ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการสร้างแล้วเริ่มเขียนบล็อก ทั้งในเว็บอื่นๆ และในเว็บเฉพาะอย่าง WordPress และ Blogger

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เขียนบล็อกอย่างไรให้ปัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนจะหาธีมหลักที่จะเขียนในบล็อกตัวเองได้ ให้ลองรวบรวมไอเดียคร่าวๆ ว่ามีเรื่องอะไรที่คุณสนใจบ้าง ตรงนี้ไล่ออกมาได้ตามสะดวกเลย แต่หัวข้อยอดนิยมของคนเขียนบล็อกก็คือ
    • เกม
    • แฟชั่น
    • การเมือง/วิพากย์สังคม/เคลื่อนไหวทางสังคม
    • ทำอาหาร/รีวิวอาหาร
    • ท่องเที่ยว
    • ธุรกิจ/บริษัท
  2. ที่ห้ามนำมาเขียนเลย คือเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรหรือไม่อยากเปิดเผย ทั้งของคุณและของคนอื่น
    • อย่างถ้างานของคุณต้องมีการเซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล หรือ NDA (non-disclosure agreement) ก็ไม่ควรนำเนื้องานมาเป็นหัวข้อหรือรายละเอียดในบล็อก
    • จริงๆ การเขียนบล็อกเรื่องคนอื่นก็โอเค แต่อย่ามาแนวคุกคามหรือใส่ร้ายป้ายสี ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเสียหาย ที่สำคัญคือถ้านำมาเขียนโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วเจ้าตัวมาอ่านเจอเข้าละเป็นเรื่องแน่
  3. มีหัวข้อบล็อกที่อยากจะเขียนก็โอเคแล้ว แต่ควรจะกำหนดทิศทางการเขียนให้ชัดเจนด้วย จุดประสงค์ยอดนิยมของคนเขียนบล็อกก็ตามที่เห็นด้านล่างนี่ แต่คุณกำหนดได้เองตามใจชอบเลย [1]
    • ให้ความรู้ — เหมาะสำหรับบล็อกที่สอนทำสิ่งต่างๆ (เช่น งาน DIY)
    • บันทึกประสบการณ์ — พวกบล็อกเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยว ฟิตเนสตามเป้า และอื่นๆ
    • ให้ความบันเทิง — เอาไว้เป็นบล็อกรวมเรื่องฮา แฟนฟิค หรืออื่นๆ
    • ก่อให้เกิดการปฏิบัติ — เป็นบล็อกทางการตลาด ไว้ใช้กับธุรกิจ สินค้า หรือบริษัท
    • สร้างแรงบันดาลใจ — จะเขียนบล็อกในหมวดหมู่นี้เลยก็ได้ หรือเขียนบล็อกหัวข้ออื่นที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้เหมือนกัน
  4. พอกำหนดหัวข้อกับจุดประสงค์ที่จะเขียนได้แล้ว ให้ลองไปศึกษาดูว่าบล็อกอื่นๆ ที่เน้นหัวข้อและ/หรือสไตล์การเขียนคล้ายกัน เขาดึงดูดและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่านยังไง
    • แต่ห้ามลอกบล็อกที่ชื่นชมมาทั้งดุ้น แค่ดูเป็นตัวอย่าง เป็นแรงบันดาลใจ ว่าเขาใช้น้ำเสียง รูปแบบ และภาษายังไงเวลาเขียนบล็อก
  5. 2 อย่างสุดท้ายที่ต้องรู้ก่อนบล็อกถือกำเนิด คือชื่อและหน้าตาของบล็อก [2]
    • ชื่อบล็อก — ให้ใช้ชื่อที่โอเคกับทั้งคุณและคนอ่าน อาจจะจับความชอบ ความสนใจของคุณ มารวมกันกับเนื้อหาของบล็อก และ/หรือชื่อเล่นของคุณก็ได้ ขอให้เป็นชื่อที่มีเอกลักษณ์และจำง่าย
    • หน้าตาบล็อก — ถึงจะออกแบบบล็อกให้ได้ตามใจไม่ได้เป๊ะๆ ทุกรายละเอียด แต่อย่างน้อยก็กำหนดคร่าวๆ ได้ว่าจะใช้ธีมสีอะไร ใช้ฟอนต์อะไร ถ้ารู้พวกนี้ก่อนสร้างบล็อก ก็จะหาเทมเพลตที่ถูกใจได้ง่ายขึ้น
  6. เว็บที่คนนิยมเขียนบล็อกกันก็เช่น WordPress, Blogger แล้วก็ Tumblr แต่จะเลือกเว็บอื่นก็ได้ตามสะดวก พอเลือกเว็บได้แล้ว ขั้นตอนการสร้างบล็อกจะคล้ายๆ กันตามนี้
    • เปิดเว็บที่เลือกในคอม
    • สมัครบัญชีใหม่ (แนะนำให้เริ่มด้วยบัญชีฟรี)
    • พิมพ์ชื่อบล็อกตามต้องการ แล้วเลือก URL
    • เลือกหน้าตาหรือรูปแบบของบล็อก รวมถึงกรอกข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น
  7. พอสร้างบล็อกและโพสต์เรื่องใหม่ไป 2 - 3 เรื่องแล้ว ให้ลองเพิ่ม traffic หรือยอดวิวของบล็อกตัวเอง โดยเอาลิงค์ของบล็อกไปโพสต์ตามโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ เช่น Facebook และ Twitter เป็นต้น [3]
    • หรือแปะ address ของบล็อกไว้ใน bio (ประวัติย่อ) หรือส่วน "Company Website" (เว็บของบริษัท) ในโซเชียลมีเดียก็ได้
  8. "Keywords" หรือคำสำคัญที่ว่า ต้องมาจากทั้งหัวข้อของบล็อก และเป็นคำค้นหายอดนิยมใน search engine ถ้าคุณใช้คีย์เวิร์ดที่ว่าในแต่ละโพสต์ของบล็อก จะทำให้คนเจอบล็อกคุณได้ง่ายขึ้น เวลาเขาค้นหาคำดังกล่าว [4]
    • มีเว็บที่ใช้แนะนำคีย์เวิร์ดโดยเฉพาะ (keyword generator) เช่น http://ubersuggest.io/ หรือ https://keywordtool.io/ โดยจะมีรายการคำที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อบล็อกของคุณ
    • แนะนำให้เช็คคีย์เวิร์ดใหม่ทุกครั้งที่สร้างโพสต์ใหม่ในบล็อก
    • ถ้าคุณสอดแทรกคีย์เวิร์ดยอดนิยมเข้าไปในเนื้อหาของบล็อกคุณได้แบบเนียนๆ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ search engine จะเลือกบล็อกคุณขึ้นมาแสดงในผลการค้นหา อย่าพยายามดันทุรังแปะคำที่ไม่เกี่ยวข้องลงไปในเนื้อหาบล็อก เพราะไม่ค่อยได้ผลดีเท่า
  9. ตั้งเป้าให้ Google index หรือจัดอันดับบล็อกของคุณ จะได้โผล่มาที่หน้าแรกๆ ของ search engine คนจะได้หาบล็อกคุณเจอเวลาค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง [5]
  10. ปัจจัยหนึ่งที่ยิ่งเพิ่มโอกาสเตะตา search engine คือการใส่รูปประกอบในเนื้อหา เพราะงั้นให้พยายามใส่รูปสวยๆ คมชัด ในทุกโพสต์ใหม่ของบล็อก [6]
    • ยิ่งถ้าเป็นรูปที่คุณถ่ายหรือวาดเอง ยิ่งเพิ่มคะแนน
    • คนอ่านชอบรูปประกอบสวยๆ ในบทความ เพราะงั้นถึงไม่มีเรื่องการจัดอันดับของ search engine มาเกี่ยวข้อง ก็แนะนำให้ใส่รูปประกอบอยู่ดี
  11. อย่าพยายามดองบล็อก ถ้าไม่อยากให้ traffic หาย ต้องหมั่นโพสต์เรื่อยๆ แต่ก็ต้องโพสต์เป็นเวล่ำเวลา อย่าหายไปนานๆ หรือโพสต์แบบจับทางไม่ได้ แนะนำให้สร้างโพสต์ใหม่อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง แล้วยึดเวลานี้เป็นประจำ
    • ถ้าห่างหายไป 1 - 2 วัน ยังอยู่ในระยะที่รับได้ แต่แนะนำให้ส่งข่าวผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าอาจจะโพสต์ช้าหน่อย
    • โพสต์ใหม่ๆ จะช่วยดันให้บล็อกคุณขึ้นมาที่หน้าแรกๆ ของผลการค้นหาใน search engine
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เขียนบล็อกใน WordPress

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เข้าเว็บ https://wordpress.com/ ในเบราว์เซอร์ในคอม [7]
  2. ที่เป็นลิงค์มุมขวาบนของหน้า
  3. พิมพ์ข้อมูลในช่องต่อไปนี้
    • What would you like to name your site? (ชื่อบล็อก) — พิมพ์ชื่อบล็อกตามต้องการ
    • What will your site be about? (บล็อกเกี่ยวกับอะไร?) — พิมพ์หมวดหมู่ 1 คำ แล้วคลิกเลือกหมวดหมู่ที่เข้ากับบล็อกของคุณ จากในเมนูที่ขยายลงมา
    • What's the primary goal you have for your site? (จุดประสงค์ในการเขียน) — พิมพ์หมวดหมู่ 1 คำ แล้วคลิกเลือกหมวดหมู่ที่เข้ากับบล็อกของคุณ จากในเมนูที่ขยายลงมา
    • How comfortable are you with creating a website? (เคยสร้างเว็บมาก่อนไหม?) — คลิกเลือกหนึ่งในตัวเลขท้ายหน้า
  4. ที่ด้านล่างสุดของหน้า
  5. ในช่องด้านบนสุด ให้พิมพ์ชื่อ URL ของบล็อกตามต้องการ
    • ไม่ต้องพิมพ์ส่วนของ URL ที่เป็น "www" หรือ ".com"
  6. จะเป็นตัวเลือกที่โผล่มาล่างช่องพิมพ์ ให้คลิกเพื่อเลือก address ฟรีสำหรับบล็อก
  7. ทางซ้ายของหน้า เพื่อไปยังหน้าสมัครบัญชีใหม่
  8. พิมพ์อีเมลที่จะใช้สร้างบัญชีใหม่ ในช่อง "Your email address"
  9. พิมพ์รหัสผ่านที่จะใช้กับบัญชีใหม่ ในช่อง "Choose a password"
  10. ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ทางด้านล่างของหน้า
  11. ระหว่างรอให้ WordPress จัดการกับบัญชีใหม่ของคุณจนเสร็จสิ้น ให้ทำขั้นตอนต่อไปนี้
    • เปิด inbox ของอีเมลที่พ่วงไว้กับ WordPress ใน tab ใหม่
    • คลิกอีเมล "Activate [ชื่อบล็อก]" ที่ได้จาก "WordPress"
    • คลิก Click here to Confirm Now ในเนื้อหาอีเมล
    • ปิด tab หลังโหลดเสร็จ
  12. ตรงกลาง tab แรกที่ใช้สร้างบัญชี WordPress
  13. "theme" (ธีม) คือตัวกำหนดว่าบล็อกคุณจะออกมาหน้าตายังไง ให้เลื่อนลงไปที่หัวข้อ "Customize" คลิก Themes แล้วเลือกธีมที่จะใช้กับบล็อก แล้วคลิก Activate this design ทางด้านบนของหน้า
    • อาจจะคลิก Free ที่ด้านขวาบนของหน้า เพื่อดูแต่ธีมฟรีอย่างเดียว
  14. คุณสร้างโพสต์ใหม่ได้โดยคลิก Write ที่ด้านขวาบนของหน้าต่าง เพื่อเปิดหน้าต่างของโพสต์นั้น แล้วสร้างสรรค์เนื้อหาของบล็อกได้ตามต้องการเลย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เขียนบล็อกใน Blogger

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เข้าเว็บ https://www.blogger.com/ ในเบราว์เซอร์ในคอม [8]
  2. ที่มุมขวาบนของหน้า
  3. พิมพ์อีเมล คลิก Next แล้วพิมพ์รหัสผ่าน จากนั้นคลิก Next
    • ถ้าไม่มี Google Account ให้สมัครก่อน
  4. ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ทางซ้ายของหน้า
  5. พิมพ์ชื่อและนามสกุลในช่องด้านบนของหน้า
  6. คลิกช่อง gender ให้ขยายลงมา แล้วคลิกเพศที่อยากให้แสดงในบล็อก
  7. ทางด้านล่างของหน้า
  8. คลิกรูปตั้งต้น แล้วคลิก Upload a photo ตอนที่ขึ้น จากนั้นหาแล้วดับเบิลคลิกรูปในคอม จากนั้นคลิก SAVE เพื่อไปต่อ
    • หรือคลิก SKIP ล่างหัวข้อนี้ เพื่อใส่รูปทีหลัง
  9. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านล่างของหน้า
  10. ตรงกลางของหน้า
  11. พิมพ์ชื่อบล็อกที่ต้องการ ในช่อง "Title"
  12. พิมพ์ address ที่จะใช้ ในช่อง "Address" แล้วคลิก address ที่โผล่มาข้างล่าง ในเมนูที่ขยายลงมา
    • ถ้า Google บอกว่า address นั้นมีคนใช้แล้ว ให้เลือก address อื่น
  13. คลิกเลือกธีมจากในรายการ "Theme"
    • ธีมจะเป็นตัวกำหนดหน้าตาของบล็อก
  14. ทางด้านล่างของหน้าต่าง
  15. เพื่อไปยัง dashboard หรือแผงควบคุมบล็อก
  16. คลิก New post ทางด้านบนของหน้า เพื่อเปิดหน้าต่างโพสต์ใหม่ แล้วสร้างสรรค์เนื้อหาของบล็อกได้ตามต้องการเลย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • โพสต์แบบสม่ำเสมอ เช่น ตั้งเป้าเขียนโพสต์ใหม่ให้ได้ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์
  • เดี๋ยวนี้คนชอบอ่านบล็อกผ่านมือถือ เพราะงั้นบล็อกของคุณก็ต้องมีเวอร์ชั่นสำหรับเปิดอ่านในมือถือหรือแท็บเล็ตด้วย
  • เขียนบล็อกแบบมีกลยุทธ์ เลือกว่าจะเขียนเรื่องที่อ่านได้ทุกยุคทุกสมัย หรือเรื่องที่อินเทรนด์ อย่างหลังเรียกเรตติ้งได้ปังกว่า แต่ก็ช่วงสั้นๆ แถมอีกหน่อยเนื้อหาจะล้าสมัยได้ [9]
  • ต้องตรวจทานก่อนเผยแพร่โพสต์ใหม่เสมอ โดยเฉพาะถ้าเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมืองหรือข้อเท็จจริง [10]
  • ถ้าจะเขียนบล็อกเกี่ยวกับสินค้าหรือธุรกิจ แต่ไม่มั่นใจเรื่องทักษะการเขียนของตัวเอง แนะนำให้จ้างนักเขียนมืออาชีพ เพราะจะออกมาโปรกว่า น่าเชื่อถือ
โฆษณา

คำเตือน

  • ระวังอย่าโพสต์อะไรที่ไปละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนอื่น โดยเฉพาะถ้าโพสต์นั้นเป็นสาธารณะ เวลาเขียนเรื่องส่วนตัว อย่างน้อยก็ควรละนามสกุลไว้ หรือใช้นามสมมุติแทน รวมถึงห้ามโพสต์รูปส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ระวังถูกคุกคามหรือติดตาม แนะนำให้อย่าโพสต์ข้อมูลส่วนตัว อย่างชื่อและนามสกุลจริง ที่อยู่ หรือข้อมูลต่างๆ ที่ใช้ยืนยันตัวตน
  • โพสต์ปุ๊บ ข้อมูลนั้นจะกลายเป็นข้อมูลสาธารณะปั๊บ เพราะงั้นระวังเรื่องข้อมูลที่จะเผยแพร่ด้วย อย่างในบางประเทศ การโพสต์วิพากย์วิจารณ์ หรือ "โจมตี" รัฐบาล อาจทำให้ถูกดำเนินคดีได้ เพราะงั้นต้องคิดก่อนโพสต์เสมอ
  • ทำใจยอมรับ ว่าต้องมีทั้งคอมเม้นท์ติและชม โดยเฉพาะถ้าเขียนบล็อกเกี่ยวกับอะไรที่สุ่มเสี่ยงหรืออ่อนไหว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 59,825 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา