ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การทำให้ใครบางคนรู้สึกผิดเป็นวิธีที่ทำให้อีกฝ่ายขอโทษคุณหรือทำในสิ่งที่คุณต้องการ แต่ถ้าคุณทำให้เขารู้สึกผิดได้สำเร็จ สุดท้ายแล้วเขาก็อาจจะไม่พอใจคุณก็ได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าคุณเลือกที่จะทำให้เขารู้สึกผิดจริงๆ คุณต้องระลึกไว้ด้วยว่า ความสัมพันธ์ที่คุณมีกับคนๆ นี้อาจจะสำคัญกว่าการได้ในสิ่งที่คุณต้องการก็ได้
ขั้นตอน
-
ถามคำถามเพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับในสิ่งที่เขาทำ. ถ้าเขาไม่แม้แต่จะยอมรับว่าเขาทำผิด เขาก็อาจจะไม่ขอโทษก็ได้ การกล่าวหาเขาออกไปเลยมักจะทำให้เขาไม่พอใจ แต่คุณก็สามารถทำให้เขาสารภาพออกมาได้ด้วยการถามคำถามชี้นำ อย่างน้อยคุณก็อาจจะจับได้ว่าเขาโกหก เพราะคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันไม่จริง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น ถ้าคุณจับได้ว่าแฟนไปกับผู้หญิงคนอื่น คุณอาจจะเริ่มจากการถามว่า "ทำไมก่อนหน้านี้ฉันโทรไปถึงไม่รับโทรศัพท์" ถ้าเขาบอกว่าเขาอยู่ที่ทำงาน คุณก็พูดต่อว่า “เปล่า คุณไม่ได้อยู่ที่นั่นหรอก เพราะฉันก็โทรไปที่ทำงานเหมือนกัน”
- ถ้าลูกวัยรุ่นขโมยเงินในกระเป๋าสตางค์ คุณก็อาจจะถามว่า “ลูกเอาเงินที่ไหนไปดูหนังเมื่อคืน”
- ระมัดระวังก่อนจะกล่าวหาใครสักคนเผื่อว่าเขาอาจจะไม่ได้ทำ เพราะถ้าเขาถูกตำหนิในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ เขาอาจจะเริ่มรู้สึกว่าถ้าอย่างนั้นเขาก็ทำจริงๆ เลยแล้วกัน
-
ขุดเรื่องที่เขาเคยทำผิดขึ้นมา. การเล่นบทเหยื่อคือส่วนสำคัญของการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิด ทำเหมือนว่ามันเป็นรูปแบบพฤติกรรมที่คุณรู้อยู่แล้ว และแน่นอนว่าไม่ใช่พฤติกรรมที่เขาสมควรทำกับคุณ ถ้าจะให้ดีที่สุดควรเลือกพูดเรื่องที่ใกล้เคียงกับเรื่องที่คุณอยากให้เขาขอโทษ แต่จริงๆ แล้วจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่คุณไม่พอใจ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น ถ้าคุณอยากให้สามี/ภรรยาขอโทษที่หงุดหงิดใส่ ก็อาจจะพูดว่า "คุณไม่ได้ตวาดผมครั้งนี้ครั้งแรกนะ จำเมื่อวันก่อนได้ไหมที่คุณพูดว่า..."
- ใช้วิธีนี้ต่อเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น เพราะมันเป็นการเปิดประตูให้อีกฝ่ายขุดเรื่องที่คุณเคยทำให้เขาเสียใจขึ้นมาพูดเหมือนกัน
-
เล่นกับความรู้สึกของอีกฝ่ายที่มีต่อคุณ. บอกเขาว่าสิ่งที่เขาทำนั้นทำให้คุณเกิดคำถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคุณกันแน่ ในบางกรณีวิธีนี้ก็ได้ผลมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่พอใจในเรื่องที่มันร้ายแรง แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายแรง คุณต้องทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่า เขาต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขายังห่วงใยคุณอยู่ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บอกเขาว่า "คุณจะบอกว่าคุณรักผมได้ยังไงในเมื่อคุณโกหกผม"
- หรืออาจจะพูดว่า "ผมน้อยใจมากเลยนะที่คุณลืมวันเกิดผม ผมไม่สำคัญกับคุณหรือไง"
-
ทำให้เขานึกถึงสิ่งดีๆ ที่คุณทำให้เขา. ทำให้การกระทำของเขามันตรงข้ามกับคุณอย่างสิ้นเชิงด้วยการยกสิ่งดีๆ ที่คุณเคยทำให้เขา ยิ่งถ้าเพิ่งผ่านมาไม่นานหรือยิ่งใหญ่เท่าไหร่ได้ยิ่งดี แต่จริงๆ แล้วจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ทะเลาะกันอยู่ ขอแค่มันทำให้เห็นว่าคุณเป็นคนดีแค่ไหนก็พอ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าเขาเอาบางอย่างจากคุณไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต คุณอาจจะพูดว่า "หลังจากที่ผมให้คุณมาหมดแล้วทุกอย่าง คุณยังขโมยอะไรจากผมได้อีกเหรอ”
- นอกจากนี้คุณก็อาจจะพูดประมาณว่า "ฉันว่าการที่ฉันเอาดอกไม้ไปให้คุณเมื่อวันก่อนคงไม่มีความหมายอะไรใช่ไหม ไม่อย่างนั้นวันนี้คุณคงไม่ชวนฉันทะเลาะด้วยหรอก"
- หรือคุณอาจจะพูดทำนองว่า “ผมทำมื้อเย็นให้คุณทุกวันมา 5 ปี แค่ซื้อนมกล่องนึงระหว่างทางกลับบ้าน คุณจำไม่ได้เหรอ”
- อันที่จริงแล้วการทำอย่างนี้บ่อยๆ จะทำให้อีกฝ่ายซาบซึ้งน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณทำดีกับเขา เขาจะสงสัยว่าเมื่อไหร่คุณจะกลับมาทวงบุญคุณเขาอีก
-
เบี่ยงเบนประเด็นหากเขาพยายามทำให้เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของคุณ. เวลาที่คุณพยายามทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด อีกฝ่ายก็มักจะพยายามทำให้คุณรู้สึกเช่นเดียวกัน แม้ว่าคุณจะเคยทำผิดจริงๆ อย่ายอมรับ แต่ให้ย้อนทุกอย่างกลับไปที่การกระทำของเขา [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น ถ้าคุณอยากให้แฟนขอโทษที่ส่งข้อความหาผู้หญิงคนอื่น เขาก็อาจจะพยายามทำให้คุณรู้สึกผิดที่แอบดูโทรศัพท์ของเขา ถ้าเป็นแบบนี้ให้พูดทำนองว่า "แต่มันก็มีสาเหตุที่ทำให้ฉันรู้สึกตะหงิดใช่ไหมล่ะ"
- แม้ว่าคุณจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ คุณก็อาจจะพูดประมาณว่า "ฉันคงไม่ตะคอกใส่คุณหรอกถ้าคุณไม่ทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้!"
- การไม่ยอมรับว่าคุณทำผิดอาจเป็นเทคนิคที่ใช้ได้ผลเวลาที่คุณอยากให้อีกฝ่ายรู้สึกผิด แต่มันก็ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องของความสัมพันธ์ที่ดี
-
เพิ่มระดับอารมณ์. ถ้าอีกฝ่ายไม่รู้สึกผิดและขอโทษคุณสักที ก็ถึงเวลาต้องดราม่าแล้ว ร้องไห้ ตะโกน เดินกระทืบเท้าไปมา อะไรก็ได้ที่อยากทำ สุดท้ายแล้วเขาอาจจะหมดหนทางที่จะทำให้คุณสงบลงจนต้องยอมพูดอะไรก็ได้ที่คุณอยากฟัง [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เล่นกับอารมณ์ของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ใช้คำพูดเช่น "ผิดหวัง" "เห็นแก่ตัว" และ “อับอาย” เพื่อกระตุ้นความรู้สึกผิดข้างใน
โฆษณา
-
เน้นความสำเร็จเมื่อเร็วๆ นี้หรือสิ่งดีๆ ที่คุณทำ. เมื่อคุณพร้อมที่จะขออะไรบางอย่างจากเขาแล้ว ให้เริ่มจากการพูดให้ตัวเองดูดีก่อน ยิ่งคุณดูดีมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดได้มากขึ้นเท่านั้น [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น ถ้าคุณอยากได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ คุณก็อาจจะเริ่มต้นด้วยการพูดว่า “พ่อคะ ดูสมุดพกหนูสิคะ! ปีนี้หนูได้ 3 แค่วิชาเดียวเองนะ!”
- ถ้าคุณอยากให้ใครสักคนบริจาคให้องค์กรการกุศลของคุณ คุณก็อาจจะเขียนรายการสิ่งดีๆ ที่ทางมูลนิธิเคยทำเพื่อช่วยเหลือชุมชน
-
เข้าทางอารมณ์เชิงลบเวลาขอสิ่งที่คุณต้องการจากเขา. ความเศร้า ความสงสาร ความโกรธ ความอยุติธรรม และความอับอายล้วนเป็นแรงกระตุ้นที่ทรงพลัง เมื่อคุณอยากได้อะไรจากใครสักคน การทำให้เขารู้สึกถึงอารมณ์เชิงลบสามารถกระตุ้นให้เขายอมเพื่อรับอารมณ์อื่นที่เป็นบวกเข้ามาแทน [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น ถ้าคุณอยากให้พ่อแม่พาคุณออกไปกินข้าวนอกบ้าน คุณก็อาจจะพูดว่า "ผมอยากให้เราไปข้างนอกแล้วก็ใช้เวลาด้วยกันในครอบครัวบ้าง แต่ผมคิดว่ามันคงไม่สำคัญเท่าไหร่"
- ถ้าคุณอยากได้เสื้อผ้าใหม่ คุณก็อาจจะพูดว่า “หนูอายมากเลยค่ะที่เสื้อผ้าของหนูไม่สวยเหมือนเพื่อนๆ ที่โรงเรียน”
- ใช้คำพูดเกินจริง เช่น “ตลอด” และ “ไม่เคย” เพื่อให้ประเด็นรุนแรงขึ้น เช่น คุณอาจจะพูดว่า “คุณเอาแต่ทำงานตลอด ไม่เคยอยู่กับฉันเลย”
-
เทียบเคียงสิ่งที่คุณต้องการกับความสุขหรือความรัก. เมื่อคุณเข้าทางอารมณ์เชิงลบของอีกฝ่ายแล้ว ให้บอกเหตุที่ทำให้เขาเชื่อว่า ถ้าเขาให้ในสิ่งที่คุณต้องการ ทั้งตัวเขาเองและคุณก็จะรู้สึกดีขึ้นด้วย ใช้คำพูด เช่น “ความรัก” “ความสุข” และ “สิ่งที่ดีที่สุด” เพื่อให้เขาเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อ เทคนิคนี้ใช้ได้ผลกับพ่อแม่มากเป็นพิเศษ เพราะพวกเขามักจะอยากแสดงความรักกับคุณอยู่แล้ว [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คุณอาจจะพูดว่า "แม่ไม่อยากให้ผมมีความสุขเหรอ" หรือ “ถ้าพ่อช่วยหนู พ่อเองก็จะรู้สึกดีด้วยเหมือนกัน!”
- หรือคุณอาจจะพูดว่า "แม่ไม่รักผมเหรอ" หรือ "ถ้าพ่อรักหนูจริงๆ พ่อก็คง..."
- จำไว้ว่าพ่อแม่รักคุณอยู่แล้ว และการใช้ประโยชน์จากความรักของพ่อแม่เพื่อให้ได้สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ถือเป็นการบงการพ่อแม่อย่างเห็นแก่ตัว มันอาจจะได้ผลก็จริง แต่มันก็อาจทำให้พ่อแม่โกรธได้เช่น
-
ขอร้องด้วยวิธีการอื่นๆ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธในครั้งแรก. แม้แต่วิธีการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดที่ดีที่สุดก็อาจยังไม่ได้ผลในครั้งแรก ถ้าเขาไม่ยอมให้สิ่งที่คุณต้องการ ให้เว้นช่วงแล้วลองอีกครั้ง ตื้อไม่เลิก และสุดท้ายพวกเขาก็อาจจะยอมให้ คุณจะได้เลิกตื้อสักที [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าเขาปฏิเสธในครั้งแรก ให้พูดประมาณว่า "ฉันรู้ว่าคุณปฏิเสธ แต่ลองคิดแบบนี้ดูสิ..."
- คุณอาจจะรอสัก 2-3 วันแล้วค่อยพูดว่า "ผมอยากให้แม่กลับไปคิดเรื่องที่ผมขอยืมรถเสาร์อาทิตย์นี้ดูอีกครั้งนะครับ”
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าโกหกหน้าตาเฉยและแต่งเรื่องขึ้นมา
- อย่าพยายามทำให้ใครรู้สึกผิดเพื่อมีเซ็กส์กับคุณเด็ดขาด การบังคับฝืนใจในลักษณะนั้นถือเป็นการล่วงละเมิดทางเพศรูปแบบหนึ่ง
- มีวิธีการที่ดีอื่นๆ มากมายที่จะโน้มน้าวให้คนอื่นทำหรือพูดในสิ่งที่คุณต้องการ การทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดนั้นควรเป็นวิธีการสุดท้าย หรือจะไม่ใช้เลยก็ได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/the-squeaky-wheel/201305/7-ways-get-out-guilt-trips
- ↑ https://www.psychologies.co.uk/how-get-someone-tell-you-truth
- ↑ https://www.marieclaire.com/sex-love/a3982/guilt-breakup-100408/
- ↑ https://www.marieclaire.com/sex-love/a3982/guilt-breakup-100408/
- ↑ https://www.thetalko.com/15-signs-hes-guilt-tripping-you/
- ↑ https://www.thetalko.com/15-signs-hes-guilt-tripping-you/
- ↑ https://www.marieclaire.com/sex-love/a3982/guilt-breakup-100408/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-squeaky-wheel/201305/7-ways-get-out-guilt-trips
- ↑ https://www.livescience.com/2796-key-fundraising-guilt-trips.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 25,734 ครั้ง
โฆษณา
