ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เล็บที่ได้รับการทาอย่างสวยงามสามารถสื่อได้ถึงอารมณ์ของคุณ สามารถเข้ากับเสื้อผ้าของคุณและสามารถสะท้อนลักษณะความเป็นตัวคุณได้ โดยเฉพาะในเวลานี้ที่มีสีสันให้คุณเลือกหลากหลาย คุณอาจจะใช้สีแดงแบบคลาสสิค สีเหลืองสดใส สีเขียวทันสมัย สีม่วงดูลึกลับ สีน้ำเงินแวววาว หรือสีอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยความเย้ายวนใจทั้งหมดนี้ อาจทำให้คุณลืมความจริงที่ว่าการที่ต้องทาเล็บเอง (โดยไม่ทำเลอะเทอะ) นั้นเป็นเรื่องที่ยากได้อย่างง่ายดาย โปรดอ่านและหาวิธีที่ดีที่สุดในการทาเล็บที่บ้านด้วยตัวเองให้ออกมาสวยงาม และคุณจะไม่ต้องไปเข้าร้านทำเล็บอีกเลย!
ขั้นตอน
-
เลือกสียาทาเล็บตามที่คุณต้องการ.
- เลือกสีที่สะท้อนอารมณ์ของคุณหรือเข้ากับเสื้อผ้าที่คุณใส่ในวันนั้น สีเข้มอย่างสีม่วง ดำ หรือแดงเข้มจะทำให้เล็บคุณดูยาวขึ้น ดังนั้นคุณควรเลือกสีเหล่านี้ถ้าคุณต้องการให้เล็บคุณดูยาวขึ้น
- เลือกยาทาเล็บที่ไม่เก่า เพราะยาทาเล็บเก่าจะข้นและเหนียว และจะทำให้คุณทาเล็บยาก
- ถ้าคุณต้องการจะนำยาทาเล็บเก่าที่เหนียวแล้วมาใช้ ให้คุณหยดสารอะซิโตนซึ่งอยู่ในน้ำยาล้างเล็บสองสามหยดลงในขวด ปิดฝาขวดยาทาเล็บและเขย่าเพื่อให้เข้ากัน คุณอาจจะซื้อน้ำยาเติมยาทาเล็บจากยี่ห้อที่เป็นที่นิยมมาใช้ก็ได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เลือกสถานที่ที่จะทาเล็บ. เมื่อต้องเลือกสถานที่ในการทาเล็บให้คุณเลือกพื้นที่สะอาดและมั่นคง ในห้องที่มีเเสงสว่างเพียงพอ โต๊ะอ่านหนังสือหรือโต๊ะในครัวนั้นเป็นตัวเลือกที่ดี วางกระดาษเช็ดมือไว้ใต้มือของคุณเพื่อไม่ให้น้ำยาทาเล็บเลอะพื้น ห้องที่คุณใช้ควรระบายอาหารได้ดีด้วยเพราะกลิ่นที่มาจากยาทาเล็บและน้ำยาล้างเล็บนั้นไม่ดีต่อสุขภาพของคุณ
-
รวบรวมอุปกรณ์ที่ต้องใช้. รวบรวมสำลีก้อนจำนวนหนึ่ง หรือสำลีแบบกลม หรือทิชชู่สำหรับล้าง คอตตอนบัด น้ำยาล้างเล็บ ที่ตัดเล็บ ที่ตะไบเล็บ ไม้ดันจมูกเล็บและน้ำยาทาเล็บแบบใส การที่คุณมีสิ่งของเหล่านี้จะช่วยให้ขั้นตอนการทาเล็บเร็วขึ้นและจะช่วยลดโอกาสที่คุณจะทำเล็บของคุณเลอะเทอะด้วย
-
ล้างยาทาเล็บที่เกินออก. จุ่มสำลีก้อนลงในน้ำยาล้างเล็บและนำมาวางไว้บนเล็บประมาณ 10 วินาที จากนั้นถูก้อนสำลีไปตามเล็บเพื่อล้างเล็บ ใช้คอตตอนบัดจุ่มในน้ำยาล้างเล็บเพื่อกำจัดยาทาเล็บที่เหลือตามขอบเล็บ มีคำแนะนำก็คือให้ใช้ทิชชู่ล้างเล็บแทนการใช้สำลีก้อนเพราะปุยสำลีอาจติดที่เล็บของคุณถ้าเล็บของคุณยังไม่แห้ง
- แม้ว่าคุณจะไม่มียาทาเล็บหลงเหลืออยู่บนเล็บก็ตาม คุณควรถูเล็บด้วยน้ำยาล้างเล็บก่อนทาเล็บเพื่อกำจัดน้ำมันตามธรรมชาติบนเล็บ นี่จะทำให้ยาทาเล็บเรียบและสีเกาะบนเล็บได้นานขึ้น
-
ตัดและตะไบเล็บของคุณ. ใช้กรรไกรตัดเล็บเพื่อตัดเล็มเล็บถ้าเล็บนั้นยาวไปหรือมีขอบไม่เรียบ คุณต้องการเล็บที่มีความยาวขนาดเท่ากัน จากนั้นใช้ตะไบเล็บ (แบบแก้วจะใช้ดี) เพื่อทำให้ขอบเล็บเรียบและเป็นทรง คุณอาจทำให้เล็บเป็นปลายกลมหรือปลายเหลี่ยมก็ได้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
- เมื่อคุณตะไบเล็บ ให้คุณตะไบจากริมเล็บเข้ามาตรงกลาง ทำแบบนี้กับทั้งสองด้าน ทุกๆ การตะไบควรไปในทางเดียวกัน คุณไม่ควรใช้การตะไบแบบเลื่อยเพราะอาจทำให้เล็บอ่อนแอและเล็บหักได้
-
ดันจมูกเล็บ. จมูกเล็บคือหนังเล็กๆ ที่โคนเล็บ ซึ่งจมูกเล็บอาจทำให้ยาทาเล็บของคุณดูไม่เรียบร้อยได้ถ้าคุณไม่ดันจมูกเล็บก่อนที่คุณทาเล็บ จมูกเล็บนั้นดันกลับเข้าไปง่ายถ้าถูกทำให้นิ่มเสียก่อน ดังนั้นลองจุ่มเล็บของคุณลงในชามน้ำอุ่น 1 หรือ 2 นาทีก่อน จากนั้นเช็ดมือและเล็บให้แห้งและใช้ที่ดันจมูกเล็บดันหนังนิ่มๆ ไปยังขอบเล็บ
-
ถูขวดยาทาเล็บด้วยมือทั้งสองเพื่อทำให้ยาทาเล็บอุ่นประมาณ 25-30 วินาที. การถูจะช่วยผสมสารต่างๆ ในขวด ช่วยคนสีในขวดที่ตกอยู่ก้นขวดได้ อย่าเขย่าขวด ให้หมุนขวดระหว่างมือแทนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟองอากาศในน้ำยาและจะช่วยให้เล็บของคุณเรียบโฆษณา
-
ลงเบสโค้ทหรือยาทาเล็บใส. การทาเบสโค้ทของยาทาเล็บใสคือสิ่งหนึ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ขณะที่คุณทาเล็บ เบสโค้ทจะทำให้ยาทาเล็บที่คุณเลือกมีผิวเล็บเรียบที่จะเกาะ จะช่วยให้สีติดนานขึ้นและช่วยปกป้องเล็บของคุณไม่ให้เหลืองจากยาทาเล็บ ปล่อยให้เบสโค้ทแห้งสนิทก่อนที่จะทาเล็บต่อไป
- คุณไม่ต้องใช้ความระมัดระวังมากในการทาเบสโค้ท เพราะถ้าเบสโค้ทเลยไปเลอะบนผิวข้างๆ ก็ไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นได้!
- มีเบสโค้ท 2 ชนิดที่ขายอยู่คือ เบสโค้ทแบบเติมขอบซึ่งจะช่วยให้เล็บเรียบและจะทำให้คุณได้สีทาเล็บแบบด้าน และเบสโค้ทที่ช่วยเสริมความเเข็งแรงซึ่งจะช่วยปกป้องเล็บของคุณและช่วยให้เล็บนั้นงอกขึ้นและแข็งแรงขึ้น คุณอาจทาเบสโค้ททั้งสองชนิดได้ทั้ง 2 ชั้นถ้าคุณต้องการ!
-
วางมือให้มั่นคงบนโต๊ะ. อย่าแค่วางมือลงบนโต๊ะ (เพราะมืออาจสั่นหรือขยับ) แต่ให้คุณกดมือลงมือโต๊ะ กางนิ้วออกให้กว้าง เริ่มทาจากนิ้วชี้และไล่ไปยังนิ้วก้อย จากนั้นยกมือและเอานิ้วโป้งมาไว้ที่ขอบโต๊ะและทาเล็บนิ้วโป้ง
- ในกรณีที่คุณทามือที่คุณถนัดหรือไม่ถนัดก่อนนั้นไม่ใช่ปัญหา ทำอะไรที่คุณต้องการก่อนก็ได้ มือที่คุณไม่ถนัดอาจสั่นกว่าถ้าคุณใช้มือนั้นทา แต่การฝึกฝนจะช่วยให้คุณทาได้ดีขึ้น
-
เปิดขวดยาทาเล็บและค่อยๆ ปาดน้ำยาทาเล็บที่เกินออกจากแปรง. การที่มีจำนวนยาทาเล็บที่พอดีอยู่บนแปรงคือปัจจัยสำคัญที่จะมีเล็บที่สวยงาม คุณสามารถปาดแปรงบนปากขวดด้านในเพื่อเอาส่วนเกินออก ทักษะที่คุณจะรู้ว่าควรมียาทาเล็บปริมาณเท่าใดอยู่บนแปรงคือทักษะที่จะได้มาตามเวลา!
- ดูด้วยว่าแปรงนั้นเป็นรูปทรงอะไร แปรงส่วนมากนั้นจะเป็นทรงกลม แต่ยี่ห้อต่างๆ ค่อยๆ หันมาใช้แปรงแบบแบนมากขึ้น ซึ่งแปรงแบบแบนจะช่วยให้ทาเล็บได้ง่ายและไม่เลอะเทอะ
-
เริ่มทาจากโคนเล็บ. วางแปรงไว้ที่โคนเล็บ เหนือจมูกเล็บและตรงกลางเล็บ ปล่อยให้ยาทาเล็บ(ที่พอจะทาทั้งเล็บ)หยดลงที่ตรงจุดนี้และให้ยาทาเล็บกองตรงโคนเล็บเล็กน้อย
- นี่คือเทคนิคที่ใช้โดยช่างทำเล็บมืออาชีพ ซึ่งคุณอาจต้องการการฝึกฝน แต่สุดท้ายวิธีนี้เป็นวิธีที่จะทำให้คุณทาเล็บได้ง่ายที่สุดและเรียบร้อยที่สุด
-
การทาสามเส้น. ช่างทำเล็บและผู้เชี่ยวชาญด้านความงามเห็นด้วยว่าการทาสามเส้นนั้นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและไม่เลอะเทอะในการทาเล็บ วิธีการทำก็คือจิ้มแปรงลงในหยดน้ำยาที่โคนเล็บจากนั้นลากแปรงขึ้นเป็นเส้นตรงตรงกลางเล็บจนถึงปลายเล็บ ก่อนที่จะลากเส้นที่สอง เอาแปรงกลับไปที่จุดโคนเล็บและลากแปรงตามขอบโค้งด้านล่างไปทางซ้ายและลากขึ้นไปจนถึงปลายเล็บ จากนั้นใช้ยาทาเล็บที่เหลือวาดเส้นที่สามที่ด้านขวาของเล็บ
- คุณควรมียาทาเล็บปริมาณพอที่จะทาบางๆ ทั้งเล็บโดยไม่ต้องจุ่มสีใหม่อีกครั้ง ถ้าหากคุณทาหนาเกินไป เล็บคุณอาจต้องใช้เวลานานกว่าในการแห้งและคุณอาจจะทำมันเลอะเทอะได้ง่าย
- ขณะที่ทาเส้นริมขอบ อย่าทาชิดขอบเล็บ ให้คุณเว้นช่องว่างเล็กๆ ระหว่างเล็บและนิ้ว ซึ่งช่องว่างนี้จะสังเกตเห็นยาก และช่องว่างจะช่วยไม่ให้น้ำยาทาเล็บไปเลอะมือของคุณ
-
ปล่อยให้ยาทาเล็บชั้นเเรกแห้งก่อนจะทาชั้นถัดไป. ยาทาเล็บเกือบทุกยี่ห้อต้องการการทาทับอย่างน้อย 2 ชั้น และบางยี่ห้อต้องการ 3 ชั้น การทาชั้นบางๆ หลายๆ ชั้นดีกว่าการทาหนาๆ หนึ่งครั้ง ผลลัพธ์จะออกมาเรียบร้อยกว่าและจะไม่เลอะเทอะ คุณต้องปล่อยให้ยาทาเล็บนั้นเเห้งสนิทระหว่างการทาแต่ละชั้น ซึ่งการรอให้แห้งจะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีขึ้นอยู่กับยาทาเล็บแต่ละยี่ห้อ
- ทาเล็บชั้นที่ 2 โดยใช้วิธีเดียวกับตอนคุณทาครั้งแรกและใช้ความระมัดระวังให้เท่ากับครั้งแรก อย่าหมดความอดทนและทาให้เสร็จเร็วๆ เพราะคุณอาจทำให้เล็บของคุณออกมาไม่สวยได้ ปล่อยให้ยาทาเล็บชั้นที่ 2 แห้งสนิทแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทาชั้นที่ 3 ต่อหรือไม่
- อย่างที่คุณเห็นว่าการทาเล็บนั้นใช้เวลามาก และคุณต้องการเวลา 30 นาทีจนถึง 1 ชั่วโมงเพื่อทาเล็บ ด้วยเหตุผลนี้การเตรียมขนม ไปเข้าห้องน้ำ และเปิดทีวีก่อนที่คุณจะเริ่มทาเล็บจึงเป็นความคิดที่ดี เพราะคุณจะได้ไม่รู้สึกเบื่อขณะที่คุณรอเล็บแห้ง
-
ทาท็อปโค้ทใส. หลังจากที่ยาทาเล็บชั้นที่ 2 (หรือ 3) ของคุณแห้งแล้ว คุณสามารถทาท็อปโค้ทใสทับได้ ท็อปโค้ทจะช่วยป้องกันไม่ให้สีเป็นสะเก็ดและช่วยให้สีเงาขึ้น ทาท็อปโค้ทลงบนสีทาเล็บ จากโคนถึงปลาย จากนั้นทาที่ปลายเล็บและทาที่ใต้เล็บเล็กน้อย นี่จะช่วยให้สีไม่ลอกที่ปลายเล็บและจะช่วยให้ความเเข็งแรงสำหรับเล็บยาวอีกด้วย
-
ทำความสำอาดความเลอะเทอะ. หลังจากที่คุณทาเล็บเสร็จและแห้งสนิทเเล้วคุณสามารถทำความสะอาดสิ่งที่คุณทำเปรอะเปื้อนระหว่างที่คุณทาได้ วิธีการก็คือจุ่มคอตตอนบัด (ชนิดที่เป็นปลายแหลมจะดีกว่า) ลงในน้ำยาล้างเล็บเล็กน้อยจากนั้นถูคอตตอนบัดที่รอบๆ เล็บแต่ละเล็บเพื่อลบยาทาเล็บที่เกินออกมา
- คุณต้องแน่ใจว่าทำอย่างช้าๆ และระมัดระวัง ถ้าคุณทำเร็วเกินไปคอตตอนบัดอาจจะไถลไปโดนเล็บที่คุณทาไว้ทำให้คุณมีรอยเส้นที่ยาทาเล็บหายไปบนเล็บของคุณ!
- ลองใช้คอตตอนบัดอันใหม่สำหรับแต่ละเล็บ ไม่เช่นนั้นยาทาเล็บที่ติดมากับปลายคอตตอนบัดอาจทำให้เล็บคุณเลอะเทอะมากขึ้น
โฆษณา
-
ใช้สติ๊กเกอร์ติดเล็บ. สติ๊กเกอร์ติดเล็บนั้นใช้ง่ายและมีรูปทรง สี และลวดลายหลากหลาย สิ่งที่คุณต้องทำคือดึงสติ๊กเกอร์ออกจากแผ่น (ในบางกรณีอาจต้องทากาวทาเล็บ) อย่างระมัดระวังและติดสติ๊กเกอร์ให้แน่นบนเล็บและกดไว้ประมาณ 10-20 วินาที สติ๊กเกอร์เพชรอันเล็กๆ แบบรูปด้านบนนั้นเป็นที่นิยมและสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไป
- การใช้แหนบเพื่อติดสติ๊กเกอร์นั้นก็ช่วยได้ เพราะแหนบจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณทำสติ๊กเกอร์หล่นและจะช่วยป้องกันไม่ให้สติ๊กเกอร์นั้นติดนิ้วของคุณ
- สติ๊กเกอร์ติดเล็บควรติดหลังจากที่ยาทาเล็บของคุณแห้งสนิทแล้วเท่านั้น
-
ใส่กากเพชรให้เล็บ. สิ่งที่ผู้คนนิยมเพิ่มให้กับเล็บและสามารถทำได้ที่บ้านก็คือการใส่ “กากเพชร” ให้เล็บโดยการใช้กากเพชรหรือใช้น้ำตาลทรายขาว ขณะที่ท็อปโค้ทยังไม่แห้งให้คุณโรยกากเพชรหรือน้ำตาลลงบนเล็บ ขณะที่ท็อปโค้ทแห้งกากเพชรของคุณจะติดเข้ากับเล็บและคุณจะมีเล็บที่เจ๋งมาก!
-
ลองตกแต่งเล็บ. การตกแต่งเล็บเป็นการรวมการสร้างสรรค์และเทคนิคที่ต้องอาศัยมือที่นิ่งและการฝึกฝนมาก จากการตกแต่งเล็บคุณอาจทำลายจุด ลายดอกไม้ ลายเต่าทองและลายโบว์ โดยการใช้ยาทาเล็บสีต่างๆ และไม้จิ้มฟัน หรือคุณอาจจะสร้างสรรค์มากกว่านั้นและลองทำสีกลืน ทำลายด่างและลายสีน้ำเพื่อให้เล็บของคุณนั้นมีความพิเศษและน่ามอง
-
ใช้สีตัดกัน. การใช้สีตัดกันต้องใช้ยาทาเล็บสองสามสีที่มีสีตัดกันเพื่อทำให้เกิดรูปทรงเรขาคณิตบนเล็บของคุณ คุณอาจต้องการใช้แปรงบาง มากกว่าที่จะใช้แปรงที่มากับขวดยาทาเล็บเพื่อให้การทาสีตัดกันนั้นดูเรียบร้อย
-
ทาปลายเล็บแบบฝรั่งเศส. การทำเล็บแบบฝรั่งเศสนั้นใช้สีชมพูธรรมชาติหรือสีพีช และทาที่ปลายด้วยสีขาวสว่าง การทาเล็บแบบนี้จะให้รูปลักษณ์ที่ดูเรียบหรูซึ่งคุณสามารถทำได้ที่บ้านและใช้การฝึกฝนเพียงน้อยนิด
- คุณอาจไม่คิดว่าปลายเล็บสีขาวนั้นทาก่อน คุณอาจใช้ยาทาเล็บสีขาวที่มากับชุดทาเล็บ ซึ่งชุดทาเล็บนี้อาจมีกาวติดเล็บแถมมาด้วยซึ่งจะช่วยให้คุณทาเล็บเป็นเส้นสีขาวบนเล็บของคุณได้อย่างสวยงาม
- หลังจากที่คุณทาปลายเล็บและปล่อยให้แห้งเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถทาสีธรรมชาติทับลงบนปลายสีเล็บสีขาวได้ และทาทับทั้งหมดด้วยท็อปโค้ทสีใสเป็นสิ่งสุดท้าย
-
ลองไอเดียการทาเล็บอื่นๆ . หลังจากที่คุณลองวิธีพื้นฐานสำหรับการทาเล็บแล้ว ให้ลองวิธีอื่นๆ อีกมากมาย! ลองทาเป็นลายจักรวาล หรือลายเสือดาวที่ยอดเยี่ยม หรือคุณอาจลองเป็นศิลปินด้วยการเป่าสีบนเล็บของคุณ ถ้าคุณสามารถคิดถึงมันได้ คุณก็ต้องสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้เพราะไอเดียการทาเล็บนั้นมากมายไม่มีขีดจำกัด!โฆษณา
เคล็ดลับ
- คุณต้องแน่ใจว่าใช้เบสโค้ทเเบบใส เพราะเบสโค้ทใสสามารถป้องกันไม่ให้เล็บเหลืองและช่วยให้สีทาเล็บบนมือและเท้าของคุณอยู่ได้นานขึ้น!
- ติดเทปที่ด้านข้างของเล็บทั้ง 2 ด้าน เพราะเทปสามารถช่วยป้องการไม่ให้ยาทาเล็บเลอะเทอะบนจมูกเล็บและบริเวณรอบๆ เล็บได้
- เทปสามารถช่วยคุณทำปลายเล็บแบบฝรั่งเศสได้
- เริ่มทาเล็บที่นิ้วก้อยและไล่มาที่นิ้วโป้ง นี่จะช่วยลดโอกาสที่คุณจะทำมือไปโดนยาทาเล็บที่ยังไม่แห้งเมื่อคุณกำลังทาเล็บต่อไป
- ถ้าเล็บคุณหักบ่อยๆ และยาทาเล็บทำให้เล็บดูไม่สวย ให้คุณซื้อน้ำยาช่วยเสริมความเเข็งแรงของเล็บ (ซึ่งสามารถหาซื้อได้ในแผนกเครื่องสำอางในร้านขายยา ห้างสรรพสินค้าและร้านขายอุปกรณ์เคมี) ซึ่งคุณสามารถทาก่อนลงยาทาเล็บได้ น้ำยานี้จะช่วยทำให้เล็บของคุณดูดีและแข็งแรง ซึ่งจะทำให้เล็บดูยาวและดูดีเมื่อทาเล็บ
- ติดเทปรอบๆ เล็บเพื่อปกป้องผิวของคุณ หลังจากที่คุณทาเล็บ คุณจะไม่มีอะไรทำนอกจากดึงเทปออก การติดเทปจะทำให้คุณไม่มีคราบเลอะเทอะ จะมีก็เพียงแต่เล็บที่สวยงามเท่านั้น
- ถ้าคุณทำยาทาเล็บเลอะผิวหนังให้คุณรอจนยาทาเล็บนั้นเเห้ง แล้วจึงจุ่มมือลงในน้ำอุ่นแล้วถูให้ยาทาเล็บนั้นหลุดออกจากผิวหนัง วิธีการนี้จะไม่ทำให้ยาทาเล็บบนเล็บลอก และวิธีนี้ยังรวดเร็ว ง่ายและไม่เจ็บด้วย
- ขณะที่คุณทาเล็บของมือซ้าย ลองให้มือทั้ง 2 ข้างวางอยู่บนโต๊ะ ถ้านี่ช่วยคุณได้ดี ให้ลากมือของคุณและจับแปรงให้นิ่ง
- อย่าทาเล็บหนาเกินไป ถ้าคุณทาชั้นบางๆ หลายๆ ชั้น คุณจะได้สีขุ่นๆ ซึ่งดูดีกว่า
- อย่าทาบนจมูกเล็บ ให้เว้นช่องว่างระหว่างเล็บและผิวหนัง
- ถ้าคุณมีกาวน้ำคุณสามารถทากาวไว้รอบๆ เล็บ จะทำให้คุณทาเล็บได้ง่ายขึ้นเพราะคุณจะสามารถลอกกาวออกได้โดยที่กาวจะไม่ทำอันตรายกับมือของคุณ
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าคุณลืมทาเบสโค้ทก่อนทาเล็บและเล็บของคุณกลายเป็นสีเหลือง วิธีกำจัดคราบเหลืองก็คือให้คุณนำเล็บที่ยังไม่ได้ทาจุ่มลงในน้ำมะนาวสด คุณต้องแน่ใจว่าคุณไม่มีแผลนิ้วเพราะน้ำมะนาวจะทำให้คุณแสบ!
- ห้องต้องระบายอากาศได้ดี เพราะกลิ่นยาทาเล็บหรือน้ำยาล้างเล็บนั้นอาจเป็นพิษถ้าสูดดม
- คุณควรปิดฝาขวดยาทาเล็บให้สนิททุกครั้ง เพื่อที่ยาทาเล็บจะได้ไม่แห้ง
- เก็บยาทาเล็บและวัสดุเคมีอื่นๆ ให้พ้นมือเด็กๆ ในทุกๆ ครั้งที่ใช้
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ยาทาเล็บใส (เบสโค้ทและท็อปโค้ท)
- ยาทาเล็บ
- น้ำยาล้างเล็บ
- สำลีก้อน
- คอตตอนบัด
- พื้นที่เรียบเพื่อทาเล็บ
- เทปกาว (เทปกาวแบบริ้วจะดีที่สุด)
- ที่ตะไบเล็บ
- ไม้ดันจมูกเล็บ
- กระดาษเช็ดมือ
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา