ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คุณเคยรู้สึกไหมว่า iPhone หรือ iPod Touch ของคุณมักจะแบตหมดทุกครั้งที่คุณกำลังจะนำมันมาใช้งานในการประชุมสำคัญ หรือตอนที่ต้องนั่งอยู่บนเครื่องบินนานๆ ถึง 6 ชั่วโมง บทความนี้จะนำเสนอเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่บนอุปกรณ์ของคุณ
ขั้นตอน
-
ลดความสว่าง. ไปที่เมนู Settings (ตั้งค่า) เลือกตัวเลือก Brightness (ความสว่าง) แล้วลดค่าความสว่างของหน้าจอให้ต่ำลง การปรับความสว่างให้ต่ำลงอาจทำให้การใช้งานแอปต่างๆ หรือการอ่านตัวหนังสือยากขึ้น แต่การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้เยอะมาก
-
อัพเดทให้เป็นซอฟต์แวร์ล่าสุด. วิศวกรของ Apple จะสร้างการเปลี่ยนแปลงไปยังซอฟต์แวร์ของ iPhone อยู่บ่อยๆ ทำให้การอัพเดทเป็นซอฟต์แวร์ล่าสุดเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
- ถ้าโทรศัพท์ของคุณใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 5 หรือใหม่กว่านั้น ให้ตรวจสอบว่ามีการอัพเดทซอฟต์แวร์ใหม่หรือไม่โดยไปที่ Settings (ตั้งค่า) → General (ทั่วไป) → Software Update (อัพเดทซอฟต์แวร์)
- สำหรับการตรวจสอบว่ามีการอัพเดทซอฟต์แวร์ใหม่หรือไม่ผ่านทาง iTunes ให้เสียบ iPhone เข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วมองหาอุปกรณ์ในรายการแหล่งอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ คลิกบน iPhone ในรายการนั้น จากนั้นคลิกที่ “Check for Updates”
-
ใช้แอปเพลง, วิดีโอ, เกม หรืออินเตอร์เน็ตบราวเซอร์เท่าที่จำเป็น. กราฟฟิกในแอปเหล่านี้จะดูดพลังงานแบตเตอรีอย่างรวดเร็ว ดังนั้น คุณจึงควรใช้งานแอปเหล่านี้ให้คุ้มค่า
-
เรียกข้อมูลด้วยตนเอง หรือตั้งค่าการเรียกข้อมูล (Fetch data) ให้เป็น "hourly" (ทุกชั่วโมง). โทรศัพท์ของคุณจะเรียกข้อมูลตามเวลาที่กำหนดเพื่ออัพเดทอีเมลและการแจ้งเตือนอื่นๆ ยิ่งโทรศัพท์ของคุณเรียกข้อมูลบ่อยเท่าไหร่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคุณก็จะหมดลงเร็วเท่านั้น
- สำหรับการบอกให้ iPhone อนุญาตให้คุณเรียกข้อมูลด้วยตนเอง ให้ไปที่ Settings → Mail, Contacts, Calendars (จดหมาย ผู้ติดต่อ ปฏิทิน) → Fetch New Data (เรียกข้อมูลใหม่) → Manually (ด้วยตนเอง)
- สำหรับการบอกให้ iPhone อนุญาตให้คุณเรียกข้อมูลทุกๆ ชั่วโมง ให้ไปที่ Settings → Mail, Contacts, Calendars → Fetch New Data → Hourly (ทุกชั่วโมง)
-
ปิด WiFi. เนื่องจากโทรศัพท์ของคุณจะมองหาสัญญาณ wifi ตลอดเวลา จึงทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ลดลงเร็วขึ้น
-
ปิดการใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์และ (โดยเฉพาะ) 3G.
- ไปที่ Setting → General → Cellular (เซลลูลาร์) → เลื่อน Cellular Data (ข้อมูลเซลลูลาร์) และ Enable 3G (เปิดใช้งาน 3G) ไปที่ Off (ปิด)
-
ปิดการใช้งานพุชเมลเมื่อคุณไม่ได้ใช้งาน. ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเปิดใช้งานฟังก์ชันพุชเมลสำหรับบัญชี Yahoo! และคุณมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องประหยัดแบตเตอรี่ ให้ปิดอีเมลนั้น สำหรับการปิดฟังก์ชันพุชเมล
- ให้ไปที่ Settings → Mail, Contacts, Calendars → Fetch New Data แล้วตั้งค่า Push ไปที่ Off
-
ปิดการแจ้งเตือนแบบพุช. ในบางครั้ง แอปต่างๆ ของ iPhone จะแจ้งเตือนเมื่อมีการอัพเดทซอฟต์แวร์ผ่านการแจ้งเตือนแบบพุช ซึ่งน่าเสียดายที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน หากต้องการปิดการแจ้งเตือนแบบพุช ให้ไปที่ Settings → Notifications (การแจ้งเตือน) และปิดใช้งานการแจ้งเตือนสำหรับแอปพลิเคชันที่คุณไม่คิดว่าสำคัญจริงๆ
-
ใช้ซอฟต์แวร์บอกตำแหน่งเท่าที่จำเป็น. แอปบางอย่างบนโทรศัพท์ของคุณ เช่น Maps จะใช้งานซอฟต์แวร์บอกตำแหน่งของคุณเพื่อกำหนดตำแหน่ง GPS เมื่อคุณไม่ได้ใช้งานแอปเหล่านั้น และเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว ให้รู้จักปิดการใช้งานฟังก์ชันนี้จนเป็นนิสัย
- ไปที่ Settings → Privacy (ความเป็นส่วนตัว) → Location Services (บริการระบุตำแหน่ง) และปิดการใช้งาน
-
เมื่อไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ให้เปลี่ยนเป็นโหมดเครื่องบิน. iPhone ของคุณจะพยายามค้นหาสัญญาณโทรศัพท์ตลอดเวลา แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีคลื่นโทรศัพท์ จึงทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่ ด้วยเหตุนี้ เราจึงแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้โหมดเครื่องบินเมื่อคุณอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
-
ปิดแอปอย่างเหมาะสม. ถ้าคุณเพียงแค่กดปุ่มโฮมเท่านั้น แอปบางอย่างจะยังคงทำงานอยู่เบื้องหลัง ให้กดปุ่มโฮม 2 ครั้ง และปิดการทำงานของแอปเหล่านั้นด้วยตนเอง
-
12ทำให้พื้นที่รอบอุปกรณ์โล่งขณะชาร์จแบต. คุณอาจเคยสังเกตว่าเครื่อง iPhone ของคุณมักจะมีอุณหภูมิอุ่นขณะชาร์จแบตเตอรี่ ถ้าคุณใส่เคสหรือกรอบให้กับ iPhone ขณะชาร์จแบต ความร้อนส่วนเกินอาจส่งผลกระทบต่อพลังงานแบตเตอรี่ได้ ดังนั้น จึงควรทำให้พื้นที่โดยรอบ iPhone ของคุณโล่งเพียงพอขณะชาร์จแบต
-
ล็อคโทรศัพท์ (หรือตั้งค่าให้ล็อคอัตโนมัติในระยะเวลาสั้นๆ). ถ้าคุณยังไม่ได้ตั้งค่าให้โทรศัพท์ล็อคอัตโนมัติในระยะเวลาสั้นๆ ก็ให้ตั้งค่าให้ถูกต้อง เพราะอาจเป็นไปได้ที่โทรศัพท์ของคุณอาจสิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่เมื่อคุณไม่ได้ใช้งานอุปกรณ์ หากเครื่องยังไม่ได้ล็อค
- ไปที่ Settings → General → Auto-Lock (ล็อคอัตโนมัติ) และตั้งค่าไว้ที่ 1 นาที หรือต่ำกว่านั้น
-
ปล่อยให้โทรศัพท์ผ่านรอบชาร์จแบตเตอรี่จนครบรอบอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง. รอบชาร์จแบตเตอรี่หมายถึงการชาร์จโทรศัพท์จนเต็ม 100% และปล่อยให้แบตใช้พลังงานจนหมดเกลี้ยง แล้วชาร์จใหม่อีกครั้ง การใช้งานอุปกรณ์ให้ครบรอบชาร์จเดือนละครั้ง พูดง่ายๆ ก็คือ จะช่วยให้อิเล็กตรอนในแบตเตอรี่ลิเธียมของ iPhone มีการหล่อลื่นอย่างเหมาะสมโฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าคอยดูนาฬิกาและดูว่าเหลือแบตเตอรี่อยู่เท่าไหร่บ่อยๆ เพราะมีแต่จะทำให้เปลืองแบต!
- ควรชาร์จอุปกรณ์ของคุณทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล ควรพกที่ชาร์จแบตติดตัวไปด้วย หากคุณต้องค้างคืนข้างนอก หรือต้องออกจากบ้านนานๆ รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถซื้อที่ชาร์จแบตเตอรี่ iPhone สำหรับใช้บนรถยนต์ได้ด้วย มีประโยชน์มาก
- เปลี่ยนเป็นโหมดเครื่องบิน
- การชาร์จแบตโทรศัพท์ในโหมดเครื่องบินจะช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้น เพราะว่าพลังงานจะถูกใช้น้อยลงเมื่อปิด WiFi
- ไปที่ร้าน Apple Store ใกล้บ้านคุณ หรือร้านค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คุณสามารถเสียบ iPhone ของคุณเข้ากับแท่นวางของที่ร้านเพื่อให้อุปกรณ์ชาร์จได้เร็วขึ้น
- ถ้าคุณไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรี่อยู่กับตัว อีกทางเลือกหนึ่งคือการเสียบอุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปด้วยสายเคเบิล Apple USB แล้วเปิด iTunes จากนั้นปล่อยให้เครื่องชาร์จ
- ปิดเครื่อง iPhone ตอนนอนและหานาฬิกาปลุกจริงๆ มาใช้
- หาแบตสำรองหรือพาวเวอร์แบงค์มาใช้งาน อุปกรณ์นี้สามารถชาร์จ iPhone หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้หลายครั้ง อย่าลืมชาร์จพาวเวอร์แบงค์และ iPhone ของคุณก่อนออกเดินทางไกลๆ และชาร์จไฟใหม่ทุกครั้งที่มีโอกาส
- ปิดเครื่องโทรศัพท์ตอนนอน หรือเมื่อคุณไม่ได้ใช้งานหลังจากเปิดเครื่องมาเป็นเวลานาน การแจ้งเตือนที่ป๊อปอัพขึ้นมาในช่วงเวลาเหล่านี้จะทำให้โทรศัพท์ของคุณต้องทำงานนานขึ้น
- ซื้อเคส iPhone แบบที่ชาร์จแบตได้ด้วย แม้ว่าคุณจะต้องชาร์จแบตให้กับเคส แต่เคสแบบนี้จะชาร์จแบตเตอรี่ให้กับโทรศัพท์ของคุณได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า ดังนั้น หากคุณต้องไปค้างคืนในที่ที่ไม่มีไฟฟ้า อุปกรณ์นี้จะมีประโยชน์มาก
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าชาร์จแบตกับแท่นวางที่มีอยู่ตามร้านค้า ห้ามเสียบโทรศัพท์ทิ้งไว้ แล้วเดินหนีไปที่อื่น!
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- iPhone หรือ iPod Touch
- ที่ชาร์จแบตเตอรี่/สาย USB
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา