ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

Apple TV เป็นอุปกรณ์เล่นไฟล์มีเดียแบบดิจิตอลของ Apple ใช้สตรีมวีดีโอ เพลง รายการทีวี และเชื่อมต่อ high-speed Internet ได้ ที่สำคัญคือใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple และ Internet TV ได้อย่างสะดวกสบาย จะติดตั้ง Apple TV ได้ คุณต้องมีสาย HDMI และต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi หรือ Ethernet

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เสียบ Apple TV

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นอกจากตัว Apple TV แล้ว ที่ติดมาคือสายไฟและรีโมท คุณต่อ Apple TV ได้เฉพาะกับ HDTV เท่านั้น และต้องใช้สาย HDMI ซึ่งไม่ได้ติดมากับ Apple TV ด้วย แต่หาซื้อได้ตามร้านคอมทั่วไปหรือในเน็ต ถูกๆ ก็ได้ เพราะสาย HDMI แพงเป็นพัน ถึงเวลาใช้งานก็ไม่ต่างกับแบบราคาไม่กี่ร้อย นอกจากนี้ Apple TV ต้องต่อเน็ตด้วย จะผ่าน Wi-Fi หรือใช้สาย Ethernet ก็แล้วแต่
    • แต่ก่อน Apple TV generation แรกเสียบผ่านสาย component (5 ขา) ได้ แต่รุ่นใหม่ๆ ทำไม่ได้แล้ว [1]
    • ถ้าอยากเสียบ Apple TV เข้าระบบโฮมเธียเตอร์ ต้องใช้สาย digital audio แบบ optical (S/PDIF)
  2. อย่าให้เสียบแล้วสายตึง และต้องมีช่องว่างให้ Apple TV ได้ระบายอากาศ เพราะใช้งานนานๆ จะทำให้เครื่องร้อนได้
    • ถ้าต่อเน็ตโดยเสียบสายกับเราเตอร์ สาย Ethernet ต้องยาวพอ
  3. พอร์ท HDMI จะอยู่ด้านหลังหรือด้านข้างของ HDTV หรือด้านหลัง home theater receiver บางที HDTV ก็มีพอร์ท HDMI มากกว่า 1 แต่ HDTV รุ่นเก่าๆ บางทีก็ไม่มีพอร์ท HDMI
    • สังเกตชื่อพอร์ท HDMI ที่จะเสียบ Apple TV จะได้เลือก input ถูกตอนเปิดทีวี
  4. จะปลอดภัยกว่าถ้าใช้ปลั๊กแบบ surge protector คือป้องกันไฟกระชาก
  5. ถ้าจะต่อเน็ตผ่าน Ethernet ก็ให้เสียบสายที่ด้านหลัง Apple TV อีกข้างเสียบเราเตอร์หรือ network switch แต่ถ้าต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi ก็ข้ามขั้นตอนไปได้เลย
  6. ปกติ Apple TV จะส่งสัญญาณเสียงผ่านสาย HDMI ไปยังทีวี แต่ถ้าใช้ audio receiver ก็ต่อกับ Apple TV ผ่านสาย digital audio แบบ optical (S/PDIF) ได้เลย โดยเสียบสายที่หลัง Apple TV อีกข้างเสียบเข้าพอร์ทที่ถูกต้องของ receiver หรือทีวี
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ติดตั้ง Apple TV

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กดปุ่ม "Input" หรือ "Source" ที่รีโมททีวี เพื่อเลือกพอร์ท HDMI ที่เสียบ Apple TV ไว้ ปกติ Apple TV จะเปิดเครื่องอัตโนมัติ เพราะงั้นจะเห็นเมนูเลือกภาษา ถ้าไม่มีอะไรขึ้นเลย ให้เช็คอีกทีว่าเสียบแน่นหนาแล้ว จากนั้นกดปุ่มตรงกลางรีโมทของ Apple TV
  2. ใช้รีโมทเลือกภาษา interface หรือเมนู โดยกดปุ่มกลางรีโมทเพื่อยืนยัน
  3. ถ้าต่อเน็ตผ่าน Ethernet Apple TV จะสแกนหาเครือข่ายแล้วเชื่อมต่ออัตโนมัติ แต่ถ้าต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi จะมีรายชื่อสัญญาณให้เลือก ก็เลือกที่จะเชื่อมต่อไป จากนั้นใส่รหัสผ่านถ้ามี
  4. ต้องรอสักพัก ให้ขั้นตอนการติดตั้ง Apple TV เสร็จสิ้น หลังจากนี้จะมีให้เลือกอนุญาต Apple ใช้โปรแกรมเก็บข้อมูลการใช้งาน [2]
  5. คุณจะใช้ Apple TV ได้เต็มรูปแบบกว่าถ้าอัพเดทระบบเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดซะก่อน คุณเช็คอัพเดทได้ในเมนู Settings
    • เปิดแอพ Settings ในหน้า Home ของ Apple TV
    • เปิด "General" แล้วเลือก "Update Software" หลังจากนี้ Apple TV จะหาและติดตั้งอัพเดทใหม่ ถ้ามี
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

เชื่อมต่อ iTunes

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปกติจะอยู่ในหน้า Home ของ Apple TV
  2. ล็อกอินด้วย Apple ID และรหัสผ่านของคุณ จะได้ใช้งานอะไรที่ซื้อจาก iTunes ใน Apple TV ได้ รวมถึงเชื่อมต่อกับคอม โดยเข้า Home Sharing ของ Apple TV
  3. ถึงตอนนี้ที่ใช้กันส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็น iTunes เวอร์ชั่นใหม่กว่าแล้ว เพราะ 10.5 ก็ค่อนข้างเก๋ากึ้ก สรุปแล้วขอแค่ใช้เวอร์ชั่น 10.5 ขึ้นไป ก็จะแชร์ iTunes library กับ Apple TV ได้
    • เวลาจะอัพเดท iTunes ใน Mac ให้เลือก "Software Update" ในเมนู Apple แต่ถ้าจะอัพเดท iTunes ใน Windows ให้คลิกเมนู "Help" แล้วเลือก "Check for Updates"
  4. ใส่ Apple ID และรหัสผ่าน แล้วคลิก Turn On Home Sharing เพื่อเปิดใช้ฟังก์ชั่น Home Sharing ของ iTunes จะได้แชร์ iTunes library กับคอมและอุปกรณ์อื่น (รวมถึง Apple TV) ด้วย
    • ทำขั้นตอนนี้ซ้ำกับคอมทุกเครื่องที่จะเชื่อมต่อกัน
  5. คุณสลับไปมาระหว่างหน้าจอได้ โดยกดปุ่ม "Menu" ที่รีโมท
  6. เลือก "Turn On Home Sharing Option" แล้วเลือกใช้ Apple ID เดียวกับที่ล็อกอินไว้ใน iTunes จะใส่ Apple ID อื่นก็ได้ ถ้าตั้ง Home Sharing ไว้ด้วยบัญชีอื่น
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ใช้งาน Apple TV

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสตรีมหนังหรือซีรีส์ไหนก็ได้ หลังเชื่อมต่อ Apple TV กับบัญชี iTunes แล้ว อันไหนถ้าเพิ่งซื้อจะอยู่ด้านบนของหน้า Home คุณเลือก library ได้ทั้ง "Movies", "TV Shows" และ "Music" แล้วจะเห็นหน้าหลักของ iTunes กับทุกอย่างที่คุณซื้อไว้
  2. Apple TV จะมีแอพ streaming สำหรับสตรีมวีดีโอเต็มไปหมด เช่น Netflix หรือ Hulu+ พวกนี้ต้องสมัครแยกแบบเสียเงินก่อน แล้วถึงจะเริ่มสตรีมวีดีโอดูได้
  3. ถ้าเปิดใช้ Home Sharing ไว้ในทุกอุปกรณ์ ก็เข้า library ต่างๆ ได้เลย โดยเลือก "Computers" ในหน้า Home แล้วจะเห็นคอมทุกเครื่องในเครือข่ายที่เปิด Home Sharing ใน iTunes ไว้ ให้คุณเลือกคอมที่จะใช้สตรีม แล้วเข้า library ไปเลือกวีดีโอกับเพลงที่ต้องการ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,117 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา