ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีซ่อม iPhone ที่ตกน้ำหรือเปียกน้ำจนเสียหาย ให้ iPhone พอกลับมาใช้ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะได้ผลหรือกลับมาใช้ดีเหมือนเดิม
ขั้นตอน
-
รีบหยิบ iPhone ให้พ้นน้ำ. ยิ่งจมหรือแช่อยู่ในน้ำนานแค่ไหน ก็ยิ่งช็อตง่ายขึ้นเท่านั้น ถ้าลงมือเร็ว โอกาสที่ iPhone จะกลับมาใช้งานได้ก็จะเพิ่มสูงตามไปด้วย
-
ปิดเครื่อง. โดยกดปุ่ม Power ค้างไว้ แล้ว slide แถบที่หน้าจอทันทีที่ขึ้น ยิ่งปิดเครื่องเร็ว ก็ยิ่งมีโอกาสกู้คืน
- ถ้าหน้าจอดับแต่ไม่แน่ใจว่าเปิดเครื่องอยู่หรือเปล่า ให้กดปุ่ม Power โดยด่วน ถ้าหน้าจอติดขึ้นมา ก็รีบปิดเครื่องได้เลย แต่ถ้ากดแล้วหน้าจอดับเหมือนเดิม ก็คือปิดแล้ว
-
ถอดเคส. ถ้า iPhone คุณใส่เคสไว้ จะทำให้กักเก็บน้ำและความชื้น ต้องรีบถอดด่วน
-
ถอดทั้งซิมการ์ดและถาดใส่ . โดยใช้อุปกรณ์ที่แถมมากับเครื่อง หรือปลายคลิปหนีบกระดาษ จิ้มรูเล็กๆ ข้างถาดใส่ซิมให้เด้งออกมา จากนั้นดึงออกมาทั้งถาดและซิม น้ำจะได้ไหลออกมา
-
ใช้ผ้าแห้งหรือผ้าที่ดูดซับน้ำดีเป็นพิเศษมาเช็ด iPhone. เพื่อกำจัดทั้งน้ำและความชื้นส่วนเกิน โดยเฉพาะแถวรูเสียบชาร์จ ปุ่มปรับ volume แจ็คเสียบหูฟัง และมุมอับอื่นๆ
-
เอาไม้จิ้มฟันพันเศษผ้าแล้วเช็ดตามรูเสียบต่างๆ. ให้ใช้เศษผ้าคอตตอน เช่น จากเสื้อเชิ้ตเก่า มาพันปลายไม้จิ้มฟัน แล้วเอาไปซับน้ำที่ค้างอยู่ในรูเสียบชาร์จหรือแจ็คเสียบหูฟัง
-
เอา iPhone ไปผึ่งในที่แห้งๆ อุ่นๆ. วิธีกำจัดน้ำใน iPhone ก็คือผึ่งลมไว้ในที่อุ่นๆ สักพักใหญ่ๆ
- หลายบทความแนะนำให้เอา iPhone เปียกน้ำไปใส่ถังข้าวสารเพื่อดูดซับน้ำกับความชื้น แต่เขา พิสูจน์กันมาแล้วว่าไม่จริง เอา iPhone ไปผึ่งลมไว้จะได้ผลกว่า [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วิธีการผึ่งลมจะยิ่งได้ผล ถ้าคุณถอดแบตจาก iPhone ได้
-
รออย่างน้อย 48 ชั่วโมง. ยิ่งอดใจรอได้นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งแห้งสนิทและมีโอกาสกู้เครื่องคืนได้มากกว่า ถ้ารอนานเป็น 72 ชั่วโมงได้ก็ยิ่งดี
-
เช็ค indicator บอกความเสียหายจากน้ำ. iPhone แต่ละเครื่องจะมี indicator เล็กๆ ที่ช่างเช็คดูได้ ว่าน้ำเข้าเครื่องจนเสียหายแค่ไหน indicator ที่ว่านี้จะเป็นแผ่นพลาสติกเล็กๆ ที่กลายเป็นสีแดงเมื่อโดนน้ำมากเกินไป คุณลองเช็ค indicator นี้เองก็ได้ จะได้รู้ว่าเครื่องเสียหายแค่ไหน ลองเอาไฟฉายส่องดูในพอร์ท ถ้า indicator เป็นสีแดง ก็แสดงว่าศูนย์จะไม่รับซ่อมฟรี ต้องคิดต่อว่าจะซ่อมเองหรือจะให้ช่างซ่อมแทน [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- iPhone 5 หรือใหม่กว่า - ให้มองหา indicator สีแดงในถาดใส่ซิมข้างเครื่อง
- iPhone 4S - ให้มองหา indicator สีแดงในรูเสียบชาร์จหรือในแจ็คเสียบหูฟัง
โฆษณา
-
backup ข้อมูลใน iPhone ไว้ทันทีหลังเปิดเครื่องกลับมาได้. แบบนั้นถึงอีก 2 - 3 วัน iPhone จะเกิดเจ๊งขึ้นมา ก็ยังมีข้อมูลเก่าไว้เซฟลงเครื่องใหม่
-
ถ้าปุ่ม Home จริงๆ เกิดเสียขึ้นมา ให้ใช้ AssistiveTouch หรือ "ปุ่ม Home เสมือน" ในหน้าจอแทน. พอเครื่องน้ำเข้าจนขัดข้อง ปุ่ม Home มักใช้ไม่ได้ ให้แก้ขัดโดยเปิดใช้ "AssistiveTouch" หรือก็คือ shortcut ของปุ่มจริงๆ ที่จะโผล่มาในหน้าจอแทน
- คุณใช้ AssistiveTouch ล็อคหน้าจอ เพิ่ม-ลดเสียง หรือแคปหน้าจอได้ด้วย
-
ลองเปิดเสียงโดยใช้ USB dock หรือหูฟัง Bluetooth. ถ้าน้ำเข้าจนแจ็คเสียบหูฟัง iPhone เสีย ให้ลองใช้ลำโพงหรืออุปกรณ์อื่นแทน
- ให้เลือก USB dock ที่ใช้ได้กับ iPhone ของคุณ แล้วเสียบที่รูชาร์จล่างเครื่อง iPhone จะสแกนเจอทันที
- ถ้าเสียบรูชาร์จแล้วสแกนไม่เจอ แสดงว่าจะชาร์จ iPhone ไม่ได้เหมือนกัน
-
ให้เสียบ iPhone ชาร์จทิ้งไว้ ถ้าปุ่ม power เสีย. ถ้าปุ่ม power ใช้ไม่ได้ขึ้นมา จะปิด-เปิด iPhone ลำบากน่าดู ต้องเสียบชาร์จไว้ตลอด เครื่องจะได้ติด ทำอะไรต่อไปได้
- ถ้า iPhone เกิดแบตหมดจนดับไป พอเอาไปเสียบชาร์จจะติดขึ้นมาเอง
- ถ้าคุณเปิดฟีเจอร์ "Raise to Wake" ไว้ แค่หยิบ iPhone ขึ้นมา หน้าจอก็จะติดอัตโนมัติเลย
-
เช็คก่อนว่าประกันครอบคลุมไหม. ประกันแบบ AppleCare บางทีก็ไม่ครอบคลุมความเสียหายอันเกิดจากน้ำเข้าเครื่องเสมอไป แต่ถ้าเครื่องยังใหม่อยู่ ก็น่าจะยังพอไหว หรืออีกทีคือเจอเจ้าหน้าที่ใจดีหน่อยโฆษณา
-
ปิดเครื่อง. โดยกดปุ่ม Power ค้างไว้ แล้ว slide แถบที่หน้าจอทันทีที่ขึ้น
-
ถอดซิมการ์ด. ก่อนแยกส่วน iPhone ให้ถอดซิมออกมาทั้งถาด
-
ไขน็อตล่างเครื่อง. ต้องใช้ไขควงแบบ pentalobe (ที่คนเรียกกันว่าไขควง 5 แฉก หรือไขควง MacBook) โดยน็อตที่ว่าจะอยู่ทางซ้ายและขวาของรูเสียบชาร์จ
-
ใช้จุกยางดูดแผงด้านหน้าของเครื่องออกมา. ใช้จุ๊บหรือจุกยางที่แน่นหนาหน่อยแปะแล้วดึงกรอบหน้าของ iPhone ออกมา จะได้ไม่เป็นรอยขีดข่วนตอนพยายามจะแยกส่วน
- ให้แปะจุกยางที่กระจก แล้วจับหลังเครื่องไว้ให้แน่น
- พอจุ๊บติดแน่นแล้ว ก็ดึงให้หน้าหลังของเครื่องแยกจากกัน
-
ใช้ไขควง Phillips (ไขควงปากแฉก) หรืออะไรที่หัวแบนๆ มาถอดถ่าน. แล้วเอาวางแยกไว้ก่อน
-
เอาขั้วเสียบสายออก. จะมีหลายอันหน่อย ต้องเอาออกก่อนถึงจะเจอ logic board บางอันก็ถอดง่าย แต่บางอันก็ต้องใช้ไขควงปากแฉกช่วย
-
ถอด logic board จากเคสพลาสติก. พอไม่มีอะไรยึด logic board แล้ว ก็ถอดออกมาจากเคสพลาสติกได้เลย
-
เอา logic board ไปแช่ใน isopropyl alcohol 97%. แช่ไว้จนสิ่งสกปรกหลุดลอกออกมา
-
ใช้แปรงขนนุ่มขัดคราบที่เหลือ. ทุกขั้วและพื้นผิวต้องสะอาด ขัดชิปตรง logic board ด้วย ถ้ายังไม่สะอาดก็ต้องทำซ้ำ
-
เอา logic board ผึ่งลมไว้จนแห้งสนิทแล้วค่อยประกอบกลับ. สำคัญว่าต้องแห้งสนิทจริงๆ ถ้ายังชื้นระวังจะเสียหายหรืออันตรายกว่าเดิมตอนเปิดเครื่อง
-
เช็ดหน้าจอ LCD ด้วย isopropyl alcohol. เพื่อขจัดคราบน้ำสกปรก อย่าเอาหน้าจอไปจุ่มแอลกอฮอล์ เพราะเดี๋ยวจะเจ๊งถาวร
-
รอจนทุกชิ้นส่วนแห้งสนิท. ต้องรอหน่อย isopropyl alcohol ถึงจะแห้งสนิท เพราะงั้นให้ทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง ถึงจะประกอบกลับเข้าไปใน iPhone ได้
-
ประกอบ iPhone กลับคืน. โดยใส่ชิ้นส่วนและขั้วเสียบต่างๆ คืนที่ รวมถึงไขน็อตทั้งหลายแบบย้อนกลับจนแน่นหนา
-
เปิดเครื่อง. ถ้าแน่ใจว่า iPhone แห้งสนิทดีแล้ว ก็เปิดเครื่องได้เลย ถ้าล้างทำความสะอาดหมดจดแล้ว และชิ้นส่วนต่างๆ ไม่เกรอะกรังจนเกินไป iPhone ของคุณก็น่าจะฟื้นคืนชีพได้เหมือนเดิม [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา