PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการลบหรือปิดการใช้งานแอพ Samsung Pay ในสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ให้คุณเอง ปกติคุณจะลบแอพ Samsung Pay ไม่ได้ ถ้า Android ยังไม่ root เครื่อง แต่ป้องกันไม่ให้แอพมากวนใจได้ โดยลบ shortcut ปฏิเสธการตั้งค่า และ/หรือย้ายแอพไปซ่อนในโฟลเดอร์ลับ ถ้าคุณยังไม่ได้อัพเดท Android ใน Samsung Galaxy เป็นเวอร์ชั่น Oreo ก็โชคดี เพราะยังปิดการทำงาน (ลบไม่ได้) ของแอพ Samsung Pay ได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ลบแอพ Samsung Pay จาก Android ที่ root เครื่องแล้ว

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. root เครื่อง Android ก่อน ถ้าจำเป็น. คุณลบ Samsung Pay ไม่ได้ ถ้าใช้ settings ของ Android ปกติ ต้อง root เครื่อง Android ก่อน ถึงจะลบแอพนี้ได้
    • แต่ถ้า root เครื่อง Android ก็เท่ากับ Samsung ของคุณประกันขาดไปเลย รวมถึงไม่รับผิดชอบในกรณีที่ root เครื่องแล้วเกิดความเสียหายที่แก้ไขไม่ได้
  2. ปกติแอพนี้จะอยู่ใน Google Play Store ใช้ลบแอพต่างๆ ที่ติดมากับเครื่องได้
  3. โดยแตะ OPEN ใน Google Play Store
    • หรือแตะไอคอนแอพ Titanium Backup ใน App Drawer ของ Android เพื่อเปิดขึ้นมา
  4. อาจจะต้องเลื่อนลงไปก่อน ถึงจะเจอตัวเลือกนี้
  5. ทางด้านบนของหน้าจอ เพื่อให้ Titanium Backup เริ่มลบแอพ Samsung Pay ไปจากสมาร์ทโฟน
    • หรือเลือก “Freeze” แอพ โดยที่แอพจะยังติดตั้งอยู่ในความจำของเครื่อง แต่แค่ลบไปจากเมนู และหยุด processes ไม่ให้ทำงานในเบื้องหลัง ตัวเลือกนี้ไม่ส่งผลถาวรเท่าถอนการติดตั้ง เผื่อยังไม่แน่ใจว่าจะลบแอพดีหรือไม่ [1]
  6. อาจจะใช้เวลา 2 - 3 นาที พอลบ Samsung Pay แล้ว ก็ปิด Titanium Backup ได้เลย เท่านี้ Samsung Pay ก็จะหายไปจากหน้า Home และ App Drawer
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ลดการทำงานของ Samsung Pay ให้ได้มากที่สุด

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าตั้งค่า Samsung Pay แล้ว ก็ลบ shortcut ได้ (เช่น ในหน้า Home) โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • เปิด Samsung Pay
    • แตะ มุมขวาบน
    • แตะ Settings ในเมนูที่ขยายลงมา
    • เอาติ๊กออกจากทุกอย่างในหน้านี้
    • ปิดแอพ Samsung Pay
  2. ถ้ายังไม่เคยตั้งค่าเริ่มใช้ Samsung Pay ก็ลบไอคอนเตือนให้ตั้งค่าแอพ ไปจากหน้า Home ได้เลย โดยไม่ตั้งค่าจนเสร็จสิ้นตามขั้นตอน
  3. เพื่อยกเลิกขั้นตอนการตั้งค่า Samsung Pay
    • อาจจะต้องทำแบบนี้ 2 ครั้งขึ้นไป
  4. ส่วนใหญ่จะมีให้ติ๊กช่อง "Don't show me again" พอข้ามขั้นตอนการตั้งค่าไปแล้ว Samsung Pay จะปิดไป และไอคอนจะหายไปจากหน้า Home [2]
  5. โดยปัดหน้า Home ขึ้นไปด้านบนscreen
    • ในสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy บางรุ่น ต้องแตะไอคอน App Drawer รูปตารางจุด 3 x 3 แทน
  6. แตะแล้วลากแอพ Samsung Pay ไปที่มุมขวาสุดของหน้าจอ แล้วกดค้างไว้จนมีหน้าใหม่โผล่มา ให้ทำซ้ำตามขั้นตอน จนเจอหน้าว่างที่มีแต่แอพ Samsung Pay
    • ขั้นตอนนี้จะซ่อน Samsung Pay จากแอพอื่นๆ ใน App Drawer
  7. ถ้ามีแอพอื่นๆ ที่อยากจะซ่อน ให้ลากแอพไปยังหน้าที่มี Samsung Pay ลากแอพนั้นไปใส่ Samsung Pay แล้วจะมีโฟลเดอร์ขึ้นมา ให้ทำซ้ำแบบนี้กับแอพอื่นๆ ที่อยากซ่อนจาก App Drawer
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ปิดการใช้งาน Samsung Pay ใน Android เวอร์ชั่นก่อน Oreo

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณปิด Samsung Pay ในสมาร์ทโฟน Android เวอร์ชั่น Oreo (8.0) ขึ้นไปไม่ได้ ต้องเป็น Android เวอร์ชั่น Nougat (7.0) หรือเก่ากว่า [3]
  2. ปัดหน้าจอ Android ลงมาจากด้านบน แล้วแตะไอคอน "Settings" รูปฟันเฟือง มุมขวาบนของเมนูที่ขยายลงมา
    • ใน Androids บางรุ่น ต้องปัดหน้าจอลงมาจากด้านบนโดยใช้ 2 นิ้ว
  3. อาจจะต้องเลื่อนลงมาก่อน ถึงจะเจอตัวเลือกนี้ แตะแล้วรายชื่อแอพที่ติดตั้งไว้ใน Android จะโผล่มา
  4. ปกติจะอยู่ในแอพหัวข้อ "S"
  5. ที่เป็นปุ่มทางด้านบนของหน้าข้อมูลแอพ ตรงที่ปกติเป็นปุ่ม UNINSTALL
  6. เพื่อปิดการใช้งานแอพ Samsung Pay ใน Android
    • ปิดการใช้งานแอพแล้ว เท่ากับแอพจะไม่ทำงาน ไม่ดึงทรัพยากรเครื่องมาใช้ จะซ่อนแอพไปจากหน้าปกติ แค่ไม่ได้ถอนการติดตั้งแอพเท่านั้น [4]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • แอพที่ติดมากับ Samsung ส่วนใหญ่จะดาวน์โหลดกลับมาจาก Play Store ได้เมื่อต้องการ
  • ตัวเลือก DISABLE จะมีเฉพาะในแอพที่ติดมากับเครื่อง ซึ่งเป็นแอพที่ถอนการติดตั้งไม่ได้
  • มีหลายแอพที่ใช้ "ซ่อน" แอพที่ติดมากับเครื่อง หน้าที่ของแอพพวกนี้คือเป็นโฟลเดอร์ลับใน App Drawer
โฆษณา

คำเตือน

  • ระวังเวลาจะลบแอพด้วย Titanium Backup เพราะลบแอพตั้งต้นแล้วจะส่งผลต่อบางฟังก์ชั่นหรือคำสั่งของแอพ นอกจากนี้ Titanium backup จะแสดงรายชื่อแอพและ process ต่างๆ ที่จำเป็นต่อระบบด้วย ถ้าลบแล้วอาจถึงขั้นระบบล่ม ถ้าไม่แน่ใจว่าแอพไหนลบได้ไม่ได้ ให้ใช้ตัวเลือก “Freeze” หรือหยุดการทำงานของแอพชั่วคราว แทนการถอนการติดตั้งเต็มรูปแบบ น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ชั่วคราว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,336 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา