ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณคิดว่าผู้ชายที่เป็นเพื่อน แฟน หรือคนที่คุณชอบและเขาเลิกชอบคุณ เขาอาจจะเริ่มเมินเฉยหรือปฏิเสธคำชวนที่จะไปเที่ยวกับคุณ แล้วคุณจะทำยังไง? ถ้าคุณไม่สามารถเจอเขาต่อหน้าได้ คุณยังสามารถลองเอาชนะใจเขากลับมาผ่านทางข้อความได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขาอาจจะไม่คุยหรือไม่ไปเที่ยวกับคุณเพราะเขาโกรธเรื่องบางอย่างที่คุณทำหรือเขาเจอเพื่อนใหม่และยุ่งกับการทำสิ่งอื่นๆ
    • ถ้าเขาวางตัวกับคุณเปลี่ยนไปเพราะเขาไม่อยากเป็นเพื่อน คนรัก หรืออะไรก็ตามกับคุณแล้วก็ไม่มีอะไรที่คุณสามารถทำได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรืื่องของคุณ
    • ถ้าคุณคิดว่าเขาโกรธก็ควรนึกทบทวนว่าทำไม คนเราโกรธเมื่อรู้สึกว่าบางอย่างมีผลกระทบเชิงลบกับพวกเขา เพราะฉะนั้นขั้นตอนแรกของการคืนดีคือการนึกทบทวนว่าคุณทำอะไรผิดไป
    • จำไว้ว่าบางครั้งอะไรที่ดูเหมือนเป็นการกระทำหรือการตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเราอาจจะมีผลกระทบใหญ่หลวงกับคนอื่น เพราะฉะนั้นคิดทบทวนว่าคุณได้ทำอะไรเมื่อไม่นานมานี้และการกระทำสิ่งใดของคุณที่อาจจะส่งผลเชิงลบกับเขา
    • เมื่อคุณรู้แล้วว่าคุณทำอะไรให้เขาโกรธ คุณสามารถแก้ไขเพื่อบรรเทาสถานการณ์นี้
  2. กุญแจสำคัญในการทำให้ใครบางคนหายโกรธหรือเศร้าคือแสดงให้เขาเห็นว่าคุณเข้าใจเขาและรู้ว่าคุณทำอะไรที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้น
    • เอาใจเขามาใส่ใจคุณและดูว่าอะไรที่คุณคิดว่าทำให้เขารู้สึกแบบนั้น เข้าใจอารมณ์เหล่านั้นและเข้าหาเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ
    • เช่น คุณไปรับเขาช้าเพราะรถติดและคุณนึกได้ว่าคุณลืมโทรศัพท์ สำหรับคุณมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เป็นแบบนั้นแต่สำหรับเขาที่ต้องยืนรออยู่ริมถนน 45 นาทีและมันมืดและหนาว ถึงแม้ว่าเขาบอกคุณว่าเขาจะมารอคุณกี่โมงตั้งหลายครั้งและคุณสัญญาว่าจะตรงเวลาก็ตาม
  3. เมื่อคุณรู้แล้วว่าอะไรที่ทำให้เขาเสียใจก็ควรพยายามเห็นอกเห็นใจความรู้สึกของเขา
    • ถ้าคุณไปรับเขาช้าก็ลองนึกว่าเขารู้สึกอย่างไรนอกเหนือจากที่ต้องคิดทบทวนว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรในความคิดของเขา เช่น เขาอาจจะรู้สึกว่าคุณไม่เห็นเขาเป็นคนสำคัญ คุณไม่ใส่ใจว่าเขาจะลำบากหรือมีอย่างอื่นต้องทำ และคุณไม่รักษาสัญญา ลองนึกว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องแบบนั้นและเห็นอกเห็นใจเขา
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การขอโทษ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขอโทษแต่เนินๆ และบ่อยครั้ง ยอมรับว่าคุณผิด (ถ้าคุณผิด) และรับผิดชอบ [1]
    • บอกเขาว่าคุณผิดและคุณจะไม่ทำแบบนั้นอีก (ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม) และอย่าทำแบบนั้นอีก
    • อย่าใช้ประโยคขอโทษที่ไม่ได้ขอโทษ เช่น “ฉันขอโทษที่เธอเสียใจ” มันปัดความรับผิดชอบไปให้เขาและทำเหมือนว่าคุณไม่รู้สึกขอโทษกับการกระทำ คุณแค่ไม่อยากให้เขาโกรธเรื่องนี้
    • ถ้าเขาตอบด้วยข้อความที่โกรธก็ให้ขอโทษอีกครั้ง ขอโทษไปเรื่อยๆ ถ้าเขายังตอบคุณกลับมาด้วยข้อความที่โกรธ เพียงพูดว่า “ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง” [2]
  2. แสดงว่าคุณเข้าใจผลกระทบของการกระทำของคุณที่มีต่อเขา. การขอโทษหรือการพยายามอธิบายว่าคุณเจตนาดีจะไม่ได้ผล
    • การพูดว่าขอโทษนั้นไม่เพียงพอ คุณต้องแสดงว่าคุณเข้าใจผลเสียที่ตามมาของสิ่งที่คุณทำกับเขาและคุณสำนึกผิดจริงๆ [3] [4]
    • ถ้าเขารู้สึกว่าคุณเข้าใจจริงๆ ว่าการกระทำของคุณทำให้เขาโกรธ เขาน่าจะเข้าใจและเริ่มให้อภัยคุณ
    • ถึงแม้คุณไม่คิดว่าความรู้สึกหรือปฏิกิริยาโต้ตอบที่เขามีมันยุติธรรมแต่คุณก็ควรขอโทษอยู่ดีถ้าคุณอยากให้เขาชอบคุณอีกครั้ง คุณต้องให้เขาเห็นว่าคุณเข้าใจว่าเขารู้สึกอย่างไร [5]
  3. ถึงแม้ว่าคุณพูดว่าคุณขอโทษแต่มันจะไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาชอบคุณอีกครั้งถ้าคุณเริ่มพูดสิ่งที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง [6]
    • เช่น อย่าพูดอะไรเกี่ยวกับการคิดว่าปฏิกิริยาโต้ตอบของเขาไม่มีเหตุผลหรือไม่ยุติธรรม มันจะทำให้เขารู้สึกว่าคุณไม่ได้ขอโทษและไม่เข้าใจสถานการณ์นี้จริงๆ และเขาจะโกรธคุณอีก [7]
    • อย่าพูดถึงสิ่งที่เขาเคยทำให้คุณโกรธในอดีต การทำบทสนทนาให้กลายเป็นการกล่าวโทษกันว่าใครไปทำอะไรจะไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น มันจะยิ่งทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อและเขาอาจจะไม่ให้อภัยคุณ [8]
  4. การขอวิธีแก้ไขสิ่งที่คุณทำแสดงออกว่าคุณรับฟังเขาและอยากทำให้ทุกอย่างดีขึ้นจริงๆ จากมุมมองของเขา [9]
    • เช่น คุณสามารถพูดว่า “ฉันรู้ว่าเธอต้องรอตั้ง 45 นาที มันอาจจะทำให้เธอรู้สึกว่าฉันไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอ ฉันจะแก้ตัวกับเธอยังไงดี?
  5. อารมณ์ขันช่วยคลี่คลายสถานการณ์ ถ้าคุณทำให้เขาหัวเราะหรือยิ้มเล็กน้อยได้ คุณก็มีโอกาสที่จะทำให้เขาหายโกรธ
    • ลองล้อเลียนตัวเองอย่างขำขัน ถ้าอารมณ์ขันช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้ การล้อเลียนตัวเองก็สามารถทำแบบนั้นได้ ฉะนั้นลองล้อเลียนตัวเองหรือรับรู้ข้อบกพร่องที่น่าชื่นชอบของตัวเอง
    • คุณสามารถส่งข้อความโดยตั้งใจให้มันฟังดูตลก เช่น “ฉันขอโทษที่ฉันไปรับเธอช้า เธอก็รู้ว่าฉันเป็นคนซื่อบื้อและฉันต้องเดินฝ่ากำแพง 5 ชั้นเพื่อที่จะไปถึงที่นั่น”
    • หรือคุณสามารถส่งข้อความที่จริงใจมากขึ้นแต่ยังล้อเลียนตัวเองอยู่ เช่น “เธอรู้ว่าฉันมองเวลา บนนาฬิกาว่าเป็นความท้าทายแทนที่จะเป็นคำเตือนใช่ไหม? นาฬิกาเอาชนะกันแล้ว”
  6. ถ้าผู้ชายโกรธคุณเพราะเขารู้สึกว่าคุณเมินเฉยเขาหรือความต้องการของเขาก็ควรย้ำเตือนว่าคุณคิดถึงเขาบ่อยๆ
    • เช่น คุณสามารถส่งข้อความหาเขาโดยเล่าสิ่งที่ทำให้คุณนึกถึงเขา (จะดียิ่งขึ้นถ้าสิ่งนี้เกี่ยวกับมุกตลกที่คุณสองคนรู้กัน) เช่น “ฉันเห็นรถที่มีทะเบียนรัฐฟลอริด้าและมันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องที่เธอเล่าว่าเธอโตที่นั่น มันทำให้ฉันยิ้มได้”
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การรับรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรหยุดหรือถอยออกมา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าส่งข้อความหาเขามากเกินไป ขอโทษและถ้าเขาไม่ตอบกลับมาหรือให้อภัยคุณในทันทีก็ควรถอยออกมา
    • ถ้าคุณส่งข้อความหาเขาบ่อยๆ คุณจะลบล้างความดีที่คุณเคยทำด้วยการทำให้เขารำคาญมากกว่าทำให้เขาประทับใจ
    • ถ้าเขาต้องการเวลาเพื่อลืมมันก็ควรให้เวลากับเขา ปล่อยให้เขามาหาคุณเมื่อเขาพร้อม
  2. อย่ากดดันเขาถ้าเขาไม่บอกว่าทำไมเขาถึงโกรธคุณ. ถ้าเขาไม่บอกว่าอะไรที่ทำให้เขาเสียใจก็อาจจะเป็นเพราะเขาโกรธมากจนพูดไม่ได้หรือเขาแค่เรียกร้องความสนใจ ไม่ว่าจะอย่างไร คุณต้องปล่อยให้เรื่องเงียบลงและให้เขาเข้าหาคุณเอง
    • ถ้าเขาดูโกรธจริงๆ แต่ไม่สามารถหรือไม่ยอมบอกคุณว่าทำไม เขาก็อาจจะต้องการเวลาเพื่อคิดทบทวนและปล่อยให้ความโกรธจางหายไป ถึงแม้ว่าคุณไม่รู้ว่าคุณทำอะไรและมันทำให้คุณอยากรู้มากๆ แต่คุณก็ต้องปล่อยไป อย่าบังคับให้เขาบอกคุณ ปล่อยให้เขาใช้เวลาตามที่ต้องการ เมื่อเขาพร้อมเขาจะมาหาคุณและคุณสามารถแก้ไขสิ่งต่างๆ จากตรงนั้น
    • ถ้าเขาไม่ได้ดูโกรธจริงๆ เขาอาจจะกำลังแสดงออกว่าโกรธเพื่อเรียกร้องความสนใจ ยิ่งคุณถามว่าคุณทำผิดอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อเพื่อเรียกร้องความสนใจให้มากที่สุด เพียงบอกเขาว่าคุณไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาโกรธและคุณขอโทษถ้าเป็นสิ่งที่คุณทำ จากนั้นจึงหยุดแค่นั้นและปล่อยให้เขาเข้าหาคุณเมื่อเขาเรียกร้องความสนใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว
  3. ถ้าเขาโกรธมากกับเรื่องที่คุณพยายามเห็นอกเห็นใจหรือขอโทษแล้วแต่ไม่ได้ผลก็ควรหยุด
    • ไม่มีอะไรที่คุณสามารถทำหรือพูดได้ในตอนนี้เพื่อทำให้เขาชอบคุณอีกครั้ง เพราะฉะนั้นคุณต้องถอยออกมา
    • หลังจากที่เวลาผ่านไปเขาจะรู้สึกเสียใจน้อยลงและอาจจะมาหาคุณเมื่อเขาพร้อมคุย คุณไม่สามารถบังคับให้เขาพูดได้ก่อนที่เขาจะพร้อม เพราะฉะนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณคือรอ
  4. ถ้าเขามักจะโกรธคุณเกี่ยวกับเรื่องที่คุณไม่เข้าใจหรือรู้สึกว่าไม่มีเหตุผลก็ควรดูว่าความสัมพันธ์นี้คุ้มค่าหรือไม่
    • ถ้าการอยู่กับเขาทำให้คุณเสียใจมากกว่ามีความสุข บางทีคุณก็ควรปล่อยความสัมพันธ์นี้ไป
    • ถ้าเขาทำร้ายคุณทางคำพูด อารมณ์ หรือร่างกายเมื่อเขาโกรธก็ควรยุติความสัมพันธ์ทันที
  5. ถ้าทุกอย่างไม่ได้ผลและเขาไม่ยอมไม่ว่าคุณจะทำอะไร คุณก็ควรหาความสนุกใส่ตัว [10]
    • “แอปพลิเคชันแกล้งทำ” จะให้คุณเลือกเพศของคนที่คุณพยายามง้อและเหตุผลที่คุณอยากใช้เพื่อให้เขากลับมา [11] แน่นอนว่าถ้าความพยายามของคุณไม่ได้ผล แอปพลิเคชันก็คงทำได้ไม่ดีไปกว่าคุณแต่คุณไม่มีอะไรต้องเสีย ถ้าทุกอย่างจะไม่ดีขึ้น อย่างน้อยคุณก็จะเพลิดเพลินกับข้อความที่แอปพลิเคชันส่งไปหาเขาแทนคุณโดยพูดว่าคุณถูกลักพาตัวโดยชาวรัสเซีย [12]
    • ลองหาคำตอบที่ฉลาดถ้าเขาไม่โต้ตอบคุณ ถ้าเขาไม่ส่งข้อความกลับมาหาคุณและคุณรู้ว่าเขาจะไม่ส่งข้อความมาอีก คุณก็สามารถเล่นใหญ่ได้ ลองทำตัวเว่อร์ (“ฉันรอให้เธอส่งข้อความกลับมานานเสียจนแมวจรจัดกินใบหน้าและมือของฉันและตอนนี้ฉันส่งข้อความหาเธอด้วยนิ้วเท้าและฉันจะตายเร็วๆ นี้”) หรือหามีมหรือ gifs เพื่อส่งหาเขาครั้งสุดท้าย [13]
  6. อยากพร่ำเพ้อกับสถานการณ์หรือนอนดึกเพื่อคิดว่าคุณน่าจะพูดอะไรหรือเขาเป็นคนที่งี่เง่าแค่ไหน
    • ยอมรับว่าเขาเสียใจและความสัมพันธ์อาจจะต้องยุติ เริ่มเดินหน้าต่อไปในชีวิต
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าเขาไม่อยากพูดคุยผ่านข้อความก็ลองถามว่าเขาอยากคุยต่อหน้าหรือไม่ บางคนต้องการพูดคุยต่อหน้า
  • คุณต้องใจเย็นๆ คุณไม่สามารถบังคับให้ใครบางคนไม่โกรธคุณ ถ้าเขาโกรธมาก เขาก็ต้องใช้เวลาเพื่อลืมเรื่องราวต่างๆ
  • ยอมรับและรับรู้ความรู้สึกของเขา ถึงแม้ว่าคุณคิดว่าเขาไม่มีเหตุผลแต่คุณก็ต้องรับรู้และเข้าใจความรู้สึกของเขา อย่างน้อยคุณต้องทำแบบนั้นถ้าคุณอยากให้ทุกอย่างกลับมาดีเหมือนเดิม
  • รู้ว่าควรหยุดเมื่อไหร่ ถ้าเขาไม่ยอมอภัยให้คุณ คุณก็ไม่สามารถบังคับให้เขาทำแบบนั้นได้ และยิ่งคุณพยายามมากเท่าไหร่ สถานการณ์ก็จะยิ่งแย่ลงเท่านั้น
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,149 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา