ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

สำหรับคนส่วนใหญ่ วันแต่งงานถือเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตวันหนึ่งเลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงมีธรรมเนียมว่าเพื่อนสนิทหรือคนที่เขารักจะต้องกล่าวสุนทรพจน์แสดงความยินดีแก่บ่าวสาวในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่งมันคงเป็นความคิดที่น่าสะพรึงมากหากคุณได้รับการทาบทามให้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้ากลุ่มคนใหญ่ที่รอฟังคุณอยู่ ในฐานะคนเขียนสุนทรพจน์ การจัดเรียงลำดับเนื้อหาให้กระชับและหมั่นฝึกฝนก่อนถึงวันงานจะช่วยคุณได้มากเลยทีเดียว

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ร่างสุนทรพจน์ที่จับใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เริ่มจากการบอกให้ทุกคนในงานแต่งงานและแขกเหรื่อรู้ว่าคุณเป็นใครก่อน บอกชื่อ บทบาทในงานแต่งงาน และความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับบ่าวสาว ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้พบคุณ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงอยากรู้ว่าคุณเกี่ยวข้องกับเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวอย่างไร และทำไมคุณถึงได้รับเชิญให้มากล่าวสุนทรพจน์
    • เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวมักจะได้รับเชิญให้กล่าวสุนทรพจน์สั้นๆ ในฐานะตัวแทนของงานแต่งงาน หลังจากนั้นบางครั้งไมโครโฟนก็จะหันไปยังผู้ที่อยากจะกล่าวอะไรสักหน่อย
    • บอกชื่อตัวเองและสรุปความเป็นมาระหว่างคุณกับเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวสั้นๆ ก็พอ อย่าพูดเรื่องตัวเองมากเกินไป จำไว้ว่าประเด็นสำคัญของสุนทรพจน์คือคู่บ่าวสาว
  2. เริ่มจากการเล่าเรื่องตลกหรือเล่าย้อนไปถึงเรื่องราวตลกๆ เพื่อให้ผู้ฟัง (และตัวคุณเอง) ผ่อนคลายขึ้น อารมณ์ขันสร้างความรู้สึกสบายใจ เพราะฉะนั้นการทำให้ทุกคนหัวเราะในทันทีจะช่วยกำจัดความตึงเครียดในการกล่าวออกไปได้ นอกจากนี้ถ้าทุกคนสนุกสนานไปกับสุนทรพจน์ของคุณ ทุกคนก็จะชอบคุณและสุนทรพจน์ของคุณก็จะยิ่งเป็นที่จดจำมากขึ้นด้วย
    • ใช้มุกตลกอย่างมีวิจารณญาณเพื่อกำจัดความตึงเครียดในช่วงแรกและทำให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย พยายามอย่าทำให้สุนทรพจน์ของคุณกลายเป็นเดี่ยวไมโครโฟน
    • เรื่องราวและคำพูดตลกๆ ของคุณจะต้องเหมาะกับกาลเทศะ เพราะผู้ฟังประกอบด้วยคนทุกเพศทุกวัย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย
    • เรื่องราวตลกๆ อาจจะเป็นเรื่องราวขำขันในการพบกันของบ่าวสาว หรือเรื่องราวในวัยเด็กของคนใดคนหนึ่ง
  3. เล่าย้อนไปถึงประสบการณ์ที่คุณประทับใจมากที่สุดเกี่ยวกับคู่บ่าวสาว เพราะถ้าคุณได้รับเลือกให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวหรือเพื่อนเจ้าสาว คุณก็น่าจะรู้จักเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวมานานแล้ว การเชื่อมโยงสุนทรพจน์เข้ากับความทรงจำที่พิเศษหรือมุกวงในจะสร้างความรู้สึกทางอารมณ์อันทรงพลังที่จับใจผู้ฟังทุกคน [1] [2]
    • การเล่าความทรงจำหรือเรื่องราวที่พิเศษนั้นดีกว่าการกล่าวชมเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวเพียงอย่างเดียว เพราะว่ามันสร้างความประทับใจในระดับบุคคลได้มากกว่า
  4. เปลี่ยนประเด็นของสุนทรพจน์มาที่คู่บ่าวสาวและอนาคตที่ทั้งสองมีร่วมกัน กล่าวถึงเจ้าบ่าวและเจ้าสาวโดยตรง ขอให้พวกเขามีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข และเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้คุณก็อาจจะสอดแทรกนิทานสอนใจสั้นๆ หรืออ้างอิงคำพูดเพื่อให้สิ่งที่คุณจะสื่อชัดเจนขึ้น [3]
    • ถ้าคุณจะอ้างอิงคำพูดเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ในส่วนนี้ ต้องเลือกคำพูดที่สั้น เกี่ยวข้อง และไม่เชย
  5. ปิดท้ายสุนทรพจน์ด้วยการขอบคุณเจ้าบ่าวและเจ้าสาว พ่อแม่ เพื่อนๆ และครอบครัวของบ่าวสาว และทุกคนที่มาร่วมงาน รวมถึงเจ้าหน้าที่จัดงานและให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในงานแต่งงาน แสดงมารยาทที่ดีและทำให้ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของโอกาสพิเศษที่น่าประทับใจในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับงานในวันนี้และร่วมแบ่งปันความสุขกับคู่บ่าวสาว [4]
    • การกล่าวถึงคนที่ทำให้งานฉลองมงคลสมรสเกิดขึ้นได้จะทำให้คุณดูเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
    • แสดงความขอบคุณไม่เกิน 2-3 ประโยค คุณไม่จำเป็นต้องกล่าวขอบคุณทุกคนไปเรื่อยๆ
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Jenny Yi

    นักออกแบบและนักจัดงานแต่งงาน
    เจนนี่ ยี่เป็นผู้ก่อตั้ง Chloe+Mint บริษัทรับจัดอีเวนท์ครบวงจรที่คว้ารางวัลซึ่งเชี่ยวชาญในการจัดงานแต่งงาน ออกแบบ และออกแบบดอกไม้ เจนนี่อยู่ในวงการนี้มากว่า 5 ปี และร่วมงานกับแบรนด์ดังกับคนดังอย่างใกล้ชิดในการจัดงานเปิดตัวหรืออีเวนท์ต่างๆ
    Jenny Yi
    นักออกแบบและนักจัดงานแต่งงาน

    ให้สุนทรพจน์เน้นไปที่การตกลงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันของเพื่อนคุณทั้งสองคน เจนนี่ ยี่ นักวางแผนจัดงานมืออาชีพกล่าวว่า "บอกภูมิหลังเล็กน้อยว่าคุณเป็นใคร จากนั้นก็กล่าวอะไรสักเล็กน้อยว่าบ่าวสาวเป็นคนอย่างไรก่อนที่จะมาเจอคู่ชีวิต และเขากลายเป็นคนอย่างไรหลังจากได้พบกัน พูดอย่างจริงใจ เช่น ถ้าคุณไม่ใช่คนตลก ก็อาจจะไม่ใช่เวลาที่จะมาปล่อยมุก เหนือสิ่งอื่นใดคือให้จำไว้ว่า คุณกำลังเฉลิมฉลองการใช้ชีวิตคู่ของคนสองคน"

    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เตรียมพร้อม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องเขียนสุนทรพจน์ให้พร้อมสำหรับท่องจำล่วงหน้า 2-3 สัปดาห์ก่อนถึงวันงาน การได้รับการทาบทามให้กล่าวสุนทรพจน์ในวันแต่งงานคือการที่คุณได้รับมอบหมายหน้าที่ยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม ยิ่งคุณเขียนสุนทรพจน์เสร็จเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีเวลาทบทวน และเมื่อถึงเวลาต้องกล่าวสุนทรพจน์มันก็จะฟังดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น [5]
    • ร่างสุนทรพจน์ราวกับว่าเป็นการบ้านที่ต้องส่งครูที่โรงเรียน ร่างหลายๆ ฉบับ ตรวจดูข้อผิดพลาด และให้เพื่อนตรวจทานเพื่อให้แน่ใจว่าลื่นไหลดีแล้ว
  2. สอบถามผู้วางแผนจัดงานหรือพิธีกรเพื่อให้รู้ว่าคุณจะต้องกล่าวสุนทรพจน์ตอนไหน โดยทั่วไปแล้วการกล่าวสุนทรพจน์และการดื่มอวยพรในงานแต่งงานจะเกิดขึ้นหลังจากที่ทุกคนนั่งประจำที่และเริ่มรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มกันแล้ว แต่ก็อาจจะมีแบบแผนที่แตกต่างกันออกไป รู้ให้แน่ชัดว่าจะต้องเข้าไปตอนไหนและมีอุปกรณ์เสียงและโปรเจกเตอร์พร้อมใช้งาน การไม่รู้ว่าจะต้องกล่าวสุนทรพจน์ตอนไหนกันแน่จะทำให้คุณยิ่งกังวลหนักกว่าเดิม [6]
    • ถ้ามีการกล่าวสุนทรพจน์กันหลายคน ให้จำลำดับการพูดให้ดี
    • อย่ามัวแต่กังวลเรื่องการกล่าวสุนทรพจน์ตลอดเวลาที่อยู่ในงาน ถ้าคุณเตรียมตัวมาดีแล้ว คุณจะไม่ต้องคิดถึงมันอีกจนกว่าจะได้เวลากล่าว
  3. หลังจากที่คุณเขียนสุนทรพจน์เรียบร้อยแล้ว ให้อ่านแล้วท่องตามไปด้วย จากนั้นก็พยายามท่องโดยไม่ดู แล้วก็ท่องจากความทรงจำระหว่างอาบน้ำ ขับรถ หรือซักรีดเสื้อผ้า ซ้อมกล่าวสุนทรพจน์จนกว่าคุณจะไม่สามารถสลัดออกจากหัวได้ วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถพึ่งพาความจำอัตโนมัติได้หากคุณรู้สึกตื่นตระหนกเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ฟัง [7]
    • จำสุนทรพจน์แบบคำต่อคำ แต่พยายามอย่าพูดราวกับว่าคุณท่องออกมาจากความทรงจำ เว้นจังหวะจะโคนและให้คำพูดแต่ละช่วงมีจุดเน้น อารมณ์ และความชัดเจน
  4. แม้ว่าคุณควรจะพยายามกล่าวสุนทรพจน์ออกมาจากความทรงจำอย่างเดียว แต่คุณก็ควรพกโน้ตขึ้นเวทีไปด้วย ถ้าคุณเกิดลืมขึ้นมาและติดขัด โน้ตที่คุณพกไปจะช่วยให้คุณย้อนกลับมาพูดเรื่องเดิมได้อย่างลื่นไหล ถ้าสุดท้ายแล้วคุณไม่ได้ใช้ อย่างน้อยคุณก็ได้เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ก่อน ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่ามาเสียใจทีหลัง
    • เขียนสุนทรพจน์ทั้งหมดไว้ในการ์ดขนาดเล็ก 2-3 ใบแทนที่จะเขียนใส่ไว้ในกระดาษแผ่นใหญ่หลายๆ แผ่น นอกจากจะดูดีกว่าแล้ว ยังทำให้คุณกล่าวสุนทรพจน์ในความยาวที่เหมาะสมอีกด้วย
    • เหลือบดูโน้ตก็ต่อเมื่อคุณนึกไม่ออกหรือลืมท่อนต่อไป วิธีนี้จะทำให้คุณมองขึ้นมาและสบตาผู้ฟัง แม้แต่สุนทรพจน์ที่น่าประทับใจที่สุดก็ยังน่าเบื่อได้หากผู้พูดอ่านตามการ์ดตลอดเวลา
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

กล่าวสุนทรพจน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุดเมื่อถึงเวลาพิธีกรเชิญคุณกล่าวสุนทรพจน์ การพูดในที่สาธารณะเป็นเรื่องที่ชวนประหม่าสำหรับทุกคน แต่ถ้าคุณเตรียมตัวมาดีและทำตามที่ซักซ้อมไว้ ทุกอย่างจะเรียบร้อย จำไว้ว่ารอบตัวคุณมีแต่เพื่อนๆ และคนในครอบครัว ทุกคนตั้งตารอช่วงเวลาที่ดีและตั้งใจให้คุณทำภารกิจได้สำเร็จลุล่วง [8]
    • ค่อยๆ หายใจลึกๆ ช้าๆ คิดถึงสิ่งที่คุณกำลังพูดและปิดกั้นตัวเองจากสิ่งที่ทำให้วอกแวก นึกภาพว่าตัวเองกำลังกล่าวสุนทรพจน์ให้คนฟังหนึ่งคน ไม่ใช่คนเต็มห้อง
    • ดื่มสักแก้วหรือสองแก้วถ้ามันช่วยลดอาการตื่นตูม แต่อย่าดื่มมากเกินไป เพราะว่าคุณต้องใช้สมาธิจดจ่อและหัวต้องโล่งเมื่อขึ้นเวที
  2. พยายามจำกัดสุนทรพจน์ให้ไม่เกิน 2-5 นาที แม้ว่าจะไม่มีกำหนดตายตัวว่าสุนทรพจน์งานแต่งงานควรจะยาวเท่าไหร่ แต่คุณก็ไม่ควรพล่ามไปเรื่อยๆ สุนทรพจน์ของคุณควรยาวพอที่จะดึงความสนใจจากผู้ฟังและทำให้เขามีอารมณ์ร่วมไปกับคุณได้ แต่ก็ต้องไม่ยาวจนคนเริ่มเบื่อ เน้นเฉพาะจุดที่สำคัญ จากนั้นปล่อยให้ผู้ฟังกลับไปสังสรรค์กันต่อ
    • คุณจะกล่าวสุนทรพจน์สั้นๆ ก็ได้ แค่กล่าวแสดงความยินดีไม่กี่คำ ยกแก้ว และคืนไมโครโฟน
    • พูดช้าๆ อย่างตั้งใจ เพราะคุณอาจจะเผลอพูดรัวเร็วเกินไปเวลาที่ประหม่า การพูดให้ช้าลงกว่าที่ตั้งใจไว้อาจจะทำให้คุณพูดด้วยความเร็วที่พอดี
    • คนที่เตรียมตัวมาไม่ดีหรือประหม่าเกินไปมักจะพูดอย่างไร้จุดหมาย ซึ่งสามารถเลี่ยงได้ด้วยการพูดเฉพาะสิ่งที่เขียนเอาไว้และมองดูคนฟังเพื่อสังเกตว่า ความสนใจเริ่มหายไปหรือยัง
  3. พูดออกมาจากใจ ให้ทุกคนรู้ว่าคุณหมายความอย่างที่พูดจริงๆ และเน้นว่าความสัมพันธ์ของคุณกับเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวนั้นมีความหมายกับคุณมากแค่ไหน เป็นโอกาสที่คุณจะได้กล่าวคำระลึกถึงมิตรภาพและแสดงความซาบซึ้งได้ที่รับเชิญให้มาร่วมพิธีในวันนี้ ให้อารมณ์นำคำพูดของคุณ ไม่ใช่สักแต่ว่าอยากพูดให้จบไปเร็วๆ [9]
    • หาจังหวะพูดกับเจ้าบ่าวและ/หรือเจ้าสาวโดยตรง
    • เป็นเรื่องปกติที่จะน้ำตาซึม! ตราบใดที่คุณสามารถกล่าวสุนทรพจน์ให้จบได้ ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล แถมยังจะน่าเอ็นดูด้วยซ้ำ เพราะมันแสดงให้คนอื่นเห็นว่า คุณกำลังพูดในสิ่งที่สำคัญมากสำหรับคุณ
  4. เมื่อคุณกล่าวสรุปสุนทรพจน์แล้ว ขอให้ทุกคนยกแก้วเพื่อเป็นเกียรติแก่คู่บ่าวสาว กล่าวอวยพรสั้นๆ ว่าขอให้ทั้งคู่มีอนาคตที่ดี ให้ทุกคนดื่ม จากนั้นก็เชิญชวนให้แขกเหรื่ออยู่ในงานต่อและร่วมเฉลิมฉลองด้วยกัน และที่สำคัญที่สุดคือตัวคุณเองก็ต้องออกไปสนุกด้วย! [10]
    • ตามประเพณีแล้วเพื่อนเจ้าบ่าวหรือกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าวจะดื่มอวยพรให้เจ้าสาว และเพื่อนเจ้าสาวก็จะดื่มอวยพรให้เจ้าบ่าว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อ้างอิงคำพูดคนอื่นให้น้อยที่สุด เพราะคำพูดของคนอื่นอาจจะทำให้คุณไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่คุณตั้งใจจะพูดออกมาได้
  • ถ้าคุณคิดไม่ตกว่าต้องทำอย่างไรสุนทรพจน์จึงจะลื่นไหล ให้ทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องเล่าที่มีตอนต้น ตอนกลาง และตอนท้าย
  • ขอให้เพื่อนที่ตรงไปตรงมาและเป็นกลางแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสุนทรพจน์หลังจากที่คุณเขียนเสร็จแล้ว
  • ดูให้ดีว่าไมโครโฟน ลำโพง และอุปกรณ์อื่นๆ ใช้งานได้และฝึกใช้จนคุ้นเคยก่อนขึ้นพูด
  • ถ้าคุณรู้จักคนสนิทของเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวที่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ คุณก็สามารถเสนอตัวฝากความคิดถึงของเขามาในสุนทรพจน์ของคุณได้เช่นกัน
  • ผ่อนคลาย! คุณพูดในงานรื่นเริง คุณอาจจะประหม่าบ้าง แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป จิตใจของคุณควรจะแสดงความยินดีต่อเจ้าบ่าวและเจ้าสาว และสนุกสนานเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในงาน
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่านำรูปแบบสำเร็จรูปตามอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการเขียนสุนทรพจน์วันแต่งงานเด็ดขาด สุนทรพจน์ควรเป็นผลผลิตจากความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ของคุณเอง
  • อย่าดื่มมากเกินไปก่อนกล่าวสุนทรพจน์
  • ขีดฆ่าเรื่องราวที่น่าอายหรือสร้างความไม่พอใจ เพราะมันถือเป็นรูปแบบที่ไม่ดี คุณควรจะให้เกียรติคู่บ่าวสาว ไม่ใช่ให้คนอื่นมาหัวเราะโดยที่พวกเขาต้องอับอาย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,187 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา