ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ทริปไปเที่ยวทะเลมีความสนุกรอคุณอยู่มากมายและผ่อนคลายมากๆ ด้วย แต่ถ้าเป็นทริปที่คุณวางแผนไปแบบง่อยๆ คุณก็อาจจะถึงขั้นเจ็บตัวได้จริงๆ โดยเฉพาะถ้าคุณลืมเอาครีมกันแดดใส่กระเป๋าไปด้วย ในการจะไปเที่ยวทะเลให้สนุกนั้น คุณจะต้องวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้ทริปนี้เป็นทริปที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นเผื่อเวลาสัก 2-3 วันในการวางแผนไปเที่ยวทะเลครั้งถัดไป

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เก็บของไปเที่ยว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใส่ชุดว่ายน้ำที่คุณเลือกลงในกระเป๋าและเตรียมชุดไว้เปลี่ยนด้วย ชุดสำหรับเปลี่ยนนี้มีไว้สำหรับตอนขากลับ คุณจะได้ไม่ต้องนั่งรถมาแบบตัวเปียกๆ และทรายติดเต็มตัว [1]
    • และคุณต้องแน่ใจว่าเสื้อผ้าที่คุณเลือกไปจะทำให้คุณรู้สึกสบายได้ตลอดทั้งวัน
    • การมีเสื้อผ้าเผื่อไว้ทำให้คุณสามารถแวะที่อื่นๆ หลังจากไปทะเลแล้วได้
    • อย่าลืมเลือกรองเท้าดีๆ ไปด้วย เอารองเท้าแตะไปไว้สำหรับเดินบนชายหาดและรองเท้าลุยน้ำสำหรับเดินลงน้ำ เพื่อที่คุณจะได้พร้อมสำหรับทุกกิจกรรม
  2. คุณคงไม่อยากให้ผิวไหม้แดดขั้นรุนแรงมาทำให้ทริปไปเที่ยวทะเลของคุณต้องพัง และคุณก็ต้องปกป้องตัวเองจากแสงแดดเพื่อให้ผิวของคุณดูเด็กกว่าอายุจริงและป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังด้วย [2]
    • เริ่มจากครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อยที่สุด 15 และต้องป้องกันคุณจากทั้งรังสี UVA และ UVB อย่าลืมเอาลิปบาล์มที่มีสารกันแดดเตรียมไปด้วยเพื่อปกป้องริมฝีปากของคุณ คุณต้องทาครีมกันแดดซ้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากที่เหงื่อออกหรือกระโดดลงไปเล่นในน้ำ
    • ใส่เสื้อผ้าที่ช่วยปกป้องคุณจากแสงแดด หมวกและแว่นกันแดดสามารถปกป้องใบหน้าและดวงตาของคุณได้เป็นอย่างดี แต่การใส่ชุดคลุมชายหาดที่เป็นแขนยาวก็ช่วยเพิ่มการปกป้องได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าคุณไม่ชอบใส่ชุดคลุมชายหาด ก็อาจใช้ร่มชายหาดหรือเต็นท์/โครงริมชายหาดแทน
  3. เก้าอี้ชายหาดหรือผ้าขนหนูก็ใช้ได้ แต่ถ้าคุณจะใช้ผ้าขนหนู คุณต้องเตรียมอีกผืนไว้สำหรับเช็ดตัวให้แห้งต่างหาก ถ้าคุณจะใช้เก้าอี้พลาสติก คุณก็อาจจะต้องเตรียมผ้าขนหนูไปอีกผืนหนึ่งอยู่ดีเพื่อไม่ให้เก้าอี้ร้อนเกินไประหว่างที่คุณไม่ได้นั่ง คุณอาจจะเอาผ้าห่มเก่าๆ ที่ถ้าเปรอะทรายก็ไม่เป็นไรไปด้วยก็ได้ [3]
    • อีกหนึ่งตัวเลือกคือผ้าปูที่นอนขนาดคิงไซส์ผืนเก่าที่ใช้ไม่ได้แล้ว และคุณก็อาจจะเอากระเป๋าหรือกระติกเก็บความเย็นวางไว้ตรงมุมผ้า เพื่อให้ผ้าปูที่นอนกลายเป็นคอกเด็กเล่นเล็กๆ สบายๆ สำหรับคุณและครอบครัว [4]
  4. แน่ล่ะว่าคุณคงหวังว่าจะไม่มีใครเจ็บตัว แต่การพกชุดปฐมพยาบาลพื้นฐานไปด้วยจะทำให้คุณโล่งใจหากมีใครเป็นอะไรขึ้นมา คุณจะซื้อชุดปฐมพยาบาลสำเร็จรูปหรือทำเองก็ได้ [5]
    • คุณต้องมีของอย่างผ้าพันแผล ขี้ผึ้งปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด เทอร์โมมิเตอร์ และยาแก้ท้องเสีย คุณอาจจะพกยาแก้แพ้ไปด้วยก็ได้
    • คุณต้องมีผ้าพันแผลประเภทต่างๆ ทั้งแบบแผ่นเล็กๆ ที่เป็นแผ่นกาวและแบบม้วน ผ้าก๊อซ และเทปพันแผล และคุณก็ควรจะมีของอย่างยาฆ่าเชื้อ ยาไฮโดรคอร์ติโซน ถุงมือที่ไม่ได้ทำจากน้ำยาง และผ้ารัดแผลต่างๆ ด้วย [6]
    • และอย่าลืมเอายาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปที่คุณใช้บ่อยๆ ติดไปด้วย
  5. ใช้กระเป๋าที่โดนน้ำแล้วไม่เปียกหรือกระเป๋ากันน้ำ. คุณจะต้องมีที่ไว้สำหรับซ่อนของมีค่าไม่ให้โดนน้ำและทราย เลือกกระเป๋าที่กันน้ำได้ประมาณหนึ่งหรือโดนน้ำแล้วไม่เปียกเพื่อที่คุณจะได้ซ่อนโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ไว้ได้ ส่วนของที่ไม่สามารถหาซื้อได้อีกนั้นถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องเอาไป เพราะเผื่อคุณทำหายหรือทำพังตอนอยู่ที่ชายหาด [7]
    • อีกเคล็ดลับในการเก็บของมีค่าก็คือให้ทำความสะอาดขวดครีมกันแดดขวดเก่า แล้วใช้เป็นที่ซ่อนของที่คุณกลัวว่าจะถูกขโมย และยังช่วยป้องกันไม่ให้ของชิ้นนั้นเปียกได้ด้วย
    • หรือคุณอาจจะปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณด้วยการใส่ไว้ในกระเป๋าใสเล็กๆ ที่มีซิปรูดด้านบนก็ได้ [8]
    • สำหรับของเล่นชายหาด ให้เอาใส่ถุงตาข่ายเพื่อที่ทรายจะได้ไม่ติดมาด้วย และเอาอาหารทั้งหมดใส่ไว้ในกระติกเก็บความเย็นที่มีน้ำแข็งอยู่
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

วางแผนกิจกรรม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณไปเที่ยวเป็นกลุ่ม ให้หากิจกรรมที่ทุกคนสามารถเล่นได้ เช่น ไพ่กันน้ำ 1 สำรับถือเป็นของที่ควรนำติดไปด้วยเวลาไปทะเลถ้าลมไม่แรงเกินไป หรือคุณจะเอาเกมกระดานที่ไม่ได้มีชิ้นส่วนกระจุกกระจิกมากนักติดไปด้วยก็ได้ เช่นเกม Twister ก็เหมาะจะไปเล่นที่ชายหาดเหมือนกัน [9]
    • อย่าลืมเตรียมกิจกรรมสนุกๆ ไว้ให้เด็กๆ ที่ไปกับกลุ่มด้วย ที่ชายหาดคุณก็แค่เตรียมของเล่นทั่วไปไว้ให้พวกเขา เช่น ถังน้ำ พลั่ว และของเล่นถูกๆ อื่นๆ แล้วลูกๆ ของคุณจะสนุกกับการเล่นทรายและน้ำทะเลสุดๆ [10]
  2. เสียงเพลงเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกสนุกสนาน วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ก็คือให้คุณนำวิทยุกันน้ำที่ใช้แบตเตอรี่อย่างวิทยุในห้องน้ำติดไปด้วย หรือคุณอาจจะใช้ลำโพงบลูทูธกันน้ำเพื่อที่คุณจะได้เปิดเพลงจากโทรศัพท์ได้ [11]
  3. คุณอาจจะเพลิดเพลินไปกับการนั่งๆ นอนๆ เอื่อยๆ นิดหน่อยแต่คุณก็อาจจะอยากมีกิจกรรมที่คุณทำสนุกๆ คนเดียวได้ เช่น เอาหนังสือเบาๆ ติดตัวไปสักเล่มที่คุณตั้งใจว่าจะอ่านชิวๆ ทริปไปทะเลนี่แหละคือเวลาดีที่คุณจะได้อ่านหนังสือ [12]
    • ถ้าคุณจะใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คุณต้องแน่ใจว่าคุณสามารถอ่านได้ท่ามกลางแดดเปรี้ยงๆ และคุณมีที่ชาร์จแบตฯ พกพาติดไปด้วยเมื่อถึงเวลาต้องใช้ คุณอาจจะเอาที่ชาร์จแบตฯ โทรศัพท์แบบพกพาติดตัวไปด้วย ใส่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไว้ในถุงใสที่มีซิปรูดด้านบนเพื่อไม่ให้เครื่องโดนน้ำ
    • คุณอาจจะเอาหนังสือที่เป็นเกมไปด้วย เช่น หนังสือปริศนาอักษรไขว้หรือซูโดกุ
  4. ถ้าคุณกะว่าจะอยู่บนชาดหาดสัก 2-3 ชั่วโมง คุณต้องเอาขนมและเครื่องดื่มติดไปด้วยเผื่อหิว และเลือกขนมง่ายๆ เพราะถ้าคุณเลือกอะไรที่ต้องเอาโน่นนี่มาประกบกันยากๆ ก็เป็นไปได้ว่าทรายจะลงไปอยู่ในอาหารของคุณด้วย [13]
    • ขนมที่ดีได้แก่ผลไม้ กราโนลาบาร์ ผักหั่นชิ้น และน้ำเปล่า ไม่ต้องเอาน้ำอัดลมไปเพราะมันเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกายได้ไม่ดีเท่า
    • หรือจริงๆ ถ้าคุณกะว่าจะอยู่บนชายหาดทั้งวัน ก็เตรียมอาหารกลางวันอย่างเดียวไปเลย ถึงคุณจะเอากระติกเก็บความเย็นไว้เก็บเครื่องดื่มไปด้วยได้ แต่ก็ควรเลือกของที่จะไม่เสียง่ายๆ อย่างเนยถั่วกับเยลลี่จะดีกว่า
    • พกถุงเล็กๆ ไว้ใส่ขยะที่อาจจะมีระหว่างที่อยู่ที่ชายหาด เพราะถังขยะที่ชายหาดอาจจะหายาก
    • พกทิชชู่เปียกไปกับอาหารด้วย เพราะคุณจะได้เอาไว้ทำความสะอาดมือก่อนและหลังรับประทานอาหาร
  5. เวลาไปทะเล คุณจะต้องทำเครื่องหมายไว้ว่านี่เป็นขอบเขตพื้นที่ที่คุณจองไว้ ถ้าจะให้ดีควรไปแต่เช้าๆ ตอนที่คนยังน้อยเพื่อที่คุณจะได้มีโอกาสได้ที่ดีๆ [14]
    • เลือกที่ที่ใกล้น้ำทะเลแต่ไม่ใกล้มาก คุณจะได้ไม่ถูกซัดเวลาคลื่นมา
    • ถ้าที่ชายหาดมีเก้าอี้หรือร่มให้เช่า ก็เช่ามาเถอะเพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น
    • อยู่ใกล้ๆ กับคนที่เที่ยวทะเลแบบเดียวกัน ก็คือถ้าคุณกะว่าคุณไปทะเลเพื่อที่จะปาร์ตี้และสนุกกับเพื่อนๆ ให้เลือกที่ที่คนอื่นก็เสียงดังและเปิดเพลงเหมือนกัน แต่ถ้าคุณอยากได้ที่เงียบๆ ไว้นั่งอ่านหนังสือ ก็ให้หาที่ที่แยกมาจากคนอื่น ถ้าคุณมากับครอบครัว ก็ให้อยู่ใกล้กับครอบครัวอื่นๆ เพื่อที่เด็กๆ จะได้เล่นด้วยกันได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ซื้อชุดว่ายน้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาที่คุณลองชุดว่ายน้ำ คุณจะต้องใส่ชุดชั้นในไว้ด้วย แต่คุณก็ต้องลองจนแน่ใจด้วยว่าชุดว่ายน้ำใส่ได้พอดี เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องเลือกชุดว่ายน้ำที่ไม่รัดติ้วจนเห็นเนื้อเป็นก้อนๆ และเลือกชุดชั้นในที่ค่อนข้างบางใส่ไปเลือกชุดว่ายน้ำที่ร้าน [15]
  2. หลายเว็บไซต์จะแนะนำให้คุณเลือกชุดว่ายน้ำสไตล์ที่เสริมประเภทรูปร่างของคุณ แต่ความจริงคือคุณสามารถหาชุดว่ายน้ำที่เสริมรูปร่างคุณได้ไม่ว่าจะสไตล์ไหนก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือต้องใส่แล้วสบายและคุณก็ชอบชุดนั้นด้วย [16]
    • เช่น คุณอาจจะคิดว่าตัวเองไม่น่าจะใส่ชุดว่ายน้ำแบบทูพีซได้เพราะไม่มั่นใจในส่วนเว้าส่วนโค้ง ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะโชว์เนื้อหนังมังสามากนัก คุณอาจจะใส่แทงกินี่ (Tankini) ซึ่งก็คือการใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงในบิกินีหรือกางเกงบิกินี่แบบเอวสูง เลือกลายสนุกๆ ชนิดที่ใส่แล้วดูโดดเด้งสุดๆ
    • สำหรับผู้ชาย คุณก็ต้องเลือกเหมือนกันว่าคุณอยากได้กางเกงว่ายน้ำประมาณไหน เช่น คุณอยากจะโชว์ผิวของคุณมากน้อยแค่ไหน คุณเลือกได้ตั้งแต่กางเกงขาสั้นสำหรับใส่ไปทะเลแบบเต็มตัวไปจนถึงกางเกงว่ายน้ำแบบครึ่งตัว
  3. ไม่ต้องกระโดดจริงๆ ก็ได้ แต่คุณควรเดินไปเดินมาให้มากที่สุดเวลาใส่ชุดว่ายน้ำเข้าไปแล้ว คุณต้องแน่ใจว่าทุกชิ้นอยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่เพราะเวลาอยู่ในน้ำคุณจะต้องขยับตัวไปมาบ่อยๆ อยู่แล้ว [17]
    • ลองเดินไปเดินมานอกห้องลองเสื้อหรือกระโดดตบสัก 2-3 ทีในชุดว่ายน้ำเพื่อดูว่าชุดมันเป็นยังไง และต้องแน่ใจว่ามันไม่ย้วยไปอยู่ทางนั้นทีทางนี้ที
  4. ชุดคลุมชายหาดคือสิ่งที่คุณสามารถสวมทับชุดว่ายน้ำเพื่อเดินจากชายหาดไปที่รถหรือเดินไปเดินมาชิวๆ บนชายหาดตอนที่คุณไม่ได้ว่ายน้ำได้ สำหรับผู้ชายชุดคลุมชายหาดอาจจะเป็นอะไรง่ายๆ อย่างเสื้อยืดธรรมดา สำหรับผู้หญิงก็อาจจะเป็นได้ตั้งแต่กางเกงขาสั้นสักตัวกับเสื้อ ไปจนถึงชุดคลุมเบาๆ พลิ้วๆ สำหรับใส่ทับชุดว่ายน้ำหรือโสร่ง [18]
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

เตรียมเรือนร่างให้พร้อม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณใส่ชุดว่ายน้ำที่ค่อนข้างเปิดเผยและคุณไม่ชอบให้คนอื่นเห็นขนบนเรือนร่างของคุณ คุณจะต้องหาเวลาโกนขนบริเวณต่างๆ ก่อนไปทะเล หาเวลาค่อยๆ โกนขนขาหรือบริเวณอื่นๆ ที่อาจจะโกนออก เช่น ตามแนวบิกินี่หรือขนรักแร้ ก่อนออกเดินทาง [19]
    • ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะโกนหรือแวกซ์ขนบริเวณเหล่านี้ด้วยตัวเอง ก็ปล่อยให้มืออาชีพเขาทำให้เถอะ หาเวลานัดช่างเพื่อแวกซ์ขนตามแนวบิกินี่ให้เรียบร้อย
    • ถ้าคุณเป็นผู้ชาย คุณอาจจะแวกซ์ขนหลังหรือให้คนอื่นแวกซ์ให้
    • คุณต้องเช็กตัวเองกลางแดด เพราะคุณจะมองเห็นขนได้ง่ายกว่าเวลาอยู่ใต้แสงอาทิตย์
  2. ถ้าคุณอยากให้ผิวดูเปล่งประกาย คุณอาจจะหาเวลาขัดผิวสักหน่อย การขัดผิวคือการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปเพื่อให้ผิวไม่ดูหมองหรือสาก คุณสามารถเลือกได้ทั้งที่ขัดผิวแบบเคมีหรือแบบสครับ
    • ที่ขัดผิวแบบเคมีจะใช้สารเคมีในการทำให้ผิวที่ตายแล้วแตกตัว โดยทั่วไปจะเป็นกรดต่างๆ
    • ที่ขัดผิวแบบสครับจะใช้เม็ดบีดส์เล็กๆ หรืออาจจะเป็นเมล็ดพืชหรือเปลือกต่างๆ บดละเอียดเป็นส่วนผสมในการขัดผิวที่ตายแล้วออกไป ถุงมือขัดผิวก็จัดอยู่ในประเภทนี้เหมือนกัน หรือแม้แต่ผ้าขนหนูเช็ดหน้าก็ถือเป็นที่ขัดผิวแบบสครับด้วย
    • ในการใช้ที่ขัดผิวนั้น ให้คุณราดน้ำฝักบัวก่อนเพื่อให้ผิวหมาด จากนั้นใช้มือ ถุงมือ หรือผ้าเช็ดหน้าถูที่ขัดผิวเป็นวงกลมเบาๆ แล้วล้างออกเมื่อขัดเสร็จแล้ว ถ้าคุณใช้ถุงมือหรือผ้าเช็ดหน้าขัดผิว ก็ให้เทสบู่ธรรมดาลงไปแล้วใช้ถุงมือหรือผ้าถูสบู่ลงบนผิวในแนววงกลมเบาๆ
    • อย่าลืมเน้นบริเวณที่มีปัญหาอย่างหัวเข่า ข้อศอก และเท้า
    • หลังจากขัดผิวแล้ว ให้ทามอยซ์เจอไรเซอร์ดีๆ ลงบนผิว
  3. ถ้าคุณอยากมีหน้าท้องแบนราบ ให้พยายามเลี่ยงอาหารที่จะทำให้ท้องอืด 2-3 วันก่อนไปทะเล วิธีนี้จะทำให้พุงไม่ยื่นออกมาเพราะท้องอืด
    • เลี่ยงผักตระกูลกะหล่ำปลี เช่น บร็อกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดาว และดอกกะหล่ำ และเลี่ยงอาหารแปรรูปกับเครื่องดื่มที่มีแก๊ซด้วย
    • แต่ให้รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพแทน เช่น อะโวคาโด ไข่ เนยถั่ว แซมอน กล้วย กรีกโยเกิร์ต และเลมอนแทน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณจะเล่นน้ำ ให้พยายามว่ายน้ำใกล้ๆ บริเวณที่มีเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตคนตกน้ำประจำอยู่
  • ถ้าคุณเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย ให้ออกมาและขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ เพราะโรคลมแดดสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเวลาที่คุณอยู่ท่ามกลางแสงแดด
  • คุณต้องรักษาน้ำในร่างกายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และคุณต้องมีน้ำติดตัวไว้เสมอ เพราะร่างกายขาดน้ำได้ง่ายมาก บางครั้งคุณเองก็ยังไม่ทันรู้ตัวเลยว่าร่างกายขาดน้ำแล้ว
  • อย่าลืมนำครีมกันแดดติดไปด้วยและนั่งในที่ร่ม
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 22,140 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา