ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
มีคนที่แอบชอบแต่กลายเป็นคนน่าเบื่อไปทุกทีที่อยากจะคุยกับเขาอยู่หรือเปล่าล่ะ? คุณอาจแค่กลัวที่จะโดนปฏิเสธ หรือกลัวจะพูดอะไรบื้อๆ ออกไป เอาล่ะ สู้ๆ สิ! มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อย (โดยเฉพาะ ถ้าคุณกับคนที่คุณแอบชอบเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว) จำไว้นะว่าถ้าไม่ทำอะไรเลยก็ไม่มีทางได้อะไรมาแน่นอน นึกเอาไว้ในหัว และเตรียมตัวไปคุยกับคนที่ชอบโดยที่ ไม่ จบที่ความเสียใจเพราะชอบเขาแน่นอน!
ขั้นตอน
-
ใช้เวลาสักหน่อยก่อนจะไปหาแล้วคุยกับคนที่คุณชอบ. อย่างไรก็ต้องมีการเตรียมตัว คุณจะไม่สามารถทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้ถ้าไม่ได้เรียนมา หรือสอบใบขับขี่ไม่ผ่านถ้าไม่เคยไปลงเรียนหรอก ผู้ที่ให้เวลาและนึกถึงวิธีที่จะเอาชนะในคนที่ชอบได้มักจะมีภาษีมากกว่าอยู่แล้ว
- แยกระหว่างการเตรียมตัวกับเตรียมตัวแบบน่ากลัว คนที่คุณสนใจ ชอบ ที่จะได้รับความสนใจที่คุณอยากจะให้เขานั่นแหละ แต่เขาคงไม่อยากให้คุณคิดถึงเขาตลอดเวลาแม้จะผ่านไปสามวันแล้วก็ตาม มันค่อนข้างน่ากลัวอยู่นะ แม้จะมีโอกาสเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็เถอะ!
-
ทำตัวให้ผ่อนคลายเสียก่อน. สูดหายใจเข้าลึกๆ และปล่อยตัวทั้งร่างกายให้สบายๆ ถ้าทำในที่ที่ไม่เป็นที่สาธารณะก็จะดีกว่า ให้ทำตัวให้สบายก่อนจะเข้านอน หรือเมื่อกลับมาถึงบ้าน หรือตอนที่ไปอาบน้ำ
-
คิดก่อนพูด. คุณสามารถข้ามผ่านความกังวล หรือกำจัดมันออกไปได้โดยสิ้นเชิง ด้วยการใช้เวลาไตร่ตรองถึงทางเลือกของคุณก่อนสักครู่ ฝึกที่บ้านก่อนที่จะออกไปพบหน้าคนที่คุณชอบจริงๆ แล้วจะไม่มีความเงียบที่น่าอึดอัดนั้นเอง ใช้เวลาเสียหน่อย โดยเฉพาะถ้าคุณอยากจะสร้างความประทับใจแรกกับใครบางคนที่สำคัญต่อคุณ
- ฝึกหน้ากระจก คุณคงอยากมั่นใจว่าตัวเองกำลังจะพูดอะไรออกไป แต่อย่าให้มันดูเป็นการท่องบทซ้อมเกินไปล่ะ ให้จินตนาการถึงสถานการณ์หลายๆ อย่างที่คุณมีโอกาสจะได้คุยกับคนที่คุณชอบ แล้วฝึกสถานการณ์นั้นๆ หน้ากระจก ยิ่งเตรียมตัวไปมากเท่าไร ก็จะยิ่งมั่นใจในขณะที่ต่อบทสนทนามากขึ้นเท่านั้น
- สนุกไปกับมัน แน่นอน ลองพูดแบบที่เป็นจริงที่อยากพูดออกไป แต่ก็ให้ลองพูดในแบบที่ดูบื้อๆ ที่จะทำให้คุณหลุดขำออกมาด้วย ยิ่งเครียดน้อยลง ก็จะยิ่งดูเป็นธรรมชาติเมื่อเวลานั้นมาถึง
-
ทำความรู้จักคนนั้นสักหน่อย. ใช้เวลาในการสังเกตว่าหน้าจอโน้ตบุ๊คของเขามีรูปอะไรอยู่ หรือวันนี้กินอะไรเป็นอาหารกลางวัน หรือชอบเล่นกีฬาอะไร การรู้รายละเอียดเล็กน้อยแต่สำคัญเหล่านี้จะช่วยเรื่องบทสนทนาในภายหลังได้ คุณจะสามารถพูดอะไรแบบนี้ออกไปได้ไง
- "เห็นว่ามีหนังเรื่องนี้อยู่ในโน้ตบุ๊คของเธอ ฉันนี่คอหนังยุค 80 เลยนะ ชอบเรื่องไหนสุดหรอ?"
- นี่ เพื่อนๆ กับฉันจะไปเตะบอลกันหลังเลิกเรียนอะ นายอยากไปด้วยมั้ย?"
-
หาหนทางใหม่ๆ ที่จะดึงความมั่นใจออกมา. หนึ่งในเหตุผลที่คุณกลัวการตกหลุมรักก็คือมันจะไปทำลายความมั่นใจคุณได้ อย่าปล่อยให้อะไรแบบนั้นเกิดขึ้น มันบ้ามากที่จะมาสูญเสียความมั่นใจกับคนๆ เดียว ความมั่นใจในตนเองส่วนใหญ่นั้นจะมาจากการที่ คุณ รู้สึกกับตัวเองอย่างไร ฉะนั้นให้หาวิธีที่จะเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองก่อนจะไปทำความรู้จักกับคนที่คุณชอบ แล้วคุณก็จะดูน่าสนใจมากขึ้น และยังไม่เจ็บอะไรถ้าหากว่ามีอะไรแย่ๆ เกิดขึ้นอีกด้วย
- ดูหน้าไทม์ไลน์เฟสบุคของตัวเอง มีงานวิจัยบอกว่าเพียงแค่ดูหน้าไทม์ไลน์เฟสบุคตัวเองสัก 3 นาทีก็สามารถเพิ่มความมั่นใจในตนเองขึ้นมาได้แล้ว [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ก็คุ้มที่จะลองอยู่นะ!
- ใช้เวลากับพ่อ งานวิจัยยังกล่าวอีกว่าเด็กที่ใช้เวลาร่วมกับพ่อในช่วงวัยรุ่น จะเป็นคนมั่นใจในตัวเองมากกว่าคนที่ไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง บางทีการไปเที่ยวกับพ่อสักหลายๆ ชั่วโมงก่อนคุยกับคนที่ชอบอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็ได้
-
ทำตัวเป็นกลาง. หมายความว่าอย่างไรน่ะหรอ? ก็หมายความว่าให้วางตัวอยู่ในจุดที่ไม่สนใจว่าคนที่คุณชอบจะหันมาชอบคุณกลับหรือไม่น่ะสิ ทำไมมันถึงสำคัญนักล่ะ? สำคัญด้วยสองเหตุผลนี้ไง มันจะช่วยให้คุณรับมือกับการโดนปฏิเสธได้ ซึ่งเป็นที่คุณจะต้องเจอในท้ายที่สุด (ถ้าคุณไม่เคยโดนปฏิเสธเลย ก็แปลว่ายังไม่เคยพยายาม) และอีกเหตุผล มันจะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนที่คุณชอบไปในทางที่ดีขึ้น แทนที่จะมองว่าเขาเป็นฮีโร่ที่ช่วยทุกอย่างบนโลกใบนี้ไว้ได้ แต่ให้มองเขาเป็นคนธรรมดา แต่เป็นคนพิเศษก็พอ
- หา? กำลังคิดอยู่ล่ะสิ จะทำได้อย่างไรล่ะ? แค่ควบคุมตัวเองยังยากเลย คุณอาจทำไม่ได้ แต่บางครั้ง เราก็คิดถึงคนที่เราชอบมาก และจินตนาการไปถึงชีวิตที่ได้อยู่กับเขา ได้พัฒนาความสัมพันธ์ไปกับเขาโดยคิดไปเอง แล้วจินตนาการนั้นมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งเราไม่สามารถคิดถึงชีวิตที่ไม่มีเขาได้ โดยเขาไม่แม้แต่ที่จะรู้เลยสักนิด
- ถ้าคุณทำตัวเป็นกลาง ก็จะยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งทำให้มีเสน่ห์ต่อใครหลายๆ คนเลยล่ะ ไม่ต้องไปรู้สึกว่าการโดนปฏิเสธจากผู้หญิงหรือผู้ชายคนใดคนหนึ่งเป็นเรื่องใหญ่นักหรอก ความมั่นใจของคุณนั้นใหญ่กว่าคำปฏิเสธจากคนนั้นอีก
โฆษณา
-
เข้าไปหาคนที่คุณชอบตอนที่คุณอยู่คนเดียว. ความเป็นส่วนตัวในการพบกันครั้งแรก ควรอยู่ในระดับสถานการณ์ธรรมดาที่ไม่มีผู้คนมากนัก ยกตัวอย่างคือ กลางลานเต้นนั้น ไม่ใช่ สถานที่ที่ดีสำหรับการคุยกันยาวๆ ได้เลย
- ไปหาคนที่คุณชอบระหว่างเวลาพักเที่ยงที่โรงอาหาร ถามเขาหรือเธอว่าขอนั่งข้างๆ ด้วยได้ไหม และเริ่มบทสนทนาได้เลย มันก็ดูตรงๆ ง่ายๆ แบบนี้แหละ
- คุยกับคนที่คุณชอบในงานเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นงานวันเกิดหรือปาร์ตี้สระน้ำ ถ้าพวกคุณถูกเชิญไปทั้งคู่ ก็มีโอกาสจะได้คุยกันแล้วล่ะ
- ติดต่อหาเขาหรือเธอผ่านเพื่อนร่วมกัน ถ้าคุณเป็นเพื่อนกับคนที่เป็นเพื่อนเขา/เธอเหมือนกัน ให้ไปหาเพื่อนคนนั้นและเริ่มคุยด้วย รอให้เขามาเพื่อเปิดโอกาสหาอะไรคุยเลย
-
แนะนำตัวเอง. ถ้าคุณเคยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการไปแล้ว ก็ให้พูดแค่คำง่ายๆ อย่าง "ว่าไง" หรือ "หวัดดี" จำไว้ว่าต้องมองเข้าไปในดวงตาด้วยตอนกล่าวทักทาย คุณจะเผลอพูดอะไรออกมาอีกมากมายโดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าเกิดว่าคุณมองรองเท้าตัวเองตอนพูดว่าหวัดดีน่ะนะ
-
ถามเกี่ยวกับตัวคนที่คุณชอบ. ถามคำถามที่ต้องใช้ความคิด ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ คำถามที่ถามว่า"ทำไม"และ"อย่างไร"เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ถ้าหากว่าคุณอยากจะคุยอยู่กับคนที่ชอบนานขึ้นอีกหน่อย มันมักจะพาไปสู่บทสนทนาที่ลึกขึ้น ที่พวกคุณสามารถมีส่วนร่วมกับมันได้ ซึ่งจะดีเลิศมากเมื่อได้คุยกับคนที่ชอบ
- จำไว้ว่าพยายามหลีกเลี่ยงคำถามประเภทที่ตอบว่า"ใช่"หรือ"ไม่ใช่" ถ้าคุณถามคนที่ชอบไปว่า "ตอนอยู่แคนาดาได้ไปโรงเรียนหรือเปล่า?" เขา/เธอก็จะไม่ได้ตอบกลับมายาวมากนัก แต่ถ้าถามว่า "ไปโรงเรียนที่แคนาดานี่เป็นยังไงบ้างล่ะ?" ก็จะตอบได้มากขึ้นเยอะ
- ถามถึงพื้นเพของคนที่ชอบ มาจากที่ไหน พ่อแม่ทำงานอะไร รู้อะไรได้อย่างไร และคำถามอื่นๆ คนเราน่ะชอบพูดเรื่องของตัวเองอยู่แล้ว รวมไปถึงคนที่คุณชอบก็ด้วย
-
อย่าลืมแทรกบ้างตอนที่คนที่ชอบกำลังเล่าเรื่องยาวๆ. หมายถึงให้ถามคำถามเล็กๆ น้อยๆ ขณะที่เขา/เธอเล่าเรื่อง มันจะแสดงให้เห็นว่าคุณสนใจในสิ่งที่เขาหรือเธอพูดอยู่จริงๆ ถ้าคุณมีเรื่องจะเล่าเหมือนกัน ให้รอให้แน่ใจก่อนว่าคนที่ชอบเล่าจบแล้ว ก่อนที่คุณจะเริ่ม และรวบรัดให้สั้นง่ายได้ใจความ เพื่อที่คนที่คุณชอบจะได้ไม่คิดว่าคุณเป็นพวกชอบโอ้อวด
-
ให้ความสนใจกับภาษากาย. ภาษากายนี่เป็นการสื่อออกมาอย่างมากเลยนะ แม้ว่าคุณจะต้องการหรือไม่ก็ตาม บางครั้งร่างกายก็บ่งบอกถึงบางสิ่งที่คุณไม่สามารถช่วยได้ แต่ส่วนใหญ่ ถ้าคุณรู้ว่าร่างกายกำลังบอกอะไรอยู่ คุณก็สามารถแก้ให้ถูกได้ถ้าคุณสังเกตเห็นว่ามันกำลังทรยศคุณอยู่ และนี่คือสิ่งที่ต้องใส่ใจดูมันให้ดี
- การมองตา การมองตาและมองไปเรื่อยๆ เป็นการบ่งบอกว่าคุณกำลังสนใจในสิ่งที่คนอื่นพูดอยู่
- ทิศทางการหันหน้า การที่หันไปทางคนอื่น หมายความว่าคุณสนใจในสิ่งที่คนอื่นพูด และไม่รู้สึกอาย
- ยิ้ม การยิ้มบ่งบอกว่าคนอื่นทำให้คุณมีความสุข
- จีบ ด้วยภาษากาย โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นผู้หญิง ให้เขี่ยขนตาเล็กน้อย ม้วนเล่นผม หรือแตะไหล่คนที่ชอบ
- หัวเราะให้กับมุกตลกของเขา/เธอ แม้ว่ามุกนั้นจะไม่ตลก แต่ให้ยิ้มและแสดงอารมณ์ขันออกมาให้ดีที่สุดต่อหน้าคนที่ชอบ
-
ห้ามใช้มุกเสี่ยว! ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ห้ามเล่นมุกเสี่ยว มันทั้งดูแปลกๆ และไม่ได้ผลเท่าไรอีกด้วย ถ้าคุณเป็นผู้ชายและนึกไม่ออกว่าจะใช้อะไรนอกจากมุกเสี่ยวดี ให้อ่านบทความนี้ดู วิธีเริ่มคุยกับผู้หญิง
-
อย่าเครียดมากเกินไป. จริงๆ นะ ถ้าคุณชอบคนธรรมดาๆ การไปอยู่ใกล้ๆ เขาก็ทำให้คุณแทบบ้าแล้ว และเมื่อคุณรู้สึกอย่างนั้น คุณก็มักจะทำเรื่องโง่ๆ ออกมา แต่ช่างมันเถอะ ถ้าคุณพูดสะดุดล่ะก็ ให้พูดว่า "ว้าว นี่พูดไม่เป็นเลยนะเนี่ย ขอเดาว่าเป็นเพราะอยู่ใกล้ๆ คนสวยแบบนี้แน่ๆ" ถ้าคุณสะดุดเท้าตัวเอง แล้วคนที่ชอบมารับพร้อมถามว่า "เป็นอะไรหรือเปล่า?!" ให้พูดตอบไปว่า "โอเคอยู่ นี่นึกว่าจะลงจอดบนพื้นซะแล้ว"
-
ชวนเดท. ถ้าคุณรู้สึกว่าบทสนทนาไปได้สวย อย่าลังเลที่จะถามว่าคนที่คุณชอบว่างอีกทีเมื่อไร จะเป็นเวลาเล็กน้อยขณะที่พักเที่ยงอยู่จนไปถึงการเดทจริงๆ อย่างกินข้าวดูหนังก็ได้ มันขึ้นอยู่กับความมั่นใจในตนเองของคุณ และสิ่งที่คนที่คุณชอบตอบสนองกลับมาขณะที่คุยกันอยู่
- เมื่อคิดว่าถึงเวลาที่คุณจะบอกคนที่ชอบได้แล้วว่ารู้สึกอย่างไร อย่ากังวลที่จะขอเดทเมื่อเจอกันในครั้งหน้า
-
รับรู้ถึงสถานการณ์. ใช่ว่าการสนทนาครั้งแรกจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น ถ้าคนที่คุณชอบดูเนือยๆ เบื่อๆ ให้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีเขาอาจเพิ่งเจอวันที่ร้ายๆ มาก็ได้ หรือไม่ก็อาจกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว
- ถ้าไม่มีอะไรที่จะมาดึงความสนใจของคนที่ชอบได้ และเขาก็ดูเริ่มจะรำคาญคุณแล้ว ให้ขอตัวออกมาให้ไวแล้วค่อยลองใหม่วันหลัง
-
รับมือกับคำปฏิเสธอย่างใจเย็น. มันเป็นไปได้ที่คนที่คุณชอบจะไม่รู้สึกไปในทางเดียวกับคุณ ถ้าในกรณีที่คุณรับได้ พวกคุณทั้งคู่ก็จะยังคุยกันได้อยู่ แต่ก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าจะไม่มีทางเกิดเรื่องความรักระหว่างความสัมพันธ์นี้ขึ้นเลย
- ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าความรู้สึกที่คลุมเครือเมื่อชอบคนที่ไม่รู้เลยว่าคุณชอบอยู่ ถ้าหากว่าคนที่คุณชอบให้สถานะคุณเป็นได้แค่คนที่แอบรัก (เฟรนด์โซน) ก็ให้ยอมรับแล้วเดินหน้าต่อไป
โฆษณา
เคล็ดลับ
- รูปร่างหน้าตาไม่สำคัญเท่าความสามารถในการครองบทสนทนาหรอก แต่ถ้าดูดีก็ไม่เสียหายอะไร ฉะนั้นให้ใช้เวลาเล็กน้อยในการเลือกเสื้อผ้า ทำผม แต่งกลิ่น และแต่งหน้า (ถ้าแต่งอยู่แล้ว) และที่สำคัญที่สุดคือความประทับใจแรกจะคงอยู่ตลอดไป!
- การหัวเราะคิกคัก เขินหาย ดูยุกยิก และแตะผม แตะหน้า ต่างเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกอย่างชัดเจนเวลาที่คุณคุยกับคนที่ชบอยู่ ถ้าคนที่คุณชอบมีพฤติกรรมอะไรแบบนี้ ให้จำเอาไว้เลย เขาหรือเธออาจรู้สึกกังวลเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณเช่นกัน
- ถ้าคุณเผลอพูดหรือโพล่งอะไรออกมาโดยไม่ได้คิด ให้เล่นเป็นมุกหรือเมินมันไปซะ บางทีคนที่คุณชอบอาจไม่เก็บมาคิดเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้!
- พยายามทำตัวให้เท่และมีความมั่นใจ แต่อย่าเก๊กล่ะ
- สิ่งที่ต้องทำคือมีมารยาท และอย่ากลัวมากเกินไป บางทีมันอาจดีกว่าที่คุณคิดไว้ก็ได้
- ถ้าคุณกังวลว่าจะพูดอะไรดี ให้ทำรายชื่อคำถามหรือหัวข้อเพื่อกระตุ้นบทสนทนาถ้าหากว่ามันเริ่มไม่มีอะไรจะคุย หัวข้อที่เป็นเรื่องที่คุณทั้งคู่สนใจจะทำให้การคุยกันนั้นง่ายขึ้นไปอีก
- สำหรับผู้ที่กังวลในการคุยกับคนที่ชอบจริงๆ ให้ไปขอให้เพื่อนช่วยดูสถานการณ์ก่อนที่จะไปคุยกับคนนั้นจริงๆ ถ้าคนนั้นอารมณ์ดี คุยได้ เพื่อนคุณก็จะส่งสัญญาณให้คุณรู้เอง ถ้าไม่ไหวก็ไว้ครั้งหน้า
- เป็นตัวของตัวเองตอนที่อยู่กับคนที่ชอบ
- อย่าตามคนที่ชอบไปทุกที่ มันจะดูน่ากลัวไปหน่อย
- ลองหาที่นั่งใกล้ๆเขา/เธอดู ถ้าเรียนอยู่ห้องเดียวกัน มันได้ผลดีเลยนะ!
- แกล้งหยอกคนที่ชอบในทางที่ดี ถ้าเขาหรือเธอหยอกคุณกลับ ก็ให้รู้ไว้เลยว่ามันได้ผล ปกติมันจะเป็นบทสนทนาที่สนุกที่สุดแล้วล่ะ
- อย่าลืมหายใจ การหายใจขณะที่คุยอยู่กับคนที่ชอบนั้นสำคัญมาก มันจะช่วยให้คุณโฟกัสได้มากขึ้นอีกหน่อย และทำให้ใจเย็นลงด้วย ฉะนั้นหายใจซะ
โฆษณา
คำเตือน
- ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ให้ทำตัวเป็นธรรมชาติ ผู้คนส่วนใหญ่ดูออกเวลาใครบางคนกำลังโกหกหลอกลวงอยู่ และอีกอย่าง ไม่อยากให้คนที่คุณชอบชอบในตัวตนของ คุณ หรอกเหรอ?
- ให้รู้ไว้ว่าถ้ามันมีแนวโน้มจะล้มเหลวอยู่บ่อยๆ ก็แปลว่าได้เวลายอมแพ้แล้วแหละ แม้คุณจะคิดว่าคุณสามารถทำให้คนที่ชอบมาชอบคุณได้ถ้าคุยกันมากพอก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดนี้ สุดท้ายก็จะจบที่การอกหักแน่นอน
- ก็ใช่ เขา/เธอชอบที่จะได้รับความสนใจจากคุณ แต่อย่าเลยเถิดในเรื่องคำถามมากเกินไปล่ะ และห้ามถามว่า"บ้านอยู่ที่ไหน"ด้วย เพราะคนที่คุณชอบจะรู้สึกกลัวขึ้นมาเลยน่ะสิ
- อย่ากลัวอย่าปอดแหก ตราบใดที่คุณฝึกและเตรียมตัวมาดีพอ ก็ไร้ปัญหาให้กังวลแล้ว ในหัวของคุณก็จะรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้ไง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
