ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การจะหาทางรับมือกับสังคมในโรงเรียนมัธยมปลายนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่น่าหวั่นใจ แต่คุณไม่ควรที่จะปล่อยให้ความกลัวนั้นมาทำให้คุณล้มเหลว ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะรักตัวตนที่คุณเป็นจริงๆ และเรียนรู้วิธีที่ทำให้คนอื่นรู้สึกสบายใจที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ คุณก็จะกลายเป็นที่ชื่นชอบในสังคมโรงเรียนมัธยมปลายอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณอยากรู้วิธีการเป็นคนที่คนอื่นในโรงเรียนชื่นชอบแล้วละก็ เริ่มต้นด้วยการอ่านขั้นตอนแรกเลย
ขั้นตอน
-
อย่าเสแสร้ง. ไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่าการเสแสร้ง เพราะงั้นแล้ว “เพื่อน”คุณก็จะไม่ชอบคุณที่เป็นคุณจริงๆ คุณต้องมีความมั่นใจที่ว่าคุณเป็นคนน่าทึ่งที่มีอะไรมากมายที่จะให้เพื่อน และคุณจะมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะดึงดูดกลุ่มคนน่าสนใจได้อย่างหลากหลาย อย่าพูดในสิ่งที่คุณคิดว่าเพื่อนอยากจะได้ยิน เพียงเพราะอยากจะทำให้พวกเขาชอบคุณ และอย่าพูดโม้โอ้อวดเพียงเพราะอยากจะทำให้ตัวเองดูเจ๋ง คนทั่วไปสามารถได้ว่าคุณพยายามจะทำให้พวกเขาประทับใจหรือพยายามประจบประแจง และคุณจะมีแนวโน้มน้อยลงที่จะเป็นเพื่อนกับพวกเขา แทนที่จะทำอะไรแบบนั้น ค่อยๆ เปิดรับและทำให้คนอื่นรู้จักตัวตนของคุณและอะไรที่สำคัญสำหรับคุณ เช่นเดียวกัน ถ้าคุณเสแสร้ง ย่อมมีโอกาสที่คนอื่นจะรู้สึกได้และพูดออกมา และนั่นจะทำให้การเป็นเพื่อนกับคนเหล่านี้ยากขึ้นไปอีก
- ถ้าคุณกลายเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น โดยพยายามเป็นสิ่งที่คุณไม่ได้เป็นจริงๆ งั้นมันจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ คุณคงไม่อยากเป็นคนหลอกลวงไปตลอดหรอกใช่ไหมล่ะ
- คิดไว้ว่าถ้าคุณต้องเปลี่ยนตัวเองโดยสิ้นเชิงเพื่อทำให้คนอื่นชอบคุณเนี่ย แบบนั้นคงจะไม่คุ้มค่าหรอก
-
เป็นคนน่ารักจากใจจริง. ไม่มีใครชอบคนหัวสูงหรอก ยิ้มให้คนที่คุณรู้จักที่คุณเจอตามโถง อย่าทำท่าทางเหมือนว่าคุณดีกว่าพวกเขา เพราะความหยิ่งยโสเป็นสิ่งที่ไม่น่าดึงดูดอย่างแรง ถ้าใครพูดถึงคุณขึ้นมา คุณก็อยากจะให้พวกเขาพูดถึงด้านดี ไม่ใช่ด้านแย่ใช่ไหมล่ะ อย่างไรก็ตาม อย่าทำมากจนเกินไป ไม่อย่างนั้นคนอื่นอาจจะใช้คุณเป็นเครื่องมือได้ คุณอาจจะคิดว่าต้องทำตัวเหมือนสาวๆ ในหนังเรื่อง Mean Girls เพื่อที่จะทำให้คุณเป็นที่ชื่นชอบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณทำแบบนั้นไม่ได้นานหรอก
- เพื่อที่จะเป็นคนน่ารักอย่างจริงใจ คุณควรจะเป็นคนสุภาพและมีมารยาทดี นั่นหมายถึงการเปิดประตูให้คนอื่น ทักทายคนที่คุณรู้จัก เว้นที่ว่างให้คนที่เดินในโถง และเป็นมิตรแม้ว่าคุณจะอารมณ์ไม่ดีอยู่ก็ตาม
- นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องใส่หน้ากากที่มีความสุขจอมปลอมอย่างที่บางครั้งคุณจะเห็นจากพวกผู้ใหญ่แค่หมายความว่าคุณควรจะใจดีกับคนอื่นๆ ไม่ว่าคุณจะคิดว่าพวกเขาเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นมากแค่ไหนก็ตาม
- ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่าคนที่ทำดีกับแค่คนที่คนอื่นชื่นชอบหรือคนที่คิดว่าจะให้ผลประโยชน์แก่ตัวเอง ถ้าคุณใจแคบกับคนที่ “ต่ำ” กว่าคุณและใจดีกับคนที่ “เหนือ” กว่าคุณ ในไม่ช้าคนอื่นก็จะมองผ่านคุณ
-
ยืนหยัดเพื่อตัวคุณเองถ้าจำเป็น. ถ้าคุณอยากมีเพื่อนแท้ คุณต้องไม่ปล่อยให้คนอื่นเหยียบหัวตัวเอง ถ้าคุณยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อและรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณต้องปกป้องตัวเอง คุณจะได้รับความเคารพและมีแนวโน้มที่จะมีเพื่อนและเพิ่มความนิยมของตัวคุณมากขึ้น ถ้าคุณทำดีกับคนอื่น เพราะอยากให้พวกเขาชอบคุณ คุณจะไปได้ไม่ถึงไหนและจะไม่ได้รับการเคารพ
- ถ้าใครก็ตามทำตัวไม่ดีกับคุณ ทำให้คุณรู้สึกแย่ต่อตัวเองหรือแค่ทำให้คุณดูโง่โดยไม่มีเหตุผล ไม่ต้องสนใจ ทำให้คนๆนั้นรู้ว่าว่าการกระทำของเขานั้นไม่อาจยอมรับได้
- คุณไม่จำเป็นต้องลดตัวไประดับเดียวกับใครก็ตามเพียงเพราะว่าเขาคนนั้นทำตัวไม่ดีกับคุณ คุณจะบอกให้ใครก็ตามหยุดสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ได้โดยไม่ต้องเอ่ยชื่อหรือทำตัวไม่ดีกลับ จำไว้ว่าคุณมีค่ามากกว่านั้น
-
เปิดรับกับผู้คนใหม่ๆ. ถ้าคุณเป็นมิตรและเปิดรับกับผู้คนใหม่ๆ และพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ กับพวกเขา คุณจะมีเพื่อนใหม่ง่ายขึ้น คุณควรจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ ไม่ว่าเขาจะอยู่กลุ่มไหนหรือเรียนอยู่ชั้นมัธยมใดก็ตาม แน่นอนว่าคุณควรจะทำอย่างช้าๆ และไม่ยัดเยียดมิตรภาพให้เพื่อนใหม่มากเกินไป หรือคนที่กำลังยุ่งอยู่ แต่ถ้าคุณมีโอกาสที่จะคุยกับคนใหม่ๆ เช่นถ้าคุณยืนอยู่ที่ล็อกเกอร์ตัวเอง และข้างๆ คุณมีคนยืนอยู่ที่ล็อกเกอร์ คุณก็ควรจะคว้าโอกาสนั้นไว้ซะ
- เมื่อคุณคุยกับเพื่อนใหม่ ทำตัวสบายๆ คุยเรื่องเรียน งานอดิเรก หรือเพลงอะไรก็ตามที่คุณชอบ ถามคำถามพื้นๆ สักสองถามคำถามเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจ คุณอาจจะคุยเรื่องจริงจังทีหลัง เมื่อทั้งสองฝ่ายรู้จักกันดีกว่านี้
-
ใส่ใจคนอื่น. สิ่งสำคัญสำหรับการเป็นมิตรอย่างแท้จริงและการจะเป็นที่ชื่นชอบนั้น ไม่ใช่การพูดถึงแต่ตัวเองตลอดเวลาหรือพูดโอ้อวด แต่คือการแสดงออกว่าคุณสนใจคนอื่น ระหว่างการสนทนา คุณควรจะสนใจสิ่งที่คนอื่นพูด ไม่ใช่ทำตัวน่าสนใจเสียเอง ผู้คนจะชอบคุณมากกว่าเดิมถ้าคุณคอยถามคำถามและแสดงออกว่าคุณใส่ใจพวกเขามากกว่าถ้าคุณพยายามจะคุยโวโอ้อวด ครั้งต่อไปที่คุณคุยกับใครก็ตาม คุณควรยิ้ม ถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง สบตา และแสดงว่าคุณใส่ใจจริงๆ นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเสแสร้ง แต่คุณควรจะพยายามทำให้คนอื่นรู้สึกว่ามีคนใส่ใจพวกเขาอยู่ นี่เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณสามารถทำได้:
- ถามเขาว่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
- ถามเขาเรื่องกิจกรรมนอกเหนือจากการเรียน
- ชมเขาเรื่องการแต่งตัว
- ถามเรื่องที่เขาพูดถึงครั้งที่เราที่คุยกัน
- หาจุดสมดุลระหว่างการพูดเรื่องตัวเองและคนอื่น
-
อย่าทำตัวเหมือนคุณเจ๋งเกินที่จะสนใจคนอื่น. แน่นอนล่ะว่าช่วงมัธยมปลายเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่มักจะทำตัวว่าพวกเขาเจ๋งเกินกว่าที่จะมานั่งเรียนหนังสือ พวกเขาอาจจะเขียนขอบตามากเกินไป ยักไหล่ในห้องเรียน มาเรียนสาย หรือทำทองไม่รู้ร้อนเมื่อโดนครูว่าในห้องเรียน อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่วิธีที่คุณควรทำในโรงเรียนมัธยมปลาย ยอมรับความคิดที่ว่าการใส่ใจคนอื่นไม่ได้เสียหายอะไร และคุณควรจะพยายามให้ได้สิ่งที่สำคัญต่อตัวเองแทนที่จะกังวลว่าตัวเองจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด ถ้าคุณชอบเรียนภาษาอังกฤษ ควรรู้สึกตื่นเต้นที่จะพูดถึงหนังสือเล่มโปรดของคุณ ถ้าคุณชอบทีมเทนนิส เล่าเรื่องการแข่งขันที่กำลังจะมาถึงให้เพื่อนคุณฟังสิ
- การพูดถึงสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขจะทำให้คุณเป็นคนที่น่าตื่นเต้นและน่าดึงดูดใจมากขึ้น การให้ความเห็นก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณมัวแต่เออออกับสิ่งที่คุณไม่ได้เห็นด้วยและเอาแต่พยักหน้า ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ตาม คุณจะกลายเป็นคนที่น่าเบื่อมาก ลองเป็นคนเปิดประเด็นสนทนาและระลึกว่าเมื่อไหร่ที่ควรเป็นผู้ฟังและเมื่อไหร่ที่ควรจะตอบกลับ
-
พูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับคนอื่น. การพูดคุยสัพเพเหระนี้เป็นสิ่งที่นักเรียนมัธยมปลายไม่ค่อยจะถนัดเท่าไรนัก และถ้าคุณรู้จักวิธีพูด คุณก็จะเป็นต่อคนอื่น และกลายเป็นคนป๊อปได้ วิธีการคุยสัพเพเหระที่ดีนั้น คุณแค่เพียงคุยกับผู้คนเรื่องอะไรก้ได้เมื่อคนเจอพวกเขาตามโถงโดยไม่กังวลหรือไม่มีเรื่องอะไรจะคุย ทำตัวสบายๆ หยุดกังวลว่าตัวเองจะพูดอะไรผิด และทำให้คนอื่นรู้สึกสบายใจเมื่อคุณเข้ามาคุยในโถงหรือก่อนเริ่มเรียน นี่เป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้เวลาพูดคุยสัพเพเหระ:
- คุยเรื่องชั้นเรียนที่เพิ่งเรียนเสร็จหรือกำลังจะไปเรียน
- คุยเรื่องสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
- คุยเรื่องอะไรก็ได้ที่เกิดขึ้นในโรงเรียน เช่น กีฬาสี หรือการแข่งฟุตบอลของโรงเรียน และถามว่าคู่สนทนาของคุณจะไปหรือไม่
- คุยเรื่องอะไรก็ตามในแวดวงของคุณ เช่น ใบปลิวประชาสัมพันธ์เรื่องการเดินพาเหรดวันกีฬาสี หรือเสื้อที่คู่สนทนาใส่ที่มีชื่อมหาวิทยาลัยที่คุณอยากเข้าเขียนอยู่
-
ยิ้มให้คนอื่น. คุณอาจจะคิดว่าสิ่งสุดท้ายที่อยากจะทำในโรงเรียนมัธยมปลายคือการโปรยยิ้มให้กับทุกคน แค่เพราะการยิ้มให้คนอื่นนั้นมันช่างจะเชย แต่คุณควรจะเปลี่ยนทัศนคติซะถ้าอยากจะเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้และอยากจะเป็นคนป๊อปในโรงเรียน การยิ้มจะทำให้คุณดูเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นทำให้คนอื่นหันมาสนใจคุณมากขึ้น และทำให้คนอื่นรู้สึกดีเมื่อคุณปรากฏตัวมากขึ้นด้วย นั่นเป็นส่วนสำคัญของการเป็นมิตรกับคนอื่น คุณไม่จำเป็นจะต้องยิ้มให้กับทุกคนในโรงเรียนหรอก แต่ถ้าคุณเดินสวนกับใครสักคนในโถง ลองยิ้มให้เขาสักนิด แม้ว่าคุณจะไม่รู้จักเขาก็ตาม
- รู้จักที่จะเผชิญหน้า นักเรียนมัธยมปลายมักจะตัดสินและวิจารณ์คนอื่น และคิดว่าคนอื่นทำตัวไม่ดีและหยาบคายโดยไม่มีเหตุผล ถ้าคุณยิ้มให้มากขึ้น คนอื่นก็จะคิดว่าคุณเป็นคนที่น่าดึงดูดและเปิดรับ
โฆษณา
-
แต่งตัวดี. คุณไม่จำเป็นจะต้องใส่ชุดที่นำสมัยหรือแพงที่สุดเพื่อที่จะเป็นที่ชื่นชอบ แต่คุณจำเป็นที่จะต้องแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก นั่นไม่ได้หมายความว่าให้คุณเป็นคนตื้นเขิน แต่เป็นแค่ข้อเท็จจริงที่คนที่แต่งตัวดูดีกว่าจะมีคนสนใจและได้รับการเคารพมากกว่าคนที่ดูซอมซ่อ ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์งานหรือการพบปะผู้คนตามงานปาร์ตี้ ใส่เสื้อผ้าที่เหมาะกับตนเอง ไม่มีรอยยับ และสะอาด แล้วคนอื่นจะสนใจคุณมากขึ้น
- เสื้อคุณจะหลวมหรือคับหน่อยก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะแต่งตัวแบบไหน แต่ถ้าคุณใส่กางเกงที่ผิดไซส์อย่างเห็นได้ชัดล่ะก็ คุณอาจจะถามตัวเองว่ามันคุ้มหรือเปล่าที่จะทำแบบนั้น
- ใส่เครื่องประดับสักเล็กน้อย เช่น ตุ้มหูเงินสักคู่ หรือนาฬิกาข้อมือโก้ๆ สักเรือน จะช่วยเสริมชุดของคุณให้ดูดีมากขึ้น
- ไม่ต้องกังวลที่มีเสื้อผ้าใหม่เอี่ยมห้าถึงสิบชุด การมีเสื้อผ้าที่น้อยแต่มีคุณภาพสูงกว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่า กางเกงยีนส์หนึ่งตัวที่ดูดีมากสามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้ดีกว่ากางเกงยีนส์ราคาถูกสามตัวซะอีก
-
ทำตัวสะอาดอยู่เสมอ. อาบน้ำ โกนหนวด แปรงฟัน ใช้น้ำยาดับกลิ่นกาย และคอยให้ร่างกายและผมของคุณดูดีและสะอาดอยู่เสมอ แม้ว่าการมีกลิ่นกายที่สดชื่นและความสะอาดจะเป็นสิ่งที่สำคัญ คุณควรจะแน่ใจว่าจะไม่ฉีดน้ำหอมหรือโคโลญจน์มากเกิน ไม่อย่างนั้นมันอาจจะแย่พอๆกับการที่คุณไม่อาบน้ำเลยทีเดียว การให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดนั้นแสดงว่าเอาใจใส่ใจต่อตนเอง
- คุณควรจะมาโรงเรียนอย่างสดชื่นและอาบน้ำแล้ว ให้เอาน้ำยาดับกลิ่นกายมา เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสะอาดอยู่เสมอ
-
ตัดสินใจให้ดี. อย่าดื่มสุรา โดดเรียน หรือแอบออกจากโรงเรียน การตัดสินใจที่ผิดพลาดสามารถส่งผลเสียกับคุณได้ก่อนที่จะทำ คุณอาจจะคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นจุดสนใจถ้าทำตัวต่อต้านหรือแหกกฎบางอย่าง คุณจะได้เป็นจุดสนใจจริงๆ แต่แค่เวลาสั้นๆ และไม่ใช่ด้วยสาเหตุที่คุณอยากจะให้คนอื่นๆจำคุณได้หรอก มีความแตกต่างอยู่ระหว่างการเป็นที่ชื่นชอบเพราะมีความสามารถรอบด้านหรือเพราะมีชื่อเสียงในด้านที่ไม่ดี
- คุณจะตัดสินใจได้ดีกว่าเมื่อมีคนที่มีเหตุผลรายล้อมรอบตัวคุณ ถ้าคุณตกเป็นเหยื่อจากอิทธิพลของสิ่งไม่ดี คุณจะมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจผิด
- ถ้าคุณอยู่ในปาร์ตี้ พยายามอย่าดื่มสุรา กระโดดสูง หรือทำอะไรก็ตามที่ไม่รอบคอบเพียงเพื่อจะโอ้อวดคนอื่นเพราะความสนใจที่คุณได้รับจะไม่อยู่ยืนยาว
-
ทำให้คนทึ่งในความมั่นใจของคุณ. ถ้าคุณมีความสุขกับตัวตนของคุณ สิ่งที่คุณทำ และคุณดูเป็นอย่างไร คนจะสามารถรู้สึกได้จากที่ไกลๆ ยิ้มให้คนอื่นและไม่กลัวที่จะทักทายเพื่อนหรือเป็นฝ่ายเริ่มการสนทนา เดินให้ศีรษะตั้งตรง และมีภาษากายที่ดี ท่าทางที่ดี และพลังความเป็นมิตรไม่ว่าเมื่อไหร่ที่มีคนหันมาให้ความสนใจคุณ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คนอื่นอยากจะทำความรู้จักคุณให้มากขึ้นและสนใจในสิ่งที่คุณเป็น
- การเพิ่มความมั่นใจอาจจะต้องใช้เวลาหลายปี คุณจะตั้งเป้าหมายแบบนั้นก็ได้ถ้าคุณพยายามทำสิ่งที่คุณรักและทำได้ดีจริงๆ คุณก็จะรู้สึกมีความสุขมากขึ้นและภูมิใจในตัวเอง
- ควรจะทำรายการสิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเอง คอยดูรายการนั้นเรื่อยๆ ถ้าคุณรู้สึกท้อแท้
- อาจจะพยายามเปลี่ยนสิ่งที่คุณอยากจะเปลี่ยนเกี่ยวกับตัวเอง อย่าคิดแค่ว่าคุณจะต้องเป็นในสิ่งที่คุณเป็นอยู่แล้ว อย่าลืมว่าคุณเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง
- อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้คือให้คุณใช้เวลากับคนที่ทำให้คุณรู้สึกดีต่อตัวเอง อย่าไปสนใจเพื่อนที่มักจะทำให้คุณรู้สึกแย่
-
อย่าล้อเลียนหรือรังแกคนอื่น. แค่เพราะคุณคิดว่าตัวเองเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น ถึงแม้คุณอาจจะเห็นว่านี่เป็นวิธีที่ทำให้ตัวเองเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้น แต่คนก็จะมองคุณไม่ดี “อย่า” ทำ เพราะมันไม่ยุติธรรมเลยที่จะเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นด้วยวิธีการที่เหยียบหัวคนอื่นขึ้นไป อีกอย่างคือคนที่ทำตัวเป็นนักเลงอาจจะดูน่ากลัว แต่น้อยมากที่คนเหล่านี้จะเป็นที่ชื่นชอบ คุณคงไม่อยากจะเป็นคนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นไอโง่หรอกนะ
- คนที่เป็นที่ชื่นชอบตัวจริงจะไม่เสียเวลากดคนอื่นหรอก นั่นเพราะพวกเขามั่นใจในตัวเองมากพอและไม่เห็นว่าการทำตัวไม่ดีใส่คนอื่นจะมีประโยชน์อะไร
-
อย่าทิ้งการเรียน. อย่าลืมสนใจการเรียนด้วยแม้ว่าคุณกำลังพยายามจะเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นอยู่ ผลสอบของคุณสำคัญกว่าฐานะทางสังคมอยู่มากโข ถ้าคุณเป็นคนที่เรียนดี คนอื่นจะมองว่าคุณเป็นนักเรียนเก่ง และมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้เจอคนใหม่ๆ แน่นอนว่าคุณคงไม่อยากดูเหมือนเด็กเนิร์ด แต่ถ้าคุณภูมิใจในความมุมานะอุตสาหะของตัวเองคนอื่นก็จะชื่นชมคุณด้วย
- จำไว้ว่าคุณอาจจะมองว่าการเป็นที่ชื่นชอบในสังคมมัธยมปลายเป็นเรื่องน่าสนุกอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อคุณโตขึ้นและมองย้อนไปช่วงเวลามัธยมปลาย คุณจะเสียใจที่ไม่ได้ตั้งใจเรียนมากเท่าที่ควรอย่างที่คุณเสียเวลาไปกับการทำให้ตัวเองเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น
-
ทำให้เรื่องการออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญ. ไม่ว่าคุณจะไปฟิตเนสหรือจะเป็นนักกีฬาโรงเรียน การออกกำลังกายไม่ได้แค่ช่วยทำให้คุณดูดี แต่ยังทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองด้วย และถ้าคุณรู้สึกดีกับสิ่งที่คุณเป็นอยู่แล้วล่ะก็ คนอื่นก็จะมองว่าคุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและมั่นใจในตนเองที่ควรค่าแก่การรู้จัก แม้ว่าการออกกำลังกายคนเดียวจะไม่ได้ช่วยให้คุณได้เพื่อนใหม่ แต่ก็มีส่วนช่วยให้คุณมีไลฟ์สไตล์ที่ทำให้คุณเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้น
- การให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายยังจะทำให้คุณได้เจอคนใหม่ๆมากขึ้นและมีเพื่อนเพิ่มขึ้นด้วยไม่ว่าจะอยู่ทีมนักกีฬาโรงเรียน หรือเข้าคลาสในฟิตเนสใกล้บ้าน
-
ทำตัวเหมือนกับว่าคุณกำลังมีความสุขอยู่เสมอ. อีกวิธีที่จะทำให้มีคนสนใจคือทำให้คนอื่นเห็นว่าคุณมีความสุขได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเดินอยู่ในโถงทางเดิน ปาร์ตี้ หรือต่อแถวซื้ออาหารกลางวัน คุณควรจะดูมีความสุขตลอดเวลา แต่ไม่จำเป็นต้องหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในวิชาเลขนะ แต่คุณควรจะพยายามให้คนอื่นเห็นว่าคุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณเป็นและสิ่งที่คุณทำ ถ้าคุณกำลังคุยกับเพื่อนอยู่ สนใจสิ่งที่คุยอยู่มองกว่าที่จะมองไปรอบๆ ว่ามีคนป๊อปมากกว่านี้ให้คุณคุยด้วยหรือเปล่า ถ้าคุณมีเวลาใส่ใจสิ่งที่คนอื่นคิด พวกเขาก็จะอยากคุยกับคุณมากขึ้น
- ถ้าคุณเป็นคนที่หัวเราะ รู้สึกดีและมีความสุขกับสิ่งที่ทำเสมอๆ จะช่วยดึงดูดเพื่อนได้มากขึ้น
- แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเสแสร้งมีความสุขถ้าคุณอยู่ในช่วงเวลาที่แย่จริงๆ นะ แต่ก็ไม่เสียหายอะไรที่คุณจะมีความสุขถ้ามีโอกาส
- ถ้าต้องการ คุณจะบ่นบ้างก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่คุณคงจะไม่อยากโดนมองไม่ดีหรอกนะ
-
พยายามทำสิ่งต่างๆ เอง. แม้ว่าการเข้ากับคนง่าย มีส่วนร่วมและเป็นมิตรกับคนอื่นจะเป็นวิธีดีๆ ที่จะทำให้คุณเป็นที่ชื่นชอบ คุณควรจะทำตัวให้ชินกับการพึ่งตัวเองและทำอะไรก็ตามที่อยากทำ ถ้าอยากใส่เสื้อกันหนาวแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีคนในโรงเรียนใส่มาก่อน ฟังเพลงคนละแนวจากเพื่อนๆ โดยสิ้นเชิง หรือลองทำกิจกรรมที่โรงเรียนไม่มีให้ทำ เช่น โยคะหรือยิงธนู คุณก็ไม่ต้องลังเลที่จะทำเพียงแค่ไม่มีคนอื่นทำกิจกรรมเหล่านั้น การเป็นคนที่มีวิถีเป็นของตัวเองจะช่วยให้มีคนสนใจคุณด้วยสาเหตุง่ายๆ คือ คุณเป็นคนที่โดดเด่น
- นั่นไม่ได้หมายถึงว่าคุณควรจะดูแตกต่างเพียงเพราะคุณอยากจะไม่เหมือนใครแต่หมายถึงเพราะคุณอยากจะทำอะไรที่แตกต่างจริงๆ คุณคงไม่อยากกลายเป็น “คนเรียกร้องความสนใจ” ถ้าคุณพยายามลองทำอะไรที่ “แตกต่าง” แค่เพราะอยากให้คนหันมาสนใจ
-
อย่าพยายามจนเกินตัว. แม้ว่าจะมีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้เพื่อยกระดับตัวเองและโดดเด่นกว่าเพื่อนคนอื่น คุณควรระวังด้วยว่าสิ่งที่คุณทำมันดูเหมือนดันทุรังมากเกินหรือไม่ ในสังคมมัธยมปลาย นี่เป็นเรื่องที่คนให้ความสำคัญมาก ดังนั้นคุณควรจะหลีกเลี่ยงที่จะทำอะไรก็ได้เพื่อที่จะเป็นที่ชื่นชอบ นั่นคือคุณไม่ควรพยายามเกินตัวที่จะคุยกันคนป๊อปในโรงเรียน ถ้าพวกเขาไม่ได้อยากคุยกับคุณ และไม่ควรเข้าไปในบทสนทนาที่เขาไม่ได้ต้อนรับคุณ คุณควรหลีกเลี่ยงที่จะแต่งตัวเลียนแบบเหล่าคนที่เป็นที่ชื่นชอบในโรงเรียน เพราะพวกเขารู้ว่าคุณทำอะไรอยู่
- ลองพยายามหาเพื่อนใหม่เป็นวิธีที่จะทำให้คุณโดดเด่นและเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้น อย่างไรก็ตามคุณควรจะระวังและรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คนอื่นไม่ได้อยากจะมีเพื่อนใหม่ คุณคงไม่อยากจะเสี่ยงที่จะหน้าแตกเพราะออกตัวแรงหรอกนะ
- กฎข้อนี้ก็ใช้กับการดึงดูดเพศตรงข้ามได้เหมือนกัน ถึงแม้การรุกฝ่ายตรงข้ามได้เร็วจะทำให้คุณรู้สึกดี คุณก็ควรจะพัฒนาทุกอย่างโดยไม่รีบร้อนและใส่ใจความรู้สึกขออีกฝ่ายก่อนที่คุณจะลงมือทำอะไรก็ตาม
โฆษณา
-
ทำกิจกรรมนอกเหนือจากเรียนหนังสือ. ไม่ว่าคุณจะชอบเล่นบาส เป็นเชียร์ลีดเดอร์ อยากเข้าชมรมภาษาฝรั่งเศส หรือเข้าวงดนตรี การทำกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณเป็นที่ชื่นชอบได้ แค่เพราะคุณจะรู้จักคนในวงที่กว้างขึ้น ถ้าคุณรู้จักรู้จักแค่คนในห้องตัวเอง คุณจะพลาดโอกาสที่จะได้รู้จักคนเจ๋งๆ ในโรงเรียนตัวเอง คุณยังจะพบว่าการที่สานสัมพันธ์กับคนที่ชอบอะไรเหมือนกันเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า โอกาสได้เพื่อนใหม่ก็จะมากขึ้นไปด้วย
- อย่าลืมว่าการจะเป็นที่ชื่นชอบของคนในโรงเรียนนั้น คนอื่นจะต้องรู้จักตัวตนที่คุณเป็นจริงๆ แล้วจะมีวิธีไหนที่ดีไปกว่าการที่ทำให้คนรู้จักคุณด้วยการทำกิจกรรมอีกล่ะ
- การหากิจกรรมที่ใช่จะทำให้คุณเจอความชอบใหม่ๆ ได้ทำงานอดิเรกใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งคุณอาจจะได้แรงบันดาลใจในเส้นทางอาชีพของคุณต่อไปก็ได้
-
ทำความรู้จักกับเพื่อนในห้องเรียนของคุณ. แม้ว่าการเป็นนักเรียนเก่งจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณก็ยังควรจะจะหาเวลาผ่อนคลายและหาเพื่อนในห้องบ้าง ไม่ว่าจะคุยกับคู่ทำแล็บหรือคนที่นั่งข้างหลังในชั่วโมงเรียนคณิตศาสตร์ คุณควรพยายามจะทำความรู้จักคนในชั้นเรียน แน่นอนว่าโดยไม่ส่งผลเสียต่อการเรียน
- คุณอาจจะลงเอยด้วยการได้เพื่อนใหม่หลังจากทำงานกลุ่มด้วยกันหรือทำรายงานแล็บกับเพื่อนร่วมห้องก็ได้ อย่าคิดว่าจะหาเพื่อนได้แค่หลังเวลาเรียนเท่านั้น
- เพื่อนในห้องเรียนอาจจะชอบที่จะได้พบปะกับเพื่อนใหม่ๆ เพราะคนส่วนใหญ่มักจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับคนที่ตัวเองรู้จักอยู่แล้ว เนื่องจากการจัดห้องเป็นแบบสุ่ม
-
เข้าไปมีส่วนรวมในแวดวงสังคมของคุณ. อีกวิธีที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมคือการทำอะไรสักอย่างในแวดวงสังคมของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเสนอตัวทำซุปหรืออาสาเป็นนักกีฬาบาสในการแข่งกีฬาห้อง การมีส่วนร่วมเช่นนี้จะช่วยให้คุณรู้จักคนมากขึ้นและคุ้นเคยกับการคุยกับคนในแวดวงที่กว้างขึ้น คุณอาจจะเจอกลุ่มคนจากโรงเรียนที่ชอบทำอะไรเหมือนกับคุณ และนี่จะช่วยให้คุณได้เพื่อนใหม่จากโรงเรียนหรือแถวบ้าน
- ไม่เพียงแต่การมีส่วนร่วมในแวดวงของตนเองจะทำให้คนได้พบปะคนมากขึ้น แต่การอาสาทำสิ่งที่มีประโยชน์จะช่วยเสริมความมั่นใจซึ่งจะช่วยให้การการพบปะกับคนใหม่เป็นเรื่องง่ายขึ้น เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง
-
พยายามมีความสนใจที่หลากหลาย. ถ้าคุณอยากเป็นที่ชื่นชอบล่ะก็ คุณจะต้องหัดทำอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าคุณมัวแต่เล่นแค่บาสหรือนั่งทำรายงาน คุณก็จะพลาดโอกาสที่จะได้รู้จักคนที่น่าสนใจเยอะเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าคุณไม่ควรจะทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันทีเดียว คุณควรจะทำกิจกรรมอย่างน้อยสองหรือสามอย่างที่จะทำให้คุณได้เจอคนใหม่ๆ ถ้าคุณยึดติดกับความสนใจแค่เพียงอย่างเดียว คุณก็จะเป็นเพื่อนอยู่กับคนเดิมๆ ห้าคนอยู่อย่างนั้นแหละ พยายามทำหลายๆ อย่างที่สนใจ เพื่อที่คุณจะได้มีเพื่อนที่มีความสนใจที่หลากหลาย
- ส่วนหนึ่งของการจะเป็นที่ชื่นชอบคือคนรู้ว่าคุณเป็นใคร เวลาที่คุณเดินอยู่ในโถง แต่การที่คุณเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆจะช่วยให้คุณเป็นที่ชื่นชอบอย่างสมบูรณ์
-
สนับสนุนผู้อื่นและใส่ใจในสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่. ไปดูละครเวทีแล้วอย่าลืมแสดงความยินดีกับทีมงานทุกคนเป็นรายตัวหลังจากนั้น หรือบอกเขาในสิ่งที่คุณปลื้มมาก ไปดูกีฬาและส่งเสียงเชียร์สนั่น ไปดูคอนเสิร์ต การแสดงงานศิลปะหรือการแข่งตอบปัญหาเพื่อส่งแรงใจให้พื่อนและสนับสนุนโรงเรียน ให้ผู้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้งรับรู้ว่าคุณชอบมาก!
-
ทำตัวเองให้โดดเด่น. ถ้าคุณกล้าที่จะเสี่ยงและทำให้ตัวเองโดดเด่นทั้งในและนอกเวลาเรียน ก็มีแนวโน้มมากกว่าที่คุณจะกลายเป็นที่รู้จัก สมัครงานแสดงความสามารถพิเศษของโรงเรียนสิ เมื่อมีแขกรับเชิญมาพูดที่โรงเรียน อาสาขึ้นไปบนเวทีสิ ช่วยคนอื่นทำการบ้านหลังเลิกเรียน อาสาช่วยงานในห้องสมุด ถ้าคุณมัวแต่จดจ่อทำอะไรเดิมๆ แทนที่จะหาอะไรใหม่ๆ โอกาสที่จะเป็นที่ชื่นชอบก็น้อยลงไปด้วย
- ถ้าคุณเป็นคนขี้อาย ก็ไม่จำเป็นจะต้องทำตัวเองให้โดดเด่นมากเกิน คุณอาจจะใช้วิธีเล็กๆ มาทำอะไรใหม่ๆ เช่น เสนอไอเดียในชมรม หรือประกาศทีมนักกีฬาในคาบโฮมรูมก็ได้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าโกหก ไม่อย่างนั้นคุณจะโดนตราหน้าว่าเป็นคนเสแสร้ง คำโกหกจะย้อมกลับมาส่งผลเสียกับคุณเสมอ การมีคุณธรรมจะทำให้คุณดูน่าเชื่อถือและน่าไว้ใจ
- ตามเทรนด์ปัจจุบันทั้งเรื่องสื่อต่างๆ และแฟชั่น รู้จักดาราและนักดนตรีให้มากเข้าไว้ ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ลองเข้าเว็บไซต์ Billboard.com และฟังเพลงฮิต และไปที่เว็บไซต์ Perez Hilton.com ลองอ่านนิตยสารชื่อดัง เช่น Seventeen, Teen Vogue, US Weekly, People, Star, OK! Magazine, Lucky, Vogue ฯลฯ
- ระลึกไว้ว่าช่วงมัธยมปลายไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นแค่ช่วงเวลาสี่ปีสั้นๆ เท่านั้นเอง ถ้าการเป็นที่ชื่นชอบจะไม่ได้ทำให้คุณเป็นคุณที่มีความสุขมากที่สุด ก็ลืมมันไปซะ ชีวิตเราสั้นเกินกว่าที่จะคิดเรื่องอื่นๆ ดังนั้นมีความสุขซะ
- เป็นคนตลก หยอดมุกตลกและเป็นคนมีอารมณ์ขัน
- สิวไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับฐานะทางสังคมของคุณมาก แต่พยายามดูแลตัวเองด้วยการใช้โฟมล้างหน้าหรือครีมทาสิว เคล็ดลับที่ช่วยกำจัดสิวและทำให้คุณมีสุขภาพดีคือ “หยุดกินข้าวสาลี”อ่านหนังสือชื่อ Wheat Belly ดู เป็นหนังสือที่ควรอ่านมากและคุณจะรู้ว่าการกินข้าวสาลีส่งผลกระทบอะไรต่อร่างกายบ้าง
- ยิ้มให้มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ (แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องดูเป็นคนบ้า หรือยิ้มตลอดเวลา) ไม่มีใครชอบคนที่ทำหน้าตาถมึงทึงหรือไร้อารมณ์หรอก
- อย่าขาดความมั่นใจในตัวเอง ยังมีคนที่อิจฉาคุณอยู่นะ ดังนั้นเป็นตัวของตัวเองและไม่ต้องกังวลเรื่องคนอื่น พวกเขาไม่ใช่คุณ พวกเขาไม่รู้ว่าคุณเป็นยังไง มีแต่คุณเท่านั้นที่รู้ แสดงให้พวกเขาเห็นตัวตนของคุณและเป็นตัวของตัวเอง
- ใส่ใจกับทั้งการเรียนและสังคมรอบข้าง ระวังให้ดีว่าเพื่อนของคุณจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร คุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเพื่อนคุณสักคนอาจจะทำให้คุณเสียการเรียนหรือปิดกั้นความสามารถคุณที่ควรจะพัฒนาไปได้ไกล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนมี
- อย่าเป็นนักเลงที่น่าขยะแขยงที่คิดว่าตัวเองเจ๋ง แค่ทำตามขั้นตอนเหล่านี้พอ
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าเป็นเพื่อนกับคนที่คุณรู้ว่าเขาชอบแทงข้างหลัง เพราะพวกเขาหักหลังคุณได้ทุกเมื่อ
- อย่าทำให้คนอื่นรู้ว่าคุณพยายามจะเป็น “พวกทำตัวเด่น” ถ้านั่นไม่ได้คุณจริงๆ พยายามไล่ตามความฝันของคุณ น่ารักกับคนอื่น และคุณจะหาเพื่อนได้ไม่ว่าจะมีฐานะทางสังคมอย่างไรก็ตาม ไม่อย่างนั้นคุณจะกลายเป็นพวกวอนนาบี
- อย่านินทาคนอื่น เพราะว่าสุดท้ายแล้วผลเสียจะตกอยู่ที่คุณ
- อย่าโอ้อวดมาก ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะมองคุณไม่ดี
- ถ้ามีคนป๊อปสักคนพยายามจะคะยั้นคะยอให้คุณลองเสพยาเสพติด ถอยออกมาด่วนๆ ยอมเป็นคนไม่ป๊อปดีกว่าติดยาเสพติดนะ
- ง่ายๆแค่อยู่ให้ห่างจากคนกลุ่มนี้และรู้ไว้ว่ายิ่งตอนนี้คุณรู้จักปฏิเสธมากเท่าไหร่ ในอนาคตคุณจะปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายมากขึ้น อย่าลืมว่าสาวป๊อปและสาวที่นิสัยน่ารักจะไม่ทะเลาะตบตีกัน ไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้นที่จะทะเลาะตบตีกันแค่เพราะคุณเป็นผู้หญิง ถ้าใครมากวนใจคุณมากๆ คุณแค่อย่าไปสนใจหรือไม่ก็บอกคนอื่นซะ
โฆษณา
โฆษณา
