ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

โจรล้วงกระเป๋าเป็นหัวขโมยที่ชำนาญในด้านการลักทรัพย์นักท่องเที่ยวในจังหวะที่ไม่ทันระวังตัว ซึ่งการระมัดระวังตัวจากโจรล้วงกระเป๋าเหล่านี้นั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เนื่องจากเหล่าโจรจะพยายามทำตัวให้กลมกลืนไปกับผู้คนรอบข้างมากที่สุดจนไม่เป็นที่สังเกต ดังนั้นเพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของโจรล้วงกระเป๋า คุณควรเก็บกระเป๋าสตางค์อย่างมิดชิดในช่องกระเป๋าด้านหน้าและคอยถือสัมภาระให้อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา รวมถึงออกห่างจากคนแปลกหน้าที่เข้ามาชวนพูดคุยและระมัดระวังตัวอยู่เสมอเมื่ออยู่ในบริเวณที่แออัดไปด้วยผู้คน และหากคุณเกิดถูกลักทรัพย์ในระหว่างการท่องเที่ยวในต่างประเทศ ให้คุณเข้าแจ้งความกับตำรวจและติดต่อสถานทูตของประเทศคุณเพื่อขอทำพาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวประชาชนใหม่

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เก็บและถือกระเป๋าสตางค์ให้ปลอดภัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณเคยชินกับการเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ในช่องกระเป๋าด้านหลัง คุณสามารถป้องกันการถูกลักทรัพย์ในระหว่างที่คุณมองไม่เห็นกระเป๋าสตางค์ของคุณได้ด้วยการเปลี่ยนมาเก็บไว้ในช่องกระเป๋าด้านหน้าแทน เนื่องจากการล้วงมือเข้าไปหยิบเอากระเป๋าสตางค์ พาสปอร์ต หรือเงินสดไปนั้นจะไม่สามารถทำได้ง่ายๆ สำหรับโจรที่เดินตามหลังคุณ [1]
    • เมื่อคุณเดินไปเรื่อยๆ สักพักหนึ่ง สิ่งของในช่องกระเป๋าด้านหลังอาจโผล่ออกมาจากช่องกระเป๋าและทำให้สามารถขโมยไปได้ง่ายยิ่งขึ้น
  2. รัดหนังยางรอบกระเป๋าสตางค์เพื่อไม่ให้เลื่อนออกมาง่ายๆ. ใช้หนังยางทั่วไปรัดไว้รอบบริเวณกึ่งกลางกระเป๋าสตางค์และเก็บเข้าไปในช่องกระเป๋าให้ลึก เมื่อโจรพยายามที่จะล้วงมือเข้าไปหยิบเอากระเป๋าสตางค์ของคุณ กระเป๋าสตางค์ก็จะดึงออกมาได้อย่างติดขัดจนคุณทันเห็นว่ามีคนกำลังพยายามลักทรัพย์คุณ [2]
    • คุณอาจเลือกใช้กระเป๋าสตางค์ที่ตัดเย็บจากผ้าหรือตีนตุ๊กแกแทนกระเป๋าสตางค์แบบหนังเรียบๆ เพื่อให้ดึงออกมาได้ยากยิ่งขึ้นในช่วงที่คุณมองไม่เห็นกระเป๋าสตางค์ของคุณ
  3. เก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ในช่องกระเป๋าลับใต้เสื้อผ้า. หากเสื้อผ้าของคุณมีช่องกระเป๋าลับซ่อนอยู่ข้างใต้ ให้คุณเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ในช่องกระเป๋าลับดังกล่าว เนื่องจากโจรล้วงกระเป๋ามักจับตามองของมีค่าหรือเงินสดที่เก็บไว้ในบริเวณที่ดูสะดุดตา จึงอาจไม่ทันรู้ว่าคุณเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ด้านในของเสื้อแจ็กเก็ต ตามตะเข็บที่มองไม่เห็น หรือในช่องลับใกล้กับช่องกระเป๋าอก [3]
    • หากคุณต้องการซ่อนของมีค่าไว้ในเสื้อแจ็กเก็ต ให้คุณนำของชิ้นนั้นใส่ไว้ในซองเล็กๆ ที่ทำจากตีนตุ๊กแก เนื่องจากตีนตุ๊กแกจะส่งเสียงดังขึ้นเมื่อมีคนพยายามล้วงมือเข้าไปหยิบเอาของในกระเป๋าเสื้อของคุณ

    เคล็ดลับ: คุณสามารถหาซื้อเสื้อผ้าที่ออกแบบมาให้มีกระเป๋าลับสำหรับป้องกันการถูกล้วงกระเป๋าโดยเฉพาะ เช่น เสื้อผ้าจากแบรนด์ ExOffico Voyager และ SCOTTeVEST ซึ่งมักผลิตเครื่องแต่งกายที่มาพร้อมกระเป๋าลับข้างใต้

  4. หลีกเลี่ยงการรื้อค้นกระเป๋าสตางค์เพื่อนับเงิน. หากเป็นไปได้ ให้คุณแยกเงินสดออกมาส่วนหนึ่งโดยใช้คลิปหนีบไว้ให้อยู่และเก็บไว้ในช่องกระเป๋าที่ปลอดภัย วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเพื่อค้นหาธนบัตรที่คุณต้องการ แต่หากคุณจำเป็นต้องเก็บเงินสดไว้ในกระเป๋าสตางค์ ให้คุณหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเฉพาะเมื่อคุณจำเป็นต้องจ่ายเงินจริงๆ เท่านั้น รวมถึงถือกระเป๋าสตางค์ไว้ด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อป้องกันไม่ให้โจรฉวยโอกาสกระชากไปได้ในช่วงที่คุณไม่ทันระวังตัว [4]
    • หากคุณเก็บเงินไว้ในช่องกระเป๋าเสื้อผ้า ให้คุณเลือกใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงด้านหน้าเท่านั้น และอย่าเก็บสิ่งของอื่นๆ ไว้ในช่องกระเป๋าเพื่อหลอกให้โจรคิดว่าในช่องกระเป๋านั้นว่างเปล่าไม่มีอะไร
  5. เตรียมกระเป๋าสตางค์ปลอมและเก็บไว้ในช่องกระเป๋าด้านหลังเพื่อหลอกโจร. ซื้อกระเป๋าสตางค์สักใบหนึ่งและย้ายเงินสดและบัตรต่างๆ ไปใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ จากนั้นจึงนำเศษกระดาษ บัตรของขวัญที่ใช้หมดแล้ว และใบเสร็จต่างๆ ใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ใบเก่าแทน ให้คุณพกกระเป๋าสตางค์ปลอมใบนี้ติดตัวไปด้วยเมื่อออกไปข้างนอก และหากคุณเกิดถูกปล้นหรือมีคนพยายามล้วงกระเป๋าคุณ ให้คุณดึงกระเป๋าสตางค์ปลอมให้หล่นออกมาและรีบวิ่งไปยังทิศทางอื่นทันที [5]
    • อย่าเก็บกระเป๋าสตางค์ปลอมให้โผล่ออกมาจากช่องกระเป๋าจนสังเกตเห็นได้เพื่อไม่ให้เป็นการดึงดูดให้โจรเข้ามาลักทรัพย์คุณ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ถือกระเป๋าอย่างระมัดระวัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกใช้กระเป๋าถือที่มีกลไกเปิดปิดที่ซับซ้อนเพื่อป้องกันการถูกล้วงกระเป๋า. หากตามปกติแล้วคุณใช้กระเป๋าที่ไม่มีกลไกเปิดปิดใดๆ ให้คุณมองหากระเป๋าถือใบใหม่ที่มีซิปหรือลูกบิดซึ่งจะช่วยให้เปิดออกได้ยากจนทำให้โจรล้วงกระเป๋าไม่อยากเสี่ยงล้วงมือเข้าไปขโมยเอาของในกระเป๋าของคุณ หากเป็นไปได้ คุณอาจเลือกใช้กระเป๋าถือที่สามารถคล้องกุญแจล็อคได้เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพย์สินในกระเป๋าของคุณจะไม่สูญหายไปในระหว่างที่คุณออกไปท่องเที่ยวข้างนอก [6]
    • พยายามเลือกใช้กระเป๋าถือที่มีขนาดเล็ก เนื่องจากกระเป๋าใบใหญ่จะเป็นการเปิดโอกาสให้โจรสามารถทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
  2. ปรับสายกระเป๋าให้สั้นลงเพื่อให้กระเป๋าอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น. เพื่อป้องกันไม่ให้กระเป๋าของคุณถูกโจรกระชากเอาไปได้ ให้คุณสะพายกระเป๋าไว้ให้ใกล้ตัวมากที่สุดด้วยการปรับสายกระเป๋าให้สั้นลงเพื่อให้กระเป๋าอยู่แนบชิดกับลำตัวมากยิ่งขึ้น วิธีนี้จะทำให้โจรสามารถเอื้อมมือเข้ามาใกล้กับกระเป๋าของคุณได้ยากขึ้นกว่าเดิม [7]
    • เพื่อป้องกันไม่ให้โจรมีโอกาสเข้าใกล้กระเป๋าของคุณ ให้คุณสะพายกระเป๋าไว้ที่ด้านหน้าลำตัวแทนด้านหลังตามปกติ
  3. วางกระเป๋าไว้บนตักในระหว่างที่คุณกำลังนั่ง. ในระหว่างที่คุณกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารหรือบนรถประจำทาง ให้คุณสะพายกระเป๋ามาทางด้านหน้าและวางไว้บนตักของคุณ เพราะหากคุณวางกระเป๋าไว้บนพื้นหรือแขวนไว้กับพนักเก้าอี้ กระเป๋าของคุณก็จะยิ่งตกเป็นเป้าหมายของโจรได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังอาจทำให้คุณเผลอลืมกระเป๋าทิ้งไว้เมื่อคุณลุกขึ้นจากเก้าอี้ได้อีกด้วย [8]
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Allyson Edwards

    ที่ปรึกษานานาประเทศและนักเดินทางรอบโลก
    อลิสัน เอ็ดเวิร์ดส์สำเร็จการศึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หลังจากนั้น เธอเป็นผู้ประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรนานาชาติมากกว่ายี่สิบประเทศ และเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่อยู่ทั้งในแวดวงการศึกษา ฟินเทคและธุรกิจค้าปลีก
    Allyson Edwards
    ที่ปรึกษานานาประเทศและนักเดินทางรอบโลก

    เรื่องเล่าจากผู้เชี่ยวชาญ: "หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้น ฉันจะคอยระมัดระวังกระเป๋าของฉันอยู่เสมอ วันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่งในตอนที่ฉันเรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่เมืองแมดริด ฉันออกเดินทางท่องเที่ยวและถอนเงินสด 200 ยูโรเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ และในระหว่างที่อยู่บนรถไฟใต้ดิน กระเป๋าถือของฉันก็ถูกโจรขโมยหายไปทั้งใบ ในตอนนั้นฉันทำพลาดไปเพียงเพราะไม่คอยถือของมีค่าไว้ใกล้ตัวและสะพายกระเป๋ามาทางด้านหน้าในขบวนรถไฟที่เบียดเสียดไปด้วยผู้คน แต่ในเมื่อฉันได้เรียนรู้แล้ว ฉันก็จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก!"

  4. ย้ายทรัพย์สินในกระเป๋าถือไปไว้ในกระเป๋าคาดเอวแทน. สายกระเป๋าอาจถูกตัดขาดจนโจรสามารถกระชากกระเป๋าของคุณไปได้ภายในเสี้ยววินาที คุณจึงอาจเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าคาดเอวที่ทำจากไนลอนแทนเพื่อให้โจรสามารถตัดสายกระเป๋าและกระชากกระเป๋าไปได้ยากยิ่งขึ้น เริ่มจากย้ายเงินสดและบัตรต่างๆ มาใส่ไว้ในกระเป๋าคาดเอว จากนั้นปรับสายกระเป๋าให้แน่นและหมุนกระเป๋ามาทางด้านหน้าให้อยู่บริเวณใต้สะดือเพื่อให้ง่ายยิ่งขึ้นต่อการจับตาดูของมีค่าของคุณ [9]
    • หลีกเลี่ยงการใช้กระเป๋าคาดเอวที่มีตัวล็อคก้ามปูเป็นพลาสติกทั่วไป โดยลองหาซื้อกระเป๋าคาดเอวกันขโมยที่มีตัวล็อคก้ามปูที่แข็งแรงและสามารถล็อคกุญแจได้เพื่อป้องกันไม่ให้โจรสามารถล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

เก็บของมีค่าไว้อย่างมิดชิด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นำสิ่งของที่จำเป็นติดตัวไปและเก็บของมีค่าที่เหลือไว้ในตู้เซฟโรงแรม. โรงแรมโดยส่วนใหญ่จะมีตู้เซฟจัดเตรียมไว้ในห้องพักสำหรับให้ผู้เข้าพักสามารถเก็บสัมภาระต่างๆ ไว้ในระหว่างการทำความสะอาดห้องหรือออกไปเที่ยวข้างนอก ดังนั้นก่อนที่คุณจะออกไปจากห้อง ให้คุณเก็บพาสปอร์ต กุญแจบ้าน เงินสดที่เหลือ และเครื่องประดับมีค่าไว้ในตู้เซฟและล็อคให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งหากคุณเกิดถูกล้วงกระเป๋าขึ้นมา คุณจะถูกขโมยเงินสดและทรัพย์สินอื่นๆ ไปเพียงบางส่วนเท่านั้น [10]
    • เก็บเงินสดสำรองไว้ในตู้เซฟโรงแรมเสมอ ในกรณีที่คุณถูกล้วงกระเป๋า คุณจะมีเงินสดบางส่วนสำหรับจ่ายค่าอาหารและค่าเดินทางในระหว่างการดำเนินการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น
  2. เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในช่องกระเป๋าที่ปิดสนิทและพยายามไม่หยิบออกมา. เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในช่องกระเป๋าด้านในที่โจรล้วงกระเป๋าจะไม่สามารถล้วงมือเข้าไปหยิบเอาได้ง่ายๆ รวมถึงพยายามไม่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่คุณกำลังจดจ่ออยู่กับการดูเส้นทาง แต่หากคุณจำเป็นต้องหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาใช้ ให้คุณจับไว้ให้แน่นและอย่าจ้องหน้าจอนานติดต่อกันเกินกว่า 5-10 วินาที [11]
    • เมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูป ให้คุณเก็บกลับเข้ากระเป๋าทุกครั้งหลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อยแล้ว และปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าที่เสนอช่วยถ่ายรูปให้กับคุณ
    • ปริ้นท์แผนที่ให้เรียบร้อยก่อนออกจากโรงแรมเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือสำหรับการดูเส้นทาง
    • แม้ว่าคุณจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือ แต่คุณควรพกโทรศัพท์มือถือติดตัวไว้เสมอเผื่อสำหรับกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่คุณต้องใช้โทรศัพท์อย่างเร่งด่วน
  3. ซุกสร้อยคอไว้ใต้เสื้อและเก็บนาฬิกาข้อมือไว้ที่โรงแรม. หากคุณสวมเครื่องประดับ ให้คุณนำสร้อยคอซุกไว้ใต้เสื้อเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกกระชากออกจากคอไปได้และหลีกเลี่ยงการสวมนาฬิกาข้อมือที่มีราคาแพงติดตัวไว้ รวมถึงงดสวมเครื่องประดับที่ตกแต่งด้วยอัญมณีจำนวนมากแม้จะเป็นของจริงหรือไม่ก็ตาม [12]
    • หากแหวนของคุณมีขนาดไม่หลวมจนเกินไป คุณอาจสวมแหวนได้โดยไม่มีปัญหา เนื่องจากแหวนไม่สามารถขโมยไปได้อย่างง่ายดายนักโดยที่คุณไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม คุณควรระวังตัวเมื่อสวมแหวนที่ประดับด้วยอัญมณีด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อคุณสวมเครื่องประดับมากมาย อาจทำให้ดูเหมือนว่าคุณพกเงินสดติดตัวไว้มากจนตกเป็นเป้าหมายของโจรล้วงกระเป๋าได้
    • หากไม่มีความจำเป็น พยายามอย่านำเครื่องประดับพกติดตัวไปด้วยในทริปการท่องเที่ยวในต่างประเทศของคุณ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำหรือการชมการแสดง
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

หลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของภัยหลอกลวง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. งดใช้ตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่ในแหล่งคนพลุกพล่าน. ตู้เอทีเอ็มเป็นอีกหนึ่งจุดที่มักตกเป็นเป้าหมายของโจรล้วงกระเป๋า ซึ่งในบางครั้งโจรอาจทำงานเป็นคู่โดยให้คนหนึ่งเบี่ยงเบนความสนใจของคุณในขณะที่อีกคนหนึ่งแอบฉกเงินของคุณไปในระหว่างที่คุณไม่ทันสังเกต หรือโจรบางส่วนอาจมองข้ามไหล่ของคุณเพื่อแอบดูเลขรหัสบัตรเอทีเอ็มแล้วจึงขโมยกระเป๋าสตางค์ของคุณในภายหลัง ดังนั้นเมื่อคุณจำเป็นต้องใช้ตู้เอทีเอ็ม ให้คุณมองหาตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่ในอาคารที่มีความปลอดภัยและไม่อยู่ในบริเวณเปิดที่มีคนพลุกพล่านเพื่อให้คุณสามารถกดเงินสดออกมาได้อย่างปลอดภัย [13]
    • การใช้ตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่ตามมุมในร้านอาหารและโรงแรมอาจทำให้คุณมีโอกาสตกเป็นเป้าหมายของโจรได้น้อยลง
  2. แตะที่ช่องกระเป๋าเพื่อตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ทุกครั้งที่มีคนเดินชน. โจรบางส่วนอาจแกล้งทำเป็นเดินเข้ามาชนคุณโดยไม่ได้ตั้งใจในระหว่างที่คุณกำลังเดินอยู่บนท้องถนนหรือขึ้นรถประจำทาง และในจังหวะที่คุณถูกชน โจรอาจล้วงมือเข้าไปในช่องกระเป๋าที่เข้าถึงได้ง่ายและหยิบเอาของมีค่าของคุณไป ดังนั้นทุกครั้งที่มีคนเดินเข้ามาชนคุณ ให้คุณแตะที่ช่องกระเป๋าของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของคุณไม่ได้ถูกขโมยไป [14]
    • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่ผู้คนเบียดเสียดหรือพลุกพล่าน เนื่องจากโจรมักแฝงตัวปะปนอยู่ในกลุ่มคนเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต รวมถึงจับสัมภาระให้แน่นและคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลาในระหว่างที่คุณอยู่บนรถประจำทางหรือรถไฟและเดินอยู่ในเขตเมืองที่แออัดไปด้วยผู้คน
    • ระมัดระวังผู้สอบถามข้อมูล ผู้ขอรับบริจาค หรือคนแปลกหน้าที่เข้ามาชวนคุย เนื่องจากโจรล้วงกระเป๋ามักทำงานร่วมกันเป็นทีมและพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของคุณเพื่อแอบลักทรัพย์ของคุณจากทางด้านหลัง

    เคล็ดลับ: อย่าใช้วิธีหยิบกระเป๋าสตางค์หรือโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อตรวจสอบดูว่าถูกขโมยไปหรือไม่ เนื่องจากโจรล้วงกระเป๋าบางส่วนอาจใช้เทคนิคการเดินเข้ามาชนเพื่อหลอกให้คุณเริ่มตรวจสอบสิ่งของของคุณ ดังนั้นเมื่อคุณแตะที่ช่องกระเป๋าของคุณ คุณจึงควรทำให้ดูแนบเนียนมากที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการส่งสัญญาณให้ผู้อื่นรู้ว่าคุณเก็บของมีค่าไว้ในนั้น

  3. เว้นระยะห่างอย่างพอเหมาะเมื่อมีคนช่วยบอกทางให้กับคุณ. ในระหว่างที่คุณกำลังสอบถามเส้นทางกับคนแปลกหน้า ให้คุณเว้นระยะห่างประมาณ 2-3 ฟุต (60-90 ซม.) ไว้ตลอดเวลา รวมถึงอย่าละสายตาเพื่อมองดูแผนที่และเอนตัวเข้ามาเพื่อฟังใกล้ๆ เนื่องจากโจรล้วงกระเป๋าอาจใช้วิธีอันชาญฉลาดอย่างการถือแผนที่หรือแผ่นพับไว้เพื่อแสดงให้คุณดูในระหว่างที่ล้วงมือเข้ามาหยิบของในกระเป๋าหรือช่องกระเป๋าของคุณ [15]
    • ระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อได้รับความช่วยเหลือที่ไม่ได้เสนอขอ เพราะแม้ว่าหลายคนเพียงต้องการให้ความช่วยเหลือกับคุณอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่ในบางครั้งโจรอาจทำทีเป็นเสนอให้ความช่วยเหลือกับคุณเพื่อหลอกล่อให้คุณรู้สึกปลอดภัยก็เป็นไปได้
  4. แต่งกายไม่ให้สะดุดตาและดูกลมกลืนกับคนท้องถิ่น. เมื่อคุณท่องเที่ยวในต่างประเทศ พยายามแต่งกายให้ดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมมากที่สุดด้วยการงดการสวมเสื้อผ้าสีสดใสที่อาจทำให้คุณดูสะดุดตามากขึ้นและหลีกเลี่ยงเครื่องแต่งกายที่แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นนักท่องเที่ยว เนื่องจากโจรโดยส่วนใหญ่จะพยายามหลีกเลี่ยงการลักทรัพย์ของผู้คนที่อาศัยในท้องถิ่นนั้น [16]
    • วิธีนี้อาจไม่ได้ผลลัพธ์ดีเสมอไปหากคุณเป็นชาวตะวันออกผมดำที่ท่องเที่ยวในประเทศตะวันตก เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะสามารถทำตัวให้ดูกลมกลืนกับคนท้องถิ่นได้ในประเทศที่ไกลบ้านของคุณ
  5. สะพายกระเป๋าในฝั่งตรงข้ามกับด้านที่ติดถนนเพื่อป้องกันตัวจากโจรขี่มอเตอร์ไซค์. ในหลายๆ ประเทศ โจรอาจใช้วิธีขี่มอเตอร์ไซค์ตามประกบคุณและกระชากกระเป๋าจากไหล่ของคุณก่อนรีบซิ่งมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป ดังนั้นเพื่อลดโอกาสการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ให้คุณถือหรือสะพายกระเป๋าไว้ในฝั่งตรงข้ามกับด้านที่ติดถนน [17]
    • เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อยกว่าในประเทศที่มีผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์จำนวนมาก ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จึงอาจไม่พบโจรลักษณะนี้ได้ทั่วไปนัก
    • เดินสวนทางกับรถยนต์ที่วิ่งมาเพื่อให้คุณสามารถมองเห็นได้เมื่อมีผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ตามประกบคุณ
  6. ระมัดระวังผู้คนรอบข้างในขณะชมการแสดงตามท้องถนน. โจรล้วงกระเป๋าจะมองหาเหยื่อในกลุ่มนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ และการแสดงตามท้องถนนเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวนักสิบให้มารวมกลุ่มกันได้ นอกจากนี้ หลายๆ คนยังดึงกระเป๋าสตางค์ออกมาเพื่อหยิบเงินให้กับนักแสดง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดใดๆ ที่คุณจะให้เงินเล็กน้อยกับนักแสดง แต่การดึงกระเป๋าสตางค์ออกมาอาจเป็นการบอกให้โจรทราบได้ว่าคุณเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ใด ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรถือของมีค่าไว้ให้ใกล้ตัวอยู่เสมอและคอยระวังตัวในระหว่างที่คุณกำลังเพลิดเพลินกับการแสดงในที่สาธารณะ [18]
    • หากคุณต้องการให้เงินกับนักแสดงเปิดหมวก คุณอาจใช้วิธีเก็บเงินสดเล็กน้อยไว้ในช่องกระเป๋าแทนเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ทั้งหมด วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้โจรรู้ได้ว่าคุณเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ใดเมื่อคุณหยิบเงินออกมา
  7. ปฏิเสธคนแปลกหน้าที่เสนอช่วยยกกระเป๋าให้กับคุณ. เมื่อคุณยกกระเป๋าเดินทางขึ้นหรือลงรถไฟหรือรถแท็กซี่ ให้คุณตอบปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าที่เสนอช่วยยกกระเป๋าให้กับคุณเสมอไม่ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะหนักเพียงใดก็ตาม เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือจะไม่อาศัยจังหวะทีเผลอฉกกระเป๋าของคุณและวิ่งหนีหายไป และถึงแม้ว่าบางคนอาจต้องการให้ความช่วยเหลือกับคุณจริงๆ แต่ก็คงไม่คุ้มค่าพอที่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อทรัพย์สินของคุณ [19]
    • อาจฟังดูยุ่งยากไปซักนิด แต่คุณควรเลือกที่จะเสียเวลาเพิ่มอีกสัก 5-10 นาทีเพื่อยกกระเป๋าเดินทางขึ้นลงด้วยตัวเอง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากคุณตกเป็นเหยื่อของโจรล้วงกระเป๋าและถูกขโมยพาสปอร์ตหรือกระเป๋าสตางค์ไปในระหว่างท่องเที่ยวต่างประเทศ ให้คุณติดต่อสถานทูตของประเทศคุณโดยทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการยืนยันตัวตนและส่งตัวคุณกลับประเทศ
  • ตรวจสอบทรัพย์สินอย่างละเอียดรอบคอบทุกครั้งที่คุณขึ้นและลงรถแท็กซี่หรือรถสาธารณะ เนื่องจากคุณอาจเผลอลืมโทรศัพท์มือถือหรือกระเป๋าสตางค์ได้ง่ายๆ หากคุณวางไว้บนที่นั่งว่างถัดจากคุณ
  • จำไว้ว่าโจรล้วงกระเป๋ามีอยู่แทบทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นอย่าคิดว่าภัยล้วงกระเป๋าสามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะในแถบยุโรปเท่านั้นจนคุณเผลอประมาทเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่
โฆษณา

คำเตือน

  • เพื่อความปลอดภัยของคุณ ห้ามต่อสู้กับโจรเมื่อถูกปล้นโดยเด็ดขาดเว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีข้อได้เปรียบด้านพละกำลัง โจรไม่มีอาวุธ และคุณอยู่ในพื้นที่สาธารณะที่มีผู้คนอื่นๆ อยู่ในบริเวณนั้น แต่ให้คุณเข้าแจ้งความและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจแทน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,670 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา