ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณชอบใครสักคนและค่อนข้างมั่นใจว่าเขาเองก็ชอบคุณเหมือนกัน คุณก็อาจจะกำลังสงสัยว่าถึงเวลาของจูบแรกหรือยังนะ จูบแรกเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากๆ แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้สึกประหม่าและไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วอีกฝ่ายก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันเป๊ะ เมื่อคุณพร้อมจะมีจูบแรกแล้ว ให้เลือกช่วงเวลาเหมาะๆ เช่น ตอนเดตกัน จากนั้นก็แตะตัวเขาและโน้มตัวเข้าไปจูบ เมื่อจูบกันเสร็จแล้วก็ให้จับมือหรือคลอเคลียกันสักพัก

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

สร้างบรรยากาศ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้ว่าคุณจะรอจูบแรกแทบไม่ไหวแล้ว แต่คุณก็ควรเลือกเวลาและสถานที่ที่ให้ความรู้สึกสบายๆ เสียก่อน รอจนกว่าคุณจะอยู่กับคนที่คุณอยากจูบด้วยตามลำพัง จากนั้นก็พูดคุยกับเขาเพื่อให้แน่ใจว่า เขากำลังสบายใจและอารมณ์ดี [1]
    • เช่น การเข้าไปจูบตอนที่เขากำลังทำอย่างอื่นอยู่หรือตอนที่เขาอารมณ์เสียนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย
    • ช่วงเวลาที่เหมาะกับจูบแรกคือ ตอนที่กำลังเดตกันหรือตอนนั่งฟังเพลงด้วยกัน
  2. หยอกล้อกับเขา เพื่อสร้างอารมณ์ที่นำไปสู่การจูบ. ยิ้มให้เขาและปล่อยแขนสบายๆ ข้างลำตัวเพื่อไม่ให้ดูเหมือนว่าไม่อยากให้เข้าใกล้ สัมผัสมือ แขน หรือต้นขาเขาเบาๆ ถ้าเขาอนุญาต นอกจากนี้ก็ให้กล่าวชม ถามคำถามเกี่ยวกับตัวเขา และฟังสิ่งที่เขาพูด [2]
    • สังเกตว่าเขามีท่าทียังไงเพื่อดูว่าเขาหยอกล้อคุณกลับหรือเปล่า ถ้าเขามองเข้าไปในดวงตาของคุณ ยิ้ม ไม่เอามือปิดบังร่างกาย และพูดเยอะ ก็แสดงว่าเขาน่าจะกำลังหยอกล้อกับคุณด้วยเหมือนกัน
    • แต่ถ้าคุณสังเกตว่าเขาถอยหนี เอามือกอดอก หรือมองพื้นบ่อยๆ ช้าก่อนแล้วให้พื้นที่กับเขานิดนึง
  3. ทาลิปบาล์มเพื่อให้ริมฝีปากนุ่ม แต่อย่าใช้ลิปกลอสเหนียวๆ. ไม่มีใครอยากจูบปากแห้งแตกระแหงหรอกนะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมทาลิปบาล์มให้ชุ่มชื้นเพื่อให้ริมฝีปากนุ่มและน่าจูบ และเลือกแบบที่ไม่มีกลิ่นเพราะคู่เดตของคุณเขาอาจจะไม่ถูกใจกลิ่นก็ได้ [3]
    • ลิปกลอสเหนียวๆ มักจะทำให้หมดอารมณ์เพราะมันมีเนื้อสัมผัสที่ประหลาด ใช้ลิปบาล์มธรรมดาก็พอ
    • ถ้าคุณชอบทาลิปสติกอยู่แล้ว ก่อนจะจูบใครคุณก็สามารถทาได้ตามปกติ แต่ให้เลือกลิปสติกที่ติดทนนานและไม่หลุดลอก และอย่าทาตอนใกล้จะจูบ
  4. อมลูกอมรสมินต์หรือเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อให้ลมหายใจสดชื่น. ลมหายใจเหม็นเป็นอะไรที่ทำให้หมดอารมณ์สุดๆ เพราะฉะนั้นช่วยเห็นใจคนที่คุณจะจูบด้วย อมลูกอมรสมินต์หรือเคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์สักพักก่อนเข้าไปจูบ [4]
    • เลือกลูกอมหรือหมากฝรั่งรสมินต์สูตรไม่มีน้ำตาล เพราะน้ำตาลอาจทำให้ลมหายใจยิ่งเหม็นกว่าเดิม
    • พกลูกอมรสมินต์หรือหมากฝรั่งติดตัวไว้สักห่อ คุณจะได้ทำให้ลมหายใจสดชื่นได้ตามต้องการ

    เคล็ดลับ: ถ้าคุณตั้งใจจะเข้าไปจูบเขาในวันนั้น ให้เลี่ยงอาหารกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่ และผลิตภัณฑ์นม

    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

โน้มตัวเข้าไปจูบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่างแรกให้แตะแขนหรือไหล่ของเขาก่อน จากนั้นก็เลื่อนมือไปที่ผมหรือใบหน้าแล้วค่อยๆ ลูบไล้สัก 2-3 วินาที ถ้ารู้สึกว่าพร้อมแล้ว ค่อยๆ ปัดผมที่ปรกหน้าเขาออก จากนั้นก็วางมือลงบนไหล่เขาหรือกุมใบหน้าของเขาไว้ [5]
    • หรือคุณจะเอาแขนโอบไหล่เขาไว้ก็ได้
    • ค่อยๆ แตะตัวเขาช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไปด้วยการเริ่มแตะมือเขาก่อน และไปต่อก็ต่อเมื่อเขายิ้มหรือโน้มตัวมาหาคุณเท่านั้น

    เคล็ดลับ: คุณจะเปลี่ยนใจไม่จูบแล้วก็ได้ และคุณก็ไม่จำเป็นต้องทำถ้าคุณตัดสินใจได้ว่าไม่อยากจูบ เป็นเรื่องปกติมากๆ ที่คุณจะรู้สึกประหม่าและเปลี่ยนใจ ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจ ให้เปลี่ยนเรื่องโดยการชวนเขาไปทำอย่างอื่น พูดประมาณว่า "ผมขอดูเกมที่คุณเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม" "คนอื่นทำอะไรกันอยู่นะ ไปดูกันเถอะ!" หรือ "ผมหิวแล้ว! ไปหาขนมกินกัน"

  2. สบตาเขาและจ้องค้างไว้ 1-3 วินาที จากนั้นก็มองไปทางอื่นสักเดี๋ยว แล้วก็กลับมาสบตาเขาอีกเรื่อยๆ แต่อย่าจ้องนาน [6]
    • ถ้าเขาสบตาคุณ เขาก็น่าจะสนใจคุณและอาจจะเปิดทางให้คุณจูบด้วย
    • ถ้าเขาหลบตาคุณ แสดงว่าเขาอาจจะไม่อยากจูบ
  3. การขอความยินยอมก่อนเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณแน่ใจได้ว่า ทั้งคุณและเขาต่างก็อยากจะให้มีการจูบเกิดขึ้น มันอาจจะฟังดูน่ากลัว แต่จริงๆ แล้วมันโรแมนติกมากนะ วิธีการถามก็เช่น: [7]
    • “ฉันขอจูบคุณได้ไหม”
    • “ฉันจูบได้ไหม”
    • “คุณอยากจูบไหม”

    เคล็ดลับ: ถ้าคุณไม่กล้าถาม ก็ไม่เป็นไรเลย! หลายคนไม่กล้าขออีกฝ่ายจูบ เพราะฉะนั้นคุณอาจจะเขียนโน้ตสั้นๆ ให้เขาแทนโดยเขียนว่า “จูบฉันไหม” หรือ “เราจูบกันได้ไหม”

  4. เขยิบเข้าไปใกล้เขาหรือโน้มตัวไปทางเขาเพื่อไม่ให้เหลือช่องว่าง จากนั้นก็รอเขาเข้ามาใกล้ ซึ่งเป็นการบอกให้รู้ว่าเขาอยากจูบคุณเหมือนกัน [8]
    • ถ้าเขาเขยิบหนี แสดงว่าเขาอาจจะไม่ได้อยากจูบ คุณควรถอยกลับมาและคืนพื้นที่ให้เขา
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Chloe Carmichael, PhD

    นักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาต
    โคลอี้ คาร์ไมเคิลเป็นนักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาตซึ่งเปิดการฝึกส่วนตัวโดยเน้นไปที่ประเด็นความสัมพันธ์ การจัดการความเครียดและโค้ชอาชีพได้อย่างประสบความสำเร็จในนิวยอร์ก เธอสำเร็จปริญญาเอกทางจิตวิทยาการรักษาจากมหาวิทยาลัยลองไอส์แลนด์และเป็นผู้เขียนหนังสือติดอันดับขายดีของแอมาซอนเรื่อง Dr. Chloe’s 10 Commandments of Dating
    Chloe Carmichael, PhD
    นักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาต

    การแสดงสัญญาณว่าจะจูบนั้นเป็นการแสดงถึงความมั่นใจในตัวเอง เพราะการจูบเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการ ดร. โคลอี้ คาร์ไมเคิล ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์กล่าวว่า : "ถ้าคุณมีความมั่นใจมากพอที่จะโน้มตัวไปจูบอีกฝ่าย เขาก็อาจจะมองว่าคุณเป็นคนมั่นใจในตัวเองและไม่มีปัญหากับการเป็นฝ่ายรุก ปฏิสัมพันธ์ทางกายในระยะแรกๆ นั้นเป็นเรื่องของความแปลกใหม่และสิ่งต้องห้าม และถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังยืนยันที่จะทำสิ่งนั้น มันก็จะกลายเป็นความตื่นเต้นถ้าทั้งสองฝ่ายต่างรู้สึกดี"

  5. คอยดูว่าเขาเอียงศีรษะไปทางด้านขวาหรือซ้าย แล้วค่อยเอียงศีรษะของคุณไปในทิศทางที่ตรงกันข้าม จมูกของคุณจะได้ไม่ชนกันระหว่างจูบ [9]
    • คุณไม่ต้องเอียงศีรษะมากนักก็ได้ แค่ดูให้ดีว่าจมูกของคุณไม่ได้ตรงกับจมูกของเขาพอดี
  6. หลับตาขณะที่ยื่นหน้าเข้าไป จูบ . ขณะที่คุณเข้าไปใกล้ริมฝีปากของเขา ให้หลับตาจนกว่าจะถอนจูบ เพื่อไม่ให้เขารู้สึกอึดอัดระหว่างจูบ [10]
    • ถ้าคุณจ้องหน้าเขาระหว่างจูบ เขาก็อาจจะรู้สึกอึดอัด แถมการลืมตายังอาจทำให้คุณเข้าไม่ถึงอารมณ์ด้วย
  7. อ้าปากเล็กน้อยและประกบเข้ากับริมฝีปากของเขา. ผ่อนคลายริมฝีปาก อย่าเกร็ง อย่าลืมเอียงศีรษะเล็กน้อยเพื่อไม่ให้จมูกชนกัน จูบเขาอย่างอ่อนโยนสักครู่ พยายามอย่าให้น้ำลายโดนริมฝีปากเขา [11]
    • ระหว่างจูบคุณจะไม่อ้าปากก็ได้
    • อย่าอ้าปากกว้างหรือใช้ลิ้นในจูบแรก
  8. เอา มือ ไว้หลังศีรษะหรือหลังช่วงล่างของเขา. การหาตำแหน่งวางมือระหว่างจูบอาจจะอยากนิดนึง ให้เอามือไว้หลังศีรษะของเขา อาจจะเล่นผมหรือลูบไล้ลำคอของเขาขณะจูบไปด้วยก็ได้ หรือถ้าจะเอาง่ายๆ ก็ให้วางมือไว้ที่บริเวณหลังช่วงล่างของเขา [12]
    • คุณไม่จำเป็นต้องวางมือไว้ที่ตำแหน่งเหล่านี้เสมอไป แต่เป็นจุดที่แนะนำหากคุณไม่เคยจูบมาก่อน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ถอนจูบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าจูบเขานานเกิน 2-3 วินาที หยุดและถอยออกมาเพื่อให้มีพื้นที่ระหว่างคุณสองคน พักหายใจในช่วงเวลานั้นและคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น [13]
    • คุณจะกลับไปจูบอีกครั้งก็ได้ แต่พักสักแป๊บนึงก่อนดีกว่า
  2. จำไว้ว่าอีกฝ่ายเองก็น่าจะประหม่าเรื่องจูบไม่แพ้คุณ บอกให้รู้ว่าคุณชอบด้วยการมองหน้าเขาแล้วยิ้มให้ [14]
    • นอกจากนี้คุณก็อาจจะกุมมือหรือเอาแขนโอบเขาไว้ก็ได้
  3. กลับไปจูบอีกครั้งก็ต่อเมื่อเขาดูพร้อมเท่านั้น. สบตาแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้อีกครั้ง สังเกตว่าเขาโน้มตัวเข้ามาเหมือนกันหรือเปล่า ถ้าคุณไม่แน่ใจ ให้ถามเขาว่าอยากจูบอีกครั้งไหม [15]
    • ถามว่า “คุณพร้อมจูบอีกครั้งไหม” หรือ “เราจูบกันอีกครั้งได้ไหม”
    • จูบอีกครั้งก็ต่อเมื่อคุณต้องการแบบนั้น ไม่ต้องกดดันว่าต้องจูบอีกครั้งถ้าไม่อยากจูบ
  4. หลังจากจูบกันแล้ว ให้ใกล้ชิดกันสักพักโดยไม่ต้องจูบ กอดเขาไว้ในอ้อมแขน ซุกตัวข้างเขา หรือกุมมือกัน ทำอะไรก็ได้ที่คุณทั้งสองคนรู้สึกสบายใจ [16]
    • ผ่อนคลายและมีความสุขกับช่วงเวลานี้ด้วยกัน คุณอาจจะดูหนัง พูดคุย หรือออกไปเดินเล่น
  5. คุณอาจจะรู้สึกตะลึงงันหรือประหม่าหลังจากที่เพิ่งจะจูบกัน ในทางตรงกันข้ามคุณก็อาจจะตื่นเต้นและอยากพูดเรื่องนี้มากๆ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกแบบไหน ให้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายเมื่อคุณพร้อม ไม่ว่าจะเป็นหลังจากจูบกันทันที หรือจะคุยกันทีหลังในวันนั้นหรือคืนนั้นก็ได้ [17]
    • เช่น พูดทำนองว่า “ฉันอยากจูบคุณมานานมากแล้ว” “ดีจังนะ” หรือ “คุณจูบเก่งนะ”
    • คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทันทีก็ได้ รอก่อนได้ไม่เป็นไร
  6. ส่งข้อความ โทรหา หรือพูดคุยกับคนที่คุณจูบเพื่อดูว่าเขาเป็นยังไงบ้าง บอกให้เขารู้ว่าคุณอยากไปเดตหรือใช้เวลาร่วมกับเขาอีกครั้ง นอกจากนั้นก็ให้บอกเขาด้วยว่าคุณรู้สึกดีที่ได้จูบหรือเปล่า [18]
    • จำไว้ว่าการมีจูบแรกไม่ได้หมายความว่าคุณต้องจูบกันตลอด คุณอาจจะตัดสินใจว่าจะรอสักพักแล้วค่อยจูบกันอีกครั้งก็ได้ ในทางตรงกันข้ามมันก็เป็นเรื่องปกติมากๆ ที่คุณจะรู้สึกตื่นเต้นกับการที่จะได้จูบกันอีกครั้ง
    • พูดประมาณว่า "เมื่อคืนนี้สนุกดีนะ ผมรู้สึกดีที่เราได้จูบกัน พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนคุณอยากเดินไปส่งผมที่บ้านไหม"
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ผ่อนคลาย เพราะมันจะทำให้การจูบน่าประทับใจมากขึ้น
  • เป็นเรื่องปกติและธรรมดามากๆ ที่จูบแรกของคุณจะรู้สึกกระอักกระอ่วน แค่พยายามดื่มด่ำกับช่วงเวลานั้นก็พอ
  • เป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้สึกประหม่าที่ได้จูบใครเป็นครั้งแรก
  • ถ้าคุณประหม่า ให้พูดคุยกับอีกฝ่ายว่าเขารู้สึกยังไง เขาเองก็อาจจะรู้สึกประหม่าเหมือนกันก็ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าจูบถ้าอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่สบาย เช่น ถ้าเขาไอหรือจาม เช่นเดียวกันคืออย่าจูบคนที่มีรอยแผลบริเวณริมฝีปาก เพราะถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นแค่สิว แต่มันก็อาจจะเป็นเริมได้เช่นกัน ซึ่งเป็นโรคติดต่อ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 29,595 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา