ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

งานอดิเรกทำให้คุณได้สำรวจความสนใจที่อยู่นอกเหนือจากเส้นทางการทำงานของคุณ งานอดิเรกทำให้คุณได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และลองสิ่งใหม่ๆ ถ้าคุณเบื่องานอดิเรกเก่าๆ แล้ว ให้เลือกงานอดิเรกใหม่ๆ ที่ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณพลุ่งพล่านอีกครั้ง อย่าลืมเช็กงบรายจ่ายให้ดีก่อนเลือกงานอดิเรกใหม่ๆ เพราะงานอดิเรกบางอย่างอาจต้องใช้เงินเยอะ แต่ก็อย่าเพิ่งกังวลไปเพราะคุณมีตัวเลือกมากมาย แม้ว่างบจะไม่เยอะก็ตาม

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

สร้างงานอดิเรกจากความสนใจในปัจจุบัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลองดูว่าเวลาที่คุณมีเวลาว่าง คุณมักจะใช้เวลาไปกับอะไร คุณชอบอ่านหนังสือหรือเปล่า บางทีคุณอาจจะลองเขียนหนังสือดูบ้างก็ได้นะ คุณชอบจิบเบียร์เย็นๆ หลังหมดวันหรือเปล่า คุณอาจจะหมักเบียร์ดื่มเองที่บ้านเป็นงานอดิเรกก็ได้ เปลี่ยนสิ่งที่คุณรักอยู่แล้วให้กลายเป็นงานอดิเรก
  2. ลักษณะนิสัยแบบไหนที่คุณคิดว่าเลอค่ามากๆ คุณให้คุณค่ากับปัญญาหรือความกล้าหาญ คุณรู้สึกอยากเข้าหาคนที่ให้ประโยชน์คืนแก่คนอื่นหรือเปล่า คุณยกย่องการแสดงออกทางศิลปะหรือไม่ ให้ลักษณะนิสัยเหล่านั้นนำทางคุณไปสู่การเลือกงานอดิเรก
    • เช่น คุณอาจจะไปเป็นอาสาสมัครที่ห้องสมุดเป็นงานอดิเรกเพราะคุณให้คุณค่ากับการศึกษา หรือคุณอาจจะไปเรียนวาดภาพเพราะคุณยกย่องคนที่สามารถแสดงตัวตนผ่านงานศิลปะได้
  3. งานอดิเรกบางอย่างต้องอาศัยทักษะเฉพาะ
    • ถ้าคุณไม่มีความอดทนมากนัก การเย็บผ้าก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณชอบ แต่ถ้าคุณชอบประกอบสิ่งของและทำของขึ้นมาใหม่ คุณอาจจะเลือกงานอดิเรกอย่างการซ่อมรถเก่าหรือการทำเฟอร์นิเจอร์ เล่นกับจุดแข็งของตัวเอง [1]
  4. วิธีที่พูดถึงเรื่องต่างๆ บ่งบอกได้ว่าคุณหลงใหลอะไร และสิ่งที่คุณหลงใหลก็ต่อยอดเป็นงานอดิเรกได้
    • ลองคิดดูว่ามีหัวข้ออะไรที่คุณสามารถพูดได้ไม่หยุด ถามเพื่อนๆ และครอบครัวของคุณว่าคุณมักจะพูดเรื่องอะไรมากที่สุด เสร็จแล้วตอนนี้ก็คิดดูว่าอะไรในหัวข้อนี้ที่คุณชอบมากๆ และคิดว่าคุณจะทำมันให้กลายเป็นงานอดิเรกได้อย่างไร เช่น คุณอาจจะหลงใหลการเมืองท้องถิ่น และการได้คลุกคลีในระดับรากหญ้าก็อาจกลายเป็นงานอดิเรกของคุณได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

นึกถึงวัยเยาว์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณชอบขี่จักรยานแข่งกับเพื่อนๆ หรือเปล่า คุณติดการ์ตูนงอมแงมเลยใช่ไหม คุณชอบวาดภาพหรือระบายสีหรือเปล่า นึกถึงสิ่งที่ทำให้คุณตื่นเต้นตอนเป็นเด็กๆ และสิ่งที่คุณสามารถทำได้เป็นชั่วโมงๆ [2]
  2. ถ้าคุณเคยขี่จักรยาน ลองซื้อจักรยาน (ผู้ใหญ่) มาใหม่และสำรวจละแวกบ้านของคุณ
  3. ถ้าคุณชอบวาดรูป เรียนวาดรูปเพิ่มเติมตามสถาบันต่างๆ หรือจะเรียนตัวต่อตัวก็ได้
  4. ก็คือถ้าคุณเคยชอบอ่านการ์ตูนมากๆ ลองเข้าร่วมงานมหกรรมหนังสือการ์ตูน (Thailand Comi Con) เพื่อพบปะคนที่มีความสนใจแบบเดียวกัน ตอนเด็กๆ คุณอาจจะชอบเกมกระดาน ก็ให้ไปหาดูว่าในท้องตลาดมีเกมกระดานอะไรใหม่ๆ บ้าง ที่มีออปชั่นทุกแบบตั้งแต่การเล่นตามบทบาทไปจนถึงเกมที่ผู้เล่นต้องช่วยกันเล่น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

สำรวจสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้เกิดไอเดีย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เดินเล่นในร้านขายของงานประดิษฐ์เพื่อดูว่ามีงานอดิเรกอะไรบ้าง คุณอาจจะเจอสิ่งที่คุณไม่เคยนึกถึงมาก่อนเลยก็ได้ เช่น การประกอบโมเดลเครื่องบินหรือเรียนวิธีปั้นดิน [3]
  2. เช่นเดียวกับร้านขายของงานประดิษฐ์ ร้านขายเครื่องมือช่างเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณได้สำรวจงานอดิเรกใหม่ๆ คุณอาจจะอยากลองทำงานไม้หรือทำสวน ร้านเครื่องมือช่างมีทุกอย่างที่คุณต้องการ
  3. ห้องสมุดมีหนังสือ How-to ในหัวข้อต่างๆ มากมาย เดินดูหนังสือต่างๆ เพื่อหาหัวข้อที่คุณสนใจที่อาจกลายเป็นงานอดิเรกใหม่ได้ [4]
  4. เวลาของคุณมีค่าและคุณก็มีเวลาจำกัดด้วย คุณต้องสร้างช่วงเวลาในแต่ละวันสำหรับงานอดิเรกใหม่ๆ ด้วยการจัดสรรช่วงเวลาสักช่วงทุกวันเพื่อลองดู [5]
  5. บางเว็บไซต์นั้นเกี่ยวข้องกับการสำรวจงานอดิเรกโดยเฉพาะ และคุณก็สามารถเข้าเว็บไซต์เหล่านี้เพื่อค้นหาว่าคุณอยากจะใช้เวลาว่างไปกับงานอดิเรกอะไร
  6. สิ่งแรกที่คุณลองอาจจะไม่ได้เหมาะกับคุณเสียทีเดียว อย่ากลัวที่จะเดินหน้าต่อไปและลองอย่างอื่น คุณมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ที่คุณเลิกสนใจสิ่งนั้นแล้ว [6]
  7. ก็คือการที่คุณไม่กลัวที่จะพูดคำว่า "ได้" กับกิจกรรมที่ปกติแล้วคุณจะไม่ทำ การไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะอาจจะฟังดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่สำหรับคุณ แต่พอเพื่อนชวนคุณไป ให้ลองไปดู คุณอาจจะเจองานอดิเรกที่คุณชอบที่คุณไม่ได้คาดคิดมาก่อน เช่น การระบายสีหรือการฟื้นฟูศิลปะ
  8. สิ่งหนึ่งที่อาจฉุดรั้งไม่ให้คุณลองอะไรใหม่ๆ ก็คือการที่คุณคิดว่า “ฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น” คุณอาจจะคิดว่าตัวเองไม่กล้าพอหรือเข้าสังคมไม่เก่งพอที่จะทำกิจกรรมบางอย่าง อย่ากลัวที่จะเดินออกจากกรอบ
    • เช่น ลองนึกถึงงานอดิเรกบ้าๆ บอๆ ที่คุณพลาดไปเพียงเพราะว่าคุณคิดว่าคุณทำไม่ได้ คุณอาจจะอยากเรียนกีต้าร์หรือเต้นบอลรูมมาตลอดแต่คิดว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ ไปลงเรียนซะ คุณอาจจะทำมันได้ดีแต่ไม่รู้ตัวก็ได้
  9. เพื่อนๆ ของคุณต้องมีความสนใจและบุคลิกที่สอดคล้องกับความสนใจและบุคลิกของคุณอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณก็อาจจะชอบงานอดิเรกของเพื่อนๆ ได้เหมือนกัน ให้พวกเขาเล่าเรื่องงานอดิเรกที่พวกเขาชอบทำและให้คุณลองทำในสิ่งที่พวกเขารักบ้าง
    • เช่น เพื่อนสนิทของคุณอาจจะชอบการเต้นสวิงมากๆ คุณอาจจะไปเรียนกับเพื่อนๆ หรือขอให้เพื่อนสอนพื้นฐานก่อนจะไปเรียนจริงๆ
  10. สถาบันต่างๆ และมหาวิทยาลัยในละแวกบ้านเปิดคอร์สต่างๆ มากมายทั้งแพงและไม่แพง ลองดูแคตตาล็อกคอร์สที่เปิดสอน คุณอาจจะเจอคอร์สที่จุดประกายความสนใจให้คุณก็ได้
    • คุณอาจจะขอแคตตาล็อกของสถาบันต่างๆ ใกล้บ้านมาดูก่อน แต่สถาบันส่วนใหญ่จะมีแคตตาล็อกออนไลน์ให้คุณได้อ่านอย่างละเอียดอยู่แล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ดูงบรายจ่าย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จดรายการว่า 1 เดือนคุณใช้เงินไปกับอะไรบ้าง คุณอาจจะใช้แอพฯ สมาร์ตโฟนช่วยบันทึกได้ หรือคุณอาจจะแค่ดูสมุดบัญชีเป็นส่วนใหญ่ก็ได้ถ้าคุณไม่ได้ใช้เงินสดมากนัก [7]
    • แยกรายจ่ายไว้เป็นหมวดหมู่ เช่น คุณอาจจะมีหมวด "ของใช้ในบ้าน" "ค่าน้ำมัน" "ค่าเสื้อผ้า" "กินข้าวนอกบ้าน" " บันเทิง" "ค่าเช่าบ้าน" "ค่าสาธารณูปโภค" และ "ค่าธรรมเนียม" คุณอาจจะแยกบิลออกเป็น 2 หมวดหมู่ก็ได้ หมวดนึงเป็นหมวดค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าประกัน และอีกหมวดนึงเป็นหมวดที่คุณอาจจะอยากลดหรือตัดค่าใช้จ่ายออกไปเลย เช่น ค่าเคเบิลทีวีกับค่าโทรศัพท์
  2. ในสเปรดชีตหรือแอพฯ ให้ระบุว่าคุณใช้เงินไปกับของจำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้านและค่าสาธารณูปโภคกี่เปอร์เซ็นต์ ให้ดูรายจ่ายเดือนที่แล้วว่าคุณจ่ายค่าน้ำมันกับของใช้ในบ้านไปเท่าไหร่ ดูว่าคุณมีเงินเหลือสำหรับซื้อของที่ไม่จำเป็นเท่าไหร่ [8]
  3. ตัดสินใจว่าคุณจะจัดสรรงบไว้สำหรับงานอดิเรกเท่าไหร่. ถ้าคุณเริ่มงานอดิเรกใหม่ๆ ก็อาจจะดึงเงินจากส่วนอื่นมา เช่น คุณอาจจะลดค่าใช้จ่ายสำหรับความบันเทิงอื่นๆ หรือกินข้าวนอกบ้านน้อยลง คุณอาจจะต้องใช้เงินซื้อของเข้าบ้านน้อยลง คุณจะจัดสรรงบไว้เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับงานอดิเรกที่คุณเลือก เพราะงานอดิเรกบางอย่างก็มีค่าใช้จ่ายมากกว่างานอดิเรกอื่นๆ
  4. เลือกงานอดิเรกที่ไม่เสียเงินหรือไม่แพงถ้าคุณไม่มีงบเหลือมากนัก. คุณมีตัวเลือกมากมายหากคุณอยากได้งานอดิเรกที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ เช่น คุณอาจจะอ่านหนังสือหรือเขียนหนังสือ ไปวิ่ง ทำสวน หรือตั้งแคมป์ [9]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ก่อนที่คุณจะเริ่มงานอดิเรกอะไร ให้หาสถานที่สำหรับทำกิจกรรมนั้นๆ หรือหาที่เก็บของไม่ว่าจะเป็นในร่มหรือกลางแจ้ง แม้แต่งานอดิเรกกลางแจ้งที่ต้องใช้อุปกรณ์ก็ต้องมีที่เก็บอุปกรณ์เช่นเดียวกัน ไม้ฮอกกี้ ลูกฟุตบอล รองเท้าบูต จักรยาน และเต็นท์ก็ต้องเอาไปเก็บที่ไหนสักที่เวลาที่คุณไม่ได้ใช้
  • ซื้อของมือสอง ซึ่งดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าและประหยัดเงินกว่า คุณสามารถหาซื้อของมือสองได้ที่ร้านขายของมือสองและซื้อขายทางออนไลน์
  • พอคุณทำงานอดิเรกได้สักระยะหนึ่งแล้ว คุณก็จะเก่งขึ้น คุณอาจจะถึงจุดที่งานอดิเรกสามารถหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้ตัวมันเองได้เลยด้วยซ้ำ เช่น คุณอาจจะขายงานศิลปะหรืองานประดิษฐ์ เป็นโค้ชให้นักกีฬาคนอื่นๆ เขียนบทความ และสอนคนอื่น ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดเงินได้
  • ลองทำกิจกรรม 3 กิจกรรมสัก 2 – 3 ครั้งแล้วดูว่าตัวเองชอบอะไร ประสบการณ์ครั้งแรกอย่างเดียวอาจบอกไม่ได้ว่าคุณชอบหรือเปล่า!
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,758 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา