ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากคุณเคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนหรือคุณยังไม่เจอใครที่อยากคบด้วยนานๆ การมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและมีความสุขคงดูเป็นสิ่งที่ทำให้สำเร็จได้ยาก แต่โชคดีไปว่า มีขั้นตอนหลากหลายที่คุณสามารถทำตามเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ดีและยาวนานขึ้น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เริ่มความสัมพันธ์อย่างถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเข้าใจอารมณ์และความต้องการทางกายภาพของตัวเองก่อนเริ่มความสัมพันธ์กับใครนั้นสำคัญมาก เพราะคุณต้องสามารถแสดงความต้องการเหล่านี้ไปยังคนรักของคุณให้ได้หากคุณอยากประสบความสำเร็จในการครองคู่ คุณอาจรู้แน่ชัดแล้วว่าตัวเองปรารถนาและต้องการอะไรในการคบกัน แต่หากยังไม่แน่ใจ อาจลองคิดถึงคำถามเหล่านี้ดูก็ได้ [1]
    • ลองนึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต เพื่อพิจารณาว่าทำไมความสัมพันธ์ตอนนั้นถึงราบรื่นหรือไม่ราบรื่น ประสบการณ์เหล่านี้บอกอะไรได้บ้างเกี่ยวกับความปรารถนาของคุณ?
    • คิดถึงวิธีที่คุณปฏิบัติกับผู้คนหรือเหตุการณ์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น คุณตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ด้วยอารมณ์หรือไม่ รู้สึกเชื่อใจคนอื่นได้ยาก หรือแสดงความรู้สึกของตัวเองได้ยากหรือไม่? มันอาจช่วยได้มากหากคุณรู้นิสัยเฉพาะตัวของคุณก่อนจะเริ่มความสัมพันธ์ที่จริงจัง
  2. แน่ใจก่อนว่าคุณคบกับใครด้วยเหตุผลที่ดี ไม่ใช่เหตุผลแย่ๆ. ให้คำนึงถึงคำชี้แนะเหล่านี้: [2] [3] [4]
    • เหตุผลที่ดีในการคบกันมีดังนี้: ความปรารถนาที่จะแบ่งปันความรัก ความใกล้ชิด และความเป็นเพื่อน ความต้องการที่จะเรียนรู้การเติบโตภายในตัวเอง การสนับสนุนทางด้านอารมณ์และทางกายภาพแก่กันและกัน และการหวังสร้างครอบครัวด้วย ควรระลึกไว้ว่าแรงจูงใจเหล่านี้ไม่ได้มุ่งไปที่การได้รับความรักและความสนับสนุนเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการมอบมันให้กับคนรักของคุณด้วย
    • เหตุผลที่ไม่ดีในการคบกันมีดังนี้: กลัวการอยู่คนเดียว กลัวการเลิกรา และไม่อยากขาดการติดต่อกับเพื่อนหรือครอบครัวของคนรัก การใช้คนรักเป็นเครื่องมือเพื่อความมั่นคง เพศสัมพันธ์ เงิน หรือเพื่อแก้แค้นคนรักเก่าของคุณก็เป็นเหตุผลที่แย่ในการเลือกคบกัน หากคุณเริ่มและคบกับใครด้วยเหตุผลเหล่านี้ คุณและคนรักจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ยืดยาวและมีความสุขได้ยาก และคุณอาจเจ็บด้วยกันทั้งคู่ระหว่างคบกัน
  3. หากคุณหวังจะพัฒนาความสัมพันธ์ที่มีความสุขและยืดยาว คุณก็ต้องเลือกคนรักให้ดี คนทั่วไปมักคิดว่าคนที่แตกต่างกันจะดึงดูดกัน แต่นักวิจัยพบว่าคนที่มีเป้าหมาย ความสนใจ และความคาดหวังเหมือนๆ กันมักจะมีความสัมพันธ์ที่น่ารื่นรมย์กว่า [5] [6]
    • นิสัยของคุณทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แต่หากสิ่งที่คุณหวังจะได้จากการคบหานั้นแตกต่างกัน คุณก็จะรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาวได้ยาก
    • ลองพิจารณาดูว่าความแตกต่างของคุณช่วยส่งเสริมกันและกันหรือไม่ ตัวอย่างเช่น คนที่ชอบตัดสินใจเร็วอาจจะเหมาะสมกับคนที่เป็นนักวางแผน
  4. การเริ่มความสัมพันธ์โดยคิดว่าจะไม่มีอุปสรรคหรือความท้าทายใดๆ เลยนั้นเป็นไปไม่ได้ ความหลงใหลและการหลงเสน่ห์เหมือนในช่วงแรกๆ อาจเลือนหายไป แต่ด้วยเวลาและความพยายาม คุณก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมายได้ [7]
  5. แม้ว่าคุณอาจสามารถโน้มน้าวให้คนรักของคุณเก็บเสื้อผ้าสกปรกหรือพาหมาไปเดินเล่นได้ และคิดว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนนิสัย มุมมอง หรือพฤติกรรมของคนรักได้จริงๆ แต่สิ่งนี้จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ผู้เชี่ยวชาญชี้แนะว่าคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยหรือแนวความคิดเหล่านี้ได้: [8] [9]
    • ความคิดเกี่ยวกับศาสนา
    • ความคิดของคนรักเกี่ยวกับการมีลูก
    • อารมณ์โกรธและวิธีที่แสดงออกเมื่อโกรธ
    • ว่าคนรักของคุณเป็นคนเก็บตัวหรือเป็นคนเปิดเผย
    • ความสนใจ กิจกรรม และงานอดิเรกของคนรัก
    • ความสัมพันธ์ระหว่างคนรักกับครอบครัวของเขา
  6. หากคุณหวังจะมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุข ให้มุ่งไปที่การสร้างมิตรภาพกับคนรักของคุณ ผู้เชี่ยวชาญพบว่าคู่รักที่เป็นเหมือนเพื่อนจะมีความสุขมากกว่าและอยู่ด้วยกันนานด้วย [10] [11] [12]
    • หากคุณไม่อยากใช้เวลาร่วมกัน ความสัมพันธ์ของคุณก็จะไม่ประสบความสำเร็จ
    • ใช้เวลาสำรวจดูความสนใจและงานอดิเรกของกันและกัน ในตอนแรกๆ มันอาจดูเป็นการเสียสละมากไปที่จะทำสิ่งที่คุณไม่ต้องการ แต่คนรักของคุณจะชื่นชมความพยายามของคุณและอยากจะทำอะไรที่คุณชอบบ้างในคราวหน้า และคุณจะรู้สึกสนิทกันมากขึ้น และสามารถเข้าใจนิสัย ความต้องการ และความปรารถนาของคนรักได้ดีขึ้น
    • พยายามหาความสนใจที่มีร่วมกันแล้วทำมันด้วยกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณรักการออกไปข้างนอก ให้ลองไปเที่ยวตั้งแคมป์ด้วยกัน
  7. บางครั้งคู่รักมักคิดว่าต้องทำกิจกรรมทุกอย่างร่วมกัน แต่วิธีการนี้อาจทำให้คุณและคนรักรู้สึกอึดอัดเพราะความใกล้ชิดมากเกินไป [13]
    • อย่าเลิกใช้เวลาร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว
    • ทำงานอดิเรกที่คุณทำตั้งแต่ก่อนคบกันต่อไป
  8. คนใจกว้างมักจะนึกถึงความคิด ความรู้สึก และความสนใจของคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ นักวิจัยพบว่าเมื่อคู่รักมีความใจกว้างต่อกันแล้ว พวกเขาก็จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวได้ [14] [15]
    • แบ่งปันสิ่งที่คุณมี อาจเป็นสิ่งง่ายๆ เช่น ยอมแบ่งของหวานให้ หรือสิ่งที่สำคัญกว่านั้น เช่น ทรัพย์สินและเวลาให้กับคนรัก
    • อย่าทำตัวใจกว้างเพียงเพื่อหวังผลตอบแทน คนที่ใจกว้างจริงๆ มักไม่ได้ทำแบบนั้นเพราะอยากได้อะไรจากอีกคนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น อย่าให้ของขวัญชิ้นโตเพียงเพราะคุณหวังจะได้รับคืนบ้าง
  9. คนที่เพิ่งเริ่มความสัมพันธ์อาจรู้สึกอยากรีบขยับสถานะความสัมพันธ์ขึ้นด้วยการทำตัวใกล้ชิดกันเร็วๆ ย้ายไปอยู่ด้วยกัน หรือแต่งงานทันทีที่ได้พบกัน แม้มันอาจจะน่าตื่นเต้นเวลานึกถึงตอนจบอันสวยงามซึ่งคุณหวังไว้และอยากให้มาถึงเร็วๆ แต่การใช้เวลาเพื่อศึกษาให้แน่ชัดว่าคุณและคนรักเข้าใจตรงกันดีแล้ว จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่งขึ้น [16] [17]
    • คุณทั้งคู่จะมีความมั่นใจและมีความสุขในการคบกันหากคุณไม่รู้สึกกดดันหรือถูกบังคับให้อยู่ในสถานะอะไรอย่างรวดเร็ว
    • ยิ่งคุณรู้จักกันมากเท่าไหร่ และพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

รักษาความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุข

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เหมือนกับที่คุณและคนรักอาจเปลี่ยนไปตามเวลา ความสัมพันธ์ของคุณก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน ดังนั้นแทนที่จะพยายามทำให้ความสัมพันธ์ของคุณเหมือนเดิม ให้คุณยอมรับและชื่นชมความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่จะมาพร้อมการสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและยาวนาน [18]
    • บางคนกังวลว่าจะไม่รู้สึกถึงความหลงใหลและความลึกซึ้งแบบที่เคยมีตอนเริ่มความสัมพันธ์ แต่นี่คือเรื่องปกติ คุณอาจมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันน้อยลงเนื่องจากความสัมพันธ์ของคุณเติบโตขึ้นเพราะการงาน ครอบครัว และความรับผิดชอบอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การวิจัยพบว่าคนที่มีความสัมพันธ์แบบเข้าใจกันจะมีความสัมพันธ์ทางอารมณ์และกายภาพที่น่าพอใจขึ้นกับคู่รัก
    • แทนที่จะกังวลกับด้านลบของความสัมพันธ์ที่มั่นคง ให้ลองคิดถึงแง่มุมดีๆ ที่ความสัมพันธ์ของคุณได้พัฒนาไป ตัวอย่างเช่น คุณรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักแน่นแฟ้นขึ้นหรือไม่? คุณรู้สึกมั่นใจและเชื่อใจมากขึ้นกว่าตอนเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ๆ หรือไม่? ประสบการณ์และความท้าทายแบบใดที่คุณและคนรักได้ผ่านมันมาด้วยกัน?
  2. ตกลงกันว่าจะมอบเวลา แรงกาย และความพยายามให้กับความสัมพันธ์. การบ่มเพาะความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและมีความสุขนั้นอาศัยการสละเวลา แรงกาย และความพยายามของคนทั้งคู่ [19] [20]
    • แทนที่จะคิดว่าการรักษาความสัมพันธ์นั้นคือ “งานหนัก” ให้เปลี่ยนมาคิดว่ามันคือการพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์ที่คุณและคนรักมีร่วมกันจะดีกว่า แม้ว่าสิ่งนี้จะหมายถึงการพบเจออุปสรรค แต่มันก็จะมีช่วงเวลาสนุกๆ เวลาแสนพิเศษ และโอกาสอันน่าตื่นเต้นด้วย
    • แม้ว่าความสัมพันธ์ของคุณจะดูเป็นงานหนักในบางครั้ง ก็ให้มุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่คุณจะได้รับจากการลงทุนนั้น
  3. การปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพจะช่วยให้คุณและคนรักสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุขได้ ด้านล่างนี้คือวิธีการที่ได้ผลในการแสดงออกว่าคุณเคารพคนรักของคุณ:
    • ปฏิบัติต่อคนรักเหมือนกับที่คุณอยากถูกปฏิบัติ
    • เป็นคนคิดไตร่ตรองและนอบน้อมโดยการรับฟังความคิดเห็นของกันและกันและรับแต่เรื่องที่สำคัญเข้ามา เช่น การเลี้ยงดูลูก และแม้แต่หัวข้อพูดคุยประจำวัน เช่น เย็นนี้กินอะไรดี
    • ปรึกษากันก่อนจะวางแผนทำอะไร
    • ถามเกี่ยวกับงาน ความสนใจ กิจกรรม และความรู้สึกของอีกคน
    • หลีกเลี่ยงการใช้คำล้อเลียน หรือการใช้ภาษาและพฤติกรรมใดๆ ก็ตามที่ลดคุณค่าของอีกคนในความสัมพันธ์ การพูดเสียดสี การพูดจับผิด และการบ่นอาจดูเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่มันสามารถทำร้ายคนรักและทำให้รู้สึกโดนโจมตีหรือกลายเป็นศัตรูได้
  4. แสดงให้เห็นว่าคนรักของคุณสำคัญกับคุณมากแค่ไหน. คู่รักหลายคู่มักให้ความสำคัญกับวันเกิดและวันครบรอบ แต่การแสดงออกและทำให้เห็นว่าคุณชื่นชมสิ่งที่คนรักของคุณทำอยู่ทุกวันก็จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและมีความสุขได้ [21] [22] [23]
    • คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจ
    • ลองทำสิ่งที่เป็นประโยชน์โดยไม่ต้องให้ร้องขอ เช่น นำขยะออกไปทิ้ง หรือเสนอตัวจะทำอาหารเย็น
    • บอกคนรักของคุณว่าทำไมเขาจึงสำคัญกับคุณ
    • เวลาที่คนรักทำสิ่งดีๆ ให้แก่คุณ ให้รับรู้มันและกล่าวคำขอบคุณด้วย
    • หากคุณต้องการให้คนรักชื่นชมและใส่ใจคุณมากขึ้น ก็ให้ทำพฤติกรรมนั้นเป็นตัวอย่างก่อน คุณอาจเริ่มก่อนได้ด้วยการแสดงตัวอย่าง
  5. การสื่อสารที่ไม่ดีอาจขัดขวางการสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุขได้ การสื่อสารที่ดีจะช่วยให้แน่ใจได้ว่าคุณทั้งคู่เข้าใจตรงกันและเชื่อมั่นในกันและกัน [24]
    • พูดคุยถามไถ่คนรักของคุณเป็นประจำ และใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อปรึกษากันในเรื่องความสัมพันธ์อย่างเป็นส่วนตัว แทนที่จะพูดเรื่องการเลี้ยงดูลูก เรื่องงาน หรืองานบ้านอย่างเดียว
    • การสื่อสารไม่ได้หมายถึงการพูดคุยเพียงอย่างเดียว มันรวมไปถึงการตั้งใจฟังสิ่งที่คนรักต้องการจะพูดด้วย หลีกเลี่ยงการพูดขัดหรือพูดแทรกกัน
    • เมื่อคนรักของคุณแบ่งปันความรู้สึก ให้แสดงให้เห็นว่าคุณฟังอยู่โดยการสรุปสิ่งที่เธอพูด คุณอาจเริ่มโดยการพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ฉันได้ยินหรือเข้าใจก็คือ...” แม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่อีกคนพูดอยู่ แต่วิธีนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสนใจ และมันจะช่วยเน้นย้ำความคิดกับคนรักของคุณด้วย และยังช่วยป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกโดนโจมตีอีกด้วย
    • การสนทนาแบบต่อหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าการคุยโทรศัพท์ ส่งข้อความ หรือส่งอีเมล เวลาที่คุณสามารถมองเข้าไปในตาของอีกคน สำรวจภาษากาย และมองดูปฏิกิริยาของคนรักได้ คุณจะสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์และสังเกตเห็นความกังวลต่างๆ ได้ [25]
  6. คู่รักที่ซื่อสัตย์ต่อกันและกันมักจะมีความสุขกับความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุข ความไม่เชื่อใจที่เป็นผลมาจากความไม่ซื่อสัตย์นั้นเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ของคุณได้ [26] [27]
    • แทนที่จะเสี่ยงกับการเสียความเชื่อใจ คุณควรจะซื่อสัตย์และยอมให้อีกฝ่ายรู้ความรู้สึกและความกังวลของคุณ แม้ว่าการสนทนาจะน่าอึดอัดและยาก แต่การพยายามนำความเชื่อมั่นคืนมาหลังจากที่ทำตัวไม่ซื่อสัตย์ไปแล้วจะยากยิ่งกว่า
    • แม้ว่าความซื่อสัตย์จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ประสบความสำเร็จ แต่การพูดขวานผ่าซากอาจสร้างความเจ็บปวดได้ พยายามใจดีและอ่อนโยนเวลาที่แสดงความกังวลหรือบอกข่าวร้าย หากคุณทำตัวหยาบคายและไม่อ่อนโยน สิ่งที่คุณต้องการจะสื่อก็จะส่งไปถึงผู้รับได้ไม่ดี คุณและคนรักของคุณก็จะสื่อสารกันได้ยากขึ้น
  7. เรียนรู้ว่าคุณทั้งคู่อาจมีวิธีแสดงออกความรักที่แตกต่างกัน. ผู้คนแสดงความเสน่หาและความรักออกมาต่างกัน และการรับรู้สิ่งนี้ก็จะช่วยคุณสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมีความสุขมากกว่าเดิม [28]
    • มีความละเอียดอ่อนต่อความต้องการของกันและกันด้วยการถามว่าคุณทั้งคู่สามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อแสดงความรักและสนับสนุนกัน เมื่อคุณทั้งคู่รู้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร คุณก็จะสามารถพยายามแสดงความรู้สึกต่อกันและกันได้
  8. แทนที่จะคิดว่าสิ่งที่คนรักทำทำให้คุณหงุดหงิดใจมากเท่าไรหรือปฏิบัติกับสิ่งต่างๆ แตกต่างกันมากเท่าไร คุณควรจะชื่นชมในความแตกต่างนั้น [29]
    • ให้คิดว่าความแตกต่างของคุณส่งเสริมและเสริมสร้างความสัมพันธ์ของคุณอย่างไรบ้าง ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นคนจริงจังและคนรักของคุณเป็นคนร่าเริง ก็ให้คิดว่าคุณจะช่วยสร้างความสมดุลให้กันและกันได้อย่างไร คนรักของคุณบังคับให้คุณไม่คิดมากกับสิ่งต่างๆ หรือไม่ และคุณสามารถช่วยให้คนรักใส่ใจต่อสิ่งสำคัญได้หรือไม่?
    • ผู้คนมักพบว่านิสัยและกิจวัตรที่น่าหงุดหงิดใจมักเป็นสิ่งเดียวกันที่ดึงดูดให้คุณสนใจอีกคนหนึ่งด้วย
  9. บางครั้งในความสัมพันธ์ที่ก่อตัวสักพักแล้ว คนมักจะเริ่มยุ่งและละเลยความสำคัญของการใช้เวลาร่วมกันกับคนรัก การใช้เวลาร่วมกันเป็นประจำโดยไม่ถูกขัดจังหวะจากลูก สัตว์เลี้ยง พ่อแม่ หรือการทำงานนั้นจะช่วยให้คุณเชื่อมความสัมพันธ์และผูกพันกับคนรักของคุณ [30] [31]
    • แทนที่จะดูแค่โทรทัศน์หรือภาพยนตร์ ให้ลองเลือกกิจกรรมที่คุณมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันและกันได้ คุณอาจวางแผนท่องเที่ยววันหยุด เข้าชั้นเรียนทำอาหาร เดินเล่นตามสวนสาธารณะ หรือรับประทานอาหารเย็นด้วยกันก็ได้
    • คู่รักหลายคู่พบว่าการนัดหมายเวลาสำหรับ “เดทยามค่ำคืน” นั้นเป็นประโยชน์มาก ให้วางแผนว่าคุณจะทำอะไรร่วมกัน หรือผลัดกันวางแผนโดยที่คุณวางแผนทำกิจกรรมสำหรับหนึ่งอาทิตย์และคนรักของคุณเป็นคนวางแผนอาทิตย์ต่อไป อย่าลืมเลือกกิจกรรมที่แตกต่างกันเพื่อที่เดทยามค่ำคืนของคุณจะได้ไม่ซ้ำซากจำเจเกินไป [32]
  10. แม้ว่าการใช้เวลาร่วมกันจะสำคัญ แต่การหาเวลาให้ตัวเองก็จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและมีความสุขได้ คนเราสามารถก่อกวนคนอื่นได้แค่ไม่นานเท่านั้น และการใช้เวลาออกห่างจากกันหรือใช้เวลากับตัวเองบ่อยๆ จะช่วยให้คนรู้สึกรู้คุณค่าของคนรักของคุณมากกว่าเดิม [33]
    • ทำสิ่งที่สนใจและกิจกรรมต่างๆ แยกจากกัน คุณจะรู้สึกเป็นอิสระ แต่จะมีความสุขและสดชื่นมากกว่าเดิมเมื่อกลับไปหากัน
  11. ความท้าทายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในความสัมพันธ์ แต่ความสามารถในการคงอารมณ์ขันและหัวเราะไปกับคนรักของคุณจะช่วยให้คุณทั้งคู่ก้าวผ่านความยากลำบากไปได้ [34]
    • พยายามหวนนึกถึงประสบการณ์ที่มีร่วมกัน หรือไปสถานที่อย่างสวนสนุกหรือชมรมตลกที่มีเสียงหัวเราะเยอะๆ
    • มุ่งความสนใจไปที่การหัวเราะด้วยกัน มากกว่าการหัวเราะเยาะกันซึ่งจะทำให้ประสบการณ์ที่มีกลายเป็นสิ่งเลวร้ายและทำให้คุณผูกพันกับคนรักไม่ได้
  12. อย่าปล่อยให้คนอื่นมายุ่งกับความสัมพันธ์ของคุณ. ญาติโดยการสมรสที่ไม่เคยจะพอใจ พ่อแม่ที่เจ้ากี้เจ้าการ และเพื่อนจอมบงการสามารถนำความหายนะมายังความสัมพันธ์ที่คุณและคนรักกำลังสร้างอยู่ได้ คุณทั้งคู่ควรพยายามทำให้การแทรกแซงแย่ๆ นี้เกิดขึ้นน้อยที่สุด [35]
    • คุณไม่จำเป็นต้องตัดความสัมพันธ์กับคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทนกับคนที่ไม่สนับสนุนหรือมีผลด้านลบกับความสัมพันธ์ของคุณ
    • หากคุณหรือคนรักกังวลว่าจะมีใครมาแทรกแซงความสัมพันธ์ของคุณ ก็ให้พูดคุยเกี่ยวกับมันอย่างเปิดเผยและจริงใจ ช่วยกันระดมความคิดเกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น หากพ่อตาแม่ยายของคุณยืนกรานที่จะมาหาในวันคริสต์มาสทุกปี คุณทั้งคู่ก็อาจวางแผนไปท่องเที่ยวและใช้เวลาสนุกไปด้วยกันเพื่อออกห่างจากความกดดันของครอบครัว
    • คุณสามารถรับฟังและตอบรับความกังวลที่คนอื่นอาจมีต่อความสัมพันธ์ของคุณ แต่คุณสามารถอธิบายอย่างสุภาพและใจเย็นได้ว่าการเข้ามายุ่งเกี่ยวของพวกเขานั้นมีผลเสียต่อคุณและคนรักอย่างไร
    • ข้อยกเว้นจากข้อเสนอแนะที่กล่าวมาคือ หากคุณอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นอันตรายหรือความกังวลของพวกเขานั้นมีเหตุผล ในกรณีเหล่านี้ จงอย่าปลีกตัวออกมาหรือมองข้ามคนที่ต้องการจะช่วยและสนับสนุนคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

แก้ไขปัญหา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลายๆ ครั้งคนเรามักจะเริ่มการทะเลาะด้วยความรู้สึกว่าพวกเขาต้อง “ชนะ” และพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเอง “ถูกต้อง” อย่างไรก็ตาม ความคิดแบบนี้จะจำกัดความสามารถในการแก้ปัญหาที่คุณกำลังเห็นไม่ตรงกันอยู่ [36] [37]
    • หากคุณตั้งใจว่าจะต้อง “ชนะ” เวลาโต้เถียงกัน นั่นหมายความว่าคุณกำลังแสดงให้คนรักเห็นว่าคุณไม่ได้ใส่ใจความคิดและความรู้สึกอีกฝ่ายเลย การกระทำเหล่านี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกลายเป็นปรปักษ์กันและปิดกั้นการสื่อสารต่อกันและกันด้วย
    • ทัศนคติแบบนี้ยังแสดงให้เห็นด้วยว่าการโต้เถียงนั้นมุ่งไปที่ความรู้สึกเหนือกว่าและการได้รับการพิสูจน์ มากกว่าการพยายามแก้ปัญหาที่ซ่อนอยู่ซึ่งเป็นต้นเหตุของการโต้เถียง
    • การพยายามเอาชนะคนรักของคุณจะไม่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุข คนที่อยู่ “ฝ่ายแพ้” ในการโต้เถียงมักจะมีความรู้สึกว่าต้อง แก้แค้น มีปฏิกิริยา และตอบโต้ และมีความเป็นไปได้ว่าคุณคงจะไม่จบด้วยการรู้สึกพอใจกับผลลัพธ์แน่นอน
  2. เหมือนกับการเริ่มโต้เถียงด้วยความรู้สึกว่าคุณจะต้อง “ชนะ” ซึ่งเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ การใช้วิธีที่ไม่ยุติธรรมในการเถียงกับคนรักของคุณก็เช่นกัน การตะโกน เงียบใส่กัน ตำหนิ หรือตั้งใจพูดบางสิ่งที่จะทำร้ายจิตใจคนรักล้วนเป็นวิธีซึ่งจะบ่อนทำลายและไม่ช่วยแก้ปัญหาใดๆ ในความสัมพันธ์ด้วย [38] [39] [40] [41]
    • คุณสามารถพูดว่าคุณไม่พอใจและโกรธได้โดยไม่ต้องพึ่งวิธีการที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น แทนที่จะกล่าวตำหนิหรือกล่าวหากัน คุณควรจะมุ่งไปที่การบอกว่าคุณรู้สึกอย่างไร และบอกอย่างเฉพาะเจาะจงด้วย
    • แทนที่จะย้ำว่า “เธอทำแบบนี้กับฉัน” ให้เปลี่ยนมาอธิบายว่าคุณรู้สึกเจ็บปวดเพราะอะไรหรือโมโหเรื่องอะไร การกล่าวหามักจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกโจมตีและก็จะไม่อยากเสียเวลาฟังคุณพูดเรื่องที่กังวลด้วย
    • อย่าใช้คำว่า “ไม่เคย” หรือ “ตลอดเวลา” เพราะคำเหล่านี้มักไม่ตรงตามความจริงและยังสร้างความกดดันระหว่างกันด้วย
    • หากพฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นระหว่างการทะเลาะกัน ให้คุณหยุดพักจากการโต้เถียงแล้วกลับมาคุยกันใหม่เมื่อคุณและคนรักใจเย็นลงแล้ว ออกไปเดินเล่น หายใจเข้าลึกๆ เขียนบันทึก หรือเล่นกับลูกๆ ก็ได้ คุณจะอารมณ์คงที่ขึ้นเมื่อกลับมาถกเถียงกับคนรักของคุณอีกครั้ง
  3. มุ่งเน้นไปที่ปัญหาเดียวเท่านั้นและเฉพาะเจาะจงด้วย. เรามักนำปัญหาอื่นเข้ามาพูดและต่อว่ากันไปเรื่อยๆ ระหว่างทะเลาะ มันเป็นสิ่งที่ห้ามได้ยาก อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้จะทำให้ปัญหาของคุณบานปลายและจำกัดความสามารถในการแก้ปัญหาด้วย [42]
    • มุ่งเน้นไปที่ปัญหาอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อที่คุณจะได้ค่อยๆ แก้มันได้โดยที่สิ่งต่างๆ ไม่น่าสับสนและน่าเลวร้ายกว่าเดิม
  4. เป็นเรื่องปกติที่จะทำความผิดพลาดในความสัมพันธ์ แต่การไม่ยอมรับว่าคุณทำผิดหรือทำให้ใครเจ็บปวดจะไม่ช่วยให้คุณคงความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุขได้ การจะแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ได้นั้น คนทั้งคู่จะต้องรู้ตัวเวลาทำผิด [43] [44]
    • หากคนรักของคุณมีความกังวลหรือปัญหาอื่นๆ ก็ให้พิจารณามันอย่างรอบคอบ เนื่องจากคนรักของคุณย่อมรู้ดีกว่าคนอื่น และความกังวลนั้นอาจเป็นจริงได้
    • ถามคนรักเกี่ยวกับคำแนะนำในการป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีกในอนาคต
    • หากคุณยอมรับความผิดของตัวเองได้ คนรักของคุณก็จะเต็มใจยอมรับความผิดของตัวเองด้วยเช่นกัน
  5. การเก็บความไม่พอใจและไม่ยอมปล่อยอดีตให้ผ่านไปจะทำให้คุณทั้งคู่ไม่มีความสุข แม้มันอาจจะเป็นเรื่องยากในการเรียนรู้ที่จะให้อภัย แต่ผลที่จะตามมาคือความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุข [45] [46] [47]
    • มันอาจช่วยได้หากคุณลองคิดดูอีกครั้งว่าทำไมคุณถึงรู้สึกเจ็บปวด ลองถามตัวเองดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันสำคัญเท่าที่คุณรู้สึกไหม และควรเต็มใจยอมรับว่าบางอย่างที่คุณพูดหรือทำไปอาจมีตัวแปรสำคัญต่อเหตุการณ์ในตอนนั้น
    • ลองถามตัวเองดูว่าบางอย่างในอดีตทำให้คุณเก็บความโกรธไว้หรือไม่
    • ลองนึกถึงสิ่งที่คุณจะได้จากการให้อภัย การเก็บความรู้สึกแย่ๆ ไว้จะทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดใจ วิตกกังวล และเครียดด้วย และการให้อภัยจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น
    • หากคุณนำเรื่องในอดีตที่ทำให้คุณเจ็บปวดกลับมาพูดบ่อยๆ คุณทั้งคู่ก็จะรู้สึกอึดอัดและสิ้นหวังเกี่ยวกับอนาคตของความสัมพันธ์ของคุณ [48] [49]
  6. ยอมรับว่าคุณอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาในความสัมพันธ์ได้. แม้ว่าคุณทั้งคู่จะรู้สึกว่าต้องแก้ปัญหาชีวิตคู่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับความสัมพันธ์ระยะยาว เราสามารถมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมีความสุขในขณะที่คิดเห็นไม่ตรงกันได้ [50]
    • บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าเป็นปัญหาในความสัมพันธ์อาจไม่ใช่ปัญหาหลักอย่างที่เราคิดในตอนแรก พยายามหามุมมองใหม่ๆ ในปัญหาโดยการถามตัวเองว่าปัญหานั้นเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้แตกหักและต้องได้รับการแก้ไขหรือไม่
    • คู่รักที่ประสบความสำเร็จจะสามารถประนีประนอม ปรับตัว และรับรู้ได้ว่าบางอย่างไม่มีค่าพอที่จะนำความสัมพันธ์ไปเสี่ยงด้วย
  7. หากคุณไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนรักหรือไม่สามารถสื่อสารให้เข้าใจในความสัมพันธ์ได้ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากนักบำบัด ผู้ให้คำปรึกษาคู่รัก หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต [51]
    • การรอจนปัญหาร้ายแรงขึ้นและทำลายความสัมพันธ์ของคุณจะทำให้แก้ไขปัญหาได้ยากขึ้น
    • จะเป็นประโยชน์มากหากคุณได้ใครสักคนที่ยุติธรรมและมีประสบการณ์ในการจัดการปัญหาความสัมพันธ์เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยและทำให้การโต้เถียงง่ายขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การจะสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานและมีความสุขได้นั้น คุณจะต้องเป็นเหมือนเพื่อนกับคนรักของคุณ ใช้เวลาเพื่อทำสิ่งที่สนใจเหมือนกัน แต่ต้องเต็มใจที่จะศึกษาในสิ่งที่ชอบไม่เหมือนกันด้วย
  • แสดงให้คนรักเห็นว่าคุณห่วงใยด้วยการทำบางสิ่งที่มีความหมายโดยไม่ต้องให้บอกก่อน
  • พยายามแก้ไขความแตกต่างด้วยการสร้างสถานการณ์ที่ได้เปรียบทั้งคู่ มากกว่าจะสร้างสถานการณ์ที่มีฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบ สถานการณ์ที่มีฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบจะไม่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานและมีความสุข


โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
จบความสัมพันธ์
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
โฆษณา
  1. http://www.focusonthefamily.com/marriage/sex-and-intimacy/the-role-of-friendship-in-marriage/twelve-steps-to-a-deeper-friendship-with-your-spouse
  2. http://www.huffingtonpost.com/2014/10/06/happy-marriage-advice_n_5941372.html
  3. https://www.psychologytoday.com/blog/lifetime-connections/201404/love-without-friendship-doesnt-last-forever
  4. https://www.psychologytoday.com/blog/our-empathic-nature/201208/how-have-happy-long-term-partnership-or-without-marriage-1
  5. https://www.psychologytoday.com/blog/the-new-grief/201111/true-generosity-key-lasting-relationship
  6. http://www.theatlantic.com/health/archive/2014/06/happily-ever-after/372573/
  7. http://www.lifebuzz.com/dont-do-this/
  8. https://www.psychologytoday.com/blog/in-love-and-war/201404/4-reasons-not-settle-in-relationship
  9. http://www.cmhc.utexas.edu/vav/vav_healthyrelationships.html
  10. http://psychcentral.com/lib/the-10-secrets-of-happy-couples/
  11. http://www.telegraph.co.uk/women/sex/relationship-advice-and-romance/11016984/Relationship-advice-five-experts-reveal-the-secrets-to-long-term-love.html
  12. http://psychcentral.com/blog/archives/2009/12/14/5-ways-to-show-you-care/
  13. http://psychcentral.com/lib/the-10-secrets-of-happy-couples/
  14. http://www.theatlantic.com/health/archive/2014/06/happily-ever-after/372573/
  15. http://www.apa.org/helpcenter/healthy-relationships.aspx
  16. http://psychcentral.com/lib/the-10-secrets-of-happy-couples/
  17. http://psychcentral.com/lib/the-10-secrets-of-happy-couples/
  18. https://www.psychologytoday.com/blog/emotional-fitness/201411/honesty-can-make-or-break-relationship
  19. http://www.mindbodygreen.com/0-15994/7-tips-to-have-a-long-lasting-happy-relationship.html
  20. http://psychcentral.com/lib/the-10-secrets-of-happy-couples/
  21. http://psychcentral.com/lib/the-10-secrets-of-happy-couples/
  22. http://www.apa.org/helpcenter/healthy-relationships.aspx
  23. http://www.apa.org/helpcenter/healthy-relationships.aspx
  24. http://psychcentral.com/lib/the-10-secrets-of-happy-couples/
  25. http://www.telegraph.co.uk/women/sex/relationship-advice-and-romance/11016984/Relationship-advice-five-experts-reveal-the-secrets-to-long-term-love.html
  26. http://www.huffingtonpost.com/2014/10/06/happy-marriage-advice_n_5941372.html
  27. http://blogs.psychcentral.com/relationship-skills/2014/11/the-prices-you-pay-for-winning-an-argument/
  28. http://www.mindbodygreen.com/0-15994/7-tips-to-have-a-long-lasting-happy-relationship.html
  29. http://psychcentral.com/lib/marriage-communication-3-common-mistakes-and-how-to-fix-them/
  30. http://www.apa.org/helpcenter/healthy-relationships.aspx
  31. http://cmhc.utexas.edu/fightingfair.html
  32. http://cmhc.utexas.edu/fightingfair.html
  33. http://cmhc.utexas.edu/fightingfair.html
  34. http://www.telegraph.co.uk/women/sex/relationship-advice-and-romance/11016984/Relationship-advice-five-experts-reveal-the-secrets-to-long-term-love.html
  35. http://www.mindbodygreen.com/0-15994/7-tips-to-have-a-long-lasting-happy-relationship.html
  36. http://www.theguardian.com/lifeandstyle/2009/oct/10/forgiveness-retaliation-revenge-dillner
  37. https://www.psychologytoday.com/blog/our-empathic-nature/201208/how-have-happy-long-term-partnership-or-without-marriage-1
  38. http://www.mindbodygreen.com/0-15994/7-tips-to-have-a-long-lasting-happy-relationship.html
  39. http://www.catherine-morris.com/articles/stronger_relationship.htm
  40. http://www.webmd.com/sex-relationships/guide/7-relationship-problems-how-solve-them
  41. http://psychcentral.com/lib/the-10-secrets-of-happy-couples/
  42. http://www.apa.org/helpcenter/healthy-relationships.aspx

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,642 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา