ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เมื่อมีเครื่องคิดเลข การหารากที่สามของตัวเลขใดๆ ก็อาจยุ่งยากเพียงแค่กดปุ่มเดียว แต่บางทีคุณก็อาจไม่มีเครื่องคิดเลขติดตัวในตอนนั้น หรืออยากจะอวดเพื่อนว่าสามารถหารากที่สามได้ด้วยมือ มันเป็นกระบวนการที่ออกจะลำบากในตอนแรก แต่พอฝึกทำมากขึ้นก็จะเป็นเรื่องง่ายไปเลยยิ่งถ้าคุณจำทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์กับพีชคณิตของเลขยกกำลังสามได้บ้างก็จะยิ่งช่วยได้เยอะ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

แก้โจทย์หารากที่สามตามตัวอย่าง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การแก้รากที่สามของจำนวนตัวเลขจะเหมือนโจทย์การหารยาวที่มีความแตกต่างเป็นพิเศษอยู่บ้าง ขั้นตอนแรกคือการกำหนดโจทย์ให้อยู่ในรูปแบบที่ถูกต้อง [1]
    • เขียนจำนวนที่คุณจะหารากที่สาม เขียนจำนวนหลักให้อยู่ในกลุ่มทีละสาม โดยใช้จุดทศนิยมเป็นตัวเริ่มต้น สำหรับตัวอย่างนี้ เราจะหารากที่สามของ 10 ให้เขียนเป็น 10. 000 000 ซึ่ง 0 ที่เพิ่มเข้ามาก็เพื่อให้แก้โจทย์ได้แม่นยำขึ้น
    • วาดเครื่องหมายรากที่สามเหนือตัวเลข มันจะทำหน้าที่เดียวกับเส้นหารยาว แตกต่างกันแต่เพียงหน้าตาของเครื่องหมาย
    • ใส่จุดทศนิยมเหนือเส้นด้านบน โดยให้จุดทศนิยมตรงกันกับจุดของเลขเดิม
  2. คุณจะต้องใช้มันในการคิดคำนวณ ค่ารากที่สามเป็นดังนี้:
  3. เลือกตัวเลขที่เมื่อยกกำลังสามแล้วให้ผลที่มีจำนวนสูงที่สุดนั้นน้อยกว่าเลขกลุ่มแรกในกลุ่มทีละสามตัว [2]
    • ในตัวอย่างนี้ เลขกลุ่มแรกในกลุ่มทีละสามตัวของโจทย์คือ 10 หาค่าที่มากที่สุดของเลขยกกำลังสามที่น้อยกว่า 10 ซึ่งเลขตัวนั้นคือ 8 อันเป็นรากที่สามของ 2
    • เขียนเลข 2 เหนือเส้นรากข้างบนตัวเลข 10 เขียนค่าของ , ซึ่งเท่ากับ 8 ใต้ตัวเลข 10 ขีดเส้นแล้วทำการลบกันเหมือนเวลาหารยาว ผลที่ได้คือ 2
    • หลังลบกันเสร็จ คุณมีเลขหน่วยแรกของคำตอบแล้ว คุณจะต้องดูว่าเจ้าเลขตัวเดียวนี้ใช่ผลที่แม่นยำแล้วหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังไม่ใช่หรอก คุณสามารถตรวจสอบว่ามันใกล้เคียงพอหรือยัง ในตรงนี้เพราะ ได้แค่ 8 ยังไม่ใกล้เคียงกับ 10 คุณจึงต้องหาต่อ
  4. เอากลุ่มตัวเลขสามตัวถัดไปมาใส่ในเลขเศษ แล้วขีดเส้นแนวตั้งเล็กๆ ทางด้านซ้ายของเลขที่ได้ นี่จะเป็นเลขฐานสำหรับหาหน่วยถัดไปของคำตอบรากที่สาม ในตัวอย่างนี้ มันควรเป็นเลข 2000 ซึ่งมาจากเลขเศษของการลบคือ 2 ตามด้วยกลุ่มเลข 0 สามตัวที่คุณดึงลงมา [3]
    • ทางด้านซ้ายของเส้นแนวตั้ง คุณจะต้องหาตัวหารถัดไป เป็นผลรวมของเลขแยกจากกันสามตัว หาที่ว่างเขียนตัวเลขเหล่านี้โดยขีดเส้นใต้เปล่าสามเส้น และเติมเครื่องหมายบวกระหว่างเส้นนั้น
  5. สำหรับส่วนแรกของตัวหาร เขียนตัวเลขยกกำลังสองของจำนวนใดๆ ที่อยู่ข้างบนของเครื่องหมายรากแล้วมาคูณด้วยสามร้อย ในกรณีนี้ ตัวเลขข้างบนคือ 2 และ 2^2 คือ 4 และ 4*300=1200 ดังนั้นเขียน 1200 ลงไปในที่ว่างแถวแรก ตัวหารสำหรับขั้นตอนนี้คือ 1200 บวกกับอะไรสักอย่างที่คุณจะหาต่อไป [4]
  6. หาหน่วยถัดไปของคำตอบโดยการเลือกว่าอะไรที่คุณสามารถคูณด้วยตัวหาร 1200 อะไรสักอย่าง แล้วมาลบจากเศษที่เหลือของ 2000 ซึ่งมีเพียงแค่ 1 เนื่องจาก 2 คูณ 1200 จะได้ 2400 ซึ่งเกินกว่า 2000 เขียนเลข 1 ในพื้นที่ว่างถัดไปเหนือเครื่องหมายราก [5]
  7. ตัวหารสำหรับขั้นตอนนี้จะมาจากสามส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือเลข 1200 ที่คุณมีอยู่แล้ว คุณจำต้องเพิ่มอีกสองพจน์เพื่อให้ตัวหารสมบูรณ์ [6]
    • ตอนนี้คำนวณ 3 คูณ 10 คูณตัวเลขแต่ละตัวในคำตอบที่อยู่เหนือเครื่องหมายราก สำหรับโจทย์ตัวอย่างนี้ นั่นหมายถึง 3*10*2*1 ซึ่งจะเท่ากับ 60 บวกมันเข้าไปในเลข 1200 ที่มีอยู่แล้ว ทำให้ได้ 1260
    • สุดท้าย บวกค่ายกกำลังสองของตัวเลขสุดท้าย ในตัวอย่างนั่นคือ 1 และ 1^2 ก็ยังเท่ากับ 1 ตัวหารทั้งหมดจึงเท่ากับ 1200+60+1 หรือ 1261 เขียนมันไว้ทางซ้ายของเส้นดิ่ง
  8. ทำให้คำตอบรอบนี้เสร็จสิ้นโดยการคูณหน่วยสุดท้ายของคำตอบ ในกรณีนี้คือเลข 1 คูณกับตัวหารที่คุณเพิ่งคำนวณได้คือ 1261 จะได้ 1*1261 =1261 เขียนมันใต้ค่า 2000 แล้วลบออก ก็จะได้ 739
  9. ตัดสินว่าจะทำต่อเพื่อให้ได้ค่าแม่นยำขึ้นหรือไม่. หลังจากทำการลบในแต่ละขั้นตอนแล้ว คุณต้องมาดูว่าคำตอบที่ได้แม่นยำใกล้เคียงพอหรือยัง สำหรับรากที่สามของ 10 หลังการลบครั้งแรกนั้น รากที่สามมีแค่ 2 ซึ่งไม่ละเอียดเลย ตอนนี้หลังจากรอบที่สอง คำตอบเป็น 2.1 [7]
    • คุณสามารถตรวจทานความละเอียดของผลที่ได้โดยการยกกำลังสามให้มัน 2.1*2.1*2.1 ผลลัพธ์คือ 9.261
    • หากคุณเชื่อว่าค่าที่ได้ละเอียดพอแล้ว จะหยุดทำแค่นี้ก็ได้ หากต้องการคำตอบที่แม่นยำกว่านี้ ก็ทำต่ออีกรอบ
  10. ในกรณีนี้ ถ้าต้องการคำตอบที่ละเอียดแม่นยำขึ้น ทำซ้ำอีกรอบดังนี้: [8]
    • เอากลุ่มเลขสามตัวถัดไปลงมา ในกรณีนี้ก็คือเลข 0 สามตัว ซึ่งจะมาใส่หลังเศษที่เหลือคือ 739 ก็จะได้ 739,000
    • เริ่มตัวหารด้วย 300 คูณกับเลขยกกำลังสองของตัวเลขที่ตอนนี้อยู่เหนือเครื่องหมายราก นั่นคือ จะได้ 132,300
    • เลือกหน่วยถัดไปในคำตอบที่คุณสามารถคูณมันด้วย 132,300 แล้วได้ค่าน้อยกว่าค่าเศษ 739,000 ตัวเลือกที่ดีน่าจะเป็น 5 เพราะ 5*132,300=661,500 เขียนเลข 5 ในพื้นที่ว่างบนเครื่องหมายราก
    • หา 3 คูณตัวเลขก่อนหน้านั้นที่อยู่เหนือเครื่องหมายราก, 21, คูณกับหน่วยสุดท้ายที่คุณเพิ่งเขียนลงไป, 5, คูณ 10 จะได้
    • สุดท้าย ยกกำลังสองหน่วยสุดท้าย นั่นคือ
    • รวมทุกส่วนของตัวหารจะได้ 132,300+3,150+25=135,475
  11. หลังจากคำนวณตัวหารสำหรับรอบถัดไปและและคำตอบเพิ่มมาอีกหลักแล้ว ให้ทำดังต่อไปนี้:
    • คูณตัวหารด้วยหน่วยสุดท้ายของคำตอบ 135475*5=677,375
    • ลบ 739,000-677,375=61,625
    • ดูว่าคำตอบ 2.15 แม่นยำพอหรือยัง ยกกำลังสามมันจะได้
  12. ผลที่อยู่ด้านบนของเครื่องหมายรากคือรากที่สามที่ละเอียดในระดับสามหลัก ในตัวอย่างรากที่สามของ 10 คือ 2.15 ตรวจทานมันโดยคำนวณ 2.15^3=9.94 ซึ่งใกล้เคียงกับ 10 หากคุณต้องการความละเอียดกว่านั้น ก็แค่ทำตามขั้นตอนที่ว่าซ้ำจนกว่าจะพอใจ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

หารากที่สามโดยการประมาณซ้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ตัวเลขยกกำลังสามมาหาค่าที่เหนือกว่าและต่ำกว่า. หากคุณต้องหารากที่สามของเกือบทุกจำนวนใดๆ ให้เริ่มโดยการเลือกค่ากำลังสามสมบูรณ์ที่ใกล้เคียงกับมันมากที่สุด โดยที่ยังไม่เกินไปจากจำนวนเป้าหมาย
    • ตัวอย่าง หากคุณต้องการหารากที่สามของ 600 จำ (หรือใช้ตารางเลขยกกำลังสาม) ได้ว่า และ ดังนั้น คำตอบของรากที่สามของ 600 จะต้องเป็นเลขสักอย่างที่อยู่ระหว่าง 8 กับ 9 คุณจะใช้เลข 512 กับ 729 เป็นตัวจำกัดขอบเขตที่เหนือกว่าและต่ำกว่าสำหรับคำตอบ
  2. หน่วยแรกนั้นมาจากความรู้เรื่องตัวเลขยกกำลังสาม สำหรับหน่วยถัดไปนั้น ประมาณค่าตัวเลขระหว่าง 0 ถึง 9 โดยดูจากตัวเลขเป้าหมายนั้นอยู่ระหว่างตัวเลขที่เป็นขอบเขตจำกัดทั้งสองตัว
    • ในตัวอย่าง เป้าหมายของ 600 จะอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งระหว่างตัวเลขขอบเขตของ 512 กับ 729 ดังนั้น เลือก 5 เป็นหน่วยถัดไป
  3. ตรวจสอบค่าที่ประมาณการมาโดยการยกกำลังสามให้มัน. ลองคูณค่าประมาณดังกล่าวเพื่อดูว่าใกล้เคียงกับตัวเลขของโจทย์หรือไม่
    • ในตัวอย่างนี้ คูณ
  4. หลังจากยกกำลังสามค่าประมาณการสุดท้าย ตรวจดูว่าคำตอบนั้นใกล้เคียงกับตัวเลขของโจทย์หรือไม่ ถ้าตัวเลขนั้นสูงกว่า คุณต้องลดค่าประมาณการลงมาหนึ่งหรือกว่านั้น ถ้าผลต่ำกว่าก็อาจปรับเพิ่มขึ้นจนกระทั่งใกล้เคียงตัวเลขโจทย์
    • เช่น ในโจทย์ข้อนี้ มีค่าสูงกว่าเลข 600 ดังนั้นคุณควรลดค่าประมาณเหลือ 8.4 ยกกำลังสามตัวเลขนี้แล้วเทียบกับโจทย์ คุณจะพบว่า ตอนนี้มันน้อยกว่าเลขเป้าหมายแล้ว ดังนั้น คุณรู้ว่ารากที่สามของ 600 จะต้องมีค่าอย่างน้อย 8.4 แต่น้อยกว่า 8.5
  5. ประมาณการหน่วยถัดไปเพื่อความแม่นยำเพิ่มขึ้น. ทำการประมาณตัวเลขจาก 0 ถึง 9 ต่อจนคำตอบใกล้เคียงกับที่ต้องการ ในแต่ละรอบเริ่มด้วยการดูว่าการคำนวณล่าสุดได้ค่าอยู่ระหว่างจำนวนขอบเขตเท่าไหร่
    • ในตัวอย่าง การคำนวณรอบที่แล้วแสดงว่า ในขณะที่ เลขเป้าหมาย 600 นั้นใกล้เคียงกับ 592 มากกว่า 614 ดังนั้นการเดาต่อไปให้เริ่มจากการเลือกตัวเลขที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งระหว่าง 0 กับ 9 เล็กน้อย เดาดีๆ น่าจะเป็น 4 จึงประมาณรากที่สามเป็น 8.44
  6. มากเท่าที่ต้องการ ยกกำลังสามค่าที่ประมาณแล้วเทียบกับเลขเป้าหมาย คุณต้องหาเลขที่ต่ำกว่าหรือสูงกว่าเลขเป้าหมายเล็กน้อย
    • สำหรับตัวอย่าง เริ่มหาว่า ซึ่งมันสูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ลดลงมาและทดสอบ 8.43 จะได้ ดังนั้น คุณรู้ว่ารากที่สามของ 600 คือเลขสักอย่างที่มากกว่า 8.43 และน้อยกว่า 8.44
  7. ทำตามขั้นตอนประมาณการนี้ เปรียบเทียบแล้วปรับจำนวนตามความต้องการ จนกระทั่งได้คำตอบแม่นยำตามความพอใจ ยิ่งตัวเลขในจุดทศนิยมยิ่งมากก็ยิ่งใกล้ค่าที่แท้จริง
    • สำหรับโจทย์ตัวอย่างรากที่สามของ 600 นั้น เมื่อคุณใช้เลขทศนิยมสองหลักที่ 8.43 คุณจะอยู่ห่างจากเลขเป้าหมายน้อยกว่า 1 หากคุณจะหาทศนิยมสามหลัก คุณจะพบว่า น้อยกว่าคำตอบที่แท้จริงแค่ 0.1
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เข้าใจว่าการคำนวณนี้เป็นไปได้อย่างไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การทำความเข้าใจว่าทำไมขั้นตอนวิธีนี้จึงใช้ได้ผลในการหารากที่สามนั้น คุณจำต้องรู้ว่าการกระจายกำลังสามของเลขทวินามมีหน้าตาเช่นไร คุณอาจเคยเรียนในวิชาพีชคณิตมาแล้วในชั้นมัธยมปลาย (และถ้าเหมือนคนส่วนใหญ่ ก็มักจะส่งคืนคุณครูไปหมดแล้ว) เลือกตัวแปรสองตัว กับ สำหรับแทนตัวเลขหนึ่งหลัก แล้วสร้างทวินามของ เพื่อแทนจำนวนเลขสองหลัก [9]
    • ใช้พจน์ ในการสร้างเลขจำนวนสองหลัก ไม่ว่าคุณจะเลือกจำนวนใดสำหรับ , จะนำเลขนั้นไปใส่ไว้ในหลักสิบ เช่น หาก คือ 2 และ คือ 6 ดังนั้น จะกลายเป็น 26 [10]
  2. เรากำลังทวนย้อนกลับไป โดยการสร้างเลขกำลังสามก่อน แล้วค่อยดูทำไมคำตอบสำหรับรากที่สามถึงใช้ได้ เราจำเป็นต้องหาค่าของ ทำได้โดยการคูณ มันยาวเกินกว่าจะแสดงให้ดูตรงนี้ แต่ผลลัพธ์จะเท่ากับ [11]
    • สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของการกระจายทวินามให้ได้ผลตามนี้ คุณสามารถหาอ่านบทความการคูณทวินามในวิกิฮาว สำหรับแบบที่ก้าวหน้ากว่าและลัดกว่า ให้อ่านบทความการคำนวณ (x+y)^n ด้วยสามเหลี่ยมปาสคาล
  3. สังเกตว่าวิธีการคำนวณรากที่สามนั้นได้ผลเหมือนการหารยาว ในการหารยาวนั้น คุณจะหาแฟกเตอร์สองตัวที่คูณกันแล้วได้ผลลัพธ์ของตัวเลขที่คุณเริ่มต้นหาร ในการคำนวณตรงนี้ ตัวเลขที่คุณกำลังไขมันอยู่ (ตัวเลขที่จะขึ้นไปอยู่ข้างบนของเครื่องหมายราก) เป็นรากที่สาม นั่นหมายถึงมันแทนพจน์ (10A+B) ตัวเลขแท้จริงของ A กับ B นั้นตอนนี้จะไม่มีความหมาย ตราบเท่าที่คุณจดจำความสัมพันธ์กับคำตอบ [12]
  4. เมื่อคุณดูพหุนามที่ถูกกระจายออกมา คุณจะเห็นว่าทำไมขั้นตอนวิธีของรากที่สามถึงใช้ได้ผล จำไว้ว่าตัวหารในแต่ละขั้นของขั้นตอนวิธีคือผลรวมของพจน์สี่พจน์ที่คุณจำเป็นต้องคำนวณและนำมาบวกกัน พจน์เหล่านี้มีดังนี้: [13]
    • พจน์แรกจะเป็นผลคูณของ 1000 คุณหาตัวเลขแรกที่สามารถยกกำลังสามและยังอยู่ภายในช่วงระยะสำหรับการหารยาวสำหรับคำตอบหน่วยแรก มันจึงเป็นพจน์ 1000A^3 ในการกระจายทวินาม
    • พจน์ที่สองของการกระจายทวินามมีค่าสัมประสิทธิ์ของ 300 (จริงๆ แล้วมาจาก ) จำไว้ว่าในการคำนวณรากที่สามนั้น ตัวเลขหน่วยแรกของแต่ละขั้นตอนจะต้องคูณด้วย 300
    • หน่วยที่สองในแต่ละขั้นตอนของการคำนวณรากที่สามจะมาจากพจน์ที่สามของการกระจายทวินาม ในการกระจายทวินามนั้น คุณจะเห็นพจน์ 30AB^2
    • หน่วยสุดท้ายของแต่ละขั้นตอนคือพจน์ B^3
  5. เมื่อทำขั้นตอนวิธีการหารยาว แต่ละขั้นจะยิ่งให้คำตอบที่แม่นยำขึ้น เช่น โจทย์ตัวอย่างใบบทความนี้คือหารากที่สามของ 10 คำตอบในขั้นตอนแรกเป็นแค่ 2 เพราะ นั้นใกล้เคียงแต่น้อยกว่า 10 ซึ่งจริงๆ แล้ว หลังจากรอบที่สอง คุณได้คำตอบ 2.1 เมื่อทดสอบดู ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเป้าหมายที่ 10 ขึ้นกว่าเดิม หลังจากรอบที่สาม คราวนี้ได้ 2.15 ซึ่งให้ผล คุณสามารถทำไปโดยใช้เลขกลุ่มละสามหลักจนได้ค่าใกล้เคียงกับที่พอใจ [14]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ก็เหมือนกับอย่างอื่นในวิชาคณิตศาสตร์ ยิ่งทำโจทย์ก็ยิ่งคล่อง
โฆษณา

คำเตือน

  • ง่ายมากที่จะคำนวณพลาด ให้ตรวจทานคำตอบดีๆ
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ปากกาหรือดินสอ
  • กระดาษ
  • ไม้บรรทัด
  • ยางลบ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 182,477 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา