่ยนโปรแกรมของเราเตอร์เอง ไปใช้โปรแกรมแบบ open source ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพและตัวเลือกในการขยายระยะสัญญาณ Wi-Fi
  • ถ้าเพิ่มเสา "high gain" (dBi สูงขึ้น) ก็จะช่วยให้รับและกระจายสัญญาณได้ดีขึ้น ยิ่ง dBi สูงก็ยิ่งกระจายสัญญาณในแนวนอน แต่ลดการกระจายสัญญาณในแนวตั้ง ถ้าอยากให้สัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมถึงชั้นบนหลายๆ ชั้น ถึง dBi สูงขึ้นก็ไม่ได้ช่วย ควรซื้อ Wi-Fi amplifier จะตรงจุดกว่า
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าปรับเร่งเราเตอร์ Wi-Fi ที่ปรับแต่งแล้วมากเกินไป ระวังจะเจ๊งถาวรได้
  • ถ้าเปลี่ยน firmware ของเราเตอร์เอง ระวังประกันขาด แถมถ้าทำผิดทำถูก เราเตอร์ก็เจ๊งถาวรได้เหมือนกัน
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 30,959 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา