ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณสามารถเป็นตัวของตัวเอง และมีมิตรแท้ในเวลาเดียวกันได้ไหม คุณจะพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการเข้าสังคมได้หรือเปล่า คุณจะไขว่คว้าทั้งมิตรภาพและการแสดงความรักพร้อมๆ กันไปด้วยได้หรือไม่ คำตอบ คือ ได้ ได้ และได้ ลองอ่านต่อไปสำหรับคำแนะนำในการสานสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับผู้อื่น บทความนี้มุ่งเน้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันท์ภราดรภาพเท่านั้น หากคุณสนใจความสัมพันธ์ในแบบโรแมนติค สามารถอ่านได้จากบทความเรื่อง ทำให้ผู้ชายชอบ และ ทำให้สาวชอบ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เป็นตัวของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่น คือ ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างหลักการและความเชื่อที่คุณยึดมั่น สิ่งเหล่านั้นเป็นแก่นแท้ในความเป็นตัวคุณ ดังนั้น มันจึงสำคัญมากที่คุณต้องยึดมั่นในเรื่องดังกล่าว แม้กระทั่งในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งและไม่แน่นอน
    • ความขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งทุกความสัมพันธ์ คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตนเองเพียงเพื่อที่จะคลี่คลายความขัดแย้ง ขอแค่คุณเรียกร้องความเคารพในความเชื่อของตนเอง และให้ความเคารพความเชื่อของผู้อื่นก็พอแล้ว
    • การยึดมั่นในความเชื่อของตนเองย่อมต้องอาศัยความห้าวหาญ มันไม่ง่ายเลยที่จะยืนหยัดอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อเผชิญหน้าการรังควาน หรือปฏิเสธที่จะคล้อยตามเมื่อถูกกลั่นแกล้งให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของตน นอกจากนี้ การยึดมั่นในตนเองยังทำให้คุณเป็นคนที่ไม่ค่อยมีใครอยากคบหา แม้ว่าอาจจะดึงดูดคนที่มีแนวคิดเดียวกันก็ตาม
    • เขียนรายการข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตนเองออกมา หรือเขียนลิสท์รายชื่อบุคคล/สิ่งที่ๆ หล่อหลอมความเป็นตัวคุณออกมา (คนที่เลี้ยงดูคุณมา รสนิยมส่วนตัวของคุณ ความชอบ/ไม่ชอบ ลักษณะอารมณ์ ฯลฯ) เพื่อให้มันย้ำเตือนตัวตนของคุณ และยังใช้มันเป็นจุดเริ่มต้นในการพูดคุยหรือสานสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อีกด้วย
  2. ผู้อื่นจะเข้าหาคุณได้ง่ายกว่า และยังอาจชอบคุณด้วย หากคุณมีท่าทีเชื้อเชิญและตรงไปตรงมา การสื่อด้วยท่าทีเป็นมิตรและเปิดใจ ย่อมทำให้ผู้คนสัมผัสได้และถูกดึงดูดเข้าหาคุณ
    • ลักษณะการมองโลกแบบ "ความจริงคือสิ่งที่เห็น" สามารถช่วยตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นทิ้งไปได้ และช่วยให้คุณดึงดูดคนที่ชื่นชอบในแบบที่คุณเป็นจริงๆ แต่ระวังไว้ว่า คุณอาจจะถูกมองว่าเป็นคนที่แข็งกร้าวก็ได้ ซึ่งจะทำให้ผู้คนลังเลในการเข้าหาคุณ
    • ส่วนหนึ่งของการเป็นคนตรงไปตรงมา คือ กล้าแสดงอารมณ์อย่างเปิดเผย คุณอาจจะทำหน้าตาห้าวหาญในขณะที่กำลังรู้สึกท้อถอย หรือพยายามแสดงออกอย่างเก็บซ่อนความเครียดไว้ในใจ แต่อารมณ์เป็นสิ่งที่คนเรามีร่วมกัน ดังนั้น จงให้ผู้อื่นได้เห็นด้านที่อ่อนไหวในฐานะมนุษย์คนหนึ่งจากคุณ
    • หากคุณเป็นคนขี้อายและรู้สึกว่ามันยากในการพูดคุยกับผู้อื่น ก็จงยอมรับเสีย เพราะข่าวดีก็คือ คุณไม่จำเป็นต้องพูดมากเพียงเพื่อจะหาเพื่อนที่อยากอยู่ใกล้ชิดกับคุณ การรู้จักรับฟังและถามคำถามเพื่อแสดงให้ผู้อื่นเห็นถึงความใส่ใจต่างหาก ที่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเชื่อมสายสัมพันธ์
      • อย่ากดดันตนเองมากเกินไป หากคุณรู้สึกว่าตนเองขาดทักษะทางสังคม เพราะคุณอาจจะเอาเวลาในชีวิตไปทำอย่างอื่นมากกว่า จำไว้ว่า ทักษะคือสิ่งที่คนเราสามารถฝึกฝนได้ ดังนั้น ทักษะทางสังคมของคุณก็พัฒนาได้เช่นกัน
  3. การมีความนับถือตนเองอย่างสมบูรณ์ หมายถึงคุณสามารถชื่นชมตนเองได้ในทุกสถานการณ์ จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ไม่สำคัญ แถมยังไม่ได้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของใครด้วย ที่จริง คุณไม่ได้คิดเปรียบเทียบกับใครอยู่แล้วด้วยซ้ำ การมีจุดยืนเช่นนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ในแบบที่ไม่มีการแข่งขันชิงดีชิงเด่น และไม่ฉายเดี่ยว
    • ความนับถือตนเองเป็นหัวใจสำคัญของการได้รับความนับถือจากผู้อื่น มันยากที่คนอื่นจะเคารพคุณ หากคุณไม่คำนึงถึงตนเองหรือปฏิบัติต่อตนเองอย่างดีเสียก่อน
  4. เมื่อคุณดูดี คุณก็รู้สึกดีกับตนเอง และเมื่อนั้น คุณก็จะสามารถแสดงความเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดออกมา
    • อาบน้ำเป็นประจำ การรักษาความสะอาดของร่างกาย เป็นการสื่อให้เห็นว่าคุณห่วงใยสุขภาพและให้ความเคารพในร่างกายตนเอง หากคุณเป็นคนเส้นผมมัน ก็ควรสระทุกวัน (มันจะช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวบนหน้าผากด้วย) แต่หากใครจะอาบวันเว้นวัน ก็แล้วแต่สถานการณ์แล้วกัน
    • ใช้น้ำยาดับกลิ่นกาย. แม้ว่ามันจะดูเป็นธรรมชาติ แต่กลิ่นตัวที่รุนแรงย่อมทำให้หมดอารมณ์ได้ง่ายๆ คุณควรใช้น้ำยาดับกลิ่นกายและลดเหงื่อ โดยเฉพาะหากอากาศร้อน รวมถึงช่วงก่อนและหลังการออกกำลังกายด้วย เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้ห่วงแต่ตนเองเท่านั้น แต่ยังห่วงใยในความสบายใจของผู้อื่นด้วย
    • เปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง. แม้ว่าคุณจะสวมเสื้อยืดตัวโปรดกับกางเกงยีนส์คู่ใจ แต่ก็ควรจะเปลี่ยนชุดที่สวมใส่อยู่เสมอ เพราะเสื้อผ้าสามารถดูดซับกลิ่นกายของคนเราเอาไว้ ดังนั้น แม้ว่าคุณจะอาบน้ำสระผมอยู่เสมอ แต่การสวมชุดเดิมโดยไม่ซักหลายวันติดกัน ย่อมจะทำลายภาพลักษณ์ของคุณได้
    • รักษาสุขอนามัยในช่องปาก. การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน มีความสำคัญด้วยเหตุผลหลัก 2 ประการ มันจะช่วยป้องกันฟันผุและโรคเหงือกไม่ให้เกิดขึ้น แถมยังลดกลิ่นปากด้วย ผู้คนย่อมไม่อยากเข้าใกล้คุณหากลมหายใจคุณแย่กว่าที่ควร หมากฝรั่งและลูกอมมิ้นท์อาจจะพอช่วยได้ แต่การแปรงฟันและขัดฟัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดเชื้อโรคที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก
  5. สิ่งหนึ่งที่ดึงให้ผู้คนเข้าหากันคือ ความสนใจร่วมกันนั่นเอง ดังนั้น จงพาตัวเองเข้าไปในสถานการณ์ที่คุณสามารถทำสิ่งที่ตนเองชอบ และได้พบปะกับคนคอเดียวกัน
    • ร่วมชมรมหรือสโมสร และงานอีเวนท์ต่างๆ หากคุณชอบอ่าน ลองหาชมรมคนรักหนังสือทางออนไลน์ หรือตามร้านกาแฟบางแห่ง หากคุณชอบรถ ลองไปเดินดูงานโชว์รถหรือร่วมกลุ่มตามเว็บบอร์ดคนรักรถต่างๆ ความสนใจที่มีร่วมกันจะช่วยให้สามารถสานสัมพันธ์กับบรรดาคนที่มีความชอบในสิ่งเดียวกันได้ทันที
    • เข้าเว็บบอร์ดต่างๆ รวมถึงกลุ่มต่างๆ ทางเฟสบุ๊คก็ได้ แล้วคุณจะต้องแปลกใจที่พบว่า มีการรวมกลุ่มของผู้คนที่มีความสนใจมากมายหลากหลายเพียงใด ในโลกออนไลน์
    • เวลาคุยกับใครสักคน ลองถามด้วยคำถามปลายเปิดเพื่อค้นหาว่าคนๆ นั้นชอบเรื่องใดเป็นพิเศษ เช่น แทนที่จะถามว่า “คุณชอบดนตรีไหม” ลองถามว่า “วงดนตรีสามวงที่คุณชอบที่สุด มีวงใดบ้าง” แทนที่จะถามว่า “วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง” ลองถามว่า “วันนี้มีเรื่องดีๆ อะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง” คำถามปลายเปิด จะเปิดประตูนำคุณไปสู่อีกโลกหนึ่งของคู่สนทนา
    • ลองเข้าร่วมอาสาสมัคร โดยหาอุดมการณ์ของตนเองให้เจอ และเข้าร่วมกับกลุ่มที่เกี่ยวข้อง คุณจะได้เจอคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันหรืออาจจะมากกว่าคุณ ในกลุ่มก้อนดังกล่าว
  6. ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความเห็นในชั้นเรียน วาดรูปสัตว์ป่าต่างๆ ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในร้านมือสอง จะอะไรก้ได้ที่ช่วยให้คุณแสดงไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์ของคุณให้ผู้อื่นเห็น จะช่วยให้คนที่มีแนวทางเดียวกันถูกดึงดูดเข้าหาคุณ
    • เมื่อคุณแสดงตัวตนออกมา ก็เป็นการแบ่งปันความเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองให้ผู้อื่นสัมผัส ซึ่งเป็นวิธีที่ดี อันจะช่วยให้คนอื่นได้รู้จักคุณผ่านการกระทำ และพวกเขาจะเข้าหาคุณจากสิ่งที่คุณพูดหรือทำออกมานี้เอง
    • การไม่แสดงตัวตนออกมา ทั้งทางวาจาหรือการกระทำ จะทำให้คุณโดดเดี่ยวได้ หากคุณตั้งกำแพงขึ้นมาโดยไม่ให้สิ่งใดเล็ดรอดเข้าไปได้ คนอื่นจะนึกว่าคุณรักสันโดษ และพวกเขาก็จะมอบสิ่งนั้นให้คุณ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

มีสติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การให้เกียรติผู้อื่น หมายถึง กรให้คุณค่าแก่ผู้อื่นและมุมมองของพวกเขา คุณต้องยอมรับพวกเขาในแบบที่พวกเขาเป็น และไม่ทำร้ายพวกเขาไม่ว่าทางใดก็ตาม พูดตรงๆ ก็คือ จงปฏิบัติต่อผู้อื่น เหมือนกับที่คุณอยากถูกปฏิบัติต่อตนเอง
    • จงรักษาสัญญา วิธีหนึ่งในการให้เกียรติผู้อื่น คือ ทำในสิ่งที่คุณรับปากว่าจะทำ ซึ่งจะเป็นการแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่า คุณให้คุณค่ากับเวลาของพวกเขา และการที่พวกเขาให้ความไว้วางใจคุณ
    • จงมีมารยาทด้วย อย่าขัดจังหวะใคร และหมั่นใช้คำพูดอย่าง “กรุณา“ และ ”ขอบคุณ” อย่าหยาบคายใส่คนอื่น หากมันทำให้ใครหงุดหงิด การมีมารยาทเป็นการแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่า พวกเขามีคุณค่าสำหรับคุณและควรค่าแก่การปฏิบัติอย่างดีจากคุณ"
    • จงตรงต่อเวลา ใครๆ ต่างก็ยุ่งกันทั้งนั้นเลยสมัยนี้ ดังนั้น คุณควรไปตามนัดหมายให้ตรงเวลา หรือตามกิจกรรมที่วางแผนเอาไว้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า คุณซาบซึ้งถึงช่วงเวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกับคุณ
  2. การสนทนาย่อมเป็นสองทางเสมอ หากคุณเอาแต่พูดถึงตนเองตลอดเวลา คุณจะไม่มีโอกาสรู้จักใครดีขึ้นเลย และเขาหรือเธอย่อมจะรู้สึกว่าคุณไม่มีความสนใจในตัวพวกเขาด้วย
    • คนเรามักชอบพูดเกี่ยวกับตัวเอง จงปล่อยให้พวกเขาพูดเถอะ พยายามถามคำถามเพื่อเชื้อเชิญผู้คนเข้าหา และปล่อยให้พวกเขาเล่าเรื่องของตนเอง เพื่อที่จะได้รู้จักพวกเขา และพวกเขาก็จะชอบคุณมากขึ้น เพราะคุณได้ให้เวลาและความใส่ใจในตัวพวกเขานั่นเอง
    • สำรวจความเข้าใจ พยายามถามทวนในสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งพูดจบ เพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจตรงกัน แถมยังเป็นการทำให้พวกเขารู้ว่าคุณใส่ใจรับฟังด้วย และเปิดอกาสให้พวกเขาแก้ไขในสิ่งที่คุณอาจเข้าใจผิด เพื่อจะได้รู้จักพวกเขาอย่างถูกต้อง
    • หลีกเลี่ยงการขัดจังหวะหรือชิงดีชิงเด่น แม้ว่าคุณอาจรู้สึกอยากพูดแทรกและเกทับ เวลาที่คนอื่นกำลังพูดถึงเรื่องแย่ๆ ที่เพิ่งเจอมา หรือเรื่องการผจญภัยที่พวกเขาเพิ่งไปมา จงพยายามยั้งใจเอาไว้ หันมาใส่ใจผู้พูดแทน และเก็บความเห็นของคุณเอาไว้ในโอกาสต่อไป
    • รับฟังด้วยท่าทีของร่างกาย สบสายตาคนพูดและเอนไปหาเล็กน้อย ผงกหัวเมื่อเห็นด้วยหรือแสดงความเข้าใจ ที่จริงแล้ว การสื่อสารส่วนใหญ่เกิดขึ้นในภาษากาย ดังนั้นจงปล่อยให้ร่างกายคุณสื่อสารกับพวกเขาอย่างเต็มที่
  3. บางคนอาจกล่าวว่า “คุณภาพ” มีความสำคัญมากกว่า “ปริมาณ” แต่หากเป็นเรื่องของการสังสรรค์กับผู้อื่นล่ะก็ มันสำคัญพอๆ กันนั่นแหละ จงหาเวลาสังสรรค์กับคนที่คุณชอบและรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น
    • เวลาที่คุณสละเวลาให้ใคร มันเป็นการสื่ออย่างชัดเจนว่า คุณให้ความสำคัญกับพวกเขาและชอบพวกเขาด้วย ซึ่งคนเรามักชอบคนที่ชอบเราก่อน ดังนั้น หากคุณมีเวลาให้ผู้อื่น ความนิยมชมชอบในตัวคุณก็เพิ่มขึ้นด้วย
    • สายสัมพันธ์เกิดขึ้นโดยอาศัยเวลา ยิ่งคุณใช้เวลากับใครมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกผ่อนคลายกับคุณมากขึ้น การทำให้ผู้อื่นชอบ ย่อมหมายถึงการให้เวลาพวกเขามากพอที่จะรู้สึกผ่อนคลายและคุ้นเคยกับคุณมากขึ้น
  4. คนเราย่อมต้องการเวลาและที่ว่างในการทำสิ่งที่ตนเองชอบเป็นการส่วนตัว ดังนั้น แทนที่จะเอามิตรภาพมาทำให้ใครอึดอัด จงหาเวลาเป็นส่วนตัวและปล่อยให้ผู้อื่นโหยหาคุณสักนิด
    • บางคนรู้สึกอึดอัดหากมีใครเข้ามาในชีวิตเร็วเกินไป ทุกๆ มิตรภาพย่อมมีจังหวะเวลาของมันเอง ดังนั้น หากเพื่อนคนไหนชอบเป็นไปอย่างช้า ก็ก้าวตามจังหวะของเขาหรือเธอดีกว่า
    • สถานการณ์ในชีวิตคนเราเปลี่ยนแปลงเสมอ คุณแม่บางคนอาจป่วยหนัก หน้าที่การงานเพิ่มขึ้น ตารางเวลามีการปรับเปลี่ยน งานเข้าฉุกเฉิน มีหลายเหตุผลที่คนอื่นอาจจะห่างเหินคุณบ้าง จงให้ความเคารพในจุดนั้น และอย่าเห็นเป็นเรื่องส่วนตัว
    • อ่านท่าทีของผู้อื่นด้วย หากคุณออกตัวแรงเกินไป คุณควรสังเกตดูท่าทีของพวกเขา เพราะพวกเขาย่อมแสดงให้คุณรู้ได้ หากพวกเขาดูลังเลที่จะคล้อยตามคุณ ไม่ตอบกลับข้อความหรือรับโทรศัพท์คุณ หรือแม้กระทั่งเดินห่างๆ เวลาอยู่ด้วยกัน พยายามถอยห่างและใจเย็นลงสักนิด คุณคงไม่อยากให้เขาหรือเธอเห็นว่า คุณเป็นพวกสิ้นหวัง ไร้เพื่อน หรือท่าทางน่ากลัวหรอกนะ
    • พวกเขาไม่ได้ต้องการแค่ช่องว่างทางใจเท่านั้น แต่ยังอาจต้องการพื้นที่ทางกายด้วย หากคุณเข้าใกล้ใครเกินกว่า 1.5 ฟุตล่ะก็ มันเหมือนเป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งอาจทำให้พวกเขาอึดอัดได้ พื้นที่ดังกล่าวเรามักถนอมไว้ให้คนใกล้ชิดเท่านั้น ดังนั้นอย่ายืนหรือเดินใกล้พวกเขาเกินไป
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ยกระดับตัวเองอีกนิด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แสดงให่อีกฝ่ายรู้สึกว่า เขาหรือเธอเป็นคนพิเศษ. คนเราย่อมอยากจะรู้สึกว่าตนเองสำคัญ และมีค่าคู่ควรแก่ความพยายามของใครบางคนบ้าง
    • กล่าวชื่นชม แสดงความยกย่องพวกเขาในบางเรื่อง พยายามใช้คำที่จริงใจและเจาะจง ลองมองให้ลึกซึ้งกว่าเดิมและโฟกัสไปที่บางอย่างในบุคลิกภาพของพวกเขา “ฉันชื่นชมในความกล้าหาญของเธอในตอนนั้นมากเลย” แทนที่จะพูดในมุมสถานการณ์ทั่วๆ ไปอย่างเช่น “คุณเข้าปรามสถานการณ์ดังกล่าวได้ดีทีเดียว”
    • ยื่นมือช่วยเหลือ คนเรามักมีหน้าที่ๆ ต้องทำเสมอ เช่น ย้ายบ้าน ทำงานให้ทันกำหนด ซ่อมแบตเตอรีรถยนต์ ฯลฯ การพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ไม่ว่าคุณจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม ย่อมทำให้พวกเขาซาบซึ้งและรู้สึกชอบคุณมากขึ้น
    • เสนอความช่วยเหลือทั้งทางใจและทางอารมณ์ เวลาที่พวกเขาต้องการมัน ทำให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่าด้วยการอยู่ข้างพวกเขาเสมอ
  2. มันไม่ใช่การใช้เงินซื้อความรักจากผู้อื่น แต่การให้ของขวัญแทนใจจะช่วยให้พวกเขาเห็นว่า คุณห่วงใยในคุณภาพชีวิตของพวกเขา และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณติดตามความเป็นไปของพวกเขาเสมอ
    • ความใส่ใจต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ การให้ของขวัญเล็กน้อยกับผู้อื่น เป็นการบอกว่าคุณคิดถึงพวกเขาเสมอและพวกเขามีความสำคัญต่อคุณ
    • จงมอบของขวัญที่สื่อแทนสถานการณ์ของพวกเขาด้วย เช่น พวงกุญแจที่เขียนว่า “ยินดีด้วยสำหรับรถคันใหม่” หรือช่อดอกไม้เพื่อให้คนที่กำลังเจอปัญหาบางอย่าง จะได้รู้สึกดีขึ้น เป็นต้น การสนใจความเป็นไปในชีวิตของพวกเขา จะช่วยให้คุณเลือกของขวัญที่มีความหมายประทับใจได้มากขึ้น
    • ประดิษฐ์ของขวัญเองก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องเก่งทางด้านศิลปะอะไรมากมาย ในการที่จะทำการ์ดอวยพร ทำกรอบรูป หรืออบคุ้กกี้ให้พวกเขาเป็นของขวัญ แต่การสละเวลาทำมันขึ้นมา จะสื่อให้รู้ว่าคุณมีความรักและมิตรภาพให้พวกเขาเสมอ
  3. แม้ว่าคุณอาจจะมีจุดสนใจร่วมกันในบางเรื่อง แต่ก็มักจะไม่ได้มีความชอบ งานอดิเรก หรือกิจกรรมที่รักเหมือนกันไปหมดทุกอย่างหรอก ซึ่งก็ดีแล้ว เพราะมันจะดีต่อการได้พยายามทำความรู้จักด้านอื่นๆ ของพวกเขาด้วย
    • ลองเข้าร่วมงานหรือกิจกรรมอดิเรกของเพื่อนคุณดูบ้างก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญขั้นเทพในเรื่องนั้นๆ ก็ได้ ขอแค่คุยกับพวกเขาได้อย่างทัดเทียมและรอบรู้บ้าง ก็จะช่วยสื่อให้พวกเขารู้สึกว่ามีความสำคัญต่อคุณเช่นกัน
    • พยายามใส่ใจในการเรียนรู้ หากคุณชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ก็จะได้ศึกษาไปในตัวด้วยเลย การเปิดโอกาสให้ผู้อื่นสอนคุณในบางเรื่อง จะช่วยให้พวกเขารู้สึกดีกับตนเองและยังช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างคุณทั้งคู่ด้วย
    • หากคุณพบว่างานอดิเรกของใครดูน่าเบื่อ พยายามอย่าไปทำให้พวกเขารู้สึกแย่ หรือล้อเลียนพวกเขาในเรื่องนั้น เพราะมันย่อมมีความหมายกับเขาหรือเธอ และคุณควรให้เกียรติในจุดนั้น
  4. คุณอาจเขียนโน้ตทิ้งไว้ ส่งข้อความ หรือรูปภาพ เพื่อช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ และเปิดโอกาสให้ความสัมพันธ์กระชับมากขึ้น
    • พยายามส่งข้อความอวยพรพวกเขา ในช่วงเวลาก่อนสอบ ก่อนการประชุมงาน หรือการสัมภาษณ์งานของพวกเขา และพวกเขาจะซาบซึ้งในจิตใจและการกระทำดังกล่าวของคุณ
    • ถ่ายรูปตลกๆ และส่งต่อให้พวกเขา การกระทำเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ จะช่วยให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นได้อย่างมาก แถมยังสื่อให้พวกเขาตระหนักว่า ยังมีคนที่แชร์อารมณ์ขันร่วมกับพวกเขาอยู่เสมอ
    • อย่าลืมวันเกิด พยายามจดลงในปฏิทินเพื่อเตือนตัวเองให้ส่งการ์ดอวยพรหรือโทรหาเพื่อนๆ ในวันเกิดอันแสนพิเศษสำหรับพวกเขา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าพยายามปั้นแต่งตัวเองในความสัมพันธ์ แต่จงหาจุดสนใจร่วมกันแทน
  • อย่าเป็นคนขี้อาย จงแสดงตัวตนออกมา หากคุณไม่กล้าบอกความในใจแก่คนที่แอบชอบ เขาจะไปรู้ได้ยังไง หรือหากว่าเขาชอบคุณอยู่เหมือนกัน เขาอาจจะไปลงเอยกับคนอื่นก็ได้นะ
  • หากคุณสามารถให้เกียรติใครสักคน เขาคนนั้นย่อมรู้สึกว่า คุณก็สามารถที่จะรักเขาได้เช่นกัน
  • ไม่ว่าจะชายหรือหญิง หากคุณไม่ได้พบพวกเขามาสักพักแล้ว ลองเข้าไปสวมกอดพวกเขาและบอกว่า “คิดถึงจัง” จะช่วยให้พวกเขารู้สึกเป็นคนพิเศษสำหรับคุณ
  • พยายามใช้เวลากับพวกเขามากๆ และนั่งใกล้ๆ กันเข้าไว้ จะช่วยให้คุณรู้จักกันมากขึ้น
  • พยายามทำสิ่งที่เขาชอบ หากคุณทำตัวดีและให้เกียรติเขา ก็ย่อมได้รับความสนใจจากเขา
  • ผู้ชายรู้สึกว่า ผู้หญิงที่กล้าแสดงความเห็นนั้น ดูน่าสนใจ โดยเฉพาะเวลาที่แสดงให้เห็นว่า เธอเชื่อมั่นในความเป็นตัวของตัวเองอย่างมั่นใจ
  • ผู้ชายมักชอบผู้หญิงที่ดูแลรักษาเส้นผม และสุขอนามัยอื่นๆ แต่พวกเขาก็ไม่ชอบผู้หญิงที่เข้าห้องน้ำนานๆ ดังนั้น ออกมาเร็วหน่อยก็ดีนะ
  • พยายามพูดคุยและอย่าลืมส่งยิ้มให้เขา การยิ้มเป็นอาวุธชั้นยอดเลยทีเดียว
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าทำตัวเกาะแกะ ผู้ชายไม่ค่อยชอบอะไรแบบนั้น หากไม่ใช่คู่เดทแล้วล่ะก็ พวกเขาไม่ชอบให้มาถามซอกแซกหรอก มันรังแต่จะทำให้พวกเขาหวาดหวั่น ดังนั้น อย่าทำตัวเหมือนพวกสะกดรอยตาม
  • การหว่านเสน่ห์ย่อมทำได้ แต่มันย่อมมีผลที่ตามมา หากคุณหว่านใส่ผิดคน เขาย่อมไม่เห็นคุณค่าและอาจใช้เป็นข้อได้เปรียบคุณด้วย ดังนั้น จำไว้เลยสาวๆ ว่าต้องรู้ว่าเมื่อไรที่ควรหยุด ไม่งั้นอาจดูเหมือนพวกสิ้นหวังและโหยหามากไป
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,513 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา