ท้องเสียนั้นเป็นหนึ่งในอาการเจ็บป่วยพื้นฐานที่สุดของทุกช่วงวัย ซึ่งส่วนใหญ่ทุกคนเคยเป็นมาแล้ว โดยอาจเป็นเพราะการเคลื่อนตัวของลำไส้ที่หลวมหรือเป็นน้ำ และอาจเป็นไข้ ตะคริว เวียนศีรษะ หรืออาเจียนร่วมด้วย [1]
X
แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้
Mayo Clinic
ไปที่แหล่งข้อมูล
รวมทั้งในหลายๆ กรณีจะไม่ร้ายแรง และสามารถหายได้ในไม่กี่วัน โดยการรักษาทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ด้วยการไม่ขาดน้ำและการรักษาแบบพื้นบ้าน
ห้ามรักษาด้วยวิธีนี้ในเด็กทารกและเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ให้ไปหากุมารแพทย์และทำตามคำแนะนำดีกว่า แต่อย่าให้ยาแก้ท้องเสียกับเด็กเล็กโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน [2]
X
แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้
HealthyChildren.org
ไปที่แหล่งข้อมูล
ขั้นตอน
-
เรียนรู้ว่าท้องเสียเกิดจากอะไร. โดยส่วนใหญ่เกิดจากแบคทีเรีย ไวรัสและพยาธิ และอาจถูกกระตุ้นจากปฏิกิริยาของยา รวมถึงยาสมุนไพร และอาการไวต่ออาหาร เช่น การไวต่อซอร์บิทอลและแมนนิทอล นอกจากนี้อาการไม่ย่อยแลคโตสก็ทำให้เกิดท้องเสียด้วย เมื่อกินผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไป [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- รวมไปถึงความผิดปกติของลำไส้ เช่น อาการลำไส้อักเสบและโรคโครห์น ก็ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ซึ่งต้องการการรักษาทางการแพทย์ และมักต้องจ่ายยาสำหรับการรักษา [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ท้องเสียก็ยังเป็นผลข้างเคียงของการรักษาด้วยเคมีบำบัด และการรักษาด้วยรังสีด้วย [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
รู้จักอาการท้องเสีย. ซึ่งอาการท้องเสียส่วนใหญ่นั้น “ไม่ได้ซับซ้อน” และมักจะหายเองได้ในไม่กี่วัน โดยอาการที่ไม่ซับซ้อนก็มี : [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ท้องอืดหรือเป็นตะคริว
- ท้องผูกหรือท้องเสีย
- อุจจาระเหลว
- รู้สึกถึงลำไส้ที่เคลื่อนบ่อยหรือเร็ว
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ไข้อ่อนๆ
-
ตรวจดูว่ามีเลือดหรือน้ำหนองในอุจจาระไหม. โดยอาการผิดปกติของลำไส้อักเสบ เช่น โรคโครห์น ลำไส้อักเสบเรื้อรัง และการติดเชื้อเรื้อรัง ทำให้มีเลือดและ หรือน้ำหนองปรากฏอยู่ในของเสียที่ขับออกมาได้ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ดังนั้นควรหาการช่วยเหลือทางการแพทย์ให้เร็วที่สุด ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
- โดยการกินยาปฏิชีวนะอาจจะทำให้มีเลือดหรือน้ำหนองอยู่ในอุจจาระ ซึ่งยาอาจจะทำลายแบคทีเรียที่ดีในลำไส้หมดและมันอาจทำให้แบคทีเรียที่เป็นอันตราย จนเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตรวจไข้. เพราะอาการไข้มักจะเกิดร่วมกับท้องเสียด้วย ซึ่งมันอาจจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงขึ้น โดยหากมีไข้ 38.9 องศาเซลเซียส หรือมากว่านั้น หรือเป็นเกิน 24 ชั่วโมง ให้พบแพทย์โดยด่วน [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล
-
รู้อาการขาดน้ำในเด็ก. ถ้ามีอาการท้องเสีย ก็อาจจะขาดน้ำด้วย โดยสัญญาณในเด็กจะมี : [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HealthyChildren.org ไปที่แหล่งข้อมูล
- ปัสสาวะน้อยลงหรือผ้าอ้อมแห้ง
- ไม่มีน้ำตา
- ปากแห้ง
- มีอาการง่วงหรือเซื่องซึม
- ตาโหล
- หงุดหงิดไม่สบายตัว
โฆษณา
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอ. เพราะการท้องเสียจะเอาน้ำออกจากร่างกาย ดังนั้นต้องดื่มน้ำเยอะๆ เพราะน้ำนั้นสำคัญ แต่ควรหาเครื่องดื่มที่มีอิเล็กโทรไลต์ เช่น โซเดียม คลอไรด์ และโพแทสเซียม ด้วย ซึ่งน้ำเปล่าอย่างเดียวนั้นมีอิเล็กโทรไลต์ไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มร่างกายที่ขาดน้ำได้ [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล
- ผู้ชายควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 13 ถ้วย หรือ 3 ลิตร ส่วนผู้หญิงอย่างน้อย 9 ถ้วย หรือ 2.2 ลิตร เพื่อสุขภาพ แต่อาจจะต้องดื่มมาขึ้น เพื่อสู้กับภาวะขาดน้ำ เมื่อมีอาการท้องเสีย [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- น้ำ น้ำผัก (โดยเฉพาะคื่นฉ่าย และแครอท) เครื่องดื่มสปอร์ต ยาเติมอิเล็กโทรไลต์ ชาสมุนไพร (ไม่มีคาเฟอีน) น้ำขิงแดงไม่มีฟอง และน้ำสต็อกรสเค็มอย่าง ซุปมิโซะ นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใหญ่ [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล
- น้ำข้าวจากบาร์เลย์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการเติมความชุ่มชื้น โดยใช้บาร์เลย์ดิบ 1 ถ้วย ลงในน้ำต้มเดือด 1 ลิตร แล้วปล่อยซัก 20 นาที จากนั้นเทน้ำออกและดื่มตลอดวัน [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เด็กควรดื่มสารที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น เช่น Pedialyte และ Infalyte ซึ่งมันทำให้ความต้องการสารอาหารของพวกเขาสมดุล และมีขายในร้านค้าและร้านขายยาทั่วไป [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล นอกจากนี้น้ำองุ่นขาวก็อาจจะดีกับเด็กที่ขาดน้ำจากอาการท้องเสียด้วย [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ออกห่างจากคาเฟอีนและน้ำอัดลม. เพราะเครื่องดื่มพวกนี้มันรบกวนลำไส้ และทำให้อาการท้องเสียแย่ลงไปอีก [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง โดยหากอยากดื่มเครื่องดื่ม เช่น น้ำขิงแดง ให้คนและปล่อยมันค้างคืนไว้ เพื่อที่จะให้ฟองหายไป
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์เมื่อท้องเสีย เพราะมันทำให้ร่างกายขาดน้ำและอาการจะแย่ลงด้วย [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองชาสมุนไพร. เปปเปอร์มินท์ คาโมมายล์ และชาเขียวจะหยุดอาการวิงเวียน ที่มักจะเกิดร่วมกับท้องเสียอย่างได้ผลเลยทีเดียว โดยสามารถใช้ถุงชาสำเร็จรูปหรือเตรียมเองก็ได้ [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ชาคาโมมายล์นั้นปลอดภัยสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ยกเว้นหากแพ้หญ้า ragweed [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ดังนั้นไม่ควรเอาสมุนไพรมาใช้กับเด็ก โดยไม่ปรึกษากุมารแพทย์ก่อน [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทำชาลูกซัด fenugreek ก็ได้ โดยการเติมเมล็ดลูกซัด 1 ช้อนชาต่อน้ำร้อน 1 แก้ว และแม้จะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอในการยืนยันว่ามันได้ผลขนาดไหน แต่มันก็อาจทำให้อาการท้องไส้ปั่นป่วนสงบลงและต้านอาการวิงเวียนได้ [24] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ปรึกษาหมอก่อนลองชาสมุนไพรอื่นๆ โดยชาที่ทำจากใบแบล็คเบอร์รีหรือราสเบอร์รี บิลเบอร์รีหรือแครอบจะช่วยทำให้กระเพาะสงบลงและรวมถึงอาการลำไส้อักเสบด้วย แต่มันอาจไปรบกวนการทำงานของยาตัวอื่น และทำให้เกิดความซับซ้อนกับโรคประจำตัวอื่นๆ ดังนั้นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้สมุนไพรเหล่านี้ [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองยาขิงปรุงสำเร็จ. โดยขิงจะช่วยต้านอาการวิงเวียนและอักเสบ [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง รวมทั้งสามารถดื่มน้ำขิงแดงแบบไม่มีฟอง (ไร้คาร์บอน) หรือชาขิงเพื่อระงับอาการท้องไส้ปั่นป่วน และทำให้อาการลำไส้อักเสบดีขึ้น ซึ่งถ้าดื่มน้ำขิงแดงให้หายี่ห้อที่ใช้ขิงจริง เพราะน้ำขิงแดงบางที่ก็ใช้ขิงแท้ไม่พอ ทำให้ไม่ได้ผล
- ทำชาขิงได้โดยต้มขิงสด 12 ชิ้น กับน้ำ 3 ถ้วย เคี่ยวจนเดือดและปล่อยให้ชาจางลง ประมาณ 20 นาที [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แล้วคนในน้ำผึ้งเล็กน้อยก่อนดื่มชา เพราะน้ำผึ้งก็อาจช่วยอาการท้องเสียได้ [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ชาขิงนั้นปลอดภัยสำหรับหญิงมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร [29] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล แต่หญิงตั้งครรภ์ก็ไม่ควรกินขิงเกินวันละ 1 กรัม [30] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบกินขิง แต่เด็กอายุมากกว่า 2 ขวบอาจจะได้ประโยชน์จากน้ำขิงแดงหรือชาขิงปริมาณน้อยๆ ในการรักษาอาการวิงเวียน กระเพาะปั่นป่วน และท้องเสียได้ดี [31] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ขิงอาจจะไปรบกวนยาจางเลือด เช่น แอสไพรินหรือยาวาร์ฟาริน (คูมาดิน) ดังนั้นห้ามใช้ขิง หากมีอาการโลหิตจาง
-
จิบเล็กๆ. ถ้าอาการท้องเสียมีสาเหตุจาก “เชื้อโรคในกระเพาะอาหาร” หรือมีอาการอาเจียน ดื่มน้ำมากๆ ในคราวเดียว จะทำให้อาการแย่ลงไปอีก [32] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ดังนั้นให้ลองจิบน้ำน้อยๆ บ่อยๆ ตลอดวัน เพื่อให้กระเพาะอยู่ตัว
- สามารถใช้น้ำแข็งก้อน หรือไอศกรีมแท่งแช่แข็งเพื่อรักษาน้ำไว้ได้ [33] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง และมันยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเด็กที่อยากดื่มน้ำครั้งละมากๆ เมื่อขาดน้ำด้วย
-
ให้นมบุตรต่อไป. ถ้าเด็กที่ให้นมท้องเสีย ก็ให้นมต่อ เพราะมันจะเป็นการช่วยให้เด็กรู้สึกสบายและทำให้เขาไม่ขาดน้ำ [34] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HealthyChildren.org ไปที่แหล่งข้อมูล
- ห้ามให้นมวัวกับเด็กทารกที่ท้องเสีย เพราะมันอาจจะก่อให้เกิดแก๊สและอาการท้องอืดได้
โฆษณา
-
กินใยอาหารให้เพียงพอ. เพราะมันจะช่วยดูดซับน้ำและทำให้อุจจาระแข็งตัว ซึ่งมันจะทำให้อาการท้องเสียลดลง โดยสำนักสารอาหารและโภชนวิทยาแนะนำให้ผู้หญิงได้รับใยอาหารอย่างน้อย 25 กรัม และผู้ชาย 38 กรัม [35] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แล้วลองเพิ่มใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ หรืออาหารหยาบเมื่อท้องเสีย
- ข้าวกล้อง บาร์เลย์ หรือธัญพืชเต็มเมล็ดอื่นๆ เป็นแหล่งใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำที่ดี [36] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง โดยทำให้มันสุกก่อนในไก่ไขมันต่ำ หรือซุปมิโซะเพื่อทดแทนจากการขาดเกลือ
- อาหารที่มีโพแทสเซียมและใยอาหาร เช่น มันฝรั่งบดหรือต้ม และกล้วย [37] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แครอทสุกเป็นแหล่งที่ดีของใยอาหาร โดยสามารถบดได้ถ้าต้องการ [38] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล
-
กินแครกเกอร์รสเค็ม. เพราะมันเป็นอาหารอ่อน และช่วยบรรเทาอาการท้องไส้ปั่นป่วน [39] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง โดยแครกเกอร์บางชนิดก็มีใยอาหารที่ช่วยทำให้อุจจาระแข็งตัวด้วย
- ถ้าแพ้กลูเตนให้ลองแครกเกอร์จากข้าวแทนที่ทำจากข้าวสาลี
-
ลองกิน BRAT. ส่วนประกอบของการกินแบบนี้มี กล้วย ข้าว ซอสแอปเปิล และขนมปังปิ้ง ซึ่งช่วยเพิ่มการขับถ่ายและมีสารอาหารที่อ่อนโยนที่จะไม่ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน [40] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ FamilyDoctor.org ไปที่แหล่งข้อมูล .
- เลือกข้าวกล้องและขนมปังปิ้งแบบธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งมีใยอาหารและสารอาหาร เช่น วิตามิน และเกลือแร่มากกว่า
- ซอสแอปเปิลมีสารเพกติน ซึ่งช่วยทำให้อุจจาระแข็งตัว โดยน้ำแอปเปิลจะมีผลช่วยระบาย ซึ่งทำให้อาการท้องเสียแย่ลงได้ [41] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง หากยังอาเจียนอยู่ แต่ให้ดื่มน้ำซุปหรือน้ำอื่นๆ และไปหาหมอ
-
หลีกเลี่ยงนมและผลิตภัณฑ์จากนม. ซึ่งมันทำให้ท้องเสียจากอาการแพ้แลคโตสได้ [42] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล หรือแม้แต่การท้องเสียอย่างเดียว แบบที่ไม่แพ้แลคโตสก็ย่อยผลิตภัณฑ์จากนมยากอยู่แล้ว [43] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เลี่ยงอาหารมัน ทอด หรือเผ็ด. ซึ่งมันจะทำให้กระเพาะปั่นป่วนและอาการท้องเสียแย่ลง [44] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แต่ให้กินอาหารที่รสจืด อ่อนๆ ที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นแทนโฆษณา
-
ลองยารักษากระเพาะ Bismuth subsalicylate. ซึ่งมียี่ห้อ Pepto-Bismol และ Kaopectate โดยจะช่วยลดอาการอักเสบและช่วยจัดการของเหลวในร่างกายให้ดีขึ้น [47] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ FamilyDoctor.org ไปที่แหล่งข้อมูล
- มันอาจมีผลที่ต้านแบคทีเรียอ่อนๆ ด้วย ซึ่งดีต่ออาการท้องเสียที่เกิดจาก “เชื้อโรคในกระเพาะอาหาร” หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น “อาการท้องเสียของนักท่องเที่ยว” [48] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามใช้ Pepto-Bismol ถ้าแพ้แอสไพริน และห้ามกินร่วมกับยาที่มีแอสไพรินเป็นส่วนประกอบ [49] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามให้ยาแก้ท้องเสียกับเด็กเล็ก โดยไม่ปรึกษากุมารแพทย์ก่อน [50] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HealthyChildren.org ไปที่แหล่งข้อมูล
-
กินใยอาหารไซเลียม. ซึ่งเป็นแหล่งใยอาหารที่ละลายที่ดี และช่วยซึมซับน้ำในลำไส้และทำให้อุจจาระแข็งตัวด้วย [51] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผู้ใหญ่ควรกินในปริมาณเล็กน้อย (1/2 ถึง 2 ช้อนชา หรือ 2.5 ถึง 10 กรัม) ผสมกับน้ำ ถ้าไม่ชินให้เริ่มที่ปริมาณน้อยๆ ก่อน และค่อยๆ เพิ่มให้มากขึ้น
- ห้ามให้เด็กเล็กกิน โดยไม่ปรึกษากุมารแพทย์ก่อน [52] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง และเด็กที่อายุ 6 ปีขึ้นไปสามารถกินได้ในปริมาณน้อยๆ (1/4 ช้อนชา หรือ 1.25 กรัม) ผสมกับน้ำ
-
ไปหาหมอ. ถ้าท้องเสียเกิน 5 วัน (สำหรับผู้ใหญ่) ให้นัดพบหมอได้เลย [53] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แต่ถ้าท้องเสียเกิน 1 วัน (สำหรับเด็ก) ให้พบหมอให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ [54] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล
- หาหมอทันทีที่มีเลือดหรือน้ำหนองปนอยู่ในอุจจาระ หรือถ้ามีไข้สูง 38.9 องศาเซลเซียสขึ้นไป
- ถ้ามีความเจ็บปวดที่รุนแรงที่บริเวณหน้าท้อง หรือทวารหนัก ให้พบแพทย์โดยด่วน [55] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ถ้ากำลังมีปัญหาในการทำตัวให้ไม่ขาดน้ำ อาจจะมีอาการ เช่น มึนงง ปวดหัวเบาๆ อ่อนแรงสุดๆ หรือปากแห้ง ถ้ายังมีอาการเหล่านี้อยู่ให้ไปหาหมอ เพราะอาการขาดน้ำขั้นสูงสุดจะทำให้เกิดอาการป่วย และถึงขั้นเสียชีวิตได้ [56] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
เคล็ดลับ
- กินอาหารอ่อนๆ เพราะของที่รสเผ็ดหรือร้อนเกินไปจะทำให้การท้องเสียแย่ลงได้
- อ่านและทำตามป้ายแนะนำบนขวดหรือกล่องยาที่ซื้อมาเอง รวมทั้งต้องก่อนในปริมาณที่แนะนำเท่านั้น
- หลีกเลี่ยงผลไม้ คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ใน 48 ชั่วโมงหลังจากมีอาการ
- การปล่อยให้ “หายเอง” จะดีที่สุดสำหรับอาการท้องเสียในหลายคน และหากมันเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือพยาธิ ร่างกายจะใช้การท้องเสียเป็นตัวขับมันออก โดยลองกินโภชนบำบัดก่อนที่จะกินยาต้านอาการท้องร่วง
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้ามีเลือด เมือก หรือน้ำหนองในอุจจาระ ให้พบแพทย์โดยด่วน
- ห้ามใช้การรักษาแบบพื้นบ้านกับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี โดยติดต่อขอคำแนะนำจากกุมารแพทย์
- ถ้าเด็กหรือคนอื่นมีไข้สูง (38.9 องศาเซลเซียสหรือสูงกว่า) ร่วมกับท้องเสีย ให้ติดต่อแพทย์ทันที
- ถ้าเด็กไม่ดื่มหรือปัสสาวะ ให้พาไปหากุมารแพทย์โดยด่วน [57] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases ไปที่แหล่งข้อมูล
- ยาต้านอาการท้องร่วง เช่น Imodium อาจจะทำให้อาการแย่ลง ถ้าการท้องเสียนั้นมาจากการติดเชื้อ [58] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ FamilyDoctor.org ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diarrhea/basics/definition/con-20014025
- ↑ http://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/abdominal/Pages/Diarrhea.aspx
- ↑ http://umm.edu/system-hospital-sites/shore-health/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ http://umm.edu/system-hospital-sites/shore-health/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/cancer/in-depth/diarrhea/art-20044799
- ↑ http://www.webmd.com/digestive-disorders/digestive-diseases-diarrhea
- ↑ http://www.webmd.com/digestive-disorders/digestive-diseases-diarrhea
- ↑ http://www.drugs.com/symptom/diarrhea-17.html
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/ez.aspx#eating
- ↑ http://www.webmd.com/digestive-disorders/diarrhea-10/symptoms-serious
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/003130.htm
- ↑ http://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/abdominal/Pages/Diarrhea.aspx
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/ez.aspx#eating
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-living/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/water/art-20044256?pg=2
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/ez.aspx#eating
- ↑ http://umm.edu/system-hospital-sites/shore-health/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/ez.aspx#eating
- ↑ http://www.nydailynews.com/life-style/health/no-stomach-flu-facts-myths-treat-article-1.365819
- ↑ http://www.webmd.com/ibs/guide/ibs-triggers-prevention-strategies
- ↑ http://www.iffgd.org/site/gi-disorders/functional-gi-disorders/diarrhea/common-causes/
- ↑ http://www.healthguidance.org/entry/14527/1/How-to-Calm-an-Upset-Stomach.html
- ↑ http://www.webmd.com/balance/features/herbs-for-kids-feature
- ↑ http://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-733-fenugreek.aspx?activeingredientid=733&activeingredientname=fenugreek
- ↑ http://umm.edu/health/medical/altmed/condition/diarrhea
- ↑ http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-961-ginger.aspx?activeingredientid=961&activeingredientname=ginger
- ↑ http://www.vegetariantimes.com/recipe/ginger-tea/
- ↑ http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-738-honey.aspx?activeingredientid=738&activeingredientname=honey
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/15802416
- ↑ http://umm.edu/health/medical/altmed/herb/ginger
- ↑ http://umm.edu/health/medical/altmed/herb/ginger
- ↑ http://www.webmd.com/digestive-disorders/diarrhea-stomach-flu?page=2
- ↑ http://www.uhs.umich.edu/diarrheavomiting
- ↑ http://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/abdominal/Pages/Diarrhea.aspx
- ↑ http://www.webmd.com/digestive-disorders/features/diarrhea-diet-facts-about-fiber
- ↑ http://www.webmd.com/digestive-disorders/features/diarrhea-diet-facts-about-fiber?page=2
- ↑ http://www.iffgd.org/site/gi-disorders/functional-gi-disorders/diarrhea/nutrition
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/ez.aspx#eating
- ↑ http://www.healthguidance.org/entry/14527/1/How-to-Calm-an-Upset-Stomach.html
- ↑ http://familydoctor.org/familydoctor/en/prevention-wellness/food-nutrition/weight-loss/brat-diet-recovering-from-an-upset-stomach.html
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-living/infant-and-toddler-health/expert-answers/infant-constipation/faq-20058519
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diarrhea/basics/causes/con-20014025
- ↑ http://www.healthguidance.org/entry/14527/1/How-to-Calm-an-Upset-Stomach.html
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000121.htm
- ↑ http://www.healthguidance.org/entry/14527/1/How-to-Calm-an-Upset-Stomach.html
- ↑ http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/patientinstructions/000121.htm
- ↑ http://familydoctor.org/familydoctor/en/drugs-procedures-devices/over-the-counter/antidiarrheal-medicines-otc-relief-for-diarrhea.html
- ↑ http://www.medicinenet.com/diarrhea/page9.htm#what_home_remedies_help_the_symptoms_of_diarrhea
- ↑ http://www.medicinenet.com/diarrhea/page9.htm#what_home_remedies_help_the_symptoms_of_diarrhea
- ↑ http://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/abdominal/Pages/Diarrhea.aspx
- ↑ http://umm.edu/health/medical/altmed/supplement/psyllium
- ↑ http://umm.edu/health/medical/altmed/supplement/psyllium
- ↑ http://www.webmd.com/digestive-disorders/digestive-diseases-diarrhea?page=2
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/ez.aspx#eating
- ↑ http://www.mayoclinic.org/symptoms/diarrhea/basics/when-to-see-doctor/sym-20050926
- ↑ http://www.webmd.com/a-to-z-guides/dehydration-adults
- ↑ http://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/digestive-diseases/diarrhea/Pages/ez.aspx#eating
- ↑ http://familydoctor.org/familydoctor/en/drugs-procedures-devices/over-the-counter/antidiarrheal-medicines-otc-relief-for-diarrhea.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,507 ครั้ง
โฆษณา