ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าเจอหน้าเว็บที่มีเนื้อหาและรูปที่อยากเซฟเก็บไว้อ่านวันหลัง ก็ทำได้โดยเซฟเป็นไฟล์ PDF เพราะเอาไว้อ่านแบบ offline ได้ โดยไฟล์ PDF นั้นนอกจากอ่านได้ในแทบทุกเครื่องแล้ว ยังพริ้นท์ออกมาได้สะดวก บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเซฟหน้าเว็บเป็นไฟล์ PDF ด้วย Google Chrome ให้คุณเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้ PC และ Mac

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พิมพ์ address ของเว็บที่มีหน้าเว็บที่จะเซฟ ในแถบ address ด้านบน จากนั้นคลิกปุ่มหรือลิงค์ในเว็บ เพื่อไปยังหน้าเว็บที่จะเซฟ เซฟหน้าเว็บเป็นไฟล์ PDF แล้ว ทุกส่วนที่เห็นจะถูกเซฟไปด้วย ส่วนใหญ่ฟอร์แมตของหน้าเว็บจะเปลี่ยนไป หลังแปลงเป็น PDF

    ส่วนใหญ่ ฟอร์แมตของหน้าเว็บจะเปลี่ยนไป หลังแปลงเป็น PDF

  2. ที่มุมขวาบนของ Google Chrome เพื่อเปิดเมนูของ Google Chrome
  3. เพื่อเปิดเมนู Print แล้วจะเห็นตัวอย่างหน้าเว็บโผล่มาทางขวา จะเห็นว่าฟอร์แมตเปลี่ยนไปสำหรับการพริ้นท์
    • จะกด Ctrl + P (Windows) หรือ Cmd + P (Mac) ก็ได้
  4. ทางซ้ายของหน้าต่าง Print แล้วเมนูจะขยายลงมา เห็น Printers ทั้งหมดที่มี ให้เลือก "Save as PDF" แปลว่าจะเซฟเป็นไฟล์ PDF แทนการพริ้นท์
  5. ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ทางด้านบนของเมนู Print ทางซ้าย
  6. ในช่องพิมพ์ข้าง "File name" ("Save as" ถ้าใช้ Mac) เพื่อตั้งชื่อไฟล์ PDF
  7. คลิกโฟลเดอร์ใน sidebar ทางซ้าย แล้วหน้าต่างใหญ่จะโผล่มาตรงกลาง ใช้เลือกตำแหน่งที่จะเซฟไฟล์ PDF
  8. มุมขวาล่างของหน้าต่าง เพื่อเซฟหน้าเว็บเป็น PDF เวลาจะเปิดไฟล์ PDF ที่เซฟไว้ ก็แค่ดับเบิลคลิก [1]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้สมาร์ทโฟน Android

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ที่เป็นไอคอนวงล้อสีแดง เขียว เหลือง มีจุดฟ้าตรงกลาง แตะ Google Chrome ในหน้าโฮม หรือเมนู apps เพื่อเปิดขึ้นมา
  2. พิมพ์ address ของเว็บที่จะเซฟ ในแถบ address จากนั้นคลิกปุ่มหรือลิงค์ในเว็บ เพื่อไปยังหน้าเว็บที่จะเซฟ พอเซฟหน้าเว็บเป็นไฟล์ PDF แล้ว ทุกส่วนที่เห็นจะถูกเซฟไปด้วย ส่วนใหญ่ฟอร์แมตของหน้าเว็บจะเปลี่ยนไป หลังแปลงเป็น PDF
    • เซฟหน้าเว็บเป็นไฟล์ PDF แล้วจะเซฟได้เฉพาะอะไรที่เห็นในหน้าจอ ไม่ได้เซฟทั้งหน้าเว็บ
  3. มุมขวาบนของ Google Chrome เพื่อเปิดเมนูของ Google Chrome
  4. ในเมนู Google Chrome แล้วจะเห็น Share options
  5. ล่างไอคอนรูปพรินเตอร์ เพื่อเปิดเมนู Print
  6. มุมขวาบนของเมนู Print เพื่อแสดงพรินเตอร์ทั้งหมดที่มี
  7. ในรายชื่อพรินเตอร์ที่มี
  8. ที่เป็นไอคอนสีเหลือง เขียนว่า "PDF" ล่างไอคอนรูปลูกศรเหนือเส้น มุมขวาบน
  9. แตะหนึ่งในโฟลเดอร์ที่ขึ้นในเมนู เพื่อเลือกตำแหน่งเซฟไฟล์
  10. เพื่อเซฟหน้าเว็บเป็นไฟล์ PDF จะเจอไฟล์ PDF ในตำแหน่งที่เซฟไว้ ผ่านทางแอพ Files
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้ iPhone หรือ iPad

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ที่เป็นไอคอนวงล้อสีแดง เขียว เหลือง มีจุดสีฟ้าตรงกลาง ตอนนี้ Google Chrome ใน iPhone และ iPad ใช้ export หน้าเว็บเป็นไฟล์ PDF ไม่ได้แล้ว แต่คุณเซฟหน้าเว็บไว้ในรายการ "Read Later" แล้วเปิดดูแบบ offline ได้
    • ถ้าต้องเซฟหน้าเว็บเป็นไฟล์ PDF จริงๆ ก็ทำได้ด้วย Safari แทน Google Chrome
  2. พิมพ์ address ของเว็บที่จะเซฟ ในแถบ address จากนั้นคลิกปุ่มหรือลิงค์ในเว็บ เพื่อไปยังหน้าเว็บที่จะเซฟ พอเซฟหน้าเว็บเป็นไฟล์ PDF แล้ว ทุกส่วนที่เห็นจะถูกเซฟไปด้วย ส่วนใหญ่ฟอร์แมตของหน้าเว็บจะเปลี่ยนไป หลังแปลงเป็น PDF
  3. ที่เป็นไอคอน 3 จุด มุมขวาบน แล้วจะเห็นเมนูของ Google Chrome
    • ถ้าใช้ Safari ให้แตะไอคอน Share ที่เป็นไอคอนสีฟ้ารูปกล่อง มีลูกศรชี้ออกไป ตรงมุมขวาบน
  4. ทางด้านล่างของเมนู Google Chrome เพื่อเพิ่มเว็บนั้นเข้า Reading List ทางด้านบนของหน้าต่าง Google Chrome
    • ถ้าใช้ Safari ให้แตะ Create PDF แล้วแตะ Done มุมซ้ายบน จากนั้นแตะ Save File To... แล้วแตะตำแหน่งที่ต้องการเซฟไฟล์ไว้ สุดท้ายแตะ Add มุมขวาบน
    โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลดวิดีโอจากทุกเว็บไซต์ได้แบบฟรีๆ
แก้ปัญหาเข้าบางเว็บไม่ได้
หาวันที่เผยแพร่ข้อมูลของเว็บไซต์
ดูว่าใครแชร์โพสต์ของคุณบนเฟซบุ๊ก
แก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ DNS ไม่ตอบสนอง
เช็คตำแหน่งปัจจุบันใน Google Maps
ตั้งชื่ออีเมลให้โดนใจ
รู้ความหมายของอีโมจิรูปหัวใจสีดำ
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในคอมพิวเตอร์ Windows
เปิดใช้งานคุกกี้ในเว็บเบราว์เซอร์อินเตอร์เน็ตของคุณ
หาละติจูดกับลองจิจูดใน Google Maps
อิโมจิซ่อนความสยิวที่คนใช้แชตกันมากที่สุด
เว้นวรรคห่างๆ ใน HTML
หา URL ของเว็บไซต์
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 36,676 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา