หากคุณมีผืนพรมขนาดเล็กที่เกิดเปียก ทางที่ดีคือยกมันขึ้นจากพื้นนำมาผึ่งกลางแจ้งจนกว่ามันจะแห้งสนิท อย่างไรก็ตาม ถ้ามันเป็นพรมปูพื้นห้องแบบถาวร หรือเป็นผืนพรมที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะยกขึ้นมาได้ คุณอาจจำเป็นต้องทำให้มันแห้งตรงนั้นเลย
ขั้นตอน
-
คลี่ผ้าขนหนูแผ่ครอบบริเวณที่พรมเปียก. แล้วคุณก็จะต้องขึ้นไปเดินย่ำบริเวณที่ปูผ้าขนหนูไว้จนกระทั่งผ้าซับน้ำไว้เต็มที่ เอาผ้าขนหนูเหล่านั้นออกไปแล้วเปลี่ยนเป็นผ้าขนหนูแห้งมาปูในบริเวณเดิม [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบริเวณพรมตรงนั้นแห้ง
- คุณควรตรวจใต้พรมด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าซับในรองพรมกับพื้นไม่ได้เปียกด้วย
-
ดูดฝุ่นพรมที่เปียก. อย่าใช้เครื่องดูดฝุ่นประจำบ้านทั่วไป คุณจะต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ทำมาเพื่อสามารถดูดน้ำได้ด้วย เครื่องดูดฝุ่นที่ขายสำหรับใช้ในบ้านทั่วไปนั้นมีไว้เพื่อทำความสะอาดที่แห้งเท่านั้นและอันตรายมากถ้านำมาใช้บนพรมเปียก อย่าใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีนอกจากว่ามันได้รับการรับรองในการดูดพื้นเปียกได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ดูดพรมด้วยเครื่องดูดฝุ่นเปียกจนกระทั่งไม่เหลือน้ำ เครื่องดูดฝุ่นเปียกสามารถกำจัดน้ำออกจากตัวพรมได้ แต่มันอาจไม่สามารถกำจัดออกจากซับในรองพรมหากน้ำซึมเข้าไปถึง
- จับตาดูถังเก็บของเครื่องด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้เทน้ำทิ้งก่อนที่มันจะล้น คุณอาจต้องเทน้ำหลายหนขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในพรม
-
กระตุ้นความชื้นให้ระเหยไป. คุณควรทำมันไปพร้อมกับอีกสองทางเลือก เพราะต้องใช้เวลาพอควรกว่าจะสำเร็จ หาพัดลมเพดาน ที่เป่าผม พัดลมตั้งพื้น หรือกระทั่งเครื่องลดความชื้นถ้าคุณมี
- เป่ามันลงไปตรงที่มีความชื้นจนกระทั่งน้ำเริ่มระเหยจนแห้ง
- คุณอาจต้องตรวจดูใต้ผืนพรมเช่นเคยเพื่อให้แน่ใจว่าพื้นกับซับในรองพรมไม่ได้เปียกไปด้วย
โฆษณา
-
ยกเครื่องเรือนออกไปจากพรมที่เปียก. คุณต้องทำเช่นนี้เพื่อที่จะยกพรมขึ้นดูแผ่นรองซับในกับพื้นข้างใต้ จึงจำเป็นที่ต้องยกเครื่องเรือนออกโดยเร็วเพื่อจะได้เริ่มจัดการกับพรมทันที
- การทิ้งเครื่องเรือนไว้บนพรมที่เปียกจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งต่อเครื่องเรือนและพื้น
-
กำจัดน้ำออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้. คุณอาจไม่สามารถยกพรมขึ้นมาได้หมดทั้งพื้นห้อง แต่คุณจะต้องตรวจสอบใต้ผืนพรมอยู่ดี มีหลายวิธีที่คุณจะกำจัดน้ำออกไปได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่าเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถดูดน้ำได้ อย่าใช้เครื่องดูดฝุ่นประจำบ้าน เพราะมันไม่สามารถดูดน้ำขึ้นได้ ให้ดูดจนไม่มีน้ำเหลือ
- อีกทางเลือกคือคุณอาจขอเช่าเครื่องสกัดน้ำแบบร้อน [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ลองเช็คกับบริษัทรับทำความสะอาดพรมดูว่ามีให้เช่าหรือไม่ มันจะช่วยดูดน้ำขึ้นจากพรม ถึงแม้ว่าจะอย่างไรคุณก็ต้องตรวจดูข้างใต้ว่ามีน้ำหรือไม่อยู่ดี
-
ตรวจสอบปริมาณน้ำใต้พรม. การกำจัดน้ำที่อยู่บนผืนพรมเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น คุณจำเป็นต้องกำจัดน้ำตามพื้นและที่อยู่ในซับในรองพรมด้วย มิฉะนั้นพื้นอาจเกิดการบวมได้
- เดินย่ำไปทั่วพรม ถ้าเกิดรู้สึกมีเสียงยวบยาบ แสดงว่ามีน้ำขังอยู่ใต้ผืนพรมแน่แล้ว
-
ยกพรมขึ้นจากพื้น. เริ่มตรงมุมห้อง ใช้คีมกับถุงมือทำงานแยกพรมออกจากซับในรองพรมและพื้น คุณจะต้องทำให้พื้นใต้พรมแห้ง ไม่เช่นนั้นพื้นจะเกิดการบวม ให้หลีกเลี่ยงการตัดพรม เพราะการใส่มันกลับให้ดูดีเช่นเดิมจะกลายเป็นเรื่องยากกว่าอีก
- คุณยังสามารถยกพรมขึ้นจากแถบติดตั้งตรงมุมใดมุมหนึ่งของห้อง คุณยังสามารถเลือกทำที่ขอบพรมด้านถ้ามีด้านที่สั้นกว่าซึ่งเข้าถึงและทำงานได้อย่างสะดวก
- พับมุมหรือขอบผืนพรมเพื่อที่จะมองเห็นซับในรองพรม
-
เป่าลมระหว่างพรมกับซับในรองพรม. คุณต้องลองเป่าซับในรองพรมให้แห้งโดยไม่ต้องรื้อพรมออกก่อน โดยเฉพาะถ้าซับในดูชื้นเล็กน้อยและพื้นห้องก็ดูแห้งดี
- เครื่องลดความชื้นในห้องที่ปิดหน้าต่างนั้นจะทำให้น้ำแห้งได้ไว หาเช่าได้ตามบริษัทให้เช่า [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ยังคงยกมุมหรือด้านของพรมที่คุณรื้อขึ้นมาและใช้พัดลมเป่าลมเข้าไปใต้พรมไปยังซับในรองพรม เปิดเครื่องทำความร้อนหรือเปิดหน้าต่างช่วยก็ได้
- ยึดหัวท่อดูด (สำหรับดูดของเปียก) กับช่องระบายความร้อนของเครื่องดูดฝุ่นแล้วสอดท่อไปใต้พรม แล้วค่อยวางพรมทับบนท่อ ลมร้อนจะทำให้พรมลอยเหนือซับในรองพรมและจะเร่งให้แห้งไวขึ้น
-
เรียกใช้มืออาชีพ. ท้ายที่สุด หนึ่งในวิธีรับมือกับการที่พรมปูพื้นแบบถาวรเปียกก็คือเรียกใช้บริการจากคนที่รู้วิธีแก้ไขเรื่องนี้ จำเป็นต้องทำในทันทีเพื่อให้บริษัทสามารถกอบกู้พรม พื้นและซับในรองพรมได้มากที่สุด
- ให้แน่ใจว่าการใช้บริการนี้มีการรับประกันและมองหาบริษัทที่สัญญาว่าจะทำให้แห้งหมดทั้งพรม พื้นและซับในรองพรม
- ตรวจสอบใบประกันกับทางเจ้าของบ้านหรือผู้ให้เช่า อาจเป็นไปได้ที่ในสัญญาครอบคลุมไปถึงค่าใช้จ่ายของการทำความสะอาดพรม
โฆษณา
-
อย่ารอช้า. เชื้อราสามารถเติบโตได้ภายใน 24 ชั่วโมงและจะสร้างปัญหาตามมามากมาย คุณจะต้องทำให้พรมในพื้นห้องโดยสารรถแห้งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เพียงจะเพื่อความมั่นใจว่าไม่เกิดเชื้อราแล้ว มันยังหมายถึงน้ำไม่ซึมไปถึงส่วนใช้ไฟฟ้าของรถซึ่งไม่ควรเปียก [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หาดูว่ารูรั่วนั้นมาจากไหน. การจัดการกับพรมโดยไม่มองหาหรือหยุดต้นตอการรั่วไม่ทำให้อะไรดีขึ้น [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง กลายเป็นคุณต้องคอยมานั่งทำให้มันแห้งอยู่เรื่อยๆ
-
กำจัดน้ำออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้. ใช้เครื่องดูดฝุ่นตามห้างที่สามารถดูดน้ำได้ หรือเครื่องลดความชื้น (หรือทั้งคู่) พวกมันหาเช่าได้ง่าย ใช้มันกำจัดน้ำออกไปให้มากที่สุด โดยเฉพาะจากพรมที่รื้อออกได้ยาก
- ทิ้งเครื่องลดความชื้นไว้ในรถจนกว่าน้ำจะดูเหมือนแห้งไปหมดแล้ว
- ให้แน่ใจว่าคุณก็ใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดน้ำบริเวณที่ไม่ได้ปูพรมในรถออกด้วยเช่นกัน
-
ตรวจสอบตรงนุ่นรองใต้พรม. น้ำมักจะไปนองอยู่ในนุ่นที่รองใต้พรม การละเลยจุดนี้ไปจะทำให้เกิดปัญหาเชื้อราได้ เริ่มด้วยการใช้คีมแงะมุมพรมขึ้นมา
- หลีกเลี่ยงการตัดพรมเพราะการแก้ปัญหาหลังจากนี้จะยุ่งยากมาก
-
รื้อพรมออกหมด. จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องรื้อพรมออกจากรถ โดยเฉพาะถ้าปัญหานี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลอกพรมออกด้วยความระมัดระวังและไปตากตรงที่มันสามารถแห้งได้
-
แยกตากพรมให้แห้งจากกัน. พอคุณรื้อพรมออกจากรถก็ต้องตากมันให้แห้งสนิท คุณจัดการเอาส่วนที่แย่ที่สุดของปัญหาน้ำออกมาแล้ว แต่ก็ต้องให้แน่ใจว่ามันแห้งสนิท มิเช่นนั้นจะเกิดเชื้อราขึ้นได้
- วางผ้าขนหนูให้ทั่วผืนพรมแล้วเดินย่ำให้น้ำซึมเข้าผ้าขนหนู เปลี่ยนผ้าแห้งผืนใหม่เมื่อพวกมันเปียกหมด
- ใช้ที่เป่าผมมาเป่าเหนือผ้าขนหนูที่เปียก เป่าไปจนมันแห้งสนิท
-
เปลี่ยนพรมใหม่. บางทีหนทางที่ดีที่สุดก็คือการเปลี่ยนพรมใหม่ โดยเฉพาะถ้าคุณหรือคนในครอบครัวแพ้เชื้อรา เชื้อราใช้เวลาไม่นานนักในการแพร่ และพอมันเกิดขึ้นแล้วก็ยากจะกำจัดออกได้หมด
- ปรึกษากับมืออาชีพก่อนจะทำการรื้อพรมใหม่หมด เพราะนี่คือมาตรการขั้นเด็ดขาดที่จำเป็นต้องคิดให้รอบคอบ
โฆษณา
เคล็ดลับ
- อาจเป็นสิ่งที่ดีกว่าและคุ้มเงินมากกว่าในระยะยาวถ้าหากคุณจะเรียกใช้บริการจากมืออาชีพในทันที พวกเขารู้วิธีจัดการปัญหาโดยเฉพาะกับพรมที่เปียกมาก
โฆษณา
คำเตือน
- ไม่ว่าคุณจะต้องรื้อพรมออกหรือไม่ พรมกับซับในอาจหดและตะเข็บอาจแยกออกจากน้ำส่วนเกินนี้ได้ บริษัทรับทำความสะอาดพรมทั่วไปควรสามารถทำการซ่อมแซมทั้งหมดนี้ได้
- หากพรมนั้นเปียกน้ำสกปรก ให้กำจัดมันออกในทันที เติมน้ำสะอาดลงไปยังพรมที่เปียกอยู่ก่อนดูดน้ำสกปรกออก เช่าเครื่องทำความสะอาดพรมแทนที่เครื่องดูดฝุ่นและทำความสะอาดพรมโดยใช้เครื่องนี้ก่อนจะดูดเอาน้ำส่วนเกินออก การดูดเอาแต่น้ำสกปรกออกอาจทำให้เศษสกปรกยังคาอยู่เป็นคราบหรือจับตัวข้างหลังผืนพรม
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.homeflooringpros.com/blog-guides/drying-wet-carpet
- ↑ https://www.familyhandyman.com/basement/how-to-dry-out-basement-carpeting/
- ↑ http://www.floorpartners.com/blog/bid/33395/Floor-Help-My-Carpet-is-Flooded
- ↑ https://www.cleanlink.com/cleanlinkminute/details.aspx?id=50111
- ↑ https://www.ag.ndsu.edu/flood/media-resources/news-releases/after-the-flood/flood-damaged-carpets-rugs-may-be-saved
- ↑ http://community.cartalk.com/discussion/2286358/cleaning-soaking-carpets-in-car
- ↑ https://www.drbeasleys.com/blog/2013/11/21/the-detail-water-leaks-a-case-study/
โฆษณา