ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การจดจำอย่างรวดเร็วเป็นความสามารถที่สำคัญที่ควรจะมี ไม่ว่าจะใช้เพื่อการเรียน การทำงาน หรือเพียงแค่พัฒนาตัวเอง การบริหารความจำจะช่วยเพิ่มความสามารถของตัวคุณและช่วยให้สมองของคุณมีสุขภาพดี ศิลปะการจดจำนั้นเป็นภูมิปัญญาโบราณและประวัติศาสตร์ก็ถูกเติมเติมผ่านการจดจำสิ่งต่างๆ ด้วยวิธีที่ฉลาด แนวทางการจดจำตามหลักจิตวิทยาสมัยใหม่สามารถแบ่งได้ออกเป็น 5 วิธีหลักด้วยกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

การท่องจำ (Rote Memorization)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จินตนาการว่าคุณกำลังจดจำประโยคจำนวนหนึ่งและตัวอักษรจากซ้ายไปขวา ในการใช้วิธีนี้นั้น เราจะพยายามจำประโยคและตัวอักษรเหล่านี้:
    • ในการท่องจำนั้น เราจะจำสิ่งที่เราต้องการซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะจำได้ การซ้ำจะทำให้สมองสร้างการเชื่อมโยงรูปแบบใหม่เพื่อช่วยให้คุณสามารถดึงสิ่งที่คุณจดจำออกมาได้ ตามที่นักประสาทวิทยากล่าวว่า "เส้นประสาทส่วนไหนทำงานร่วมกัน ส่วนนั้นจะพัฒนาจนแข็งแกร่งไปด้วยกัน"
  2. เรียนรู้ว่าการท่องจำทำได้ดีในการจำบางรูปแบบเท่านั้น. การจดจำผ่านการทำซ้ำจะช่วยให้สมองสร้างการเชื่อมต่อที่จำเป็นต่อการพูดหรือทำในสิ่งที่จดจำ
    • การท่องจำเป็นวิธีที่ดีสำหรับการทำงานหรือการจดจำรายชื่อ เช่น รายชื่อของที่จะซื้อ การสตาร์ทรถ หรือการรีดเสื้อผ้า
    • การท่องจำไม่ใช่วิธีที่ดีในการจำตัวเลขจำนวนมากหรือสิ่งของที่แตกต่างกันหรือความคิดที่ซับซ้อน เช่น ตารางธาตุ ทฤษฎีวัตถุนิยมวิภาษ หรือส่วนประกอบต่างๆ ของรถยนต์
  3. ดูให้ดีว่าคุณได้ทำรายการอย่างสมบูรณ์และตรงกับสถานการณ์
  4. ในกรณีการจำประโยคเหล่านี้ แค่เพียงอ่านออกเสียงซ้ำไปซ้ำมาเท่านั้น
  5. พยายามปิดบางส่วนของรายการในหน้ากระดาษหรือปิดทั้งหมดแล้วลองพูดสิ่งที่ปิดไว้ จากนั้นเลื่อนลงมาเรื่อยๆ คุณสามารถจำสิ่งที่อยู่ในช่องว่างทั้ง 2 ช่องได้หรือไม่
    • เริ่มแรกคุณอาจจะจำผิดจำถูก อย่าท้อแท้ สมองของคุณกำลังเคยชินกับการจดจำ พยายามจำเรื่อยๆ โดยภายในไม่กี่นาที คุณจะเริ่มจำสิ่งที่คุณจดจำไปได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

การแตกเป็นกลุ่ม (Chunking)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จินตนาการว่าคุณต้องจดจำชื่อประเทศที่เป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council). คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติร่วมก่อตั้งด้วยประเทศ 10 ประเทศตามโครงการหรือเหตุผลอื่นๆ
  2. รู้ว่าวิธีการแตกเป็นกลุ่มเหมาะสมกับการจำแบบใด. การแตกเป็นกลุ่มจะใช้ได้ดีในกรณีที่คุณกำลังจำสิ่งที่มีส่วนย่อยๆ เป็นส่วนประกอบ ตัวอย่างเช่น การจดจำทวีป การจดจำตารางธาตุที่แตกออกเป็นชนิดของธาตุ หรือถ้าคุณต้องจดจำส่วนประกอบของเครื่องยนต์ คุณสามารถแบ่งออกเป็นส่วนประกอบย่อยได้อีก (เชื้อเพลิง เครื่องยนต์ ของเสีย และไฟฟ้า)
    • ถ้าคุณเคยจำหมายเลขโทรศัพท์ คุณอาจจะสังเกตเห็นวิธีการเขียนเลข โดยจะแบ่งหมายเลขเป็นกลุ่มเพื่อจดจำ ยกตัวอย่างเช่น หมายเลขโทรศัพท์ของรัฐสภา 0-2244-1000 นั้นจำได้ง่ายกว่าการจำทีละ 3 ตัว 022-441-000 หรือการจำเป็นจำนวนเชิงซ้อน เช่น 022,441,000
    • การแตกเป็นกลุ่มไม่ใช่วิธีที่ดีในการจดจำสิ่งซับซ้อนหรือแนวคิดที่ไม่สามารถแตกออกเป็นกลุ่มได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น คุณไม่สามารถแตกกลุ่มแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิพลเมืองเพื่อให้ “จำได้” หรือการจดจำคำจำกัดความความเป็นชาติ หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่มีตัวเลขคล้ายกัน
  3. แบ่งสิ่งที่คุณต้องจำเป็นชิ้นเล็กๆ ที่จำได้ง่าย. เพราะคุณจะต้องนำชิ้นเล็กๆ มารวมเป็นชิ้นใหญ่ชิ้นเดียว วิธีนี้จะใช้ได้ดีที่สุดกับสิ่งที่คุณสามารถแบ่งออกเป็นส่วนๆ และสิ่งที่สามารถแตกกลุ่มได้
  4. สำหรับกรณีสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คุณอาจจะลองท่องเป็นทวีปแล้วแตกเป็นประเทศที่อยู่ในรายชื่อ:
  5. การจดจำเป็นก้อนเดียวหรือเป็นกลุ่มก้อนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในการจดจำด้วยวิธีนี้ให้เต็มที่ คุณจะต้องจำรายชื่อทั้งหมดให้ได้ ลองไล่อ่านดูแล้วปิดส่วนที่อ่านแล้วไว้ คุณจำรายชื่อได้มากแค่ไหน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

การเชื่อมโยงสิ่งของกับประโยคหรือแนวคิดแบบต่อเนื่อง (Chaining)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รายชื่อของคุณจะเต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆ มากมายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
  2. เข้าใจว่าการเชื่อมโยงนั้นเหมาะสมกับการจำแบบใด. ถ้าคุณต้องจำสิ่งของเป็นจำนวนมาก วิธีนี้อาจจะใช้ไม่ดีนัก ด้วยเหตุผลนี้ วิธีการเชื่อมโยงจึงเหมาะสมกับรายชื่อสั้นๆ ที่จำได้ยาก
    • การเชื่อมโยงเหมาะสมกับในการจำสิ่งของจำนวนหนึ่งโดยที่สิ่งของเหล่านั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกัน (ยกตัวอย่างเช่น รายชื่อเขียนว่า ต้นไม้ นก แป้นพิมพ์ ขวด ) การใช้วิธีแตกเป็นกลุ่มกับการจำรูปแบบนี้อาจทำได้ยาก เพราะไม่สามารถแบ่งกลุ่มข้อมูลเป็นหมวดหมู่ได้
  3. สร้างประโยคหรือรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับสิ่งของทั้งหมดที่ต้องจำ. วิธีนี้เป็นส่วนที่คุณจะสนุกสนานไปกับกาจดจำ ยิ่งคุณสร้างประโยคหรือรูปภาพที่แปลกประหลาดมากเท่าใด คุณก็จะจำได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น:
    • แซนวิสถั่วพีนัทและเมล็ดกาแฟเอซเปรซโซ่ห่อกับสายเชื่อมต่อแล้วเจาะด้วยสว่าน
  4. จำประโยคหรือภาพซ้ำไปมา จากนั้นฝึกดึงสิ่งที่คุณจำไว้ด้วยประโยคและภาพนั้น. คุณจะใช้ประโยคหรือภาพเป็นเหมือน กุญแจ ที่จะช่วยดึงความทรงจำออกมาได้
    • แซนวิสถั่วพีนัทและเมล็ดกาแฟเอซเปรซโซ่ห่อกับสายเชื่อมต่อแล้วเจาะด้วยสว่าน
      =
      ถั่วพีนัท เมล็ดกาแฟเอซเปรซโซ่ ขนมปัง สายเชื่อมต่อ สว่าน
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

การใช้เทคนิคช่วยจำ (Mnemonics)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตรีโกณมิติคือการจดจำวิธีหาค่า ไซน์ (Sin) โคไซน์ (Cosine) และแทนเจ็น (Tangent) ซึ่งเป็นมุมพื้นฐานของสามเหลี่ยม
  2. เทคนิคช่วยจำ (Mnemonics) เป็นเพียงคำที่ใช้เรียกกระบวนการที่คุณคุ้นเคยในสมัยเป็นนักเรียน ถ้าคุณเคยใช้เทคนิค "สุจิปุลิ" เพื่อจดจำหัวใจนักปราชญ์ (สุตะ จินตะ ปุจฉา และลิขิต) หรือประโยคไร้สาระ เช่น "ไก่จิกเด็กตาย เด็กตายบนปากโอ่ง" เพื่อจำพยัญชนะอักษรกลาง (ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ) นั่นคือเทคนิคช่วยจำ
  3. ถ้าคุณต้องจำสิ่งของที่มากเกินกว่าที่จะทำประโยคสั้นๆ เพื่อจดจำได้ วิธีนี้ก็อาจจะยากเกินไป ด้วยเหตุผลนี้ การใช้เทคนิคช่วยจำนั้นเหมาะสมกับการจดจำสิ่งของจำนวนหนึ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์เหมือนการจำแบบเชื่อมโยง เทคนิคช่วยจำนั้นเหมาะสมกับการจำคำศัพท์ ยกตัวอย่างเช่น การจำรายชื่อเป็นจำนวนมากโดยที่ไม่ได้จัดระเบียบก่อนนั้นอาจทำได้ยาก เช่น รายการหมายเลขโทรศัพท์หรือทศนิยมของค่าไพน์
  4. สถานการณ์สำหรับสร้างเทคนิคช่วยจำคือประโยค "สำคัญ" หรือวลีที่ช่วยจำในสิ่งที่คุณต้องการ โดยตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เราสามารถสร้างจากคำที่เรียบ ง่าย ไม่มีสาระ แต่จำได้ดี
  5. ฝึกใช้เทคนิคช่วยจำและนำเทคนิคนั้นไปใช้จดจำสิ่งต่างๆ. เทคนิคช่วยจำของคุณเป็นเหมือน 'กุญแจ' ที่นำไปสู่ความทรงจำ ลองเลื่อนบทความลงมาเพื่อปิดส่วนที่อ่านไปแล้ว คุณจำได้ไหมว่าเทคนิคช่วยจำนั้นมีมาเพื่ออะไร
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

การจดจำผ่านการสร้างความสัมพันธ์ (Association)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สมมติว่าคุณต้องจดจำองค์ประกอบของปืนพกปี 1911 จากส่วนส่วนหน้าไปส่วนหลัง รายชื่อของสิ่งที่คุณต้องจำจะเป็นดังต่อนี้:
    • สไลด์
    • คันลำกล้อง
    • ลำกล้องปืน
    • ชนวนกระสุนปืน
    • ขอรั้งกระสุน
    • ขอหยุดไกปืน
  2. ทำความเข้าใจกระบวนการจดจำด้วยวิธีการสร้างความสัมพันธ์. สมองของมนุษย์ถนัดเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นความสามารถที่ล้ำลึก เราสามารถใช้ความสามารถนี้ในการจดจำได้ ความทรงจำลักษณะนี้นั้น คุณสามารถสร้างแผนที่ในจินตนาการหรือเส้นทางที่ช่วยเชื่อมโยงกับสิ่งที่คุณต้องจำได้ การเดินทางผ่านเส้นทางในจินตนาการจะช่วยดึงความทรงจำของคุณได้
  3. เรียนรู้ว่าการสร้างความสัมพันธ์เหมาะกับการจำรูปแบบใด. การจดจำผ่านการสร้างความสัมพันธ์นั้นมีประสิทธิภาพมาก โดยเฉพาะถ้าคุณมีจินตนาการที่สูง ตั้งแต่อดีต คนเราได้ใช้การวิธีจดจำแบบสร้างความสัมพันธ์ในบางครั้ง (เช่น การจินตนาการว่ากำลังเดินอยู่ในบ้านที่คิดขึ้นมาในหัว สำรวจห้องในจินตนาการ หรือเดินเหยียบหนังสือที่สมมติขึ้นมา) เพื่อจัดระเบียบความทรงจำของตนเอง
    • ความทรงจำที่ง่ายต่อการแยกแยะและจัดระเบียบเป็นส่วนๆ ได้นั้นเหมาะสมกับการใช้วิธีนี้ เช่น การจำบทกลอน ส่วนประกอบของเครื่องยนต์ หรือวิธีการทำอาหารจากไข่ไก่
    • ความทรงจำที่แยกเป็นส่วนไม่ได้นั้นไม่ค่อยเหมาะสมมากนัก เช่น แนวคิดพื้นฐานของภาพวาดแนวสำแดงพลังอารมณ์แนวนามธรรม (Abstract Expressionist) ประวัติศาสตร์สงคราม หรือการจดจำวิธีการชวนใครสักคนออกไปข้างนอกด้วยกัน
  4. จินตนาการถึงชุดของความทรงจำที่สองและสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งที่คุณต้องจำ. ความทรงจำที่สองคือภาพที่คุณสร้างขึ้นเพื่อให้สัมพันธ์กับความทรงจำหลักที่คุณต้องการจดจำ ดังนั้น คุณจะต้องใช้ความทรงจำชุดที่สองเป็นเหมือน "กุญแจ" เพื่อนำไปสู่สิ่งที่คุณต้องจำ
    • ด้วยเหตุนี้ ถ้าคุณมีรายชื่อสิ่งของที่ไม่ได้สัมพันธ์กัน การสร้าง "กุญแจ" ความทรงจำที่สองอาจจะทำได้ยาก ยกตัวอย่างเช่น เราจินตนาการถึงเด็กตัวเล็กๆ กำลังเดินผ่านสไลด์ปืนพกปี 1911
  5. ฝึกสำรวจแผนที่ในจินตนาการและดึงสิ่งที่คุณต้องจำออกมา. การทำแบบนี้อาจจะทำให้การจดจำง่ายและน่าสนใจ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่คุณคุณจะอยากสร้างกุญแจความทรงจำขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น จินตนาการถึงเด็กตัวเล็กๆ กำลังเดินในสไลด์ปืนพกปี 1911 คุณอาจจะพูดว่า :
    • " เริ่มแรก เราจะเจอคันลำกล้อง และภายในนั้น ฉันเห็นลำกล้องปืนยื่นออกมา หลังจากลำกล้องและด้ามปืน ฉันเห็นรูเล็กๆซึ่งสามารถมองเห็นชนวนกระสุน และทางซ้ายจะเป็นที่ปลดไกปืนซึ่งอยู่อีกด้านของสไลด์ เมื่อฉันเดินไปถึงด้านหลัง ฉันก็มาถึงขอหยุดไกปืน "
  6. ตั้งใจและจินตนาการไปยังเส้นทางที่สร้างไว้วันละ 2-3 ครั้ง ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าใด คุณก็จะจำง่ายขึ้นเท่านั้น
  7. ฝึกซ้อมการดึงความทรงจำออกมาจากสิ่งที่คุณจำด้วยแผนที่ในจินตนาการ. เมื่อคุณได้ทำการสร้างภาพในหัวได้แล้ว สมองของคุณสามารถสร้าง “กุญแจ” เพื่อนำไปสู่ภาพความทรงจำได้ดียิ่งขึ้น แต่ยังไม่พอ คุณยังต้องจำส่วนประกอบต่างๆ เพื่อให้ "กุญแจ" กับภาพที่สร้างนั้นสัมพันธ์กันอย่างพอดี พยายามลอง "จำแบบย้อนกลับ" โดยเริ่มต้นจากการจำรายชื่อสิ่งของ และดูว่าคุณสามารถสร้างเส้นทางหรือ “กุญแจ” แบบเดิมได้หรือไม่
    โฆษณา


เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,649 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา