ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การรับมือกับความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวมักจะเป็นเรื่องยากเสมอ และหลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับความสัมพันธ์แบบฝ่ายเดียว ก็ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตนั้น ไม่เคยคิดจะเข้าข้างคุณเลยสักอย่างเดียว หลายคนเคยตกเป็นเหยื่อของความรักข้างเดียว ถูกบั่นทอนเรี่ยวแรงและพบกับความผิดหวัง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่จะเป็นแบบนั้น เพราะในธรรมชาติของความเป็นมนุษย์แล้ว เราทุกคนล้วนมีทักษะในการเยียวยาตัวเองอยู่ เรามักจะซ่อมแซมจิตใจตัวเอง และดึงตัวเองให้ออกไปจากสถานการณ์แย่ๆ แบบนั้น ซึ่งการเรียนรู้ที่จะข้ามผ่านความสัมพันธ์กับคนรักเก่าและใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้า จะยิ่งทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น เป็นอิสระมากขึ้น และพร้อมที่จะพบกับคนใหม่ๆ ที่พร้อมจะแชร์ความสุขร่วมกัน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ก้าวข้ามผ่านความสัมพันธ์เก่า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลายคนที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดี มักชอบหลอกตัวเองว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีอะไรผิดปกติหรือแย่เลย และอีกฝ่ายก็แคร์ตัวเอง แล้วก็ยังไปสงสัยว่าจริงๆ แล้ว การจบความสัมพันธ์ครั้งนั้น เป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรือเปล่า ซึ่งในความเป็นจริง การที่คุณต้องจบความสัมพันธ์นั้นไป มันย่อมมีมูลอยู่แล้ว และแม้ว่าบางช่วงในตอนที่คบกันอยู่จะเป็นเวลาที่ดีสำหรับคุณ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้มีสิ่งแย่ๆ เกิดขึ้นเลยซะหน่อย [1]
    • เมื่อใดก็ตามที่คำถามที่ว่า “ฉันตัดสินใจถูกหรือเปล่า ที่ไปจบความสัมพันธ์ครั้งนั้น?” กลับเข้ามาในหัวคุณ ให้คุณมองย้อนกลับไปถึงสิ่งที่ทำให้คุณทุกข์ การกลับไปนึกถึงจุดนั้น อาจจะทำให้คุณเตือนตัวเองได้ว่า คุณไม่สามารถใช้ชีวิตจริงอยู่กับสิ่งแย่ๆ แบบนั้นได้อีก เช่น การขาดแคลนทางอารมณ์ความรู้สึก หรือการสนับสนุนจากอีกฝ่าย [2]
  2. มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าหากคุณจะรู้สึกทุกข์หลังจากที่ต้องจบความสัมพันธ์ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ไม่ค่อยจะแคร์คุณหรือเคารพในตัวคุณสักเท่าไร คุณอาจจะรู้สึกเศร้า เปล่าเปลี่ยว หรือไม่ก็รู้สึกว่าตัวเองไร้ค้า และสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเองไป ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะรู้สึกหลังจากที่คุณต้องยุติความสัมพันธ์กับใครสักคน และมันก็ไม่ผิดนะ ถ้าหากคุณยังอาลัยอาวรณ์กับการสูญเสียความสัมพันธ์ครั้งนี้ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ คุณจะต้องไม่ไปเชื่อความคิดต่างๆ ที่ทำให้คุณหมดความมั่นใจในตัวเองไป [3]
    • จำไว้ว่า มันไม่ใช่ความผิดคุณ ที่จะถูกอีกฝ่ายปฏิบัติไม่ดีด้วยและมองคุณเป็นของตาย คุณสามารถเสียใจกับสิ่งแย่ๆ เหล่านั้นโดยที่ไม่ต้องไปจำนนต่อความคิดที่ว่า คุณต้องเป็นคนที่รับผิดชอบต่อสิ่งแย่ๆ เหล่านั้นที่เกิดขึ้นกับคุณ
    • การที่ไม่เศร้าหรือเสียใจกับการสูญเสียความสัมพันธ์เลย จะยิ่งทำให้อารมณ์เข้าสู่ขั้นที่เลวร้ายได้ เช่น เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล [4] ดังนั้น อย่าพยายามเก็บกดความรู้สึกตัวเองไว้ ให้คุณหาวิธีดีๆ ในการระบายความรู้สึกของตัวเองออกมาจะดีกว่า
  3. เมื่อความสัมพันธ์ต้องจบลง มันก็ดูจะเหมือนว่าเราเองต้องคร่ำครวญถึงความสัมพันธ์นั้นไปตลอดชีวิต แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะความรู้สึกแบบนั้นจะอยู่แค่ชั่วคราว และการที่คุณรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่านั้นไม่ใช่ความจริงเลย [5]
    • ความรู้สึกด้านลบใดๆ ก็แล้วแต่ ที่เกิดจากความไม่มั่นคง ความเศร้า และความกลัว จำไว้ว่าความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้เกิดจากประสบการณ์จริงๆ ของคุณหรอก และนอกจากนี้ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงตัวตนของคุณ หรือสิ่งที่คุณสมควรจะได้รับด้วย [6]
  4. หลังจากความสัมพันธ์แย่ๆ สิ้นสุดลง คุณอาจจะรู้สึกเศร้าและไร้ค่า ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ การได้ทำในสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดีและมีความสุขนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ [7]
    • ลองออกกำลังกายให้มากกว่าเดิม และใช้เวลาอยู่ข้างนอกให้มากขึ้น เพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารเซโรโทนิน (serotonin) และโดพามีน (dopamine) ที่ช่วยทำให้ร่างกายดีขึ้น [8]
  5. คุณไม่มีทางที่จะลืมเรื่องราวเจ็บปวดได้ในคืนเดียวหรอก และคุณก็ไม่มีทางที่จะหาความสัมพันธ์ที่เพอร์เฟคได้ในคืนเดียวเช่นกัน สิ่งที่คุณสามารถทำได้ก็คือ ค่อยๆ ทำใจไปทีละวัน โฟกัสถึงความรู้สึกที่ดีกว่าเดิมในวันนี้ ค่อยๆ ทำไปเท่าที่ทำได้ และอย่าเพิ่งไปกังวลเกี่ยวกับการข้ามผ่านจุดนี้หรือการหาความสัมพันธ์ครั้งใหม่ จนกว่าคุณจะสามารถข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและเจ็บปวดได้ดีพอเสียก่อน [9]
    • ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพื่อตัวเองในแต่ละวันบ้าง เพื่อที่คุณจะได้รู้สึกดีกับตัวเองและมั่นใจในคุณค่าของตัวเอง
    • อย่าพยายามเร่งรีบ เพราะสิ่งที่คุณควรทำก็คือ ให้คุณเดินหน้าต่อไปในแต่ละวัน และเชื่อมั่นว่าคุณจะสามารถเปิดรับความสัมพันธ์ครั้งต่อไปเมื่อเวลามาถึงได้ [10]
  6. เมื่อความสัมพันธ์จบลง คุณอาจจะยังมีความหวังว่า คุณจะสามารถแก้ไขบางสิ่งบางอย่าง จนทำให้คนที่คุณแคร์เห็นถึงข้อผิดพลาดที่เขามี และเรียนรู้ว่าตัวเขาควรจะให้ความรักคุณและเคารพคุณมากขึ้น ซึ่งแม้ท้ายที่สุดแล้ว อีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่การมีความหวังก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะคุณก็แค่เปลี่ยนความหวังครั้งนี้ให้เป็นความหวังที่ตั้งไว้กับอนาคตครั้งใหม่ จากนั้นคุณก็จะตระหนักได้ว่าตัวคุณเอง อยากที่จะก้าวเดินต่อไป และในบางจุด คุณก็จะหวังว่าคุณสามารถที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุขและเติมเต็มมากกว่าเดิม ในตอนที่อีกฝ่ายได้ออกไปจากชีวิตคุณแล้ว [11]
    • จำไว้ว่าคุณไม่ได้ถูกกักขังจากความสัมพันธ์ใดๆ ทั้งนั้น คุณสามารถที่จะก้าวเดินต่อไปได้ เพราะมันก็แค่ใช้เวลาสักพักเพื่อที่จะข้ามผ่านความสัมพันธ์เก่าก็แค่นั้น
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ใช้ชีวิตต่อไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้ว่ามันอาจจะยากที่จะอยู่กับปัจจุบัน แต่สุดท้ายแล้ว คุณก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่เพื่อความสุขที่มากกว่าเดิม รวมถึงเพื่อบรรลุเป้าหมายของความสัมพันธ์ครั้งใหม่ในอนาคต ด้วยการยุติความสัมพันธ์ที่ไม่ดีในชีวิตลงอีกด้วย นอกจากนี้ คุณยังรับรู้ว่าความสัมพันธ์เก่านั้นเปราะบางและล้มเหลว แล้วก็ตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้นเอง และเมื่อคุณก้าวผ่านจุดนั้นมาได้แล้ว คุณก็จะมีความสุขมากขึ้น สดใสมากขึ้น และเปิดใจยอมรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณสมควรจะได้รับ [12]
  2. เมื่อมาถึงจุดนี้ได้ ก็แสดงว่าคุณรู้แล้วว่า มีอะไรบ้างที่คุณไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ ซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่า ใจจริงคุณต้องการอะไร ซึ่งนี่จะช่วยคุณหลีกเลี่ยงการตกอยู่ในสถานการณ์ของความสัมพันธ์แบบฝ่ายเดียวแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ [13]
    • จำไว้ว่ามนุษย์มักจะทำบางสิ่งบางอย่างเป็นแพทเทิร์นแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะโดยมีสติหรือไม่มีก็ตาม หากคุณเคยมีประสบการณ์ของความสัมพันธ์แบบฝ่ายเดียว ลองมองย้อนกลับไปแล้วดูว่าทำไมคุณถึงเลือกความสัมพันธ์แบบนั้น และอะไรที่ทำให้คุณไม่อยากหรือไม่สามารถที่จะทำลายนิสัยแบบเก่าๆ นั้นได้ [14]
    • ลองเขียนลิสต์ถึงลักษณะในอุดมคติที่คุณต้องการให้มีในความสัมพันธ์ของคุณ จากนั้นก็ทำลิสต์แยกมาอีกแผ่นหนึ่ง แล้วเขียนถึงสิ่งที่คุณไม่ชอบในความสัมพันธ์แบบฝ่ายเดียวที่เกิดขึ้นในอดีตลงไปในแผ่นนั้น เสร็จแล้วก็เอาสองลิสต์นี้มาเปรียบเทียบกัน เผื่อว่าบางที ลิสต์บางข้อในกระดาษลิสต์ที่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการ อาจจะนำพาไปสู่ผลลัพธ์ที่อยู่ในกระดาษลิสต์ของสิ่งที่คุณไม่ชอบก็เป็นได้
  3. หากคุณกำลังฟื้นตัวจากความสัมพันธ์ที่คุณไม่ใช่คนที่ถูกรักหรือได้รับความเคารพ คุณอาจจะรับรู้ถึงความทุกข์หลายๆ อย่าง ที่เกิดจากความสัมพันธ์ครั้งนั้น บางทีคุณอาจจะสงสัยว่าคุณสมควรจะได้รับความสุขหรือไม่ ซึ่งเราขอพูดเลยว่า คุณสมควรได้รับความสุข รวมถึงคนอื่นๆ บนโลกใบนี้ก็ด้วย และคุณก็สมควรที่จะได้เจอใครสักคนที่จะทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง [15]
    • การที่คนอื่นไม่อยากจะให้ความรักกับคุณ และปฏิบัติกับคุณในทางที่ไม่ค่อยดี สิ่งเหล่านั้นที่เขาปฏิบัติกับคุณจะเป็นตัวสะท้อนข้อบกพร่องของคนๆ นั้น ไม่ใช่ข้อบกพร่องของคุณ [16]
  4. ทุกคนควรจะมีคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกมีกำลังใจไว้สักคน แล้วยิ่งถ้าตอนนั้นคุณเพิ่งจะจบความสัมพันธ์แย่ๆ มา คนแบบนี้จะยิ่งมีความสำคัญกับคุณ คุณควรอยู่กับเพื่อนที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจคุณ และตีตัวออกห่างจากคนอื่นในชีวิต ที่ไม่ได้ให้ความรักและมิตรภาพกับคุณ [17]
    • เมื่อคุณรู้สึกว่า คุณพร้อมที่สร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่แล้ว คุณควรจะหาใครสักคนที่ทำให้คุณรู้สึกมีพลังและเบิกบาน และสิ่งดีๆ ที่คุณได้รับมาจากเขา คุณก็ควรที่จะให้ค่าและไม่ละเลยสิ่งนั้น ในขณะที่คุณก้าวข้ามผ่านความสัมพันธ์ที่ไม่ดีอันเก่ามา [18]

เคล็ดลับ

  • จำไว้ว่า การทำใจยอมรับความสัมพันธ์ที่จบลงไปต้องใช้เวลา และยิ่งถ้าเป็นความสัมพันธ์ที่แย่ ก็ยิ่งใช้เวลานานกว่าเดิม ขอแค่ให้คุณอดทน แล้วโฟกัสกับสิ่งที่ทำให้มีความสุข และใช้ชีวิตแต่ละวันให้ดีที่สุด ค่อยๆ ทำใจไป อย่ารีบร้อน

คำเตือน

  • พยายามหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในที่ๆ ทำให้คุณนึกถึงคนที่ทำให้คุณเจ็บช้ำ

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
จบความสัมพันธ์
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,597 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม