ในบางเวลา เราต่างอาจจะรู้สึกว่าใครบางคนหรือสังคมโดยรวมยึดถือตัวเองจนทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นคนไร้ตัวตน สิ่งนี้อาจจะเป็นเพราะการเข้าสังคมของเรา (หรือการไม่เข้าสังคม) เป็นความเข้าใจผิดที่บอกใบ้ให้ใครบางคนหยุดเห็นคุณมีตัวตน อย่างไรก็ตาม ข่าวดีคือมันเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนจากคนที่ไม่มีตัวตนทางสังคมเป็นคนเข้าสังคมเต็มตัว
ขั้นตอน
-
เขียนรายการของตัวอย่างจากชีวิตจริง. คุณจะต้องเข้าใจปัญหาก่อนที่จะแก้มัน เขียนรายการที่รวมไปถึงช่วงเวลาที่คุณรู้สึกถูกละเลยโดยผู้อื่น รวบรวมทุกสิ่งตั้งแต่คำใบ้ (ฉันพูดว่า “สวัสดี” และไม่ได้รับคำตอบ) ไปจนถึงตัวอย่างที่ชัดเจน (ฉันไปร่วมงานปาร์ตี้และไม่มีใครพูดด้วย) พยายามอธิบายเหตุการณ์เหล่านี้ให้ละเอียดได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- รายการนี้เป็นสิ่งส่วนตัวและไม่จำเป็นต้องดูสวยงาม มันมีเพื่อเป็นข้อมูลส่วนตัวสำหรับคุณเท่านั้น เพราะฉะนั้น ใส่ใจเนื้อหามากกว่ารูปแบบหรือรูปร่างหน้าตาของมัน
- การระบุปฏิกิริยาโต้ตอบทางอารมณ์ของคุณในขณะนั้นสามารถช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนของอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับการถูกละเลยและไม่ยอมรับ มันไม่เป็นที่พบโดยทั่วไปสำหรับผู้คนที่แยกตัวออกห่างที่จะรู้สึกสับสนในตอนแรก (ทำไมฉันต้องเจอสิ่งนี้?) ตามด้วยความโกรธและแค้นเมื่อไม่มีใครที่จะช่วยแก้ไขสถานการณ์ เข้าใจและตระหนักความรู้สึกของคุณก่อนที่มันจะทำให้คุณทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมเพื่อที่จะเป็นที่สังเกต [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สังเกตรูปแบบของการปฏิบัติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง. คุณมีปัญหาในการทำให้ผู้คนสนใจคุณที่ทำงานหรือที่บ้านหรือไม่? ในสถานการณ์ทางสังคมหรือส่วนตัว? มีใครบางคนที่ปรากฏบ่อยครั้งในรายการตัวอย่างของคุณหรือเปล่า? คนอื่นเริ่มที่จะละเลยคุณหลังจากช่วงเวลาหนึ่งหรือไม่? เช่น มันเป็นที่ปรากฏว่าคนขี้ฟ้องที่ทำงานมักจะถูกต่อต้านโดยผู้คนรอบตัว [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่ามองข้ามพฤติกรรมของคุณเอง สังเกตรูปแบบที่คุณโต้ตอบเช่นกัน เช่น คุณสามารถคุยกับผู้อื่นได้อย่างสบายใจแต่ไม่สามารถสร้างความประทับใจที่ยืนยาวได้หรือเปล่า? หรือคุณรู้สึกเครียดเมื่อถูกกดดันให้คุยกับผู้อื่นหรือไม่?
- ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการสังเกตรูปแบบพฤติกรรมและจากนั้นจึงตั้งเป้าหมายส่วนตัว หากชีวิตที่บ้านของคุณมีปัญหา คุณจะต้องออกแบบความพยายามเพื่อปรับปรุงในส่วนนั้น สิ่งนี้จะทำให้คุณเห็น (และเฉลิมฉลอง) การเปลี่ยนแปลงที่เป็นบวกเมื่อเวลาผ่านไป
-
รับผิดชอบ. เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงคุณจะต้องรับเอาโอกาสในการปรับปรุงถึงแม้ว่ามันจะช้าก็ตาม ตระหนักว่าการกระทำของคุณอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณเอง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การรู้สึกไม่มีตัวตนอาจจะเป็นคำทำนายที่เติมเต็มตัวเอง หากคุณเชื่อว่าคุณไม่มีค่ามากพอที่จะให้ผู้อื่นสังเกต คุณก็จะเป็นเช่นนั้น
-
หาคู่หรือคนที่คุณไว้ใจเพื่อช่วยให้คุณระบุเป้าหมายทางสังคมและทำมันให้สำเร็จ. บุคคลนี้คุณเป็นคนที่คุณไว้ใจและชื่นชม ขอให้พวกเขาร่วมงานทางสังคมกับคุณเพื่อสังเกตวิธีที่คุณมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและเสนอคำแนะนำโฆษณา
-
รับรู้ความเป็นตัวตนของคุณ. รับรู้ความรู้สึกและการกระทำในอดีตว่าเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้วแต่ตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินใหม่ในอนาคต มันเป็นประโยชน์ที่จะนึกถึงทุกสิ่งที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับตัวคุณและความสำเร็จส่วนตัว รักตัวเองและคนอื่นก็จะรักคุณเช่นกัน
- การเก็บบันทึกทุกความสำเร็จส่วนตัวสามารถช่วยให้คุณคิดบวกและมีกรอบความคิดที่ก้าวหน้า มันยังเป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับบทสนทนา ผู้คนส่วนใหญ่มักจะยินดีให้คำสรรเสริญที่จริงใจถ้าหากคุณได้เลื่อนตำแหน่งที่ทำงาน เป็นต้น อย่าลังเลที่จะรวบรวมคำพูดยินดีในบันทึกของคุณ มันไม่มีวิธีใดวิธีหนึ่งที่ถูกต้องในการแต่งเติมบันทึกของคุณ [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Greater Good Magazine ไปที่แหล่งข้อมูล
-
สร้างอนุสรณ์ให้กับตัวเอง. บันทึกชีวิตและความสำเร็จโดยการถ่ายรูปช่วงเวลาที่ดี คำพูดที่เป็นแรงบันดาลใจและที่ระลึกจากการผจญภัยของคุณในบ้านและที่ทำงาน
- หากคุณเคยปีนขึ้นภูเขามาชูปิกชู คุณก็ควรทำให้ผู้คนรู้โดยการเก็บรูปไว้บนโต๊ะ สิ่งนี้เป็นตัวเริ่มบทสนทนาที่แน่นอน งานวิจัยเผยว่าการสร้างความเป็นเจ้าของพื้นที่ผ่านทางสิ่งของส่วนตัวจะช่วยเพิ่มอารมณ์ที่เป็นบวก [6] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Association for Psychological Science ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ปกป้องสิ่งที่คุณสนใจจากผู้อื่น. มันเป็นสิ่งที่น่าทำในการเสียสละและประนีประนอมเพื่อให้ได้มาซึ่งความผาสุก การเอาใจผู้อื่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่เป็นเรื่องที่ลืมได้ง่ายหากทำซ้ำอย่างไม่รู้จบ ทำตัวเหมือนคุณเป็นผู้ประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของตัวเอง ในการทำเช่นนั้น คุณจะต้องส่งเสริมสิ่งที่เป็นบวกและโต้ตอบกับสิ่งที่เป็นลบที่มากระทบตัวคุณ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เป็นคนตรงไปตรงมาแต่ไม่ปะทะกัน ผู้คนมักจะจางหายไปกับความไร้ตัวตนทางสังคมเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง สิ่งนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม มันสามารถก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว แทนที่จะทำเช่นนั้นในสถานการณ์ที่ตึงเครียด คุณต้องสงบและมีสติและเป้าหมาย ถามเพื่อนร่วมงานของคุณว่า “เราจะแก้ไขมันได้อย่างไร?” หรือ “ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้น?” คนอื่นที่กำลังมองหาผู้นำที่มีทักษะจะมองมาที่คุณสำหรับคำแนะนำ
-
เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ. หากคุณประสบปัญหาไร้ตัวตนทางสังคม คุณก็อาจจะต้องการกระโดดเข้าใส่ทุกโอกาสของการมีส่วนร่วมและเป็นที่ยอมรับ คุณต้องฝืนตัวเองให้ทำสิ่งนั้น เมื่อคุณได้รับโอกาส คุณต้องถามตัวเองว่ามันเหมาะสมกับเป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายทางการงานในปัจจุบันและอนาคตหรือไม่ หากมันไม่ช่วย คุณก็ต้องให้เวลากับตัวเอง 1 วันในการคิดทบทวนและตอบรับ วางความต้องการของคุณในกรอบความคิดนี้ซึ่งจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนเพื่อทำให้คนอื่นรู้ว่าคุณเป็นคนที่สำคัญ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำบางสิ่งให้กับตัวเอง. ซื้อชุดและเครื่องประดับที่เข้ากัน ตอกย้ำความเป็นตัวของตัวเองด้วยเสื้อผ้า เช่น เลือกเครื่องประดับที่จะสามารถเป็นที่จดจำหรือไม่เหมือนใครและใส่มันในโอกาสพิเศษ กระบวนการทำตัวให้น่าจดจำด้วยเสื้อผ้าแปลว่าคุณจะต้องรวบรวมความมั่นใจจากเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ซึ่งทำให้คุณดูเหมือนคนที่แข็งแกร่งและมีอำนาจ ในกรณีนี้ สร้อยคอธรรมดาอาจจะเป็นเกาะป้องกันทางสังคมที่ดีที่สุดที่คุณสามารถหาซื้อได้ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและออกกำลังกาย. คุณต้องทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสม่ำเสมอ สิ่งนี้คืออีกด้านหนึ่งที่คุณสามารถแสดงออกถึงนิสัยและขยายวงจรทางสังคมโดยการเข้าร่วมชมรมทำอาหารหรือแม้แต่เขียนบล็อกที่เกี่ยวกับอาหาร ในขณะเดียวกัน การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องสิ่งที่ทำคนเดียว เข้าเรียนออกกำลังกายที่ฟิตเนสแถวบ้าน สมัครเข้าร่วมชมรมการออกกำลังกายกลางแจ้งหรือติดตามขบวนการออกกำลังกายกับกลุ่มที่คอยให้กำลังใจทางออนไลน์ การกระทำเหล่านี้จะทำให้คุณมีตัวตนอย่างแน่นอน
- ยิ่งไปกว่านั้น การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการผลิตสารเอ็นโดรฟินซึ่งจะทำให้คุณมีอารมณ์ดี [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เมื่อคุณรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเอง คนอื่นก็จะสังเกตได้และรับรู้ถึงความรู้สึกเดียวกับคุณ
-
ใช้เวลากับตัวเอง. ใช้ความไม่มีตัวตนและหายตัวไปจากสังคมเป็นบางครั้ง สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้คนชื่นชมคุณมากขึ้นแต่คุณยังจะได้เติมพลังและประเมินเป้าหมายของคุณ มันยังเป็นโอกาสสำหรับการผจญภัยไปเที่ยวที่ต่างๆ และฝึกฝนทักษะทางสังคมโดยการรับเอาอุปนิสัยที่ชัดเจนใหม่ๆ ถึงแม้จะเป็นเพียงเวลาอันสั้นก็ตามโฆษณา
-
ฝึกฝนการยอมรับที่เป็นบวก. บอกตัวเองว่าคุณมั่นใจมากแค่ไหน คุณอาจจะไม่เชื่อตัวเองในตอนแรกแต่ยิ่งคุณบอกตัวเองว่า “ฉันเป็นคนที่มั่นใจ” คุณก็จะสามารถรู้สึกมั่นใจได้ง่ายขึ้น จิตสำนึกของคุณจะเชื่อว่าคุณเป็นคนที่มั่นใจหากคุณบอกตัวเองบ่อยครั้ง อันที่จริงแล้ว มีรายงานพิสูจน์ว่าการยอมรับกับตัวเองจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแก้ไขปัญหาและนำไปสู่ผลการเรียนที่ดีขึ้นหากคุณยังเป็นนักเรียน [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
กล่าวคำชมเชย. แบ่งปันการยอมรับกับคนอื่นโดยการตระหนักถึงพรสวรรค์ของตัวเอง บอกใครบางคนว่า “ฉันเห็นด้วยกับเธอเป็นอย่างยิ่ง” หรือ “ฉันคิดว่าเธอตัดสินใจได้ดี” หากคุณสังเกตเห็นเครื่องประดับชิ้นโปรดหรือน้ำหอมของใครบางคน คุณสามารถกล่าวคำชื่นชมเกี่ยวกับมัน เช่น “สร้อยข้อมือนั้นสวยจังเธอซื้อที่ไหน?”
-
ใช้ภาษากายที่ชัดเจน. เดินตัวตรง เชิดหน้าและเดินอย่างมีเป้าหมาย ในขณะที่คุณเดิน คุณสามารถสบตากับผู้อื่นและยิ้ม ผู้คนมักจะสังเกตใครบางคนที่มีประกายออร่าของการรับรู้ตัวเอง พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงคุณค่าในตัวของบุคคลนั้นซึ่งจะถูกเคารพ
- ยึดพื้นที่ ในการประกาศตนทางร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง คุณอาจจะยอมบีบตัวเองให้มากที่สุดในความมีตัวตนของคนอื่น คุณต้องฝืนสิ่งนี้ แทนที่จะทำเช่นนั้น คุณต้องมีอาณาเขตของตัวเองที่โต๊ะประชุมอีก หนึ่งวิธีในการทำสิ่งนี้คือการวางกระดาษและยึดพื้นที่นี้ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หลีกเลี่ยงการหลบซ่อนตัวอยู่กับโทรศัพท์. มันง่ายที่จะเล่นกับโทรศัพท์เพื่อหลีกหนีความอึดอัดของการไม่มีตัวตนในสังคม แทนที่จะทำเช่นนั้น คุณต้องฝืนตัวเองให้อยู่ห่างจากโทรศัพท์ บังคับตัวเองให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน (หรือให้เวลาจำกัดกับตัวเอง) ก่อนที่คุณจะถอนตัวออก
-
ทำตัวตลก. ไม่ใช่ทุกคนที่จะมาพร้อมกับพรสวรรค์ของการเป็นคนที่ตลกหรือเป็นตัวการ์ตูนที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้แปลว่าคุณไม่สามารถทำตัวตลกได้ ลองหาอารมณ์ขันที่ไม่เหมือนใคร คุณชอบมุกเคาะประตูหรือไม่? หรือบางที่คุณอาจจะชอบกัดวงจรสังคมหรือให้ความเห็นที่ตลกร้าย ใช้เวลาในการหาประเภทของความตลกต่างๆ เพื่อที่คุณจะสามารถนำมาใช้ในงานสังคมได้
- เรื่องราวที่ตลกอาจจะเป็นตัวเริ่มบทสนทนาที่ดี อ่านเรื่องราวเหล่านี้ได้ทางออนไลน์และรวบรวมเรื่องราวเพื่อไปเล่าให้คนอื่นฟัง สิ่งนี้เป็นวิธีที่ดีในการหยิบยกประเด็นทางการเมืองโดยไม่ทำให้บทสนทนาร้อนระอุ คนอื่นจะถามคำถามและคุณจะได้เป็นคนที่อยู่ท่ามกลางความสนใจ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ทำให้ตัวเองมีส่วนร่วมในบทสนทนา. เป็นนักฟังและนักพูดที่ดี การรับฟังสิ่งที่คนอื่นพูดอย่างดีคือการแสดงความเคารพให้กับพวกเขาซึ่งช่วยพวกเขาจากความไม่มีตัวตน การเป็นนักฟังที่ดียังสามารถหาความชอบที่มีเหมือนกันและนำไปสู่ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจที่มีร่วมกันอย่างลึกซึ้งมากขึ้น การถามคำถามคือวิธีในการขับเคลื่อนบทสนทนาจากผู้ฟังเป็นผู้พูด
- หลีกเลี่ยงการถามคำถามปลายปิด คุณต้องถามคำถามปลายเปิดว่าอย่างไรและทำไม เช่นหากเพื่อนของคุณกำลังเล่าเกี่ยวกับการไปเที่ยวต่างประเทศ แทนที่คุณจะถามว่า “สนุกไหม?” คุณสามารถถามว่า “เธอชอบอะไรมากที่สุดและทำไม?” ถามคําถามต่อเนื่องเช่นเดียวกันเพื่อแสดงว่าคุณมีส่วนร่วมในบทสนทนา
-
มีจุดยืนและอย่ากลัวที่จะเห็นต่าง. หากคุณมีแนวคิดที่ตรงกันข้าม คุณสามารถหยิบยกมันขึ้นมาด้วยวิธีที่สันติ บางครั้งคุณอาจจะรับรู้ความปรารถนาในการเป็นคนขวางโลกซึ่งเป็นมุมมองที่ปฏิเสธความมีชีวิตชีวาในบทสนทนา ยิ่งไปกว่านั้น การที่ได้เห็นทั้งสองด้านของประเด็นถกเถียงแสดงออกถึงความยืดหยุ่นทางสติปัญญาซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ได้รับการชื่นชมอย่างแพร่หลาย
-
ทดสอบขอบเขตของคุณ. บางครั้งวิธีเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเองที่เรียบง่ายคือการเดินอยู่บนเส้นทางของความมีตัวตนในสังคม ทำบางอย่างที่บ้าบิ่นและลุยเพื่อรับความสนใจจากผู้คนที่คุณอาจจะไม่ได้เจออีกเลย
- ทำการกระทำที่กล้าบ้าบิ่นให้เป็นบวก เช่น แตะมือกับคนที่คุณไม่รู้จักบนถนนหรือส่งต่อด้วยการซื้อกาแฟให้ใครบางคน ในการทำสิ่งนี้คุณจะมีตัวตนอย่างแน่นอน (และมีผลกระทบต่อคนอื่น) อย่างน้อย 1 วันและงานวิจัยเผยว่าการส่งต่อจะช่วยกระตุ้นพฤติกรรมทางสังคมและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
-
มีส่วนร่วม. การทำตัวเองให้ยุ่งจะช่วยเพิ่มความมีตัวตนทางสังคมของคุณ ขอให้เพื่อน ครอบครัวและเพื่อนร่วมงานแนะนำกิจกรรมและงานสังคมที่คุณอาจจะสนใจ มองหาโอกาสใหม่ๆ และจำไว้ว่าอย่ากลัวที่จะลองทำบางสิ่งที่เป็นการผจญภัย
- หากคุณอยู่ที่ทำงาน สิ่งนี้อาจจะหมายถึงการเข้าร่วมกลุ่มเครือข่ายท้องถิ่น เช่น กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ไฟแรงที่นัดเจอกันโดยอิงจากอายุและสายงานสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความมีตัวตนทางสังคมของคุณโดยการเป็นคนสามัญธรรมดากับคนอื่นหรือเข้าร่วมในกิจกรรมงานบริการ เช่น การจัดปาร์ตี้แผนกหรืองานการกุศล [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การช่วยเหลือผู้อื่นคือวิธีที่ดีในการดึงความสนใจมาที่ตัวเอง
- กลุ่มนัดพบที่มาด้วยเป้าหมายเดียวกันคืออีกหนึ่งทางเลือกที่จะให้ความมีตัวตนทางสังคมกับคุณ เหล่านี้คือกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน (ศิษย์เก่า คนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง คนชอบเล่นบอร์ดเกม เป็นต้น) และผู้ที่นัดพบกันตามงานต่างๆ (ส่วนใหญ่จะวางแผนกันผ่านสื่อโซเชียล)
โฆษณา
เคล็ดลับ
- บุคคลภายนอกไม่ได้มีเฉพาะเพศตรงข้าม บางครั้งผู้คนมีกรอบความคิดที่ว่าชีวิตทางสังคมทั้งหมดมุ่งไปที่การหาคู่ การขยายกลุ่มคนรู้จักที่เน้นเฉพาะการเป็นเพื่อนเท่านั้นอาจเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้นและเป็นวิธีในการนำพาตัวคุณเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ของความมีตัวตนในสังคม
- คุณต้องเข้าใจว่าคนอื่นจะไม่พูดว่า “ฉันสังเกตเห็นเธอ” เมื่อคุณบรรลุความมีตัวตน ไม่มีสัญญาณที่แนบเนียนว่าคุณได้จุดประกายความสนใจของผู้อื่น มองหาสัญญาณเหล่านี้และเข้าร่วมในบทสนทนากับบุคคลนั้นเมื่อคุณเจอเขา
- ความไม่มีตัวตนอาจจะมีประโยชน์ เช่น ความสามารถในการวางตัวโดยที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาของคนอื่นและการเพิกเฉยต่ออุดมคติทางสังคมเกี่ยวกับความสวยงาม [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
คำเตือน
- ระมัดระวังความไม่มีตัวตนในที่ทำงานที่อาจจะกลายเป็นการไม่ยอมรับ หากคุณถูกละเลยและดูถูกอย่างจงใจ คุณอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ที่มีอำนาจ งานวิจัยพบว่าการไม่ยอมรับเป็นสิ่งที่แพร่หลายเพราะการสำรวจพบว่ากว่า 70% ของผู้คนเคยประสบกับความไม่มีตัวตนในที่ทำงาน งานวิจัยบางชิ้นยังเสนอว่าการไม่ยอมรับเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป (และอาจจะกลายเป็นปัญหามากขึ้น) ซึ่งนำไปสู่การรังแก [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Association for Psychological Science ไปที่แหล่งข้อมูล
- ความเจ็บปวดจากการถูกไม่ยอมรับอาจจะรุนแรงและหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากคุณรู้สึกว่าคุณอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเองหรือผู้อื่น คุณต้องปรึกษาขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ครอบครัวและแพทย์ [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Psychological Association ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/shyness-is-nice/201404/how-keep-thought-diary-combat-anxiety
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/beyond-bullying/201309/the-silence-shunning-conversation-kipling-william
- ↑ https://www.theguardian.com/world/2015/sep/14/un-united-nations-ostracised-sacked-arrested-whistleblowers
- ↑ http://www.oprah.com/inspiration/feeling-overlooked-invisible
- ↑ http://greatergood.berkeley.edu/article/item/tips_for_keeping_a_gratitude_journal
- ↑ http://www.psychologicalscience.org/index.php/news/minds-business/being-able-to-personalize-your-workspace-may-have-psychological-benefits.html
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/light-and-shadow/201409/people-pleasing-short-term-benefits-and-long-term-costs
- ↑ http://www.forbes.com/sites/ashleystahl/2015/10/02/three-reasons-you-need-to-say-no-more-often/#40ed96455ce5
- ↑ http://www.vogue.com/869076/intelligent-design-how-clothing-affects-the-mind/
- ↑ http://www.webmd.com/depression/guide/exercise-depression
- ↑ http://www.cmu.edu/homepage/health/2013/summer/benefits-of-self-affirmation.shtml
- ↑ http://www.telegraph.co.uk/women/womens-business/11912059/How-not-to-be-an-invisible-woman-at-work.html
- ↑ http://www.theonion.com
- ↑ http://www.telegraph.co.uk/women/womens-business/11532406/Careers-advice-I-feel-invisible-at-work.-How-can-get-noticed.html
- ↑ http://www.dailymail.co.uk/femail/article-2591199/So-women-invisible-51-As-survey-says-women-feel-men-stop-noticing-50s-two-VERY-different-views.html
- ↑ http://www.psychologicalscience.org/index.php/news/minds-business/workplace-ostracism-more-distressing-than-harassment.html
- ↑ http://www.apa.org/monitor/2012/04/rejection.aspx
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,477 ครั้ง
โฆษณา