ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ลิลลี่เป็นดอกไม้ที่สวยและมีกลิ่นหอม เป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักตกแต่งสวน นักจัดดอกไม้ และใครก็ตามที่ชื่นชอบกลิ่นหอมๆ และของสวยๆ ลิลลี่เป็นดอกไม้ที่มีความคงทน โตไว และดูแลง่าย มาดูกันว่าวิธีการเลี้ยง และดูแลต้นลิลลี่ให้อยู่คงทนนั้นทำอย่างไร

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

การปลูกลิลลี่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกบริเวณที่มีการระบายน้ำที่ดี และมีแสงสว่างเพียงพอ
    • การหาพื้นที่ที่มีการระบายน้ำดี คือการเลือกบริเวณที่แห้งได้เร็วหลังจากฝนตก หากหาไม่ได้ให้ปลูกลิลลี่ไว้ในบริเวณพื้นที่ลาดเอียงให้แรงโน้มถ่วงเป็นตัวช่วยในการระบายน้ำแทน
    • เลือกพื้นที่ที่แสงส่องกระทบนานอย่างน้อยครึ่งวัน ถ้าไว้ภายใต้ร่มเงานานเกินไป ต้นลิลลี่จะขยับเข้าหาแสงอาทิตย์ และลำต้นจะผอมแห้งอย่างเห็นได้ชัด ฉะนั้นทางเลือกที่ดีคือให้แสงอาทิตย์ทั้งวันเลยจะดีกว่า
    • ใบของลิลลี่อาจถูกรบกวนด้วยเชื้อราไบโทรทิสหากอยู่ในบริเวณที่ไม่เหมาะสม ในขณะที่เชื้อราตัวนี้เป็นประโยชน์ต่อการทำไวน์องุ่น มันจะลดพื้นที่ของใบที่ใช้ผลิตน้ำตาลกลายเป็นหัวหรือเหง้าของพืช
  2. หัวลิลลี่ที่นำมาปลูกนั้น “เปลือก” ที่ห่อหุ้มส่วนหัวของต้นลิลลี่จะต้องขาดออกก่อน ซึ่งมันเป็นส่วนช่วยไม่ให้ต้นอ่อนขาดน้ำ [1]
    • นำหัวหรือเหง้าของต้นลิลลี่มาปลูกทันที จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่ถ้าหากไม่สามารถทำได้ให้เก็บรักษาหัวของต้นลิลลี่ไว้ในที่เย็น และมืด (เช่นในตู้เย็น จนกว่าหัวจะแข็งตัว) ทำเช่นนี้เพื่อรักษามันไม่ให้แตกหน่อ เพราะถ้ามันแตกหน่อเมื่อไหร่ คุณก็ต้องปลูกมันทันที
    • ปลูกลิลลี่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือช่วงใกล้ๆ ฤดูหนาวเพื่อให้บานพอดีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือจะปลูกในฤดูใบไม้ผลิก็ได้ ลิลลี่จะบานในปีถัดไปพอดี ลิลลี่จะบาน “ตามปกติ” ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
  3. ต้นลิลลี่ชอบแสงอาทิตย์ แต่หัวของมันชอบอยู่ในสถานที่ที่เย็นมากกว่า ให้ขุดหลุมลึกประมาณ 4 ถึง 6 นิ้ว (10 ถึง 15 เซนติเมตร) หรือลึกกว่านี้ก็ได้ นอกจากหัวของต้นลิลลี่จะได้รับการป้องกันจากอากาศร้อนแล้วยังดีต่อการเจริญเติบโตของลำต้นด้วย
    • สามารถปลูกลิลลี่ให้สูงจากพื้นได้เช่นกัน โดยปลูกลิลลี่ลงดินตามปกติ แล้วก่อดินสูงจากบริเวณที่ปลูก 4 ถึง 6 นิ้ว (10 ถึง 15 เซนติเมตร) จะเป็นการช่วยเรื่องระบายน้ำได้
    • เว้นระยะห่างระหว่างต้นลิลลี่ หากคุณต้องการปลูกต้นลิลลี่จำนวนมาก ให้เว้นระยะห่างระหว่างต้นลิลลี่แต่ต้นประมาณ 6 นิ้ว ให้ต้นลิลลี่แต่ละต้นมีพื้นที่เป็นของตัวเอง
    • เตรียมดินก้นหลุม ใส่กระดูกป่นเล็กน้อยไว้ในหลุม จากนั้นวางหัวของต้นลิลลี่ไว้ข้างในแล้วกลบด้วยดิน
    • รดน้ำทันที เพื่อให้ดินชุ่มชื้น รากจะได้ดูดซึมน้ำเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต
  4. ลิลลี่ชอบถ้าคุณเติมสารชีวภาคเพื่อช่วยทำให้ดินรอบๆ นั้นเย็นและชื้น โรยปุ๋ย ปุ๋ยหมัก หรือพวกที่อยู่ได้ยาวนานกว่านั้น อย่างเปลือกไม้ หรือเปลือกโกโก้รอบต้น [2] หากคาดการณ์ว่าอากาศที่ปลูกต้นลิลลี่จะเย็นเกินไป ให้หาวัสดุบางๆ มาคลุมหน้าดินบริเวณที่ปลูกต้นลิลลี่เพื่อเป็นการปกป้องหน่อของต้นที่จะแทงขึ้นมา
    • ลิลลี่ปากแตร มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากน้ำค้างแข็งมากที่สุด
    • คลุมหน้าดินไว้ให้ดี เพื่อป้องกันการรบกวนจากแมลง เพราะพวกมันชอบอาหารอย่างต้นอ่อนของลิลลี่มาก
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

การดูแลต้นลิลลี่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อลิลลี่เริ่มแทงยอดอ่อนขึ้นมา ให้ปุ๋ยแก่ต้นลิลลี่เล็กน้อย เพราะลิลลี่เป็นพืชที่มีความคงทนไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยเยอะ ไนโตรเจนที่มากเกินจะทำให้ลำต้นอ่อนแอ อากาศร้อนและความชื้นสูงก็สามารถทำให้รากเน่าได้เช่นกัน
    • เพื่อผลลัพธ์ที่ดี เลือกปุ๋ยแบบเดียวกันกับที่ใช้ในการปลูกมันฝรั่ง [3]
    • ให้ปุ๋ยครั้งแรกเมื่อต้นลิลลี่เพิ่งแตกหน่อ ผ่านไปหนึ่งเดือนจึงให้ปุ๋ยครั้งต่อไป
  2. โดยปกติต้นลิลลี่ไม่ได้ต้องการน้ำมากนัก รดน้ำเท่าที่จำเป็นก็พอ
    • ลิลลี่ลูกผสมเอเชีย, ลิลลี่ปากแตร และลิลลี่ลูกผสมตะวันออก เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อน แห้ง และได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
    • ลิลลี่ลูกผสมตะวันออก ต้องการน้ำในช่วงฤดูร้อน และจะยังไม่บานจนกว่าจะถึงช่วงสิงหาคม
    • คลุมหน้าดินในช่วงฤดูร้อนเพื่อปกป้องหัวของต้นลิลลี่ให้คงความเย็นอยู่เสมอ และทำให้ความต้องการน้ำน้อยลง
  3. เมื่อถึงหน้าหนาวให้คลุมต้นลิลลี่ด้วยฟางข้างหรือพืชใบเขียวต่างๆ
  4. เมื่อถึงช่วงดอกลิลลี่บาน ตัดดอกลิลลี่โดยตัดออก 2 ใน 3 ของก้านดอกเพื่อรักษาความแข็งแรงของต้นลิลลี่จนกว่าจะถึงฤดูกาลตัดดอกลิลลี่ปีต่อไป [4]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากพบว่าลิลลี่ของคุณมีจุดสีน้ำตาลขึ้นที่ใบ อาจจะเป็นสาเหตุมาจากเชื้อราซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงอากาศเย็นและชื้น ให้พ่นสเปรย์กำจัดเชื้อราลงบนใบของต้นลิลลี่ซึ่งสามารถหาได้ตามร้านเพาะชำต้นไม้
  • หากคุณหวังจะตัดดอกลิลลี่ ตัดเพียง 1 ใน 3 ของก้าน ทิ้งส่วนที่เหลือไว้ โดยทำแบบนี้เพื่อให้หัวหรือเหง้าสามารถผลิตดอกได้ในปีถัดไป
  • สำหรับการระบายน้ำที่เหมาะสม ให้ใช้กระถางในการปลูกใส่ดินสูงกว่าพื้นอย่างน้อย 15 นิ้ว (13 เซนติเมตร) ให้กว้างพอสำหรับหัวของต้นลิลลี่ ในบริเวณที่การระบายน้ำไม่ดี การปลูกด้วยกระถางจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้
  • ลิลลี่สามารถปลูกได้ทั้งปีตราบใดที่ดินไม่แข็ง ในปีแรกที่ปลูกลิลลี่อาจออกดอกช้า แต่ในปีต่อมาจะสามารถคาดการณ์ช่วงเวลาในการออกดอกได้ซึ่งจะออกดอกประมาณเดือนมิถุนายน
โฆษณา

คำเตือน

  • คอยตรวจสอบดูลำต้นที่กำลังโตบ่อยๆ ว่ามีตัวอ่อนของแมลงหรือไม่ ต้นอ่อนนั้นเป็นอาหารที่เลิศรสของเหล่าตัวอ่อนต่างๆ หากโดนตัวอ่อนเหล่านี้บุกรุกแล้วล่ะก็ ลิลลี่ของคุณคงจากคุณไปก่อนมันจะออกดอกเสียอีก
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • หัวหรือเหง้าของต้นลิลลี่
  • พลั่ว
  • วัสดุคลุมหน้าดิน (สำหรับอากาศเย็น)
  • ปุ๋ย
  • กระถางปลูกต้นไม้ (สำหรับอีกทางเลือกหนึ่ง)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 19,378 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา