ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณเคยหวังจะให้ตัวเองเดินในป่าโดยไม่มีคนได้ยินเสียง หรือย่องไปข้างหลังใครโดยที่ไม่โดนจับได้บ้างหรือไม่? การเดินโดยไม่มีเสียงนั้นใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ดูขั้นตอนที่ 1 และขั้นตอนต่อๆ ไปเพื่อเรียนรู้ที่จะเคลื่อนไหวโดยที่ไม่มีเสียง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเคลื่อนไหวโดยไม่มีเสียงนั้น เมื่อเดินบนพื้นกรอบแกรบที่เต็มไปด้วยกรวดและใบไม้จะยากกว่าเมื่อเดินอยู่บนพื้นหญ้าหรือพื้นดินมาก การจะเดินเบาๆ ต้องประเมินพื้นที่และเลือกว่าทางไหนจะเป็นทางที่เงียบที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในร่มหรือกลางแจ้ง คุณสามารถเดินบนวัสดุที่จะช่วยให้ให้คุณเดินได้เบาแทนที่จะสร้างเสียงเพิ่มขึ้น
    • ถ้าคุณกำลังเดินผ่านป่าหรือว่าพื้นที่กลางแจ้งอื่นๆ พยายามเดินบนหญ้านิ่มๆ หรือดิน ควรเดินบนใบไม้เปียกแทนที่จะเดินบนใบไม้ที่แห้งและส่งเสียงกรอบแกรบ
    • เมื่อเดินในที่กลางแจ้ง มองหาหินและรากไม้ เพราะมันจะไม่ส่งเสียงกรอบแกรบแบบใบไม้หรือกิ่งไม้ ค่อยๆ ลงน้ำหนักลงบนก้อนหินหรือรากไม้เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่พลิกแล้วเกิดเสียง เมื่อมั่นใจแล้วให้ลงน้ำหนักทั้งหมดลงไป
    • ถ้าเป็นในเมือง ให้หลีกเลี่ยงทางเดินที่ปูไม้หรือที่ราดกรวด, หินกรวดใหญ่, หรือวัสดุอื่นๆ ไว้ ซึ่งมีแนวโน้มจะทำให้เกิดเสียง
    • ในที่ร่ม ให้เดินบนพื้นที่ปูพรมทุกครั้งเมื่อมีโอกาส
    • เมื่อปีนต้นไม้หรือหน้าผา ระมัดระวังว่าคุณจะวางเท้าตรงไหน.พยายามวางนิ้วเท้ากับอุ้งเท้าด้านหน้าไปตรงระหว่างกิ่งไม้และบนหินแง่งสามเหลี่ยมบนหน้าผา ถ้าคุณต้องขยับไปอยู่ตรงกลางกิ่งไม้หรือเลื่อนมาอยู่ข้างหน้าผา ค่อยๆ ขยับมาและทำอย่างระมัดระวัง เพราะแรงเพียงนิดเดียวก็จะทำให้เศษหินที่แตกตกลงมาหรือทำให้กิ่งก้านเล็กๆ หักและทำให้คนที่ดูอยู่รู้ตัว
  2. พื้นที่ที่คุณเดินเข้าไปมีแนวโน้มจะสร้างเสียงได้เท่ากับพื้นที่อยู่ใต้เท้าคุณ เมื่อคุณเดินอย่างเงียบเชียบ มันจำเป็นมากที่จะต้องระมัดระวังสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณให้ถึงที่สุดเพื่อที่คุณจะได้ไม่ไปแตะอะไรเข้าจนต้องเผยตัวคุณ
    • หลีกเลี่ยงก้านไม้และกิ่งไม้ที่จะเกี่ยวเสื้อผ้าของคุณแล้วหักได้
    • หลีกเลี่ยงประตูหรือรั้วที่จะส่งเสียงแหลมหรือลั่นเอี๊ยด
    • พยายามอย่าปัดไปโดยกองของสิ่งของหรือผ้าที่อาจส่งเสียงสวบสาบ
  3. เดินหมอบเล็กน้อย ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนของคุณเมื่อเคลื่อนที่ วิธีนี้จะทำให้แรงที่จะปะทะกับพื้นทุกครั้งที่คุณเคลื่อนตัวเบาลงได้ ซึ่งจะช่ายให้คุณเคลื่อนที่ได้เงียบมากขึ้น เกร็งร่างกายเข้าไว้ และกระจายน้ำหนักให้ทั่วเพื่อที่คุณจะไม่กระทบกับพื้นแล้วเกิดเสียง
  4. วางส้นเท้าของคุณก่อนแล้วค่อยๆ วางส่วนที่เหลือไปจนถึงนิ้วเท้าลงช้าๆ และเบาๆ บนพื้น ขณะที่เดินบิดสะโพกนิดหน่อยเพื่อให้การก้าวเดินของคุณอยู่ในการควบคุม เดินด้วยขอบนอกของรองเท้าคุณถ้าเป็นไปได้
    • ถ้าต้องเคลื่อนไหวอย่างว่องไว พยายามอยู่ต่ำใกล้ๆ พื้นและวิ่งไปโดยใช้หลักการแบบลงส้นเท้าก่อน
    • เมื่อคุณต้องเคลื่อนไหวถอยหลัง ให้วางเท้าด้านหน้าลงพื้นก่อนแล้วค่อยวางส้นเท้าหลังลงบนพื้นตาม
    • การวิ่งด้วยเท้าด้านหน้าจะช่วยให้ไปได้เร็วขึ้นโดยที่ไม่มีเสียง แต่ต้องระวังเพราะวิธีนี้ต้องการความแข็งแรงของเท้าและน่อง พร้อมทั้งต้องการความยืดหยุ่นอย่างมากของข้อเท้าและข้อต่อของเท้า และยังต้องใช้การทรงตัวที่ดีกว่าการเคลื่อนไหวแบบธรรมดา และจะสร้างรอยเท้าใหญ่ประทับไว้บนพื้นผิวที่นุ่มกว่า (เพราะน้ำหนักที่กระจายไปทั่วบริเวณพื้นผิวที่ยุบตัวลง)
    • ลงอย่างเบาๆ การวางหรือการกระโดดให้เบาเสียงนั้นยาก แต่ก็เป็นไปได้ถ้าคุณเชี่ยวชาญในศิลปะของการลงอย่างเงียบเชียบ ลงในท่าย่อตัวและสมดุลโดยไม่กระแทกพื้นแรงเกินไป
  5. พยายามอย่าใช้มือหรือแขนรักษาสมดุลของคุณบนกำแพงหรือที่อื่นๆ เพราะคุณอาจจะไปชนบางอย่างเข้าและเปิดเผยตัวตนของคุณได้ แทนที่จะทำอย่างนั้นให้เก็บแขนไว้ในตำแหน่งที่คุณรู้สึกว่าสะดวกสบายและสมดุลแทน
  6. ย้ายน้ำหนักและแรงกดส่วนใหญ่ไปจากเท้าของคุณ. แน่นอนว่าคุณไม่สามารถจะย้ายน้ำหนักและแรงกดทั้งหมดได้ แม้ว่ามันจะไม่ได้ระบุไว้เป็นทฤษฎีแต่มันก็สามารถอธิบายได้ว่าเป็นความรู้สึกเท้าว่างเปล่า (ไม่ใช่เท้าชา) และความรู้สึกของหัวแม่เท้าที่มีแรงกด การส่งน้ำหนักของคุณและแรงกดไปที่หัวแม่เท้าจะทำให้คุณตระหนักรู้สิ่งรอบตัว ช่วยสร้างความตื่นตัว สิ่งนี้เป็นประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะการกระโดด ถ้ามีใบไม้แห้งกระจายไปอย่างหนา คุณอาจจะต้องกระโดด เมื่อกระโดดก็ให้ตั้งเป้าสำหรับจุดที่ไม่เปียก (เช่น แอ่งน้ำ) และไม่ปกคลุมไปด้วยวัชพืชแห้ง (เช่น ใบไม้แห้งหรือหญ้าแห้ง) ลงด้วยนิ้วเท้าและอุ้งเท้าหน้า การใส่รองเท้าผ้าใบจะช่วยได้มากเพราะยางจะช่วยทำให้เสียงเบาลง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

สวมใส่อุปกรณ์ที่เหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ยิ่งรองเท้าทำด้วยวัสดุที่แข็งเท่าไหร่เสียงก็ยิ่งดังเท่านั้น ชนิดของรองเท้าที่ดีที่สุดก็คือถุงเท้าหรือรองเท้าหนังนิ่ม แต่ว่ารองเท้าบู๊ทที่พอดีกับเท้าหรือรองเท้าผ้าใบก็ใช้งานได้ดีเหมือนกัน หลีกเลี่ยงรองเท้าบู๊ทพื้นแข็ง รองเท้าที่มีส้นหรือมีพื้นแข็ง หรือรองเท้าที่ใส่แล้วเดินยาก รองเท้านิ่มๆ คือสิ่งที่เหมาะที่สุด
    • ถุงเท้าชุ่มเหงื่อจะทำให้มีเสียงได้เมื่อคุณเดิน ถ้าคุณเหงื่อออกมากเวลาใส่ถุงเท้า ให้ใส่ถุงเท้าสองชั้นเพื่อเก็บเสียง
    • การเดินเท้าเปล่าเป็นการเคลื่อนไหวที่เงียบที่สุด แต่ก็สามารถเป็นวิธีที่ดังที่สุดได้เหมือนกัน – ถ้าคุณเหยียบลงบนของมีคมแล้วร้องออกมาเพราะความเจ็บ ซึ่งจะเปิดเผยตัวตนของคุณ นอกจากนั้นถ้าเท้าของคุณชุ่มเหงื่อมันอาจจะติดกับผ้าที่อยู่บนพื้นแล้วเกิดเสียงสีกันได้ มันมีทางที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเสียงนี้ด้วยการไม่ให้เท้าสัมผัสพื้นมากเกินไปและเดินตะแคงเท้า แต่ต้องระวัง เพราะว่ามันต้องการแรงและการทรงตัวอย่างมาก ตัดสินใจเอาว่าการเดินเท้าเปล่าเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดสำหรับสิ่งแวดล้อมที่คุณจะต้องเข้าไปเดินหรือไม่
    • ดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่ใช้สวมเท้าที่คุณใส่แห้งสนิทจริงๆ ไม่เพียงแต่มันจะดังเอี๊ยดอ๊าด แต่รอยชื้นบนพื้นจะทำให้ใครสักคนเห็นว่าคุณอยู่ตรงนั้น เมื่อรอยเท้าชื้นๆ นี้แห้ง มันก็จะทิ้ง “รอยพิมพ์” รูปรองเท้าของคุณไว้ชัดเจน โดยเฉพาะบนพื้นผิวคอนกรีต
  2. ถ้าเท้าลื่นไถลในสิ่งที่ใช้สวมเท้า ก็อาจจะเกิดเสียงเสียดสี โดยเฉพาะถ้าเท้าของคุณมีเหงื่อออก ถ้าคุณใส่รองเท้าที่มีเชือกร้อยรองเท้า ยัดเชือกนั้นเข้าไปไว้ในรองเท้า ถ้าไม่ทำอย่างนั้นมันก็อาจจะไปกระทบกับรองเท้าหรือพื้นเมื่อเดิน
  3. กางเกงที่หลวมจะสีกับขาของคุณเมื่อคุณเดินอยู่ ทำให้เกิดเสียงเสียดสีปัดกัน การใส่กางเกงที่รัดกระชับหน่อยจะช่วยลดความเป็นไปได้นี้ การใส่เสื้อผ้าที่นุ่ม และกางเกงลำลองผ้าค็อตตอนเบาๆ จะทำให้เสียงเบาลง
    • ใส่เสื้อเอาไว้ในกางเกง และยัดชายกางเกงเอาไว้ในรองเท้าหรือถุงเท้า สิ่งนี้จะป้องกันไม่ให้มันแกว่งไปแกว่งมา
    • กางเกงขาสั้นมีแนวโน้มที่จะสร้างเสียงมากกว่ากางเกงขายาว และคุณไม่สามารถยัดชายกางเกงขาสั้นเข้าไปในถุงเท้าได้ ถ้าคุณจำเป็นต้องใส่กางเกงขาสั้น ลองพยายามรัดเชือกหรือยางรอบชายกางเกงบริเวณเข่า แต่อย่าให้แน่นจนเลือดไม่เดิน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

อย่าส่งเสียง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณมีเวลาที่จะเตรียมตัวก่อนที่คุณจะต้องเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่คุณต้องเดินเบาๆ การตระเตรียมเล็กน้อยจะช่วยให้คุณสร้างเสียงออกมาน้อยลงเมื่อคุณเดิน ยกตัวอย่างเช่น
    • ยืดกล้ามเนื้อก่อนที่คุณจะต้องเดินอย่างไม่มีเสียง เป็นธรรมดาที่ข้อต่อหรือกระดูกของคนจะลั่นเมื่อคุณใช้มันในครั้งแรก ดังนั้นยืดกล้ามเนื้อก่อนที่คุณจะไปอยู่ในช่วงเวลาที่พลาดไม่ได้จึงเป็นความคิดที่ดี การยืดกล้ามเนื้อจะทำให้คุณรู้สึกโล่งขึ้นและหยุดไม่ให้เสียงลั่นตามข้อต่อหรือกระดูกจะเปิดเผยตัวของคุณ
    • อย่าไปโดยที่ยังไม่ได้กินอะไรเลย แล้วก็ไม่ต้องกินมื้อใหญ่ด้วยเหมือนกัน ร่างกายของคุณจะหนักขึ้น และจะสร้างเสียงดังขึ้นอีกด้วย
    • เข้าห้องน้ำก่อนที่คุณจะต้องไปเดินอย่างไม่มีเสียง
  2. คุณอาจรู้สึกอยากจะกลั้นหายใจ แต่มันจะดีกว่าถ้าคุณหายใจอย่างช้าและควบคุมได้โดยจมูก ด้วยวิธีนั้น คุณจะไม่เสี่ยงหายใจเข้าหรือหายใจออกดังเกินไปเมื่อคุณต้องการอากาศ ถ้าคุณรู้สึกอึดอัดให้อ้าปากกว้างๆ และหายใจเข้าอย่างควบคุมได้
    • คุณอาจจะรู้สึกว่าหายใจเร็วขึ้นเมื่อสารอะดรีนาลีนหลั่งไปทั่วร่างกาย ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้น ให้หยุดชั่วครู่ หายใจให้ทัน และหายใจลึกๆ อย่างสงบเพื่อทำให้หายประหม่ากังวล เมื่อแน่ใจว่าคุณหายใจเป็นปกติแล้วค่อยไปต่อ
  3. ถ้าคุณกำลังเดินตามใครสักคนอยู่ คุณจะซ่อนเสียงเดินของคุณได้ด้วยการเดินจังหวะก้าวเดียวกับเขาหรือเธอ เมื่อคนคนนั้นก้าวขาซ้ายของเขาหรือเธอ คุณต้องใช้ขาซ้ายเช่นกัน และก้าวตามด้วยขาขวา สิ่งนี้จะกลบเสียงที่เท้าของคุณสร้างขึ้น
    • ระวังอย่าใจลอยเมื่อพยายามเดินตามจังหวะของคนอื่น มันยังคงสำคัญที่จะใช้เทคนิคสำหรับการเดินให้ไม่มีเสียง ไม่อย่างนั้นแล้ว ถ้าบุคคลนั้นหยุดเดินกะทันหันแล้วคุณยังเดินต่อเรื่อยๆ คุณจะถูกจับได้
  4. ถ้าคุณต้องเคลื่อนไหวผ่านที่ที่เป็นป่าซึ่งมีกิ่งไม้แห้ง ท่อนไม้แห้ง ต้นไม้แห้ง หรือใบไม้ ก็จะทำให้ไม่สามารถเงียบเสียงได้อย่างหมดจด เดินไปทีละน้อย ค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสม่ำเสมอและหยุดพัก อย่าเดินด้วยก้าวหนักสม่ำเสมอ เดินแบบมาร์ช หรือกระแทกเท้าเป็นจังหวะ
    • เลียนแบบเสียงรอบตัวคุณ ยกตัวอย่างเช่น ในป่าอาจจะมีเสียงสัตว์เล็กๆ ออกหาอาหาร พวกมันจะเคลื่อนไหวระยะสั้น หยุดเพื่อจะดมกลิ่นอาหารหรือนักล่า และเคลื่อนไหวต่อไปอีกสั้นๆ
    • ใช้แหล่งเสียงอื่นๆ (เสียงลมพัด, เสียงสัตว์อื่นๆ เคลื่อนไหว และเสียงรถที่ผ่านไปมา) ให้เป็นประโยชน์ เพื่อที่จะกดหรืออำพรางเสียง
  5. ถ้าเป้าหมายของคุณคือการเดินผ่านที่ใดที่หนึ่งโดยไม่สร้างเสียงเลย บางทีคุณอาจจะต้องอยู่ให้นิ่ง อยู่ในนิ่งแล้วสังเกตสิ่งรอบตัวก่อนที่จะเคลื่อนไปข้างหน้า ใช้เวลามากเท่าที่คุณต้องการเพื่อสังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณซึ่งจะทำให้คุณพลาดและเปิดเผยตัวของคุณได้
    • ถ้าคุณกำลังตามให้อยู่พยายามอย่าให้ถูกเห็น จะมีช่วงเวลาที่คุณต้องฝึกความอดทนขั้นสูงสุด อยู่ให้นิ่งและรอให้คนอื่นไป หรือรอให้ความถึงเครียดของสถานการณ์ผ่อนลงก่อนจะเดินไปข้างหน้า
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เมื่อเปิดประตู ใช้แรงกดไปที่ด้านบนของที่จับเพื่อที่ประตูจะได้ไม่ร้อง และให้หมุนลูกบิดเพื่อที่กลอนจะได้หดเข้าไปให้หมดก่อนที่จะใช้แรงกดต่างๆ ไปที่ประตู กดลูกบิดไว้เมื่อเดินผ่านประตูออกมา ปิดประตู ดันมันไปที่วงกับเพื่อกลอนจะได้เข้าที่โดยไม่ส่งเสียงดีด จากนั้นปล่อยลูกบิดเบาๆ
  • อยู่ให้ห่างสัตว์ที่จะมีปฏิกิริยาต่อตัวคุณ
  • ถ้ากำลังย่องหรือแอบ ให้อยู่ใต้ลม เพราะมีสัตว์และผู้คนที่จมูกไวอยู่
  • เกร็งต้นขา สิ่งนี้จะไม่เพียงแค่ลดเสียงต้นขาของคุณที่เสียดสีกันเองแต่ยังจะช่วยให้ก้าวของคุณเบาลงด้วย
  • ถ้าใครสักคนมองคุณขณะที่คุณกำลังแอบ อย่าขยับ ทุกการเคลื่อนไหวจะทำให้พวกเขาหันมาสนใจการปรากฏตัวของคุณ ถ้าพวกเขาหันหนี ให้นับหนึ่งถึงสามสิบแล้วค่อยเคลื่อนไหวอีกครั้งเผื่อว่าพวกเขาจะพยายามหันกลับมาไวๆ เพื่อดูอีกครั้ง แค่เหลือบตาก็อาจจะทำให้คุณพลาดได้ คำพูดที่ว่า “ถ้าคุณไม่เห็นพวกเขา พวกเขาก็ไม่เห็นคุณ” ไม่ค่อยจะจริงเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณทำเป็นว่าพวกเขาไม่ได้เห็นคุณจริงๆ สติของคุณและร่างกายของคุณจะจะผ่อนคลายน้อยลงหรือไปในทางใดทางหนึ่งและเผยตัวของคุณได้
  • พยายามอย่าเปลี่ยนจุดลงน้ำหนักจนกว่าเท้าที่ก้าวไปข้างหน้าจะวางลงบนพื้นอย่างเงียบเชียบและมั่นคงดีแล้ว สิ่งนี้จะต้องการการฝึกฝนและการทรงตัวอย่างมาก
  • เมื่อเปิดประตูที่มีเสียงออดแอด ใช้แรงไปที่ประตูเมื่อดึงมันให้เปิด ถ้ามันยังส่งเสียง ก็ให้เปิดปิดไวๆ เพื่อเลี่ยงระยะเวลาที่มันส่งเสียง
  • เมื่อใช้บันได จะได้ผลกว่าถ้าก้าวข้ามขั้น แต่อย่าข้ามหลายชั้นนักเพราะคุณจะใช้แรงกดกับมันมากเป็นพิเศษและมันจะส่งเสียงดังกว่าปกติ
  • ถ้าเสื้อผ้าของคุณสร้างเสียงที่สุดวิสัยขึ้นมาจริงๆ รอสักหน่อยก่อนจะเดิน และพยายามใช้ประโยชน์จากเสียงรบกวนอื่นๆ เลือกที่จะเคลื่อนไหวเมื่อเสียงอื่นกำลังดังอยู่เพื่อกลบเสียงของคุณ
  • อย่าหัวเราะคิกคัก หลุดขำ กลั้นขำ หรือแม้แต่ขำออกมาพร้อมลมหายใจ ต้องจริงจังให้ถึงที่สุด ดั่งเจ้างูที่แอบเลื้อยเข้ามา เคลื่อนไหวเหมือนสายลม ไม่ใช่พายุ


โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าแอบเข้าไปในบ้านคนอื่น โดยเฉพาะตอนกลางคืน แม้ว่าจะเป็นบ้านของเพื่อน จากมุมมองของคนที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นตอนที่มันมืด คุณอาจจะดูคุกคาม และเสี่ยงต่อการถูกจู่โจมหรือฆ่า
  • ระว่างสิ่งที่คุณสวมใส่อยู่ เช่น โซ่ กุญแจ ที่เสียงของมันจะเป็นผลร้ายต่อคุณ
  • ระวังหิมะเพราะมันจะสร้างเสียงบดที่แตกต่าง และเส้นทางของคุณก็จะถูกตามได้ ซึ่งก็จะเป็นผลร้ายต่อคุณอีกเช่นกัน
  • พยายามอย่าไปฝึกสิ่งนี้ในที่สาธารณะในยามวิกาล เพราะหากมีคนที่ไม่รู้จักคุณมาเห็นว่าคุณทำอะไร เขาอาจจะคิดว่าคุณเริ่มทำอะไรไม่ดีอยู่แน่ๆ
  • ระวังทรายและสสารอื่นๆ ที่เป็นอนุภาค เพราะปริมาณเล็กน้อยก็อาจจะติดกับรองเท้าของคุณและเมื่อคุณเดินลุยมันหรือว่าโดนน้ำค้างหรือความชื้น ถ้าคุณเหยียบลงบนพื้นที่แข็ง เม็ดเหล่านั้นจะสร้างเสียงดังประมาณหนึ่งเมื่อมันถูกบด นี่ไม่ใช่ปัญหากับพื้นที่นุ่มแต่จะเป็นการดีถ้าหลีกเลี่ยงได้
  • ถ้าคุณย่องเข้าข้างหลังคนหรือสัตว์ เขา/เธอ/มัน อาจจะกลัวและจู่โจมคุณโดยสันชาตญาณก่อนที่จะรู้ว่าคุณไม่ได้มีเจตนาร้าย
  • อย่าใช้ทักษะนี้ในการย่องเข้าข้างหลังใครในยามวิกาล โดยเฉพาะถ้าคนนั้นไม่รู้จักคุณดี เพราะเมื่อคุณถูกจับได้ เขาอาจจะทำให้เรื่องใหญ่ขึ้นด้วยการใช้กำลังหรือว่าเรียกตำรวจ
  • ถ้าคุณต้องเก็บของ เช่น เงินเหรียญ ที่จะกระทบกันแล้วส่งเสียงได้ให้ใส่มันไว้ในกระเป๋าที่แน่นเพื่อที่มันจะได้ไม่ส่งเสียง คุณยังสามารถลดเสียงเหล่านี้ได้ด้วยการใช้เทปกาวติดมันไว้ด้วยกันเพื่อป้องกันไม่ให้มันเคลื่อนเข้าหากัน
  • ด้วยความรู้เรื่องการทำอะไรลับๆ ก็สามารถจะดึงดูดให้ต้องการจะทดสอบความสามารถนี้ แต่อย่าใช้ความสามารถนี้ไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายและเป็นอันตราย
  • เสียงของเหรียญหรือกุญแจที่กระทบกันในกระเป๋า ลดได้ด้วยการใส่แยกลงในกระเป๋าคนละที่ หรือเก็บไว้ในที่ปลอดภัยอื่นๆ
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • รองเท้าที่ปลอดภัยและอ่อนนุ่ม
  • เสื้อผ้าที่ไม่โป่งเมื่อโดนลม
  • เนื้อผ้าที่ไม่ส่งเสียงเสียดสี
  • กระเป๋าสำหรับบรรจุของ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 14,853 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา